สวัสดีค่ะ จากที่บอกไว้คือการเดินทางครั้งนี้ไม่มีแผนการอะไรใดๆ ทั้งสิ้น เพราะป้าทำงานจนวันสุดท้าย ไปจองเอาข้างหน้าบ้าง ไม่จองบ้าง ทำให้ทุกอย่างที่เจอมันตื่นเต้นไปหมด ประกันก็ซื้อตอนตีสาม บินตอน 10 โมงเช้า จอง Hostel ไว้ 1 คืนใน ฮานอย เพื่อตั้งหลัก
ค่าใช้จ่ายสำหรับ 15 วัน นะคะ คือไม่ได้จดรายละเอียดไว้มากมาย นับจากเงินที่เหลือในกระเป๋า ใช้ไป 15,000 บาท (ตั้งแต่ Ha Noi จนถึง Mu Cang Chai) รวมค่าตั๋วเครื่องบิน 3,300 บาท รวมทั้งสิ้น 18,300 บาท ที่พัก นอน Hostel ซะส่วนใหญ่ การเดินทางระหว่างเมืองนะหรอ หึ สวยขนาดนี้ Local Bus ยาวไปค่ะ Bus บ้านเค้าเนี่ย คร่าวๆ ที่เจอ มี 3 แบบ
1. ลักษณะคล้ายรถตู้บ้านเรา แต่สภาพไม่ค่อยดี
2. ลักษณะคล้ายรถเมล์เล็กบ้านเรา ถึงแม้จะเก้าอี้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย แต่บรรทุกของเต็มคัน บางทีผู้โดยสารก็ต้องนั่งบนกล่อง
3. Sleeping Bus อันนี้จัดว่าเด็ด เหมือนรถทัวร์ปกติบ้านเราเนี่ยแหละ แต่มันเป็นรถนอน ดังนั้นจะเป็นเตียง ไม่ใช่เก้าอี้ สองชั้น สามแถว แต่แถวล่างโชคดีหน่อย จะเป็น 5 แถว เพราะว่า ตรงทางเดิน พี่เค้าก็นอนกันได้
ภาพจาก Google นะคะ ประมาณนี้ แต่โทรมกว่านี้ และแสงไฟก็เป็นแสงสีม่วง เหมือนตะเกียงไล่แมลง 555
อาหารการกิน ไม่ต้องห่วง อาหารเวียดนาม กินได้ทุกอย่าง ยิ่งข้างทาง ยิ่งชาวบ้าน ยิ่งอร่อย เหมือนอาหารไทยแต่รสชาดจะอ่อนกว่านิดหน่อย ยกเว้น ทำจากวัตถุดิบชนิดพิเศษ 555 อันนี้ไม่ได้ลองนะ
เอาหล่ะ เริ่มกันเลย
เครื่องลงจอดที่ Noi Bai International Airport เวลา 11.45 น. ผ่าน Passport Control เรียบร้อย เดินออกมา จะไปยังไง ตั้งสติก่อน ไปแลกเงิน VND มาก่อน ซัก 70 USD ด้วย Rate ประมาณ 22,XXX ต่อ 1 USD คูณออกมาได้ ประมาณ 1,582,600 VND แต่พนักงานให้เงินมา 1,582,000 VND ก็เลยถามเค้าว่า แล้ว 600 VND หล่ะ เจ้าพนักงานตอบว่า อ่อ Bank เล็กสุด เป็น Bank 1,000 VND ค่ะ ป้า 555 อ้าวหรอ ไม่รู้
ได้เงินและ หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ เรียกให้ใช้บริการแท็กซี่ตลอด แต่ก็ไม่ได้สนใจ หยิบแผนที่ฟรีมา 1 ใบ คิดในใจมันต้องมีอะไรที่ถูกกว่านี้ เดินพ้นประตูออกไป เอ้ย นั่นมันรถเมล์ แต่มันขึ้นตรงไหนหว่า ถามพี่ รปภ. ที่ยืนอยู่ พี่เค้าน่าจะพอมีความรู้ และแล้ว นั่น จริงๆ ด้วย พี่ รปภ. ไม่ทำให้ผิดหวัง พี่เค้าบอกว่า ให้เดินไปตรงเสาต้นหมายเลข 2 แล้วข้ามถนนไป ตรงเลนที่ 2 นั่นแหละ ป้ายรถเมล์สาย 86 ไป City Center 5555 รออะไรหล่ะคะ เหลือบไปเห็นรถเมล์ กำลังเข้ามาจอดเทียบ วิ่ง ค่ะ วิ่ง
ขึ้นไปนั่งบนรถเมล์ได้ปุ๊บ แล้วจะต้องลงตรงไหนฟระ เลยเอาที่อยู่ Hostel กะแผนที่ไปถามน้องกระเป๋ารถเมล์คนสวยว่า รถเมล์จอดป้ายสุดท้ายที่ City Center เลยหรือปล่าวจ๊ะ น้องบอกว่า ไม่นะ ก็เลยบอกว่า หนู ป้าจะลงตรงโรงแรมนี้อ่ะ ต้องไปยังไง น้องบอกเดี๋ยวถึงแล้วบอก อ่อ ค่ารถเมล์ 40,000 VND นะครับ
พอถึงป้าย น้องก็เดินมาบอกจริงๆ น่ารักมาก ลงรถปุ๊บ งงปั๊บ แล้วยังไงต่อหล่ะ เดินไปดูแผนที่ Old Town ที่อยู่ที่ป้ายรถเมล์ หันซ้ายแลขวา มีพี่วินมอร์เตอร์ไซค์รับจ้าง ถามว่า จะไปไหน ก็เลยเอาที่อยู่ Hostel ให้ดู นางก็บอกว่าไปมั๊ย 30,000 VND ป้าเลยบอก โอเค จัดไปเรยลูกเพ่ อย่าช้า สวมหมวกกันน๊อคเรียบร้อย ลูกพี่ก็พาปาดซ้าย ปาดขวา ฝ่าไฟแดง ไปได้ซัก 15 นาที ก็ถึง Hostel โดยสวัสดิภาพ (แต่ใจยังเต้นระทึกอยู่ 555) คืนนี้นอนที่ Hanoi Backpacker Hostel ห้อง Female Dormitory ราคาเตียงละ 220 บาท ต่อคืน คือดี 555 ตอนเย็น 18.00 – 19.00 น. มีเบียร์เลี้ยงฟรีนะครับ all you can drink within 1 hour มันจะเป็นเวลาหาผู้ เอ้ย หาเพื่อนใหม่ แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับ ลูกๆ หลานๆ ก็สนุกดี แล้วพรุ่งนี้เราจะไปไหนต่อ 5555
เห็นป้ายโฆษณาทัวร์ต่างๆ เห็นหมู่บ้าน Bac Son อยากไปมาก เลย Search ดูว่า มันอยู่ที่ไหน ก็ได้คำตอบว่ามันอยู่ Lang Son ห่างจาก Hanoi ประมาณ ร้อยกว่ากิโล เข้าไปถามน้อง Reception ว่า มีรถจาก Hanoi ไป Lang Son มั๊ย น้องบอกว่า มี ราคา 15 USD เป็นรถบัส ป้าจะไปทำไมหรอ ป้าบอกจะไป Bac Son อิป้ากัดฟัน จ่ายไปค่ะ 15 USD มันแพงมาก ตอนแรกนึกว่า บัส วีไอพี แต่ที่ได้มาคือ รถตู้ แบบว่า local bus แวะรับคนตลอดทาง จาก Hanoi ไป Long Son 160 กิโล ออกแปดโมง ถึงเที่ยง (หัวร้อน)
แต่เพิ่งมารู้ความจริงตอนหลังก็คือ มันไม่ต้องไปถึง Lang Son ก็ได้ เจ้าค่ะ ตีตั๋วรถบัสจาก My Dinh Bus Terminal ไป Thai Nguyen ซึ่งเป็น Hub รถบัส และราคาค่าตั๋วจาก Hanoi ไป Thai Nguen ประมาณ 200 บาท นั่งรถ 2 ชม. จากนั้น เดินไป ฝั่งซ้ายมือของ Terminal (หันหน้าเข้า Terminal) จะเป็นรถไปสายเหนือ ด้านขวาจะเป็นสายใต้ มีสารพัดเส้นทาง และจาก Thai Nguyen ไป Bac Son นั่งรถ 2 ชม. ค่ารถประมาณ 150 บาท ช่อง 26 นะคะ อันนี้ที่รู้เพราะว่า ตอนจะไป Ha Giang ต้องมาขึ้นรถที่นี่ เลยได้สำรวจ โอยกว่าจะฉลาด และสุดท้ายก็ไม่ถึง Bac Son
รถเหลืองเนี่ยแหละค่ะ นั่งจาก Thai Nguyen
Lang Son (หลั่งเซิ่น) – มาแวะ
ตอนเช้าค่า ตื่นมาคอยรถบัส ไป Lang Son โอ้โห คิดในใจ มันคุ้มราคาที่จ่ายจริงๆ มันต้องดีแน่ๆ เอาแท็กซี่มารับถึง Hostel จากนั้น แท็กซี่ก็ขับไปส่งตรงท่ารถ อิป้าก็มองหา Bus มันอยู่ตรงไหนวะ มีแต่รถตู้ หรือจะเป็นอย่างที่เราคิดไว้ นั่นไง คนขับออกมาบอกว่า ลง แล้วไปขึ้นรถตู้ แม่เจ้า ตั๋วราคา 500 บาท ของช้าน ได้รถตู้เบาะเล็กๆ โขยกเขยก ถึงละนะเวียดนาม
คนขับขับรถออกจาก Old Quarter ไปซักพัก จากรถตู้ธรรมดา มันก็กลายเป็นรถตู้เทค เจ้าค่ะ เปิดเพลงเสียงดังอย่างกะรถแห่ มันเริ่มจาก Pop, Pop dance, ทวีความคึกเป็น EDM, ไปต่อกันที่ Techno Dance แล้วพี่เค้าก็กระชาก Feel ด้วย Easy Listening และจบด้วย ลูกทุ่ง เรียกว่า เอาใจลูกค้าทุกกลุ่ม แต่ คนขับกับกระเป๋ารถ มันส์กันอยู่แค่ 2 คน
หลังจาก 2 ชม. บนรถผ่านไป ก็ถึงจุดแวะพัก อันนี้หล่ะคะ ระทึกใหญ่หลวงยิ่งกว่า ภูเขาไฟระเบิด อิป้าเดินไปเข้าห้องน้ำ เสร็จออกมาซื้อน้ำยังไม่ทันจ่ายตังค์ ทันใดนั้น เห็นรถตู้ป้าย Lang Son เคลื่อนออกไปอย่างรวดเร็ว ตกใจแทบสิ้นสติ อิป้าวิ่งตามเรถเจ้าค่ะ แต่มันเห็นมันก็ไม่หยุด จนถอดใจ กระเป๋ากรู้ อยากจิร้องไห้มาก จังหวะที่หันหลังเดินกลับมาที่ร้าน อ้าว เห้ยทำไมคนขับรถมันนั่งอยู่ตรงนี้วะ แล้วพี่เค้าก็มองหน้าและก็ทำหน้างงใส่ อิป้านี่เป็นอะไรหว่า แล้วชี้ไปที่รถอีกคัน บอกว่า คันนี้ รถเราอยู่นี่ อิป้าทั้งดีใจทั้งอาย แล้วถามกลับไปว่า รถเรายังไม่ไปใช่มั๊ย นางก็ทำท่าพูดอะไร ไม่เข้าใจ เดินขึ้นรถไป เออ กระเป๋าอยู่นี่นี่หว่า สะเหร่อแต่ไม่ยอมสลด เดินลงมาจ่ายตังค์ค่าน้ำ แล้วเดินขึ้นรถไปนั่งรอสวยๆ
ผ่านไปอีก 1 ชม. ก็เหลือกัน 5 คน ในรถ ป้าชาวเวียดนาม น้องผู้หญิงชาวเวียดนาม กระเป๋ารถ คนขับ และก็ป้า อิป้าชาวเวียดนามเกิดมาไม่เคยเห็นคนสวยค่ะ นั่งจ้องหน้าตลอดเวลา ก็จ้องได้จ้องไปค่า กระเป๋าหันมาถามป้า เดาว่า จะลงที่ไหน เอาชื่อโรงแรมให้ดู พี่เค้าก็บอกโอเคๆ อิป้าชาวเวียดนาม ไม่รู้แกเป็นอะไรขึ้นมา โวยวาย เสียงดังมาก ค่ะ หันมาพูดกะอิชั้นค่ะ อิชั้นก็ยิ้มค่ะ ไม่รู้เรื่อง นางเห็นดังนั้น นางก็เร่ง Volume ค่ะ คือ ป้าค่ะ จะตะโกนให้คอแตก กรู้ ก็ไม่เข้าใจค่ะ เอาที่ป้าสบายใจเลยค่ะ ซักพัก เหนื่อยค่ะ นางเงียบไป แต่ก็ยังคงจ้องหน้าต่อ แบบโกรธแค้นมาก คือ เป็นอะไรของเค้า 555
จนถึงจุดจอดพักอีกจุด กระเป๋ากะคนขับไล่อิป้านั่นลงค่ะ คืออิป้าก็โวยวายไม่ยอมลง กระเป๋าเลยเอาของป้าลงไปวางไว้ข้างทาง แล้วป้าก็ต้องลงไปแต่โดยดี จากนั้นก็มีคนเพิ่มขึ้นมาอีก 3 คน พอเข้าเมือง คนขับก็ไล่ตระเวนส่งแต่ละคน จนป้าเป็นคนสุดท้าย ส่งถึงหน้าโรงแรมเลยจ้า พอป้าลง พวกนางก็หัวเราะกันใหญ่ มันหมายความว่าไงฟระ
เดินเข้ามาโรงแรม โรงแรมใหญ่โต กว้างขวาง แต่อารมณ์ประมาณโรงแรมร้าง ดูห้องเรียบร้อย ตกลงจะเอาหล่ะนะ ลองถามราคาแท็กซี่กะทัวร์ ไป Mou Son Mountain กับ Bac Son Valley เฮียเค้าบอกว่า ค่า Taxi ไป Mou Son ประมาณ 1,500 บาท ค่าแท็กซี่ไป Bac Son 800 บาท ไม่มีทางอื่นที่จะไป 2 ที่นี้ได้แล้วนอกจากแท็กซี่ ต่อราคาไปมา ได้มา 2,000 บาท พูดเป็นเล่น ไม่ใช่ละ งั้นก็อย่าเสียเวลาเลย ไม่มีตังค์หรอก ไปต่อดีกว่า ที่ไหนดีหล่ะ ไม่รู้ เหมือนกัน เรียกแท็กซี่ไป บขส. ก่อนละกัน ค่อยว่ากัน
คิดขึ้นมาได้ว่า จะไป Ban Gioc Water Fall ดีกว่า แต่มันจะมีรถบัสไป Cao Bang ป่าวว๊า ลองไปดู ก็มีแค่ 2 ทางเลือก ถ้ามีก็ไป ไม่มีก็กลับ Hanoi
ถึง บขส. ถามคนขับแท็กซี่ และคนแถวนั้นว่า รถบัสไป Cao Bang จอดตรงไหน ไม่มีใครรู้ พระเจ้า ไม่มีใครช่วยด้วย ไม่มีใครสนใจ แย่ละ ทำไงดี ก็ด้านหน้าไปถามพี่แท็กซี่ที่คิว พวกนางก็บอกว่า ให้ไปแท็กซี่ท่าเดียว โอยยยยยยยย คนที่นี่นะ อยู่ไม่ได้ละ พยายามตีหน้ามึนครั้งสุดท้าย พวกนางก็เลยชี้ไปที่คิวรถบัส Cao Bang โธ่เอ้ย คือ มันอยู่ตรงเนี้ย เดินไป 5 ก้าว ก็ถึง แค่นี้ทำไมต้องแกล้งกรูด้วยฟระ รีบไปเลยค่ะ อยู่ไม่ได้แล้วที่นี่ เดินไปที่รถบัส (รถเมล์เล็ก) คนขับรถถามว่าจะไปไหน บอกว่า Cao Bang พี่เค้าบอกว่า คันนี้ขึ้นไปเลือกที่นั่งเลย โหนี่มันประเทศเดียวกันป่าววะ 555
13.00 น. ได้เวลาออกรถ พี่คนขับขับรถวนเพื่อที่จะออกจาก บขส. หันไปเห็นคิวรถบัสไป Bac Son (อืมนะ แล้วบอกกรูว่า ต้องไปแท็กซี่ ก็ยังคิดในใจชาวบ้านธรรมดา มันจะมีตังค์นั่งแท็กซี่หรอวะ)
อันนี้วิวระหว่างทาง สวยมากค่ะ แต่ที่เห็นเขียวๆ นั่นไม่ใช่ฟิลเตอร์ หรือเล่น white balance แต่อย่างใด ถ่ายผ่านกระจกรถตู้ ซึ่งฟิมล์ติดรถยนต์มันหมดอายุ เลยเขียวซะ
[CR] แบกเป้คนเดียวเที่ยวเวียดนามเหนือแบบไม่มีแพลนและประสบการณ์สุดประทับใจกับการขับมอร์เตอร์ไซค์ 4 วัน ใน Ha Giang Loop
สวัสดีค่ะ จากที่บอกไว้คือการเดินทางครั้งนี้ไม่มีแผนการอะไรใดๆ ทั้งสิ้น เพราะป้าทำงานจนวันสุดท้าย ไปจองเอาข้างหน้าบ้าง ไม่จองบ้าง ทำให้ทุกอย่างที่เจอมันตื่นเต้นไปหมด ประกันก็ซื้อตอนตีสาม บินตอน 10 โมงเช้า จอง Hostel ไว้ 1 คืนใน ฮานอย เพื่อตั้งหลัก
ค่าใช้จ่ายสำหรับ 15 วัน นะคะ คือไม่ได้จดรายละเอียดไว้มากมาย นับจากเงินที่เหลือในกระเป๋า ใช้ไป 15,000 บาท (ตั้งแต่ Ha Noi จนถึง Mu Cang Chai) รวมค่าตั๋วเครื่องบิน 3,300 บาท รวมทั้งสิ้น 18,300 บาท ที่พัก นอน Hostel ซะส่วนใหญ่ การเดินทางระหว่างเมืองนะหรอ หึ สวยขนาดนี้ Local Bus ยาวไปค่ะ Bus บ้านเค้าเนี่ย คร่าวๆ ที่เจอ มี 3 แบบ
1. ลักษณะคล้ายรถตู้บ้านเรา แต่สภาพไม่ค่อยดี
2. ลักษณะคล้ายรถเมล์เล็กบ้านเรา ถึงแม้จะเก้าอี้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย แต่บรรทุกของเต็มคัน บางทีผู้โดยสารก็ต้องนั่งบนกล่อง
3. Sleeping Bus อันนี้จัดว่าเด็ด เหมือนรถทัวร์ปกติบ้านเราเนี่ยแหละ แต่มันเป็นรถนอน ดังนั้นจะเป็นเตียง ไม่ใช่เก้าอี้ สองชั้น สามแถว แต่แถวล่างโชคดีหน่อย จะเป็น 5 แถว เพราะว่า ตรงทางเดิน พี่เค้าก็นอนกันได้
ภาพจาก Google นะคะ ประมาณนี้ แต่โทรมกว่านี้ และแสงไฟก็เป็นแสงสีม่วง เหมือนตะเกียงไล่แมลง 555
อาหารการกิน ไม่ต้องห่วง อาหารเวียดนาม กินได้ทุกอย่าง ยิ่งข้างทาง ยิ่งชาวบ้าน ยิ่งอร่อย เหมือนอาหารไทยแต่รสชาดจะอ่อนกว่านิดหน่อย ยกเว้น ทำจากวัตถุดิบชนิดพิเศษ 555 อันนี้ไม่ได้ลองนะ
เอาหล่ะ เริ่มกันเลย
เครื่องลงจอดที่ Noi Bai International Airport เวลา 11.45 น. ผ่าน Passport Control เรียบร้อย เดินออกมา จะไปยังไง ตั้งสติก่อน ไปแลกเงิน VND มาก่อน ซัก 70 USD ด้วย Rate ประมาณ 22,XXX ต่อ 1 USD คูณออกมาได้ ประมาณ 1,582,600 VND แต่พนักงานให้เงินมา 1,582,000 VND ก็เลยถามเค้าว่า แล้ว 600 VND หล่ะ เจ้าพนักงานตอบว่า อ่อ Bank เล็กสุด เป็น Bank 1,000 VND ค่ะ ป้า 555 อ้าวหรอ ไม่รู้
ได้เงินและ หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ เรียกให้ใช้บริการแท็กซี่ตลอด แต่ก็ไม่ได้สนใจ หยิบแผนที่ฟรีมา 1 ใบ คิดในใจมันต้องมีอะไรที่ถูกกว่านี้ เดินพ้นประตูออกไป เอ้ย นั่นมันรถเมล์ แต่มันขึ้นตรงไหนหว่า ถามพี่ รปภ. ที่ยืนอยู่ พี่เค้าน่าจะพอมีความรู้ และแล้ว นั่น จริงๆ ด้วย พี่ รปภ. ไม่ทำให้ผิดหวัง พี่เค้าบอกว่า ให้เดินไปตรงเสาต้นหมายเลข 2 แล้วข้ามถนนไป ตรงเลนที่ 2 นั่นแหละ ป้ายรถเมล์สาย 86 ไป City Center 5555 รออะไรหล่ะคะ เหลือบไปเห็นรถเมล์ กำลังเข้ามาจอดเทียบ วิ่ง ค่ะ วิ่ง
ขึ้นไปนั่งบนรถเมล์ได้ปุ๊บ แล้วจะต้องลงตรงไหนฟระ เลยเอาที่อยู่ Hostel กะแผนที่ไปถามน้องกระเป๋ารถเมล์คนสวยว่า รถเมล์จอดป้ายสุดท้ายที่ City Center เลยหรือปล่าวจ๊ะ น้องบอกว่า ไม่นะ ก็เลยบอกว่า หนู ป้าจะลงตรงโรงแรมนี้อ่ะ ต้องไปยังไง น้องบอกเดี๋ยวถึงแล้วบอก อ่อ ค่ารถเมล์ 40,000 VND นะครับ
พอถึงป้าย น้องก็เดินมาบอกจริงๆ น่ารักมาก ลงรถปุ๊บ งงปั๊บ แล้วยังไงต่อหล่ะ เดินไปดูแผนที่ Old Town ที่อยู่ที่ป้ายรถเมล์ หันซ้ายแลขวา มีพี่วินมอร์เตอร์ไซค์รับจ้าง ถามว่า จะไปไหน ก็เลยเอาที่อยู่ Hostel ให้ดู นางก็บอกว่าไปมั๊ย 30,000 VND ป้าเลยบอก โอเค จัดไปเรยลูกเพ่ อย่าช้า สวมหมวกกันน๊อคเรียบร้อย ลูกพี่ก็พาปาดซ้าย ปาดขวา ฝ่าไฟแดง ไปได้ซัก 15 นาที ก็ถึง Hostel โดยสวัสดิภาพ (แต่ใจยังเต้นระทึกอยู่ 555) คืนนี้นอนที่ Hanoi Backpacker Hostel ห้อง Female Dormitory ราคาเตียงละ 220 บาท ต่อคืน คือดี 555 ตอนเย็น 18.00 – 19.00 น. มีเบียร์เลี้ยงฟรีนะครับ all you can drink within 1 hour มันจะเป็นเวลาหาผู้ เอ้ย หาเพื่อนใหม่ แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับ ลูกๆ หลานๆ ก็สนุกดี แล้วพรุ่งนี้เราจะไปไหนต่อ 5555
เห็นป้ายโฆษณาทัวร์ต่างๆ เห็นหมู่บ้าน Bac Son อยากไปมาก เลย Search ดูว่า มันอยู่ที่ไหน ก็ได้คำตอบว่ามันอยู่ Lang Son ห่างจาก Hanoi ประมาณ ร้อยกว่ากิโล เข้าไปถามน้อง Reception ว่า มีรถจาก Hanoi ไป Lang Son มั๊ย น้องบอกว่า มี ราคา 15 USD เป็นรถบัส ป้าจะไปทำไมหรอ ป้าบอกจะไป Bac Son อิป้ากัดฟัน จ่ายไปค่ะ 15 USD มันแพงมาก ตอนแรกนึกว่า บัส วีไอพี แต่ที่ได้มาคือ รถตู้ แบบว่า local bus แวะรับคนตลอดทาง จาก Hanoi ไป Long Son 160 กิโล ออกแปดโมง ถึงเที่ยง (หัวร้อน)
แต่เพิ่งมารู้ความจริงตอนหลังก็คือ มันไม่ต้องไปถึง Lang Son ก็ได้ เจ้าค่ะ ตีตั๋วรถบัสจาก My Dinh Bus Terminal ไป Thai Nguyen ซึ่งเป็น Hub รถบัส และราคาค่าตั๋วจาก Hanoi ไป Thai Nguen ประมาณ 200 บาท นั่งรถ 2 ชม. จากนั้น เดินไป ฝั่งซ้ายมือของ Terminal (หันหน้าเข้า Terminal) จะเป็นรถไปสายเหนือ ด้านขวาจะเป็นสายใต้ มีสารพัดเส้นทาง และจาก Thai Nguyen ไป Bac Son นั่งรถ 2 ชม. ค่ารถประมาณ 150 บาท ช่อง 26 นะคะ อันนี้ที่รู้เพราะว่า ตอนจะไป Ha Giang ต้องมาขึ้นรถที่นี่ เลยได้สำรวจ โอยกว่าจะฉลาด และสุดท้ายก็ไม่ถึง Bac Son
Lang Son (หลั่งเซิ่น) – มาแวะ
ตอนเช้าค่า ตื่นมาคอยรถบัส ไป Lang Son โอ้โห คิดในใจ มันคุ้มราคาที่จ่ายจริงๆ มันต้องดีแน่ๆ เอาแท็กซี่มารับถึง Hostel จากนั้น แท็กซี่ก็ขับไปส่งตรงท่ารถ อิป้าก็มองหา Bus มันอยู่ตรงไหนวะ มีแต่รถตู้ หรือจะเป็นอย่างที่เราคิดไว้ นั่นไง คนขับออกมาบอกว่า ลง แล้วไปขึ้นรถตู้ แม่เจ้า ตั๋วราคา 500 บาท ของช้าน ได้รถตู้เบาะเล็กๆ โขยกเขยก ถึงละนะเวียดนาม
คนขับขับรถออกจาก Old Quarter ไปซักพัก จากรถตู้ธรรมดา มันก็กลายเป็นรถตู้เทค เจ้าค่ะ เปิดเพลงเสียงดังอย่างกะรถแห่ มันเริ่มจาก Pop, Pop dance, ทวีความคึกเป็น EDM, ไปต่อกันที่ Techno Dance แล้วพี่เค้าก็กระชาก Feel ด้วย Easy Listening และจบด้วย ลูกทุ่ง เรียกว่า เอาใจลูกค้าทุกกลุ่ม แต่ คนขับกับกระเป๋ารถ มันส์กันอยู่แค่ 2 คน
หลังจาก 2 ชม. บนรถผ่านไป ก็ถึงจุดแวะพัก อันนี้หล่ะคะ ระทึกใหญ่หลวงยิ่งกว่า ภูเขาไฟระเบิด อิป้าเดินไปเข้าห้องน้ำ เสร็จออกมาซื้อน้ำยังไม่ทันจ่ายตังค์ ทันใดนั้น เห็นรถตู้ป้าย Lang Son เคลื่อนออกไปอย่างรวดเร็ว ตกใจแทบสิ้นสติ อิป้าวิ่งตามเรถเจ้าค่ะ แต่มันเห็นมันก็ไม่หยุด จนถอดใจ กระเป๋ากรู้ อยากจิร้องไห้มาก จังหวะที่หันหลังเดินกลับมาที่ร้าน อ้าว เห้ยทำไมคนขับรถมันนั่งอยู่ตรงนี้วะ แล้วพี่เค้าก็มองหน้าและก็ทำหน้างงใส่ อิป้านี่เป็นอะไรหว่า แล้วชี้ไปที่รถอีกคัน บอกว่า คันนี้ รถเราอยู่นี่ อิป้าทั้งดีใจทั้งอาย แล้วถามกลับไปว่า รถเรายังไม่ไปใช่มั๊ย นางก็ทำท่าพูดอะไร ไม่เข้าใจ เดินขึ้นรถไป เออ กระเป๋าอยู่นี่นี่หว่า สะเหร่อแต่ไม่ยอมสลด เดินลงมาจ่ายตังค์ค่าน้ำ แล้วเดินขึ้นรถไปนั่งรอสวยๆ
ผ่านไปอีก 1 ชม. ก็เหลือกัน 5 คน ในรถ ป้าชาวเวียดนาม น้องผู้หญิงชาวเวียดนาม กระเป๋ารถ คนขับ และก็ป้า อิป้าชาวเวียดนามเกิดมาไม่เคยเห็นคนสวยค่ะ นั่งจ้องหน้าตลอดเวลา ก็จ้องได้จ้องไปค่า กระเป๋าหันมาถามป้า เดาว่า จะลงที่ไหน เอาชื่อโรงแรมให้ดู พี่เค้าก็บอกโอเคๆ อิป้าชาวเวียดนาม ไม่รู้แกเป็นอะไรขึ้นมา โวยวาย เสียงดังมาก ค่ะ หันมาพูดกะอิชั้นค่ะ อิชั้นก็ยิ้มค่ะ ไม่รู้เรื่อง นางเห็นดังนั้น นางก็เร่ง Volume ค่ะ คือ ป้าค่ะ จะตะโกนให้คอแตก กรู้ ก็ไม่เข้าใจค่ะ เอาที่ป้าสบายใจเลยค่ะ ซักพัก เหนื่อยค่ะ นางเงียบไป แต่ก็ยังคงจ้องหน้าต่อ แบบโกรธแค้นมาก คือ เป็นอะไรของเค้า 555
จนถึงจุดจอดพักอีกจุด กระเป๋ากะคนขับไล่อิป้านั่นลงค่ะ คืออิป้าก็โวยวายไม่ยอมลง กระเป๋าเลยเอาของป้าลงไปวางไว้ข้างทาง แล้วป้าก็ต้องลงไปแต่โดยดี จากนั้นก็มีคนเพิ่มขึ้นมาอีก 3 คน พอเข้าเมือง คนขับก็ไล่ตระเวนส่งแต่ละคน จนป้าเป็นคนสุดท้าย ส่งถึงหน้าโรงแรมเลยจ้า พอป้าลง พวกนางก็หัวเราะกันใหญ่ มันหมายความว่าไงฟระ
เดินเข้ามาโรงแรม โรงแรมใหญ่โต กว้างขวาง แต่อารมณ์ประมาณโรงแรมร้าง ดูห้องเรียบร้อย ตกลงจะเอาหล่ะนะ ลองถามราคาแท็กซี่กะทัวร์ ไป Mou Son Mountain กับ Bac Son Valley เฮียเค้าบอกว่า ค่า Taxi ไป Mou Son ประมาณ 1,500 บาท ค่าแท็กซี่ไป Bac Son 800 บาท ไม่มีทางอื่นที่จะไป 2 ที่นี้ได้แล้วนอกจากแท็กซี่ ต่อราคาไปมา ได้มา 2,000 บาท พูดเป็นเล่น ไม่ใช่ละ งั้นก็อย่าเสียเวลาเลย ไม่มีตังค์หรอก ไปต่อดีกว่า ที่ไหนดีหล่ะ ไม่รู้ เหมือนกัน เรียกแท็กซี่ไป บขส. ก่อนละกัน ค่อยว่ากัน
คิดขึ้นมาได้ว่า จะไป Ban Gioc Water Fall ดีกว่า แต่มันจะมีรถบัสไป Cao Bang ป่าวว๊า ลองไปดู ก็มีแค่ 2 ทางเลือก ถ้ามีก็ไป ไม่มีก็กลับ Hanoi
ถึง บขส. ถามคนขับแท็กซี่ และคนแถวนั้นว่า รถบัสไป Cao Bang จอดตรงไหน ไม่มีใครรู้ พระเจ้า ไม่มีใครช่วยด้วย ไม่มีใครสนใจ แย่ละ ทำไงดี ก็ด้านหน้าไปถามพี่แท็กซี่ที่คิว พวกนางก็บอกว่า ให้ไปแท็กซี่ท่าเดียว โอยยยยยยยย คนที่นี่นะ อยู่ไม่ได้ละ พยายามตีหน้ามึนครั้งสุดท้าย พวกนางก็เลยชี้ไปที่คิวรถบัส Cao Bang โธ่เอ้ย คือ มันอยู่ตรงเนี้ย เดินไป 5 ก้าว ก็ถึง แค่นี้ทำไมต้องแกล้งกรูด้วยฟระ รีบไปเลยค่ะ อยู่ไม่ได้แล้วที่นี่ เดินไปที่รถบัส (รถเมล์เล็ก) คนขับรถถามว่าจะไปไหน บอกว่า Cao Bang พี่เค้าบอกว่า คันนี้ขึ้นไปเลือกที่นั่งเลย โหนี่มันประเทศเดียวกันป่าววะ 555
13.00 น. ได้เวลาออกรถ พี่คนขับขับรถวนเพื่อที่จะออกจาก บขส. หันไปเห็นคิวรถบัสไป Bac Son (อืมนะ แล้วบอกกรูว่า ต้องไปแท็กซี่ ก็ยังคิดในใจชาวบ้านธรรมดา มันจะมีตังค์นั่งแท็กซี่หรอวะ)
อันนี้วิวระหว่างทาง สวยมากค่ะ แต่ที่เห็นเขียวๆ นั่นไม่ใช่ฟิลเตอร์ หรือเล่น white balance แต่อย่างใด ถ่ายผ่านกระจกรถตู้ ซึ่งฟิมล์ติดรถยนต์มันหมดอายุ เลยเขียวซะ