ประสบการณ์กับหมอสัดที่โรงพยาบาลสัตว์ชื่อดังแถวบางเขน

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 2/10/60 ที่ผ่านมาค่ะ ... สัตว์เลี้ยงเราเป็นแฮมเตอร์ค่ะ
น้องมีอาการผิดปกติตั้งแต่บ่ายวันอาทิตย์ที่ 1 ที่ผ่านมาเราสังเกตุเห็นเค้าจามตลอดเวลาเหมือนมีอะไรมาอุดรูจมูก จามจนตาข้างซ้ายเกือบปิด เราจึงรีบหาข้องมูลโรงพยาบาลสัตว์แถวใกล้ๆที่พอพาไปได้ ก็เจอ รพ.หนึ่งแถวบางเขน ซึ่งรีวิวดีมากกกกก มีแต่คนแนะนำให้พาไป แถมราคาก็ไม่แพง จนเช้าวันที่ 2/10/60 เรารีบพาลูกเราไปทันที่ไม่รีรอ เราได้คิวที่ 2 ของวันนั้น รอไม่นานเท่าไร วันที่ไปคือก่อนไปน้องยังกินข้าว กินน้ำได้ปกตินะคะ ตอนหาหมอก็ยังวิ่งเล่นร่าเริง พอน้องได้เข้าตรวจหมอ(ผช เด็กใส่แว่น)ก็สอบถามอาการเบื้องต้น แล้วจับพลิกๆดู ก็เห็นว่าจมูกเค้าเหมือนมีแผลหนองปิดอยู่คาดว่าน่าจะเกิดจากการกัดกันกับตัวอื่น เราก็บอกหมอว่า ตอนนี้เราจับน้องแยกอยู่ตัวเดียวมานานละค่ะเพราะเห็นเค้าผสมพันธุ์กับตัวผู้แล้วท้องป่องๆ เลยคิดว่าท้องแน่ๆเลยจับแยก แล้วหมอก็ไม่พูดอะไร ก็ดูน้องสักพัก แล้วบอกว่า ถ้างั้นให้ไป X-ray ดูว่ามีอะไรติดที่ทางเดินอาหารน้องไหมแล้วจะได้ดูด้วยว่าท้องรึป่าวเพราะถ้าท้องคงจะเห็นกะโหลกแล้วละ เราก็โอเคได้คะ แล้วหมอก็ให้ไปX-ray รอผลตรวจสักพัก สรุปหมอบอกว่า น้องไม่ได้ท้องนะ ป่องๆเนี่ยมีแต่แก๊ส คือตอนนั้นในใจเราค้านมากเพราะลูกเราตั้งราวนมแล้วอีกไม่ถึงอาทิตย์คงคลอดแล้วละ แต่เราก็เลือกที่จะเชื่อหมอ ได้แต่ ค่ะ ค่ะ ค่ะ แล้วหมอก็เจาะหนองที่จมูกน้องออก แต่หมอบอกว่าวันนี้ยังเจาะได้ไม่หมดนะเดียวนัดดูอาการพรุ่งนี้อีกทีให้มาดูแผลด้วย แล้วก็จัดยามาเต็มที่มาก ทั้งแก้ปวด แก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อ เยอะแยะทั้งหมด 5 ตัว หมดไป เกือบ 1,600 (เราคิดในใจตอนนั้นถ้าในท้องมีลูกจิงก็คงตายหมดแน่) แต่ก็ไม่ได้พูดไปเพราะไม่กล้าเถียงหมอ ตอนกลับมาคือสภาพแย่กว่าตอนไปค่ะ เพราะน้ำเลือดน้ำหนองที่หมอเจาะไปปิดจมูกน้องทั้งสองข้างเลย น้องตั้งหายใจทางปากอย่างเดียว ก็ทำให้รับแก๊สเข้าไปมากกว่าเดิมอีก ท้องก็ป่องมากกว่าเดิมอีก น้ำ-ข้าวไร ก็ไม่กิน กินไม่ได้แล้ว พอถึงเวลาป้อนยา เราก็ป้อนให้ตามหมอบอกแต่น้องก็ยังดิ้นยังขัดขืน ยังมีแรกปกติ แค่ซึมๆไปเลย
พอวันที่ 3/10/60 เราก็มาตามหมอนัด บอกเลยว่าทุกครั้งที่พามาหาหมอในใจควาดหวังมากว่าน้องจะดีขึ้นเพราะเริ่มแรกไม่ได้คิดยุ่งอะไรกับท้องเค้าเลย แค่มาตรวจจมูกกับตาที่ปิดเท่านั้น แต่ทุกครั้งที่เอากลับมา เหมือนเอาลูกไปทรมานเล่นจิงๆ
วันนี้เราได้คิวที่ 7 ค่ะ แต่ก็รอไม่นานเพราะเป็นคิวที่นัดไว้ พอเข้าไปเราก็แจ้งไปว่าน้องไม่กินข้าวกินน้ำเลยนะค่ะ ตั้งแต่กลับไปเมื่อวาน เลยไม่กล้าให้ยาหลังอาหารเพราะกลัวจะกัดกระเพาะน้องคะ หมอก็โอเคไม่เป็นไร ถ้างั้นวันนี้คงต้องฉีดไปนะเพราะยากินยากเหลือเกิน เราก็คิดอีกนะว่า ยาตัวเดียวกัน จะกินจะฉีดมันก็มีผลเหมือนกันป้ะ แต่ก็โอเคเราจะไปฉลาดกว่าหมอได้ไง เรายังถามหมอเลยว่า จมูกที่บอกจะเอาหนองออกให้หายใจโล่งละค่ะ หมอบอกว่า ปล่อยให้มันยุบไปเองดีกว่าตอนนี้ไม่อยากไปทำไรมาก สุดท้ายไล่เราออกมารอข้างนอกเพื่อให้น้องดมยาไรไม่รู้(น่าจะเป็นออกซิเจน) ประมาณ 20 นาทีก็ออกมา พร้อมกับแฟ้มชำระเงิน และนัดให้มาพรุ่งนี้อีก วันนั้นก็เสียอีก 400 แล้วพาลูกกลับบ้านอย่างแย่กว่าเดิม คืนนั้นเราเห็นแล้วว่าอาการมันแย่ไปทุกวันๆ จากที่ร่าเริงปกติ จนตอนนี้ไม่มีแม้แต่แรงจะเดิน ภายใน2 วันลูกเราแย่ขนาดนี้ก็ควรพิจรณาใหม่ ท้องน้องป่องชนิดที่ว่าไม่สามารถออกจากบ้านที่เขาเข้า-ออก ทุกวันได้ เราเลยตัดสินใจหา รพ.ใหม่ และจะขอใบส่งตัวเอาข้อมูลประวัติ ผลX-ray ทุกอย่างไปด้วย
และเมื่อเช้านี้ 4/10/60 เราก้ไปตามนัดหมอ วันนี้ได้คิวแรก เพราะตั้งใจเต็มที่ว่ายังไงก็ต้องย้าย แต่วันนี้ไปเจอหมอคนใหม่ ดูมีความรู้กว่า เชี่ยวชาญกว่านะ เข้าไปหมอก็ถามว่า เป็นไง
ดี หรือ แย่กว่าเดิม เราบอก แย่มากค่ะ หมอถามอีกว่า ที่ห้องเปิดแอร์ไหม เราบอก ไม่ค่ะ หมอบอก ถ้างั้นให้แอดมินนะ รอดูอาการอีกสักคืน แต่มันสายไป เราไม่ไว้ใจกับ รพ นี้อีกแล้ว เราบอก ไม่ค่ะ และที่สำคัญวันนี้นี่เองมีบางอย่างปูดออกมาจากช่องคลอดน้องแต่หมอก็ยังยืนยันว่าที่ท้องป่องเพราะแก๊สเยอะ เพราะน้องหายใจเอาอากาศเข้าไปเยอะ และดึงตรงอวัยวะเพศน้องด้วย เราเลยบอกไปว่า ไม่ดีกว่าคะวันนี้ขอแค่ประวัติกับใบส่งตัวนะค่ะ หมอก็บอกได้คับ แล้ววันนี้จะรักษาที่นี่ก่อนหรือไป รพ.ใหม่เลย เราเลยขอไปเริ่ม รพ.ใหม่เลยดีกว่าคะ น้องอาการแย่ลงทุกที แล้วทุกอย่างก้เป็นไปตามที่เราบอก เขาให้เราลงมาเอา CD X-ray กับเจ้าหน้าที่อีกคน ตลอดทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามพูดให้เราแอดมิน บอกตอนนี้มีน้องเคสแบบนี้อยู่ในห้องเหมือนกัน 2 ตัว อาการเดียวกันเลย ฤดูนี้น้องจะเป็นกันเยอะ เราก็ฟังๆๆๆๆ แต่ไม่พูดไร แล้วก็มีค่าใช้จ่ายอีก 100 จบกับ รพ.นี้เรารีบไป รพ.ที่คุยกับหมอไว้อีกที่ แถวนนฯ คุณหมอเคยเป็นหมอสัตว์ที่ รพ.สัตว์จุฬามาก่อน แต่ตอนนี้มาเปิดคลินิกที่นี่ เรามาถึงก็ 10 โมงได้ หมอดูแปปเดียวก็พูดเลย โห้ น้องอาการหนักนะเนี่ย แย่มากเลย แล้วก็ถามอาการ ถามความเป็นมาจากเราๆก็เล่าให้ตามที่เจอมา แล้วคุณหมอก็จะพาน้องไปให้ออกซิเจน แต่ดูแล้วว่าจมูกใช้ไม่ได้ เลยให้ผู้ช่วยๆกันเปิดจมูกให้หายใจคล่องขึ้น ก็พบหนองก่อนๆข้างในอีกพอสมควร พอเอาออกแล้วน้องหายในพอได้แล้วก็เอาไปให้ออกซิเจนและอบไฟอุ่น 15 นาที
เราสังเกตุได้อย่างหนึ่งถึงความต่างของคนเป็นหมอรักษาสัตว์เหมือนกันแต่คนหนึ่งใส่ถุงมือแล้วเวลาจับสัตว์ก็ยังจะใช้ผ้ารองอีก แต่อีกคนไม่ใส่ไรเลยใช้มือปล่าวๆสัมผัสได้เลย เห็นเลยว่าจิตวิญญาณความเป็นหมอมันต่างกัน และตลอดการรักษาหมอบอกตลอดเลยว่าอาการน้องตอนนี้แย่มากเลยนะ อิดโรยมาก คุณหมอคุยกับเราตลอด อัธยาศัยดีมาก เราโอเคมากกับคุณหมอแบบนี้ ถึงตอนนี้ลูกเราจะแย่ แต่หมอก็ช่วยเต็มทีมาก
พอครบเวลา 15 นาที ก็เอาน้องออกมา แล้วให้X-rayซ้ำอีกทีเพราะเกรงว่าจะมีเลือดออกในช่องท้องเพราะท้องคล้ำหมดแล้ว มือ เท้า ก็ซีด ตัวเย็น ที่เราช็อคมากคือ คุณหมอตรวจตรงจุดที่ปูดออกมาตรงอวัยวะเพศ คือเด็กค่ะ ลูกแฮมเตอร์ คุณหมอค่อยๆคีบออกมาทีละตัวๆแต่คงเอาออกไม่หมด เพราะจะทำไรกับแม่มากก็ไม่ได้ น้องอิดโรยมาก ตอนนั้นคือเราจุกมากคิดว่าทำไมเราไม่พามาที่นี่ก่อน ไม่น่าพาไปที่ รพ.แรกเลย รู้สึกเสียใจที่เคยตั้งความหวังกับ รพ.นั้น เสียดายที่ต้องเสียลูกแฮมไปทั้งหมด เสียเวลามากที่เคยไปรักษาที่นั่น คุณหมอบอกว่าป่านนี้น้องคงตายหมดแล้ว อาจจะด้วยฤทธิ์ยาที่ให้ไปด้วย เราอยากให้คุณหมอผ่าเอาลูกออกมาให้หมด แต่คุณหมอบอกว่า ถ้าผ่าต้องใช่ยาสลบ และสภาพน้องตอนนี้คงไม่ฟื้นแน่ๆ เราก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วเหหมือนกัน ได้แต่โทษตัวเองว่าทำไมวันนั้นไม่ยืนกรานกับหมอเด็กนั้นไปว่าลูกเราท้องจิงๆ ทำไมต้องเชื่อฟังเค้า ถ้าเราไม่พาเค้าไปวันนั้น วันนี้เค้าอาจจะไม่สภาพแย่ขนาดนี้ ก่อนกลับ คุณหมอบอกว่า ถ้ามาเร็วกว่านี้ น้องแข็งแรงกว่านี้ก็คงมีลุ้น แค่นนี้เราก็รู้แล้วว่าลูกเราโอกาสรอดกี่เปอร์เซ็น เศร้า(
เราออก รพ.นั้นมาประมาณ เกือบเที่ยง และค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็ 1,610 บาทถ้วน ซึ่งไม่ต่างไรกับ รพ.รัฐเลย แต่การบริการต่างกันมากพูดเลย....ที่ตัดสินใจโพสแบบนี้เพราะจะได้เตือนตัวเองและเตือนคนรักสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะอะไรก็ตามว่า "อย่าเชื่อคำพูดของหมอไปซะทั้งหมด" เพราะสุดท้ายแล้วคนที่อยู่กับสัตว์เลี้ยงตลอดเวลาคือเรา และถ้าสัตว์เลี้ยงเราเป็นอะไรไป คนที่เสียใจที่สุดก็คือเรา
บทเรียนครั้งนี้จะขอจำไปจนวันตาย ............ส่วนคุณหมอคนนั้นทำไรไว้ยังไงสักวันกรรมจะตามทันคุณเอง การวินิจฉัยผิดเพียงครั้งเดียวของคุณทำให้ชีวิตน้อยๆอีกหลายชีวิตต้องตายไปอย่างไม่มีโอกาสได้ลืมตาขึ้นมาดูโลก และคุณก็กำลังทำให้อีกหนึ่งชีวิตของแม่สัตว์เหมือนตายทั้งเป็น!!!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่