สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
กระเพื่อมไปถึงวงการแพทย์ด้วยนะคะ จากฉากนี้

ใกล้มิตรชิดหมอ
#เบ่งให้ดี_เบ่งให้ถูกทำอย่างไร
ระหว่างกำลังวิ่งออกกำลังกายบนลู่วิ่ง เปิดดูละคร "รากนครา" ถึงฉากที่เจ้าแม้นเมืองกำลังคลอด ก็เลยคิดได้ว่า มาสอนเบ่งคลอดกันดีกว่า เผื่อใครใกล้คลอดแล้ว จะได้เตรียมตัวเนอะ
ก่อนอื่นออกตัวก่อนว่า หายหน้าหายตาไปพักใหญ่ ๆ ไม่ได้หายไปแอบดูละครนะ แต่ว่าแอบไปทำงานมา เพิ่งจะได้มีเวลาพักหลังจากเปลี่ยนเดือนนี่เอง ...
มาว่าเรื่องการเบ่งคลอดของเรากันต่อ ถ้าถามว่าที่ละครทำมา ถูกมั้ย ก็ต้องบอกว่า ไม่ได้ผิด แต่ก็ไม่ได้ถูกทั้งหมดค่ะ มีส่วนที่คุณแม่ในชีวิตจริงต้องเรียนรู้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
หลักการเบ่งคลอด คือ
1. เริ่มเบ่งคลอดได้เมื่อปากมดลูกเปิดหมดเท่านั้น ..
สงสัยใช่มั้ยคะว่าแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าปากมดลูกเปิดหมดแล้ว คุณหมอหรือคุณพยาบาลจะรู้ได้จากการตรวจภายในค่ะ เมื่อปากมดลูกเปิดหมดแล้ว คุณแม่อาจจะรู้สึกปวดลงก้น เหมือนปวดถ่าย อาจจะเริ่มรู้อยากเบ่ง เหมือนอยากถ่ายอุจจาระ
ซึ่งระยะเวลาจากปากมดลูกเริ่มเปิด จนเปิดหมดในแต่ละคนจะไม่เท่ากัน ในท้องหลังจะเปิดเร็วกว่าท้องแรก
ก่อนที่ปากมดลูกจะเปิดหมด จะไม่แนะนำให้เบ่ง เพราะปากมดลูกจะบวม และอาจจะบาดเจ็บฉีกขาดได้ รวมถึงคุณแม่จะเสียพลังงานโดยไม่เกิดประโยชน์ เก็บแรงไว้เบ่งตอนที่ร่างกายพร้อมแล้วดีกว่าค่ะ
2. เบ่งคลอดเฉพาะช่วงที่มดลูกบีบตัวเท่านั้น
เป็นการเสริมแรงกัน คือ มีทั้งแรงบีบตัวของมดลูก ซึ่งแม้จะมีแรงดันมหาศาล ดันจนปากมดลูกเปิดหมดแล้ว แต่เมื่อจะคลอด จำเป็นต้องใช้แรงเบ่งของแม่ด้วย
แต่หากเบ่งตอนที่มดลูกไม่บีบตัว แม้คุณแม่จะแรงเยอะแค่ไหน ก็อาจจะไม่เพียงพอให้ทารกคลอดออกมาได้ อาจจะทำให้คุณแม่หมดแรงไปซะก่อน
คุณหมอหรือคุณพยาบาลจะคอยจับที่ยอดมดลูก เพื่อส่งสัญญาณให้คุณแม่ทราบว่าได้เวลามดลูกบีบตัวแล้ว และจะบอกให้คุณแม่เบ่ง ทั้งนี้การบีบตัวของมดลูกแต่ละครั้งในช่วงนี้จะมีเวลาประมาณ 1-2 นาที แล้วมดลูกก็จะคลายตัว ช่วงที่คลายตัวนี้ คุณแม่ก็จะได้พัก
ในช่วงเวลา 1-2 นาทีนี้เอง ที่เป็นนาทีทอง คุณแม่ควรเบ่งให้ถูก ให้เต็มที่ในช่วงเวลามดลูกบีบตัวนี้ เพราะถ้าเบ่งได้ดีและมีประสิทธิภาพก็จะไม่ต้องใช้เวลานาน
3. ใช้เทคนิค open glottis หรือถ้านึกไม่ออกก็นึกถึงเวลาที่เราท้องผูกหนัก ๆ แล้วเราจะเบ่งอุจจาระออกมานั่นเอง
วิธีการเบ่งที่ถูก คือ หายใจเข้าเต็มที่ แล้วกลั้นไว้ จากนั้นก็เบ่ง โดยที่ปิดปากให้สนิทไม่มีเสียง เบ่งลงไปที่ก้น เหมือนเวลาเบ่งอุจจาระ ให้นานที่สุด โดยเมื่อหมดลมหายใจแล้วก็ให้สูดลมหายใจเข้า แล้วกลั้นหายใจตามด้วยการเบ่งแบบปิดปากซ้ำอีกครั้ง จนกว่ามดลูกจะคลายตัว
จะเห็นว่าเจ้าแม้นเมืองเบ่งได้ถูกในช่วงต้น ๆ ที่เริ่มเบ่ง แต่เนื่องจากเจ้าแม้นเมืองเบ่งสั้นไปหน่อย ทำให้ต้องเบ่งหลายครั้งกว่าเจ้าไศลรัตน์จะคลอดออกมาได้ เจ้าแม้นเมืองเลยเหนื่อยหน่อย เพราะต้องเบ่งนาน
ส่วนการใช้มือจับผ้าที่ผูกไว้กับขื่อนั้น อาจจะช่วยเสริมแรงเบ่งได้ แต่ว่าปัจจุบัน ถ้าคลอดบนขาหยั่ง ข้าง ๆ เตียงจะมีที่จับสำหรับให้คุณแม่จับสองข้าง ให้คุณแม่เอามือจับไว้ แล้วดึงเข้าหาตัวเวลาเบ่งค่ะ
ท่าในระหว่างที่เบ่งก็สำคัญนะคะ สังเกตว่าเวลาที่เจ้าแม้นเมืองเบ่งจะยกตัวขึ้นก้มหน้าคางชิดอก ไม่แอ่นตัวนะคะ
ว่าที่คุณแม่ ลองซ้อมท่าเจ้าแม้นเมืองไว้ แต่ลองปรับการเบ่งให้ถูกมากขึ้น คือ เบ่งให้นานกว่านั้นหน่อย แล้วก็ไม่ต้องมีเสียงตอนเบ่ง เชื่อว่าทุกคนคลอดได้ ไม่เหนื่อยแน่นอน 555
หมอเมษ์
จากเพจใกล้มิตรชิดหมอ https://www.facebook.com/Drnextdoor/photos/a.160279067484219.1073741898.138161163029343/842171309294988/?type=3&theater

จากเพจ https://www.facebook.com/doctorchaniya/photos/a.493745740775209.1073741828.493159327500517/883991648417281/?type=3&theater

ใกล้มิตรชิดหมอ
#เบ่งให้ดี_เบ่งให้ถูกทำอย่างไร
ระหว่างกำลังวิ่งออกกำลังกายบนลู่วิ่ง เปิดดูละคร "รากนครา" ถึงฉากที่เจ้าแม้นเมืองกำลังคลอด ก็เลยคิดได้ว่า มาสอนเบ่งคลอดกันดีกว่า เผื่อใครใกล้คลอดแล้ว จะได้เตรียมตัวเนอะ
ก่อนอื่นออกตัวก่อนว่า หายหน้าหายตาไปพักใหญ่ ๆ ไม่ได้หายไปแอบดูละครนะ แต่ว่าแอบไปทำงานมา เพิ่งจะได้มีเวลาพักหลังจากเปลี่ยนเดือนนี่เอง ...
มาว่าเรื่องการเบ่งคลอดของเรากันต่อ ถ้าถามว่าที่ละครทำมา ถูกมั้ย ก็ต้องบอกว่า ไม่ได้ผิด แต่ก็ไม่ได้ถูกทั้งหมดค่ะ มีส่วนที่คุณแม่ในชีวิตจริงต้องเรียนรู้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
หลักการเบ่งคลอด คือ
1. เริ่มเบ่งคลอดได้เมื่อปากมดลูกเปิดหมดเท่านั้น ..
สงสัยใช่มั้ยคะว่าแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าปากมดลูกเปิดหมดแล้ว คุณหมอหรือคุณพยาบาลจะรู้ได้จากการตรวจภายในค่ะ เมื่อปากมดลูกเปิดหมดแล้ว คุณแม่อาจจะรู้สึกปวดลงก้น เหมือนปวดถ่าย อาจจะเริ่มรู้อยากเบ่ง เหมือนอยากถ่ายอุจจาระ
ซึ่งระยะเวลาจากปากมดลูกเริ่มเปิด จนเปิดหมดในแต่ละคนจะไม่เท่ากัน ในท้องหลังจะเปิดเร็วกว่าท้องแรก
ก่อนที่ปากมดลูกจะเปิดหมด จะไม่แนะนำให้เบ่ง เพราะปากมดลูกจะบวม และอาจจะบาดเจ็บฉีกขาดได้ รวมถึงคุณแม่จะเสียพลังงานโดยไม่เกิดประโยชน์ เก็บแรงไว้เบ่งตอนที่ร่างกายพร้อมแล้วดีกว่าค่ะ
2. เบ่งคลอดเฉพาะช่วงที่มดลูกบีบตัวเท่านั้น
เป็นการเสริมแรงกัน คือ มีทั้งแรงบีบตัวของมดลูก ซึ่งแม้จะมีแรงดันมหาศาล ดันจนปากมดลูกเปิดหมดแล้ว แต่เมื่อจะคลอด จำเป็นต้องใช้แรงเบ่งของแม่ด้วย
แต่หากเบ่งตอนที่มดลูกไม่บีบตัว แม้คุณแม่จะแรงเยอะแค่ไหน ก็อาจจะไม่เพียงพอให้ทารกคลอดออกมาได้ อาจจะทำให้คุณแม่หมดแรงไปซะก่อน
คุณหมอหรือคุณพยาบาลจะคอยจับที่ยอดมดลูก เพื่อส่งสัญญาณให้คุณแม่ทราบว่าได้เวลามดลูกบีบตัวแล้ว และจะบอกให้คุณแม่เบ่ง ทั้งนี้การบีบตัวของมดลูกแต่ละครั้งในช่วงนี้จะมีเวลาประมาณ 1-2 นาที แล้วมดลูกก็จะคลายตัว ช่วงที่คลายตัวนี้ คุณแม่ก็จะได้พัก
ในช่วงเวลา 1-2 นาทีนี้เอง ที่เป็นนาทีทอง คุณแม่ควรเบ่งให้ถูก ให้เต็มที่ในช่วงเวลามดลูกบีบตัวนี้ เพราะถ้าเบ่งได้ดีและมีประสิทธิภาพก็จะไม่ต้องใช้เวลานาน
3. ใช้เทคนิค open glottis หรือถ้านึกไม่ออกก็นึกถึงเวลาที่เราท้องผูกหนัก ๆ แล้วเราจะเบ่งอุจจาระออกมานั่นเอง
วิธีการเบ่งที่ถูก คือ หายใจเข้าเต็มที่ แล้วกลั้นไว้ จากนั้นก็เบ่ง โดยที่ปิดปากให้สนิทไม่มีเสียง เบ่งลงไปที่ก้น เหมือนเวลาเบ่งอุจจาระ ให้นานที่สุด โดยเมื่อหมดลมหายใจแล้วก็ให้สูดลมหายใจเข้า แล้วกลั้นหายใจตามด้วยการเบ่งแบบปิดปากซ้ำอีกครั้ง จนกว่ามดลูกจะคลายตัว
จะเห็นว่าเจ้าแม้นเมืองเบ่งได้ถูกในช่วงต้น ๆ ที่เริ่มเบ่ง แต่เนื่องจากเจ้าแม้นเมืองเบ่งสั้นไปหน่อย ทำให้ต้องเบ่งหลายครั้งกว่าเจ้าไศลรัตน์จะคลอดออกมาได้ เจ้าแม้นเมืองเลยเหนื่อยหน่อย เพราะต้องเบ่งนาน
ส่วนการใช้มือจับผ้าที่ผูกไว้กับขื่อนั้น อาจจะช่วยเสริมแรงเบ่งได้ แต่ว่าปัจจุบัน ถ้าคลอดบนขาหยั่ง ข้าง ๆ เตียงจะมีที่จับสำหรับให้คุณแม่จับสองข้าง ให้คุณแม่เอามือจับไว้ แล้วดึงเข้าหาตัวเวลาเบ่งค่ะ
ท่าในระหว่างที่เบ่งก็สำคัญนะคะ สังเกตว่าเวลาที่เจ้าแม้นเมืองเบ่งจะยกตัวขึ้นก้มหน้าคางชิดอก ไม่แอ่นตัวนะคะ
ว่าที่คุณแม่ ลองซ้อมท่าเจ้าแม้นเมืองไว้ แต่ลองปรับการเบ่งให้ถูกมากขึ้น คือ เบ่งให้นานกว่านั้นหน่อย แล้วก็ไม่ต้องมีเสียงตอนเบ่ง เชื่อว่าทุกคนคลอดได้ ไม่เหนื่อยแน่นอน 555
หมอเมษ์
จากเพจใกล้มิตรชิดหมอ https://www.facebook.com/Drnextdoor/photos/a.160279067484219.1073741898.138161163029343/842171309294988/?type=3&theater

จากเพจ https://www.facebook.com/doctorchaniya/photos/a.493745740775209.1073741828.493159327500517/883991648417281/?type=3&theater
แสดงความคิดเห็น
รากนครา กับ impact ต่อมิติต่าง ๆ ในสังคม
แต่สิ่งที่รากนคราต่างกับละครเรตติ้งกลาง ๆ เรื่องอื่น คือ ผลกระทบทางสังคม
เป็นปรากฎการณ์ที่คล้าย ๆ กัน กับละครแนวประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอื่นๆของช่องสาม
กระทู้ว่าด้วยประวัติศาสตร์เกิดเป็นดอกเห็ด
กระทู้ว่าด้วยรัฐศาสตร์การปกครอง ก็มา
กระทู้วิเคราะห์พฤติกรรม บุคลิกภาพตัวละครมากมายมหาศาล
ความนิยมวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมล้านนากระเพื่อมแรง
ไม่น่าเชื่อว่าละครเรื่องเดียวจะส่งผลต่อสังคมได้มากขนาดนี้
ต้องขอชื่นชมความพยายามของทีมงาน ที่มุมานะจนได้ผลที่น่าตื่นตะลึง