มหาวิทยาลัยทางภาคเหนือ

สวัสดีครับ วันนี้ผมอยากจะมาแชร์เรื่องราวที่เจอมากับตัวเอง ผมเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคเหนือตอนบนสุด ในปีแรกเทอมแรกผมไม่ได้รู้สึกผิดหวังกับการสอนของที่นี่เท่าไหร่นักเนื่องจากเป็นเฟรชชี่ใหม่ๆเลยพยายามที่จะปรับตัว แต่พอเมื่อขึ้นปี1เทอม2 ทุกวิชาได้เปลี่ยนอาจารย์ผู้สอนหมด ซึ่งผมสังเกตได้ว่าอาจารย์ที่ทุ่มเทให้กับการสอนมากที่สุดคืออาจารย์วิชาภาษาจีน ที่เขาเดินทางมาจากประเทศจีนโดยตรง แต่ในรายวิชาที่ควรจะจริงจังมากที่สุดคือวิชาของเมเจอร์ ผมกลับเจออาจารย์ที่ซึ่งเรียกได้ว่าลำเอียงกับนศ.อย่างเห็นได้ชัด เช่น เพื่อนร่วมคลาสผมเป็นลูกคนมีเงิน จบเทอม2เค้าจะไปเรียนที่ตปท. ซึ่งผมสังเกตว่าเค้าดูสนใจเพื่อนคนนี้เป็นพิเศษ และสนใจคนที่หัวกะทิในห้องเป็นพิเศษ ซึ่งมีอยู่ประมาณ4-5คนในคลาส ซึ่งผมรู้สึกว่าเด็กธรรมดาที่หัวกลางๆอย่างผมและเพื่อนๆอีกหลายคนก็ต้องการความรู้จากอจ.เหมือนๆและเท่าๆกัน ผมรู้สึกว่ามันไม่แฟร์เท่าไหร่นักเนื่องจากเราทุกคนเสียค่าเทอมเท่าๆกัน เสียค่าบำรุงมหาวิทยาลัยเท่าๆกัน แต่กลับไม่มีความเปลี่ยนแปลงหรือบำรุงสถานที่ภายในมหาวิทยาลัยอะไรเลย เอาจริงๆผมรู้สึกว่าอาจารย์ที่มีปนะสิทธิภาพจริงๆในมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีอยู่แค่ไม่กี่คน และผมได้ยินเรื่องราวในมหาวิทยาลัยแห่งนี้จากอาจารย์ท่านนึง ซึ่งท่านจะลาออกในปลายเทอมนี้ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ไม่ดี ออกแนวคอร์รัปชันเลยก็ว่าได้ ผมจึงไม่ขอพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะจะดูหมิ่นเกินไป ทั้งหมดทั้งมวลนี้ผมเอามาคิดตลอดว่าค่าเทอมที่เราเสียไปมันคุ้มกับความรู้ที่เราได้มาไหม? และไม่ได้มีแค่สาขาวิขาของผมแค่สาขาเดียว แต่มีสาขาอื่นๆด้วยที่เจออาจารย์ที่จบใหม่จากตปท.กลับมาสอนเพื่อใช้ทุนไปวันๆ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาความรู้ที่ผมเอาไปสอบล้วนมาจากตัวผมเองทั้งสิ้น ผมรู้สึกว่าหน้าที่และจรรยาบรรณของคุณครูหรืออาจารย์ควรมีในตัวอาจารย์ทุกคน ไม่ใช่สักแต่ว่าจบเมืองนอกมาแล้วจะเข้ามาสอนได้เลยโดยไร้ซึ่งจรรยาบรรณ อยากจะแชร์ปสก.ครับ อยากได้คห.ของคนที่เข้ามาอ่านด้วยว่าผมควรเรียนที่นี่ต่อไปหรือย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยอื่นดี?จริงๆก็มีเพื่อนหลายคนอยากที่จะซิ่วออกจากม.นี้แต่ติดเรื่องค่าเทอมที่เสียไปที่แพงเท่าเอกชน ปล.จริงๆยังมีเรื่องอีกเยอะแต่พอแค่นี้ก่อน สวัสดีครับ