เท้าความถึง "รากนครา 2560" ตอนประชุมปักปันเขตแดนสยาม-เมืองมัณฑ์ โดยมีเชียงเงินเป็นพื้นที่พิพาท
แบร็กกิ้นทราบเรื่องที่ศุขวงศ์ช่วยมิ่งหล้าออกมาจากเมืองมัณฑ์ แต่ให้การต่อที่ประชุมว่า "ไม่รู้ไม่เห็น"
(แต่ รากนครา 2543 แบร็กกิ้นไม่รู้จริงๆ ศุขวงศ์เย็บปากสนิทและปกปิดโฉมหน้ามิ่งหล้าเป็นอย่างดี)
แค่มิตรภาพ? หรือมีผลประโยชน์แอบแฝง?
ประเด็นมิตรภาพคงไม่ต้องพูดถึง เพราะสื่อออกมาตามเนื้อเรื่องในละครอยู่แล้ว แต่ผมจะวิเคราะห์เฉพาะประเด็น "มีผลประโยชน์แอบแฝง"
โดยอาศัยข้อมูลประวัติศาสตร์ที่ผมเคยรู้มา+มโนเพิ่มเอง (ฉะนั้นอย่าถือเป็นจริงไปซะทั้งหมด)
.
ตามละครกำหนดแบร็กกิ้นไว้ว่า..เป็นลูกจ้างบริษัททำไม้ บริติชบอร์เนียว ซึ่งถือเป็นวรรณะพ่อค้า ไม่ใช่ข้าราชการอังกฤษ และถูกเชิญมาเป็นที่ปรึกษา ในฐานะผู้เชี่ยวชาญภูมิประเทศ
โดยทั่วไปพ่อค้า กับ ข้าราชการ ไม่ค่อยถูกกัน (เป็นทุกประเทศแหละ) เพราะพ่อค้ากลัวถูกเก็บภาษีเยอะ และข้าราชการก็ชอบจู้จี้นั่นนู่นนี่ บังคับให้ต้องทำตามกฎหมาย
.
ประวัติศาสตร์ที่เคยอ่านผ่านตามา กล่าวไว้อย่างนี้ (ผมหาลิ้งค์ไม่เจอแล้วครับ)
สมัย ร.๕ บริษัทอังกฤษจะทำป่าไม้ต้องติดต่อผ่านสถานทูตอังกฤษ สถานทูตก็จะมาเจรจากับกระทรวงต่างประเทศเพื่อขอสัมปทาน แล้วสถานทูตอังกฤษเนี่ยก็ชอบเอาเรื่องบริษัททำไม้มาใส่ไข่เพิ่มเติมเพื่อหาประโยชน์เข้าตัวเอง (อย่าลืมว่า พ่อค้าอังกฤษ กับ ข้าราชการอังกฤษ คนละพวกกัน คนละกระเป๋า)
ร.๕ ปรึกษาเรื่องนี้กับขุนนางแล้ว มีพระราชดำริให้จัดตั้งกรมป่าไม้ขึ้น เพื่อเป็นหน่วยงานติดต่อกับบริษัททำไม้โดยตรง (ไม่ต้องผ่านสถานทูตอังกฤษ) และพระราชทานคำแนะนำให้กรมป่าไม้อนุมัติสัมปทานไวๆ ออกเอกสารไวๆ
บริษัททำไม้ ชอบใจเป็นอันมาก เพราะดำเนินเรื่องไว ขั้นตอนน้อย ตั้งแต่มีกรมป่าไม้ บริษัททำไม้ก็ไม่ไปติดต่อสถานทูตอังกฤษให้ช่วยดำเนินการอีกเลย
ท่านทูตเคืองมาก (ทำไมโดนเท) บุกไปหาบริษัททำไม้จะคุยให้รู้เรื่อง บริษัททำไม้ตอบว่า เขาเป็นเอกชน ย่อมมุ่งผลกำไร ความสะดวกรวดเร็วเป็นสำคัญ เรื่องอะไรจะต้องพึ่งพาสถานทูตอีก
ตั้งแต่นั้นมา สถานทูตก็หมดมูลเหตุที่จะมามั่วซั่วหาผลประโยชน์แฝง (แต่ยังมีอีกหลายเรื่อง ให้มันเล่น)
ร.๕ พอพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่งกับ "กรมป่าไม้" (ต้องเข้าใจด้วยว่า สมัยโน้นปัญหาการล่าอาณานิคมหนักหนาสาหัสเกินกว่าจะมาห่วงว่าป่าไม้จะหมดประเทศ)
.
ปูเรื่องเสร็จ..เข้าเรื่องเสียที
ผมอ่านใจแบร็กกิ้นว่า ถึงอังกฤษจะได้เชียงเงินไป บริติชบอร์เนียวก็ต้องไปขอสัมปทานจากรัฐบาลอังกฤษ (โดนเก็บภาษีเต็มเหนี่ยว)
ถ้าช่วยศุขวงศ์คราวนี้ ก็จะได้บุญคุณเป็นอันมาก การขอสัมปทานป่าไม้ในดินแดนเชียงเงินจากรัฐบาลสยามจะก่อให้เกิดกำไรกับบริติชบอร์เนียวมากยิ่งกว่า
เป็นการวิเคราะห์แบบละครพาไปนะครับ ใครสนใจ "ของแท้" ต้องไปค้นคว้าเพิ่มเติมกันเอง
ทำไมแบร็กกิ้นยอมช่วยศุขวงศ์ง่ายจัง แค่มิตรภาพ? หรือมีผลประโยชน์แอบแฝง?
แบร็กกิ้นทราบเรื่องที่ศุขวงศ์ช่วยมิ่งหล้าออกมาจากเมืองมัณฑ์ แต่ให้การต่อที่ประชุมว่า "ไม่รู้ไม่เห็น"
(แต่ รากนครา 2543 แบร็กกิ้นไม่รู้จริงๆ ศุขวงศ์เย็บปากสนิทและปกปิดโฉมหน้ามิ่งหล้าเป็นอย่างดี)
แค่มิตรภาพ? หรือมีผลประโยชน์แอบแฝง?
ประเด็นมิตรภาพคงไม่ต้องพูดถึง เพราะสื่อออกมาตามเนื้อเรื่องในละครอยู่แล้ว แต่ผมจะวิเคราะห์เฉพาะประเด็น "มีผลประโยชน์แอบแฝง"
โดยอาศัยข้อมูลประวัติศาสตร์ที่ผมเคยรู้มา+มโนเพิ่มเอง (ฉะนั้นอย่าถือเป็นจริงไปซะทั้งหมด)
.
ตามละครกำหนดแบร็กกิ้นไว้ว่า..เป็นลูกจ้างบริษัททำไม้ บริติชบอร์เนียว ซึ่งถือเป็นวรรณะพ่อค้า ไม่ใช่ข้าราชการอังกฤษ และถูกเชิญมาเป็นที่ปรึกษา ในฐานะผู้เชี่ยวชาญภูมิประเทศ
โดยทั่วไปพ่อค้า กับ ข้าราชการ ไม่ค่อยถูกกัน (เป็นทุกประเทศแหละ) เพราะพ่อค้ากลัวถูกเก็บภาษีเยอะ และข้าราชการก็ชอบจู้จี้นั่นนู่นนี่ บังคับให้ต้องทำตามกฎหมาย
.
ประวัติศาสตร์ที่เคยอ่านผ่านตามา กล่าวไว้อย่างนี้ (ผมหาลิ้งค์ไม่เจอแล้วครับ)
สมัย ร.๕ บริษัทอังกฤษจะทำป่าไม้ต้องติดต่อผ่านสถานทูตอังกฤษ สถานทูตก็จะมาเจรจากับกระทรวงต่างประเทศเพื่อขอสัมปทาน แล้วสถานทูตอังกฤษเนี่ยก็ชอบเอาเรื่องบริษัททำไม้มาใส่ไข่เพิ่มเติมเพื่อหาประโยชน์เข้าตัวเอง (อย่าลืมว่า พ่อค้าอังกฤษ กับ ข้าราชการอังกฤษ คนละพวกกัน คนละกระเป๋า)
ร.๕ ปรึกษาเรื่องนี้กับขุนนางแล้ว มีพระราชดำริให้จัดตั้งกรมป่าไม้ขึ้น เพื่อเป็นหน่วยงานติดต่อกับบริษัททำไม้โดยตรง (ไม่ต้องผ่านสถานทูตอังกฤษ) และพระราชทานคำแนะนำให้กรมป่าไม้อนุมัติสัมปทานไวๆ ออกเอกสารไวๆ
บริษัททำไม้ ชอบใจเป็นอันมาก เพราะดำเนินเรื่องไว ขั้นตอนน้อย ตั้งแต่มีกรมป่าไม้ บริษัททำไม้ก็ไม่ไปติดต่อสถานทูตอังกฤษให้ช่วยดำเนินการอีกเลย
ท่านทูตเคืองมาก (ทำไมโดนเท) บุกไปหาบริษัททำไม้จะคุยให้รู้เรื่อง บริษัททำไม้ตอบว่า เขาเป็นเอกชน ย่อมมุ่งผลกำไร ความสะดวกรวดเร็วเป็นสำคัญ เรื่องอะไรจะต้องพึ่งพาสถานทูตอีก
ตั้งแต่นั้นมา สถานทูตก็หมดมูลเหตุที่จะมามั่วซั่วหาผลประโยชน์แฝง (แต่ยังมีอีกหลายเรื่อง ให้มันเล่น)
ร.๕ พอพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่งกับ "กรมป่าไม้" (ต้องเข้าใจด้วยว่า สมัยโน้นปัญหาการล่าอาณานิคมหนักหนาสาหัสเกินกว่าจะมาห่วงว่าป่าไม้จะหมดประเทศ)
.
ปูเรื่องเสร็จ..เข้าเรื่องเสียที
ผมอ่านใจแบร็กกิ้นว่า ถึงอังกฤษจะได้เชียงเงินไป บริติชบอร์เนียวก็ต้องไปขอสัมปทานจากรัฐบาลอังกฤษ (โดนเก็บภาษีเต็มเหนี่ยว)
ถ้าช่วยศุขวงศ์คราวนี้ ก็จะได้บุญคุณเป็นอันมาก การขอสัมปทานป่าไม้ในดินแดนเชียงเงินจากรัฐบาลสยามจะก่อให้เกิดกำไรกับบริติชบอร์เนียวมากยิ่งกว่า
เป็นการวิเคราะห์แบบละครพาไปนะครับ ใครสนใจ "ของแท้" ต้องไปค้นคว้าเพิ่มเติมกันเอง