เนื่องจากเพิ่งจะได้ย้ายเข้ามาอยู่บ้านใหม่ ตอนแรกก็ยังไม่คิดที่จะติดตั้งปั๊มน้ำอะไรเพราะคิดว่าน้ำในโครงการน่าจะไหลแรง เพราะยังมีคนย้ายมาอยู่ไม่กี่หลัง แต่พอเอาเข้าจริงๆนั้น Failมาก  น้ำไหลเบายิ่งชั้น 2 นี่หมดสิทธิ์อาบน้ำไปได้เลย ก็เลยต้องทำการติดตั้งปั๊มน้ำแล้วหละงานนี้  ซึ่งก็ดูอยู่หลายตัวจนมาจบที่ยี่ห้อ Grundfos SCALA2 รุ่นใหม่ล่าสุด เนื่องด้วยว่าเคยใช้ปั๊มยี่ห้อนี้มาก่อนหน้านี้แล้วติดใจกับความแรงและเงียบของแบรนด์นี้มาก แต่จะเป็นรุ่นที่มีถังเก็บแรงดันด้านบนตัวปั๊ม


พอมาคราวนี้ก็เลือกพิจารณาหลายๆอย่างจนมาจบที่ตัวนี้ ตอนแรกก็ยังกลัวๆเพราะไม่ค่อยเห็นคนใช้กันมากเท่าไหร่ และราคาแพงด้วย แต่พอมาเทียบราคาดูกับในโฮมโปรที่ขายอยู่ก็เพิ่มเงินในกระเป๋าอีกไม่กี่พันบาท ก็เลยกัดฟันเอามาใช้เลยและกัน  ปล.ต้องขออภัยสำหรับรูปงานติดตั้งที่ไม่ค่อยละเอียดนะครับ เพราะงานนี้ผมทำการเดินท่อ ติดตั้งคนเดียวซะเป็นส่วนใหญ่ หลังๆจะมีคุณพ่อมาช่วยเป็นลูกมือช่วยกันทำช่วงใกล้เสร็จ เลยทำให้ไม่สามารถมีเวลามาถ่ายรูปงานแต่ละช่วงๆได้อย่างละเอียด เพราะมือเลอะกาวไปหมด จับกล้องไม่ได้ เลยเอาคร่าวๆข้ามขั้นตอนไปเท่าที่ได้

เอาล่ะมาเริ่มแกะกล่องกันเลยครับเพื่อไม่ให้เสียเวลา  มาดูรูปร่างหน้าตาของตัว Pump กันก่อนครับ ว่าเป็นยังไง มีอะไรในกล่องมาให้บ้าง?

จากนั้นก็จัดเตรียมอุปกรณ์ Ball valve,check valve,Union ตามขนาดต่างๆที่ต้องคิดว่าจะใช้ในลูปที่จะเดินระบบ โดยผมจะไม่เลือกใช้พวก ball valve PVC เพราะไม่ค่อยเชื่อถือในการใช้งานระยะยาวว่าจะใช้ทนและปิดน้ำอยู่ครับ  เลยจัดชุดเซ็ท Kitz มาทั้งหมดซึ่งมั่นใจในประสิทธิภาพการใช้งานระยะยาวมากครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะปิดไม่อยู่หรือวาล์วตาย
จากนั้นก็เตรียมข้อต่อพันเกลียวอัดเข้าชุดอุปกรณ์วาล์วทั้งหมดเพื่อรอใช้งานเลยครับทีนี้ก็มานั่งคิดอยู่นานว่าจะเดินท่อน้ำยังไงดีที่หลังบ้าน ที่จะทำให้สามารถทำการ maintenance ได้อย่างไม่ลำบากในอนาคต  โดยไม่อยากเดินท่อพาดไปมาขวางทาง จนมาสรุปได้คือเดินติดกำแพงไปเลย สวยงามและไม่เกะกะด้วยครับ ซึ่งพอได้แนวแล้วก็ทำการ Mark line loop system ไว้ที่บนกำแพงคร่าวๆเลยครับ ว่าจะติด valve หรือจะเดินแนวท่อไปในทิศทางไหนยังไง ซึ่งต้องกะระยะให้ดีในส่วนนี้
หลังจากใช้เวลาเดินท่อจนกว่าจะเสร็จก็ใช้เวลาไปร่วม 2 วัน เลยขอพามาชมภาพตอนติดตั้งเสร็จเรียบร้อยกันเลยครับ (ข้ามรูปงานติดตั้งไปเยอะครับ อย่างที่บอกไม่มีใครมาถ่ายให้ ทำอยู่คนเดียว) **ช่วง line discharge ติดตั้ง Pressure gauge เพิ่มเติมเข้าไปเอาเองด้วยครับ เพื่อดูแรงดันที่ตอนปั๊มทำงานว่ามีการทำแรงดันได้ในช่วงไหน แรงไปหรือเบาไป เพราะที่ตัวปั๊มรุ่นนี้ไม่มีบอกครับ ถ้าไม่ติดนี่ตาบอดเลย เดาไม่ถูกเลยว่ากี่บาร์แล้ว

สรุปการใช้งานมาซักระยะ ของตัวปั๊มก็ค่อนข้างประทับใจมากอย่างที่ใจต้องการเลยครับ ให้คะแนนก็คง  9/10 ที่ไม่ให้เต็มเพราะผมคิดว่ามันคงไม่มีเครื่องใช้อะไรที่มันจะสมบูรณ์แบบ ดีเวอร์แบบ perfect 100% ไปซะทุกอย่าง เพียงแต่ว่าตอนนี้ผมยังไม่เจอมันก็แค่นั้นเอง  แต่แค่นี้ก็ดีถูกใจผมมากแล้วครับสำหรับปั๊มตัวนี้
ข้อดี       1.เสียงปั๊มตอนทำงานเงียบมาก แต่ไม่ใช่ว่าเงียบจนนิ่งไม่ได้ยินอะไรนะครับ อันนั้นคงเสียแล้วมั้ง ฮา... แต่ถ้าใครชอบเงียบๆขอบอกว่าตัวนี้เลยถูกใจแน่นอน
             2.ปั๊มสามารถทำแรงดันได้หลายระดับมากตามต้องการเลย ตั้งแต่ 2-5บาร์เลยมั้งครับ แต่ของผมตั้งไว้ที่ 3 บาร์ก็พอเหลือๆแล้ว
             3.ปั๊มมีขนาดเล็ก กินพื้นที่น้อยในการติดตั้ง  และมียูเนี่ยนทางด้านน้ำเข้า-ออกในตัวปั๊ม สามารถถอดซ่อมได้ง่ายสะดวกดีในอนาคตถ้าจะแก้ไขอะไรเพิ่มเติม
             4.มีระบบ Protect sensor หลายอย่างมากในตัวปั๊ม สามารถจับสิ่งผิดปกติที่อาจเกิดกับตัวปั๊มได้

ข้อเสีย       1.ราคาแพง
                2.ไม่มี Pressure gauge มาให้ในตัว
                3.ไม่มีชุดแท่น support pump มาให้ (แนะนำว่าไม่ควรติดตั้งวางกับพื้นโดยตรงครับ อาจเกิดสนิมลามขึ้นมาที่ฐานปั๊มในอนาคตได้)

คร่าวๆก็ประมาณนี้นะครับสั้นๆมาไวไปไว เอาไว้เป็นตัวเลือกหรือแนวทางในการตัดสินใจของคนที่กำลังจะติดตั้งปั๊มน้ำในอนาคต เพื่อที่จะนำไปประยุกต์ใช้งานกันเองว่าจะเหมาะสมกับรูปแบบไหน  ขอบคุณครับที่ติดตามอ่านจนจบ^^