จริงๆ เป็นเรื่องตลกร้ายในประเทศไทยเอามากๆ โดยส่วนตัว ก็เคยไปเที่ยวต่างประเทศมาบ้าง เช่น ลาว, จีน ที่เคยไป "แตร" ก็เป็นอุปกรณ์สัญญาณเตือนให้คนที่อยู่ในรัศมีของรถที่กำลังจะแล่นผ่าน ให้คอยระวังก็เท่านั้น แต่สำหรับประเทศไทย กลับกลายเป็นอุปกรณ์ไว้เรียก "หมัด","ตีน" หรือแม้แต่มีดและกระสุนปืน!!
อย่างถ้าผมขับรถไปไหนมาไหน แล้วมีรถที่วิ่งแช่อยู่เลนขวาแบบยาวๆ ทั้งๆ ที่ด้านหน้าก็โล่งๆ พอผมจะบีบแตร.. วินาทีที่ง้างมือจะไปบีบ สมองผมก็ต้องคิดก่อน ว่าผมมีความรู้จบมาจากระดับไหน, มีเกรดดีๆ มากพอที่จะไปคุยถ่มทับแบบเด็กประถมได้หรือไม่ มีญาติ มีคนรู้จักเป็นคนใหญ่คนโตรึเปล่า, หน้าที่การงานของเราดีแค่ไหน มีความเจริญก้าวหน้าในระดับไหน พอจะมีอนาคตที่รุ่งเรืองรออยู่หรือไม่, มีคนรัก มีแฟน มีครอบครัว มีลูก หรือคนที่เคารพที่เราต้องคอยดูแลช่วยเหลืออยู่อีกมากน้อยแค่ไหน ค่อยๆ นับลำดับญาติไปว่ามีใครบ้างที่เราต้องจุนเจือ, มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนที่เราอยากไป... เก็บเงินได้มากพอหรือยัง, เคยทำบุญบ้างหรือเปล่าช่วงนี้, มีนัดสำคัญ มีอะไรที่ยังค้างคาอีกหรือไม่, วันนี้ออกมาจากบ้าน ล็อคบ้านดีหรือยัง, ฯลฯ คิดไปคิดมา...ไม่กดแมร่งและ ง้างมือไปจับพวงมาลัย ตกไฟเลี้ยวเลี้ยวซ้าย แล้วเร่งเครื่องแซงซ้ายไป แล้วค่อยเข้าขวาแบบเนียนๆ อย่าไปปาดหน้า เพราะถ้ามันมีกล้องหน้า เราจะถูกบันทึกแค่ช่วงตอนที่เราไปปาดหน้า แล้วถูกลงเนตด้วยข้อความว่า "คนขับรถหัวร้อน...ปาดหน้าหาเรื่องกันเฉยเลย"
สังคมไทยตอนนี้มันเป็นอย่างนี้จริงๆ... "แตรเรียกตีน" บ้านผมเขาเรียกมาอย่างนี้ เรียกว่าถ้าจะกดกันแต่ละที คิดกันให้ดีๆ ยาวๆ ก่อนจะกด .... ลำบากเนอะ
อยากกด "แตร" เรียกสติคนด้านหน้า.. แต่ทำไมในประเทศไทย กลายเป็น แตรเรียกหมัด แตรเรียกตีน แตรเรียกกระสุน!!
อย่างถ้าผมขับรถไปไหนมาไหน แล้วมีรถที่วิ่งแช่อยู่เลนขวาแบบยาวๆ ทั้งๆ ที่ด้านหน้าก็โล่งๆ พอผมจะบีบแตร.. วินาทีที่ง้างมือจะไปบีบ สมองผมก็ต้องคิดก่อน ว่าผมมีความรู้จบมาจากระดับไหน, มีเกรดดีๆ มากพอที่จะไปคุยถ่มทับแบบเด็กประถมได้หรือไม่ มีญาติ มีคนรู้จักเป็นคนใหญ่คนโตรึเปล่า, หน้าที่การงานของเราดีแค่ไหน มีความเจริญก้าวหน้าในระดับไหน พอจะมีอนาคตที่รุ่งเรืองรออยู่หรือไม่, มีคนรัก มีแฟน มีครอบครัว มีลูก หรือคนที่เคารพที่เราต้องคอยดูแลช่วยเหลืออยู่อีกมากน้อยแค่ไหน ค่อยๆ นับลำดับญาติไปว่ามีใครบ้างที่เราต้องจุนเจือ, มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนที่เราอยากไป... เก็บเงินได้มากพอหรือยัง, เคยทำบุญบ้างหรือเปล่าช่วงนี้, มีนัดสำคัญ มีอะไรที่ยังค้างคาอีกหรือไม่, วันนี้ออกมาจากบ้าน ล็อคบ้านดีหรือยัง, ฯลฯ คิดไปคิดมา...ไม่กดแมร่งและ ง้างมือไปจับพวงมาลัย ตกไฟเลี้ยวเลี้ยวซ้าย แล้วเร่งเครื่องแซงซ้ายไป แล้วค่อยเข้าขวาแบบเนียนๆ อย่าไปปาดหน้า เพราะถ้ามันมีกล้องหน้า เราจะถูกบันทึกแค่ช่วงตอนที่เราไปปาดหน้า แล้วถูกลงเนตด้วยข้อความว่า "คนขับรถหัวร้อน...ปาดหน้าหาเรื่องกันเฉยเลย"
สังคมไทยตอนนี้มันเป็นอย่างนี้จริงๆ... "แตรเรียกตีน" บ้านผมเขาเรียกมาอย่างนี้ เรียกว่าถ้าจะกดกันแต่ละที คิดกันให้ดีๆ ยาวๆ ก่อนจะกด .... ลำบากเนอะ