หลายวันก่อนมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับตัวเอง เมื่อนำเงินฝากเข้าเครื่องฝากเงินอัตโนมัติของธนาคารแห่งหนึ่งในอเมริกา ตอนนั้นเราเขียนเล่าเพื่อบันทึกเหตุการณ์ไว้ในเฟสบุ้คเรา แต่เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์กับหลายๆคนที่อาจจะประมาทหรือไม่ทันระวัง
จึงขอเอามาแชร์ไว้ที่นี่นะคะ ^^
----------------------------------------------
มีความตื่นเต้นเมื่อฝากเงินผ่าน ATM แล้วเงินไม่ครบ!!!
background
- มีเงิน $3020 เป็นธนบัตร $20*146 ใบ + $50*2ใบ
- เครื่อง ATM รับเงินได้ครั้งละ 75 ใบ จึงได้ทำการแบ่งเงินเป็น 2 กองดังนี้ [$20*71ใบ+$50*2ใบ] กับ [$20*75ใบ]
เหตุเกิดดังนี้
1. ยัดเงินก้อน 73 ใบเข้าเครื่องไปก่อน ด้วยความที่มีธนบัตรเก่าและมุมพับบ้างปน จึงมีการส่งเข้าส่งออกเครื่องหลายรอบ ... เครื่องบอกว่ามีเงิน $1400 ทั้งที่ควรจะมี $1520
2. ด้วยความเบลอและคิดเลขไม่ทัน (และสามียืนเป็นบอดี้การ์ดอย่างเดียวไม่ทำอะไรเลย//โกรธ) ก็คิดว่า เออ อาจจะผิดมั้ง อีก $120 อาจจะอยู่อีกก้อน ... สามีก็กด "confirm" ไป
3. พอเอาเงินอีกก้อนยัดไป ... มีตีกลับบ้างบางใบแต่เราก็สู้อย่าสมศักดิ์ศรี มันคายกลับมา เราก็จับมันยัดกลับเข้าไปอีก สุดท้ายเครื่องบอกเรามี $1500 ค่ะ
4. เชี่ยยยยย เชี่ยแล้ว แสดงว่าหายไปกับปึกแรก ทำไง ทำยังไง ทำไงดี แพนิคคคคคค!!!! นาทีนั้นเริ่มออกสเตปเต้นหน่อยๆหล่ะ
5. กดยกเลิกให้เงินคืนออกมา เงินคืนมา 2 ขยักค่อยๆขย้อน นับแล้วมี $1505 เว้ยย $5 มาจากไหนวะ!!!! ส่วนปึกแรกมันไม่คืน แพนิคคคคคคคคค
6. มันบอกว่ายูว์ฝาก $1400 นะ โอเคมั้ย คือนาทีนั้นกรีดร้องในใจ ไม่โอเคคคคคคคค ม่ายยยยยยยยยยยยยย
7. ม๊ายยยยยยยยยยยยย นี่ แบ้งค์ ออฟ อะแมริก่ะ นาเว้ยยยยยยยยยย นี่ประเทศมหาอำนาจ นี่คือเกร๊ทอะแม๊ริก่ะ นี่คือซิลิคอนวัลเล่ย์ มันเป็นไปไม่ได้ที่อุปกรณ์อิเล็คโทรนิคจะทำงานผิดพลาดดดด ม๊ายยยย......ย
8. หันไปถาม รปภ ข้างหน้าธนาคารว่าทำไงได้บ้าง รปภ บอกว่า "อัม จัส เฮีย ฟอร์ ซิเคียวริตี้" โอเค ดีมากค่ะ ธนาคารก็ปิดอีก
9. กดหาคอลเซ็นเตอร์ตามเบอร์ที่แปะข้างตู้ กดเมนูต่างๆ จิ้มๆๆ มันถามเลขบัญชีอีก คือกุจำไม่ได้ กุแพนิค สามีช่วยมากกกกกก นางกดเอาบัตรเอทีเอ็มคืนออกมาจากตู้ โอ๊ยยยย อีบ้าาา สามีทำหน้าใสซื่อว่า "อ้าว ก็จะเอาเลขบัตรไม่ใช่หรอ"
10. พอกดบัตรคืนออกมาก็แปลว่าเราทำรายการเสร็จโดยปริยาย?? (นี่สมองยิ่งแพนิคว่า เค้าจะหาว่าเรายอมรับในรายการแล้วมั้ย?) ATM ทำหน้าที่ของมันอย่างซื่อสัตย์ค่ะ นางถามว่าจะให้ปริ้นสลิปมั้ย? คือกูไม่ปิ้น ไม่โอเค ไม่ยอมรับ แต่ ATM ใจโหดมาก ปิดระบบใส่หน้าเลย ทำนองว่า ยูว์ไม่เฟิร์ม ไอเฟิร์มตัวเองด้ายยยยย .ปิด.
11. หลังจากฝ่าด่านคุยกับ AI Machine Learning BigData Intelligent System แล้วสุดท้ายก็ได้คุยกับคนแล้ว เย้ (เฮ้อ เหนื่อย)
12. ปัญหาคือ มานุ้ดคอลเซ็นเตอร์ฮีชิล ไอ่เราก็พยามอธิบาย ส่วนสามีก็ยืน "จัส ฟอร์ ซิเคียวริตี้ โอลี่" อยู่ข้างๆไม่ช่วยอะไรทั้งนั้น พยามอธิบายตั้งแต่คือ ชั้นใส่เงินเข้าไปสองก้อนนะ แล้วทีแรกชั้นไม่ชัวร์เองคิดว่าอีก $100 อยู่อีกปึกมั้ง ปรากฎว่ารวมกันแล้วก็ไม่ครบอ่ะ แล้วพอกดคืนมามันมี $5 มาด้วยอ่ะ บลา บลา บลา โอเคยูเข้าใจมั้ย คอลเซ็นเตอร์บอก "ซอรี่ ไอ ด้อน อันเดอร์สแตน ฮ่า ฮ่า" ข่ะดีออก
13. อธิบายอีกรอบ คอลเซ็นเตอร์บอกว่า โอเค เดี๋ยว ไอ "เทมโพราลิลี่ แอดจัส ยัว เครดิต $120 แอน วิว อินเวสติเกต"
14. อีมนุษย์นี่ไม่จบ ห้ะ อะไรนะ เทมโพราลิลี่คืออะไร แล้วเนี่ย อินเวสติเกตยังไง แล้วชั้นต้องพลีชีพนอนหน้าตู้ ATM คืนนี้มั้ย ชั้นเคยอ่านกระทู้ที่เหตุเกิดกับคนที่ไทยแล้วนี่แทบจะต้องงัดตู้พิสูจน์กันตอนนั้นเลยนินา แล้วยูจะอินเวสติเกตเมื่อไหร่ ยังไง?? (คิดในใจแต่พูดไม่ทัน 5555)
15. มานุ้ดคอลเซ็นเตอร์ทำตามสคริปต่อไป ฮีถามเบอร์มือถือที่จะติดต่อเรา แต่คือแบบ โห...โลว์เทคอ่ะไม่รู้เบอร์ที่โทรเข้ามาได้ไงวะ ระบ่งระบบเอ้ยย! แล้วคือเราพึ่งเปลี่ยนเบอร์แล้วไม่ได้ช้อปออนไลน์เลยจำเบอร์ใหม่ตัวเองไม่ได้ (ข้ออ้างมาเต็ม) คือแบบ เชี่ยแล้วไง เอาไง เราเบอร์อะไรวะ มานุ้ดคอลเซนเตอร์ฮีก็แบบ โอเค เดี๋ยวฮีรอนะ เราก็พยามกดหาเบอร์เรา ส่วนสามีเราก็ "ฟอร์ซิเคียวริตี้โอลี่" ยืนกอดอกหล่อๆไปตามฟอร์ม เลยบอกคอลเซ็นเตอร์ เอางี้ ถ้ายัวซิสเต็มดูไม่ได้ว่าไอเบอร์โทรอะไร ยูคอลมายเฟรนเลยยยยยยย 55555+ ได้ยินเสียงฮีถอนหายใจเฮือกแล้วบอกว่า โอเค ยูเบอร์นี้ๆๆใช่ไหม? อ้าว ดีออก มีเบอร์เราแต่แรกก็ฟอร์มเยอะนะเนี่ยยย
เรื่องการทักทายและรู้จักลูกค้านี่คอลเซ็นเตอร์ที่ไทยหลายๆแบรนด์ทำได้ดีกว่ามากๆ โทรไปปุ๊บเจ้าหน้าที่รับสายปั๊บแล้วพูดว่า "สวัสดีค่ะคุณ (ชื่อเรา) วันนี้มีอะไรให้ (ชื่อเค้า) บริการคะ" แต่เรื่องการแก้ปัญหาของคอนเซ็นเตอร์ไทยยังอยู่ในยุคไดโนเสาร์อยู่ คือแก้ปัญหาแบบซื้อเวลา ค่อยๆยื้อ ทำนองว่าใครอดทนกว่าก็จะชนะไป ความถูกผิดของเหตุการณ์นี่ไม่สนโนแคร์ เน้นความถึกเท่านั้น ซึ่งคนส่วนมากก็จะพ่ายแพ้ความแอ๊บแบ๊วไปเอง เอาเวลาไปทำมาหากินดีกว่าอะไรแบบนั้น เอาไว้จะมาเขียนเรื่องศึกใหญ่กับการทวงสิทธิ์อันชอบธรรมของเรากับแบงค์ม่วงที่ไทยนะคะ ^^
16. สุดท้ายอีท่าไหนไม่รู้ ฮีบอกว่า ฮีจะเพอมาเน้นลี่แอดจัสให้เลย เราก็แบบ ห้ะ แบบนี้ก็ได้หรอ แต่วินาทีนั้นก็ไม่รู้จะไปถามใครอ้ะ แต่จะนอนเฝ้าเครื่องแบบในกระทู้ที่เคยอ่านมาก็คงไม่ใช่ แล้วชั้นก็จำแบงค์ชั้นไม่ได้นะยะ จะมาแบบ ชั้นฝากธนบัตรตั้งแต่เลขนี้ยันเลขนี้เหมือนในหนังก็ไม่สามารถ และด้วยความใสๆซื่อๆ ก็เชื่อฮีนะ ฮีบอกจะแอดจัสให้พรุ่งนี้ เอาวะ พรุ่งนี้ลองดู
17. ด้วยความที่อยากทำกรรมดีคืนสู่สังคม ก็บอกฮีไปว่า ตอนกดเงินปึกหลังคืนอ่ะ แธร์ส อะ ไฟว์ ดอลล่า โน้ต ฟรอม เดอะ แมชชีน ทู มี แอน์ อิส น้อท มายยยยย ติดมาโด้ยยย คือมันมาได้ไงไม่รู้ แต่มันไม่ใช่ของชั้นแน่นอน ชั้นไม่มีแบงค์ $5 นี่แกเอาเงินใครมาให้ช้านนน..
18. มนุษย์คอลเซ็นเตอร์บอก "อิสโอเค ยูคีพอิท" เห้ยย อย่างนี้ก็ได้หรอ!!!! ไม่ต้องคืน แล้วแบบ เครื่องคืนมาเกินคืออะไร คือ
มั่วมาก คือนี่คือซิลิค๊อน
วาเรรรร่ นี่คือเกรทอ่ะแม๊ริก้ะนาเว้ย งง มึน อย่างนี้ก็มีด้วยหรอ??
สุดท้ายด้วยความเหนื่อย หายใจไม่ทัน ขี้เกียจแล้วหล่ะ อีสาก็ไม่ช่วยพูด หรือ ถาม หรือตัดสินอะไรเลย กุวางก่ะด่ะ เหนื่อยคนเดียว (บ่นๆๆๆๆ)
เดินจาก ATM มาแล้วเชื่อมั่นในกรรมดีที่ทำไว้
------------------------------------
บทสรุปต่อจากนั้น...
- คืนนั้นเราก็ขยัน log in เข้าไปดูนะ พอพ้นเที่ยงคืน ยอดเงินที่เขียนว่า $1400 ก็หายไป แต่ยอดรวมยังเท่าเดิมเสมือนว่ามีเงิน +1400 อยู่
- พอสักประมาณตี 2 ยอดเงินก็เพิ่มขึ้น คิดคร่าวๆก็เพิ่มมา $120 นี่หล่ะ แต่รายการทั้ง 1400 ทั้ง 120 ไม่ปรากฎใน statement
- พอวันจันทร์ (เหตุการณ์เกิดวันศุกร์เย็น) ยอดเงิน $1400 ก็กลับมาใน statement และมีอีกบรรทัดเขียนว่า Misc Credit Adjustment $120 กลับมาด้วย .... โอ้วคุณพระคุณเจ้า!!
- วันอังคารเราก็ยังเข้าไปดูว่า $120 ยังอยู่มั้ย 55555 (โรคจิตเนอะ) ... ณ วันนี้วันพุธ ยอด $120 ก็ยังอยู่.... เย้ ^^
- สงสัยเหลือเกินว่าเค้าตรวจสอบยังไง เพื่อนๆคนไหนมีประสบการณ์มาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ ^^ คือจะว่าเค้านับเงินในเครื่องแล้วมีเกินมา $120 แล้วเค้าก็เชื่อเราก็คงไม่ใช่ เพราะเราได้เกินมา $5 เพราะฉะนั้นถ้าเงินจะเกินที่เครื่องจริงๆ ก็ต้องเกิน $115 ใช่ไหม? หรือยังไง? แอบอยากรู้อ่ะ
------------------------------------
ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้
1. จงนับเงินทุกครั้งก่อนนำเข้าเครื่องฝากอัตโนมัติ สมัยอยู่ที่ไทยเรานับนะ แต่อยู่ที่นี่ด้วยความชะล่าใจเราก็นับบ้างไม่นับบ้าง ย้อนคิดไปก็แอบทุกข์นิดๆ 5555 แต่ช่างมัน ช่างมัน บอกตัวเองว่าช่างมานนนน.....
2. ประเทศนี้เค้ารับผิดชอบ complain ของลูกค้าจริงจังแฮะ หลายปีก่อนเราเคยไป Epcot ที่ Florida แล้วเครื่องเล่นนึงที่อยากเล่นมากๆปิดซ่อมกะทันหัน ตอนจะกลับบ้านพนักงานเค้าถามว่าสนุกมั้ยเราก็เลยเปรยๆว่า แอบเสียใจไม่ได้เล่นเครื่องเล่นนี้ พนักงานถามทันทีเลยว่า อ้าว ทำไมหล่ะ เราก็เลยบอกว่า คือมันเสียปิดซ่อมต่อหน้าต่อตาเลยอ่ะ เราก็รอเพราะเห็นว่าบ่ายๆจะเปิดใหม่แต่ก็เหมือนแก้ไม่สำเร็จ เท่านั้นหล่ะค่ะเค้าให้มาเล่นใหม่พรุ่งนี้ได้เลย แต่เราบอกเค้าว่าเรามาไม่ได้เพราะว่าเราต้องเดินทางไปที่อื่นต่อนะ เค้าก็คืนเงินให้เราและสามีเราด้วย แถมขอโทษมากมาย...โอ้โห เปิดโลกทัศน์สุดๆอ่ะ
3. เมื่อรู้ว่าทุกๆคำพูดหรือคอมเม้นต์ของเรา พนักงานที่รับ feedback ไปเค้าจริงจังกับมันนะ เค้าแก้ไขชดเชยให้เราแบบจริงจังนะ ก็ไม่อยากให้คนที่รู้ในจุดนี้อาศัยช่องว่างในการทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนะคะ คือหลายๆครั้งที่เราอ่านคนมาแชร์ทริคอะไรแปลกๆ เช่น ไปแอบเก็บใบเสร็จการเข้าห้องน้ำของคนอื่นที่ยุโรปไปแลกส่วนลดอาหารของตัวเอง หรือแอบขึ้นรถแล้วไม่จ่ายเงินค่ารถโดยสารที่ยุโรปเพราะเห็นว่าไม่มีใครตรวจ คือขอร้องนะว่าอย่าทำ ต้องคิดถึงสิ่งที่หายากกว่าเงินคือศักดิ์ศรีของความเป็นคน เค้าดูถูกเราครั้งเดียวนี่คือหมดเครดิตเลยนะ ยังไม่พอเค้าเนมเราในนามคนทั้งชาติเลยด้วย ถ้าเรายังมีแรงมีกำลังเราก็หาเงินได้เรื่อยๆ แต่ศักดิ์ศรีนี่คือการสั่งสมของพฤติกรรมการทำดีของเรา บางทีมันมีเรื่องครั้งเดียว มันสะสมใหม่ลำบากมากๆนะ ^^
4. สืบเนื่องจากข้อ 3 ... ทีแรกก็ลังเลว่าจะเล่าเรื่องนี้ดีมั้ยเพราะอาจจะมีการนำไปใช้ในทางผิดๆได้ แต่สุดท้ายเราถือว่าเราเจตนาเขียนเรื่องนี้ไว้บอกเพื่อนๆให้ระวังและไม่ประมาทแบบเรา และไม่ต้องแพนิคหากเกิดเหตุการณ์นี้กับตัวเพราะว่ามันแก้ไขได้ ส่วนใครจะเอาไป abuse ผิดๆอย่างไรก็ถือว่าเป็นกรรมของคนคนนั้นแล้วกันเนอะ (ส่วนตัวเราเองเราเชื่อว่าเมื่อเรา abuse คนอื่นและเห็นมันเป็นเรื่องปกติ เราก็ต้องยอมรับว่าคนอื่นก็อาจจะ abuse เราได้เหมือนกัน ดังนั้นมันก็จะเป็นสังคมแห่งการ abuse ซึ่งกันและกัน ... หากเราเองไม่ต้องการจะอยู่ในสังคมแบบนี้ เราก็ไม่เริ่ม ไม่ทำ ง่ายๆแค่นั้น
)
ขอบคุณค่ะ
หมายเหตุ ฟาดหัวเรื่องให้เว่อร์วังไปงั้นเองแบบไหนๆจะรัชดาลัยหล่ะ ^^"
จริงๆแล้วซิลิคอนวัลเล่ย์มันเป็นพื้นที่ที่ใหญ่มากกกกกกกินพื้นที่ตั้งแต่ SF ลงไปถึง San Jose เลยหล่ะมั้ง (แล้วมันก็ช่างแห้งแล้งสำหรับเราเหลือเกินเพราะป้าย billboard 2 ข้างทางนี่แทบไม่เห็นแบรนด์แฟชั่นเลย มีแต่โฆษณา API ยี่ห้อนั้น Cloud ยี่ห้อนี้ หรือไม่ก็ AI อะไรกี๊กๆมากมาย) แต่คนที่นี่เค้าเรียกว่า Bay Area มากกว่าซิลิคอนวันเล่ย์อ่ะนะ อันนี้เผือกเขียนเพิ่ม ไม่เกี่ยวเนื่องอะไร 55555+
เมื่อฉันเอาเงินเข้าเครื่องฝากเงินอัตโนมัติที่ซิลิคอนวัลเล่ย์แล้วเงินไม่ครบตามที่นับไว้!!
จึงขอเอามาแชร์ไว้ที่นี่นะคะ ^^
----------------------------------------------
มีความตื่นเต้นเมื่อฝากเงินผ่าน ATM แล้วเงินไม่ครบ!!!
background
- มีเงิน $3020 เป็นธนบัตร $20*146 ใบ + $50*2ใบ
- เครื่อง ATM รับเงินได้ครั้งละ 75 ใบ จึงได้ทำการแบ่งเงินเป็น 2 กองดังนี้ [$20*71ใบ+$50*2ใบ] กับ [$20*75ใบ]
เหตุเกิดดังนี้
1. ยัดเงินก้อน 73 ใบเข้าเครื่องไปก่อน ด้วยความที่มีธนบัตรเก่าและมุมพับบ้างปน จึงมีการส่งเข้าส่งออกเครื่องหลายรอบ ... เครื่องบอกว่ามีเงิน $1400 ทั้งที่ควรจะมี $1520
2. ด้วยความเบลอและคิดเลขไม่ทัน (และสามียืนเป็นบอดี้การ์ดอย่างเดียวไม่ทำอะไรเลย//โกรธ) ก็คิดว่า เออ อาจจะผิดมั้ง อีก $120 อาจจะอยู่อีกก้อน ... สามีก็กด "confirm" ไป
3. พอเอาเงินอีกก้อนยัดไป ... มีตีกลับบ้างบางใบแต่เราก็สู้อย่าสมศักดิ์ศรี มันคายกลับมา เราก็จับมันยัดกลับเข้าไปอีก สุดท้ายเครื่องบอกเรามี $1500 ค่ะ
4. เชี่ยยยยย เชี่ยแล้ว แสดงว่าหายไปกับปึกแรก ทำไง ทำยังไง ทำไงดี แพนิคคคคคค!!!! นาทีนั้นเริ่มออกสเตปเต้นหน่อยๆหล่ะ
5. กดยกเลิกให้เงินคืนออกมา เงินคืนมา 2 ขยักค่อยๆขย้อน นับแล้วมี $1505 เว้ยย $5 มาจากไหนวะ!!!! ส่วนปึกแรกมันไม่คืน แพนิคคคคคคคคค
6. มันบอกว่ายูว์ฝาก $1400 นะ โอเคมั้ย คือนาทีนั้นกรีดร้องในใจ ไม่โอเคคคคคคคค ม่ายยยยยยยยยยยยยย
7. ม๊ายยยยยยยยยยยยย นี่ แบ้งค์ ออฟ อะแมริก่ะ นาเว้ยยยยยยยยยย นี่ประเทศมหาอำนาจ นี่คือเกร๊ทอะแม๊ริก่ะ นี่คือซิลิคอนวัลเล่ย์ มันเป็นไปไม่ได้ที่อุปกรณ์อิเล็คโทรนิคจะทำงานผิดพลาดดดด ม๊ายยยย......ย
8. หันไปถาม รปภ ข้างหน้าธนาคารว่าทำไงได้บ้าง รปภ บอกว่า "อัม จัส เฮีย ฟอร์ ซิเคียวริตี้" โอเค ดีมากค่ะ ธนาคารก็ปิดอีก
9. กดหาคอลเซ็นเตอร์ตามเบอร์ที่แปะข้างตู้ กดเมนูต่างๆ จิ้มๆๆ มันถามเลขบัญชีอีก คือกุจำไม่ได้ กุแพนิค สามีช่วยมากกกกกก นางกดเอาบัตรเอทีเอ็มคืนออกมาจากตู้ โอ๊ยยยย อีบ้าาา สามีทำหน้าใสซื่อว่า "อ้าว ก็จะเอาเลขบัตรไม่ใช่หรอ"
10. พอกดบัตรคืนออกมาก็แปลว่าเราทำรายการเสร็จโดยปริยาย?? (นี่สมองยิ่งแพนิคว่า เค้าจะหาว่าเรายอมรับในรายการแล้วมั้ย?) ATM ทำหน้าที่ของมันอย่างซื่อสัตย์ค่ะ นางถามว่าจะให้ปริ้นสลิปมั้ย? คือกูไม่ปิ้น ไม่โอเค ไม่ยอมรับ แต่ ATM ใจโหดมาก ปิดระบบใส่หน้าเลย ทำนองว่า ยูว์ไม่เฟิร์ม ไอเฟิร์มตัวเองด้ายยยยย .ปิด.
11. หลังจากฝ่าด่านคุยกับ AI Machine Learning BigData Intelligent System แล้วสุดท้ายก็ได้คุยกับคนแล้ว เย้ (เฮ้อ เหนื่อย)
12. ปัญหาคือ มานุ้ดคอลเซ็นเตอร์ฮีชิล ไอ่เราก็พยามอธิบาย ส่วนสามีก็ยืน "จัส ฟอร์ ซิเคียวริตี้ โอลี่" อยู่ข้างๆไม่ช่วยอะไรทั้งนั้น พยามอธิบายตั้งแต่คือ ชั้นใส่เงินเข้าไปสองก้อนนะ แล้วทีแรกชั้นไม่ชัวร์เองคิดว่าอีก $100 อยู่อีกปึกมั้ง ปรากฎว่ารวมกันแล้วก็ไม่ครบอ่ะ แล้วพอกดคืนมามันมี $5 มาด้วยอ่ะ บลา บลา บลา โอเคยูเข้าใจมั้ย คอลเซ็นเตอร์บอก "ซอรี่ ไอ ด้อน อันเดอร์สแตน ฮ่า ฮ่า" ข่ะดีออก
13. อธิบายอีกรอบ คอลเซ็นเตอร์บอกว่า โอเค เดี๋ยว ไอ "เทมโพราลิลี่ แอดจัส ยัว เครดิต $120 แอน วิว อินเวสติเกต"
14. อีมนุษย์นี่ไม่จบ ห้ะ อะไรนะ เทมโพราลิลี่คืออะไร แล้วเนี่ย อินเวสติเกตยังไง แล้วชั้นต้องพลีชีพนอนหน้าตู้ ATM คืนนี้มั้ย ชั้นเคยอ่านกระทู้ที่เหตุเกิดกับคนที่ไทยแล้วนี่แทบจะต้องงัดตู้พิสูจน์กันตอนนั้นเลยนินา แล้วยูจะอินเวสติเกตเมื่อไหร่ ยังไง?? (คิดในใจแต่พูดไม่ทัน 5555)
15. มานุ้ดคอลเซ็นเตอร์ทำตามสคริปต่อไป ฮีถามเบอร์มือถือที่จะติดต่อเรา แต่คือแบบ โห...โลว์เทคอ่ะไม่รู้เบอร์ที่โทรเข้ามาได้ไงวะ ระบ่งระบบเอ้ยย! แล้วคือเราพึ่งเปลี่ยนเบอร์แล้วไม่ได้ช้อปออนไลน์เลยจำเบอร์ใหม่ตัวเองไม่ได้ (ข้ออ้างมาเต็ม) คือแบบ เชี่ยแล้วไง เอาไง เราเบอร์อะไรวะ มานุ้ดคอลเซนเตอร์ฮีก็แบบ โอเค เดี๋ยวฮีรอนะ เราก็พยามกดหาเบอร์เรา ส่วนสามีเราก็ "ฟอร์ซิเคียวริตี้โอลี่" ยืนกอดอกหล่อๆไปตามฟอร์ม เลยบอกคอลเซ็นเตอร์ เอางี้ ถ้ายัวซิสเต็มดูไม่ได้ว่าไอเบอร์โทรอะไร ยูคอลมายเฟรนเลยยยยยยย 55555+ ได้ยินเสียงฮีถอนหายใจเฮือกแล้วบอกว่า โอเค ยูเบอร์นี้ๆๆใช่ไหม? อ้าว ดีออก มีเบอร์เราแต่แรกก็ฟอร์มเยอะนะเนี่ยยย
เรื่องการทักทายและรู้จักลูกค้านี่คอลเซ็นเตอร์ที่ไทยหลายๆแบรนด์ทำได้ดีกว่ามากๆ โทรไปปุ๊บเจ้าหน้าที่รับสายปั๊บแล้วพูดว่า "สวัสดีค่ะคุณ (ชื่อเรา) วันนี้มีอะไรให้ (ชื่อเค้า) บริการคะ" แต่เรื่องการแก้ปัญหาของคอนเซ็นเตอร์ไทยยังอยู่ในยุคไดโนเสาร์อยู่ คือแก้ปัญหาแบบซื้อเวลา ค่อยๆยื้อ ทำนองว่าใครอดทนกว่าก็จะชนะไป ความถูกผิดของเหตุการณ์นี่ไม่สนโนแคร์ เน้นความถึกเท่านั้น ซึ่งคนส่วนมากก็จะพ่ายแพ้ความแอ๊บแบ๊วไปเอง เอาเวลาไปทำมาหากินดีกว่าอะไรแบบนั้น เอาไว้จะมาเขียนเรื่องศึกใหญ่กับการทวงสิทธิ์อันชอบธรรมของเรากับแบงค์ม่วงที่ไทยนะคะ ^^
16. สุดท้ายอีท่าไหนไม่รู้ ฮีบอกว่า ฮีจะเพอมาเน้นลี่แอดจัสให้เลย เราก็แบบ ห้ะ แบบนี้ก็ได้หรอ แต่วินาทีนั้นก็ไม่รู้จะไปถามใครอ้ะ แต่จะนอนเฝ้าเครื่องแบบในกระทู้ที่เคยอ่านมาก็คงไม่ใช่ แล้วชั้นก็จำแบงค์ชั้นไม่ได้นะยะ จะมาแบบ ชั้นฝากธนบัตรตั้งแต่เลขนี้ยันเลขนี้เหมือนในหนังก็ไม่สามารถ และด้วยความใสๆซื่อๆ ก็เชื่อฮีนะ ฮีบอกจะแอดจัสให้พรุ่งนี้ เอาวะ พรุ่งนี้ลองดู
17. ด้วยความที่อยากทำกรรมดีคืนสู่สังคม ก็บอกฮีไปว่า ตอนกดเงินปึกหลังคืนอ่ะ แธร์ส อะ ไฟว์ ดอลล่า โน้ต ฟรอม เดอะ แมชชีน ทู มี แอน์ อิส น้อท มายยยยย ติดมาโด้ยยย คือมันมาได้ไงไม่รู้ แต่มันไม่ใช่ของชั้นแน่นอน ชั้นไม่มีแบงค์ $5 นี่แกเอาเงินใครมาให้ช้านนน..
18. มนุษย์คอลเซ็นเตอร์บอก "อิสโอเค ยูคีพอิท" เห้ยย อย่างนี้ก็ได้หรอ!!!! ไม่ต้องคืน แล้วแบบ เครื่องคืนมาเกินคืออะไร คือ
วาเรรรร่ นี่คือเกรทอ่ะแม๊ริก้ะนาเว้ย งง มึน อย่างนี้ก็มีด้วยหรอ??
สุดท้ายด้วยความเหนื่อย หายใจไม่ทัน ขี้เกียจแล้วหล่ะ อีสาก็ไม่ช่วยพูด หรือ ถาม หรือตัดสินอะไรเลย กุวางก่ะด่ะ เหนื่อยคนเดียว (บ่นๆๆๆๆ)
เดินจาก ATM มาแล้วเชื่อมั่นในกรรมดีที่ทำไว้
------------------------------------
บทสรุปต่อจากนั้น...
- คืนนั้นเราก็ขยัน log in เข้าไปดูนะ พอพ้นเที่ยงคืน ยอดเงินที่เขียนว่า $1400 ก็หายไป แต่ยอดรวมยังเท่าเดิมเสมือนว่ามีเงิน +1400 อยู่
- พอสักประมาณตี 2 ยอดเงินก็เพิ่มขึ้น คิดคร่าวๆก็เพิ่มมา $120 นี่หล่ะ แต่รายการทั้ง 1400 ทั้ง 120 ไม่ปรากฎใน statement
- พอวันจันทร์ (เหตุการณ์เกิดวันศุกร์เย็น) ยอดเงิน $1400 ก็กลับมาใน statement และมีอีกบรรทัดเขียนว่า Misc Credit Adjustment $120 กลับมาด้วย .... โอ้วคุณพระคุณเจ้า!!
- วันอังคารเราก็ยังเข้าไปดูว่า $120 ยังอยู่มั้ย 55555 (โรคจิตเนอะ) ... ณ วันนี้วันพุธ ยอด $120 ก็ยังอยู่.... เย้ ^^
- สงสัยเหลือเกินว่าเค้าตรวจสอบยังไง เพื่อนๆคนไหนมีประสบการณ์มาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ ^^ คือจะว่าเค้านับเงินในเครื่องแล้วมีเกินมา $120 แล้วเค้าก็เชื่อเราก็คงไม่ใช่ เพราะเราได้เกินมา $5 เพราะฉะนั้นถ้าเงินจะเกินที่เครื่องจริงๆ ก็ต้องเกิน $115 ใช่ไหม? หรือยังไง? แอบอยากรู้อ่ะ
------------------------------------
ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้
1. จงนับเงินทุกครั้งก่อนนำเข้าเครื่องฝากอัตโนมัติ สมัยอยู่ที่ไทยเรานับนะ แต่อยู่ที่นี่ด้วยความชะล่าใจเราก็นับบ้างไม่นับบ้าง ย้อนคิดไปก็แอบทุกข์นิดๆ 5555 แต่ช่างมัน ช่างมัน บอกตัวเองว่าช่างมานนนน.....
2. ประเทศนี้เค้ารับผิดชอบ complain ของลูกค้าจริงจังแฮะ หลายปีก่อนเราเคยไป Epcot ที่ Florida แล้วเครื่องเล่นนึงที่อยากเล่นมากๆปิดซ่อมกะทันหัน ตอนจะกลับบ้านพนักงานเค้าถามว่าสนุกมั้ยเราก็เลยเปรยๆว่า แอบเสียใจไม่ได้เล่นเครื่องเล่นนี้ พนักงานถามทันทีเลยว่า อ้าว ทำไมหล่ะ เราก็เลยบอกว่า คือมันเสียปิดซ่อมต่อหน้าต่อตาเลยอ่ะ เราก็รอเพราะเห็นว่าบ่ายๆจะเปิดใหม่แต่ก็เหมือนแก้ไม่สำเร็จ เท่านั้นหล่ะค่ะเค้าให้มาเล่นใหม่พรุ่งนี้ได้เลย แต่เราบอกเค้าว่าเรามาไม่ได้เพราะว่าเราต้องเดินทางไปที่อื่นต่อนะ เค้าก็คืนเงินให้เราและสามีเราด้วย แถมขอโทษมากมาย...โอ้โห เปิดโลกทัศน์สุดๆอ่ะ
3. เมื่อรู้ว่าทุกๆคำพูดหรือคอมเม้นต์ของเรา พนักงานที่รับ feedback ไปเค้าจริงจังกับมันนะ เค้าแก้ไขชดเชยให้เราแบบจริงจังนะ ก็ไม่อยากให้คนที่รู้ในจุดนี้อาศัยช่องว่างในการทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนะคะ คือหลายๆครั้งที่เราอ่านคนมาแชร์ทริคอะไรแปลกๆ เช่น ไปแอบเก็บใบเสร็จการเข้าห้องน้ำของคนอื่นที่ยุโรปไปแลกส่วนลดอาหารของตัวเอง หรือแอบขึ้นรถแล้วไม่จ่ายเงินค่ารถโดยสารที่ยุโรปเพราะเห็นว่าไม่มีใครตรวจ คือขอร้องนะว่าอย่าทำ ต้องคิดถึงสิ่งที่หายากกว่าเงินคือศักดิ์ศรีของความเป็นคน เค้าดูถูกเราครั้งเดียวนี่คือหมดเครดิตเลยนะ ยังไม่พอเค้าเนมเราในนามคนทั้งชาติเลยด้วย ถ้าเรายังมีแรงมีกำลังเราก็หาเงินได้เรื่อยๆ แต่ศักดิ์ศรีนี่คือการสั่งสมของพฤติกรรมการทำดีของเรา บางทีมันมีเรื่องครั้งเดียว มันสะสมใหม่ลำบากมากๆนะ ^^
4. สืบเนื่องจากข้อ 3 ... ทีแรกก็ลังเลว่าจะเล่าเรื่องนี้ดีมั้ยเพราะอาจจะมีการนำไปใช้ในทางผิดๆได้ แต่สุดท้ายเราถือว่าเราเจตนาเขียนเรื่องนี้ไว้บอกเพื่อนๆให้ระวังและไม่ประมาทแบบเรา และไม่ต้องแพนิคหากเกิดเหตุการณ์นี้กับตัวเพราะว่ามันแก้ไขได้ ส่วนใครจะเอาไป abuse ผิดๆอย่างไรก็ถือว่าเป็นกรรมของคนคนนั้นแล้วกันเนอะ (ส่วนตัวเราเองเราเชื่อว่าเมื่อเรา abuse คนอื่นและเห็นมันเป็นเรื่องปกติ เราก็ต้องยอมรับว่าคนอื่นก็อาจจะ abuse เราได้เหมือนกัน ดังนั้นมันก็จะเป็นสังคมแห่งการ abuse ซึ่งกันและกัน ... หากเราเองไม่ต้องการจะอยู่ในสังคมแบบนี้ เราก็ไม่เริ่ม ไม่ทำ ง่ายๆแค่นั้น
ขอบคุณค่ะ
หมายเหตุ ฟาดหัวเรื่องให้เว่อร์วังไปงั้นเองแบบไหนๆจะรัชดาลัยหล่ะ ^^"
จริงๆแล้วซิลิคอนวัลเล่ย์มันเป็นพื้นที่ที่ใหญ่มากกกกกกกินพื้นที่ตั้งแต่ SF ลงไปถึง San Jose เลยหล่ะมั้ง (แล้วมันก็ช่างแห้งแล้งสำหรับเราเหลือเกินเพราะป้าย billboard 2 ข้างทางนี่แทบไม่เห็นแบรนด์แฟชั่นเลย มีแต่โฆษณา API ยี่ห้อนั้น Cloud ยี่ห้อนี้ หรือไม่ก็ AI อะไรกี๊กๆมากมาย) แต่คนที่นี่เค้าเรียกว่า Bay Area มากกว่าซิลิคอนวันเล่ย์อ่ะนะ อันนี้เผือกเขียนเพิ่ม ไม่เกี่ยวเนื่องอะไร 55555+