เคยได้ยินกิติศัพท์แม่บ้าน ญป.รุ่นเก่าๆว่า จะเป็นแบบนี้ คือ ใช้จ่ายอะไรซักอย่างนี่ คิดไปรอบด้านทุกทาง กลัวชักหน้าไม่ถึงหลัง ทั้งที่ความจริงสภาพคล่องมันยังไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น
แต่กรณีทามาโกะนี่รู้สึกจะหนักข้อกว่าที่เป็นมาก คือ ใช้เงินอะไร นอกจากที่เจ้าตัวยินยอมไม่ได้เลย ถ้าเห็นมีวีนแตก ทั้งที่เคยมีคนวิเคราะห็มา บ้านโนบิไม่ได้ยากจนอดหยากอะไร ตัวพ่อเองก็รู้สึกจะเป็นระดับหัวหน้าแผนกด้วย ถึงไม่ได้เงินเยอะมากอะไร แต่ก็ไม่ต้องมาเขียมซะขนาดนี้
เวลาพ่อให้ค่าขนมนอกรอบหรือซื้อเครื่องเกมส์ให้โนบิตะ ทามาโกะจะไม่พอใจมาก อ้างว่าของแพง(แต่ตัวเองลับหลังจะแอบซื้อเครื่องประดับ,เสื้อผ้าที่แพงยิ่งกว่าหลายเท่า)
อันนี้ ยังอธิบายได้ว่า ลูกชายไม่เอาถ่าน การเรียนแย่ ,กีฬาห่วย ,ศิลปะไม่ได้จากพ่อมาแม้แต่น้อย จึงไม่ควรได้รางวัลเป็นพิเศษอะไร
แต่หลายๆตอนเห็นพ่อโนบิตะใช้เงินส่วนของตัวเองซื้อไม้กอล์ฟ ,กล้อง หรือ มีตอนนึงแค่ซื้อเนื้อหรูราคาเซลล์มาเองยังบ่นกะปอดกะแปดไม่เลิกรา อันนี้ จัดว่า ล้ำเส้นเกินหน้าที่แม่บ้านมั้ยครับ?
ทุกวันนี้ แม่บ้านญป.ยังตระหนี่จัดแบบในการ์ตูนโดเรม่อนมั้ย?
แต่กรณีทามาโกะนี่รู้สึกจะหนักข้อกว่าที่เป็นมาก คือ ใช้เงินอะไร นอกจากที่เจ้าตัวยินยอมไม่ได้เลย ถ้าเห็นมีวีนแตก ทั้งที่เคยมีคนวิเคราะห็มา บ้านโนบิไม่ได้ยากจนอดหยากอะไร ตัวพ่อเองก็รู้สึกจะเป็นระดับหัวหน้าแผนกด้วย ถึงไม่ได้เงินเยอะมากอะไร แต่ก็ไม่ต้องมาเขียมซะขนาดนี้
เวลาพ่อให้ค่าขนมนอกรอบหรือซื้อเครื่องเกมส์ให้โนบิตะ ทามาโกะจะไม่พอใจมาก อ้างว่าของแพง(แต่ตัวเองลับหลังจะแอบซื้อเครื่องประดับ,เสื้อผ้าที่แพงยิ่งกว่าหลายเท่า)
อันนี้ ยังอธิบายได้ว่า ลูกชายไม่เอาถ่าน การเรียนแย่ ,กีฬาห่วย ,ศิลปะไม่ได้จากพ่อมาแม้แต่น้อย จึงไม่ควรได้รางวัลเป็นพิเศษอะไร
แต่หลายๆตอนเห็นพ่อโนบิตะใช้เงินส่วนของตัวเองซื้อไม้กอล์ฟ ,กล้อง หรือ มีตอนนึงแค่ซื้อเนื้อหรูราคาเซลล์มาเองยังบ่นกะปอดกะแปดไม่เลิกรา อันนี้ จัดว่า ล้ำเส้นเกินหน้าที่แม่บ้านมั้ยครับ?