สวัสดีครับ ถือว่าเป็นรีวิวแรกหลังยืนยัน Accout ใหม่เลยครับ
สำหรับช่วงระยะ 2-3 ปีหลังนี้ การบินไทยค่อนข้างจะได้เครื่องบินใหม่เข้าประจำการมาเรื่อยๆ เช่นปีที่แล้วได้รับมอบ Airbus A350-900 XWB จนปัจจุบันได้รับมอบจนถึงลำที่ 8 แล้ว....
จนกระทั่งปีนี้ ถึงคิวที่เจ้าจำปีจะได้ Boeing เข้าประจำการเพิ่มด้วยเช่นกัน และเป็นรุ่นที่หลายคนเฝ้ารอกันมานาน นับเป็นไตรภาคต่อจาก Boeing 787-8 เมื่อ 3 ปีที่แล้ว นั่นก็คือ Boeing 787-9 Dreamliner ได้นำเข้าประจำการในเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2560 ที่ผ่านมา และเริ่มทดลองบินในเส้นทาง กรุงเทพ-เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. จนถึงวันที่ 8 ต.ค.นี้
เนื่องด้วย จขกท. เอง ก็ยังไม่เคยบินเครื่องรุ่นนี้มาก่อน ก็มีอาการตื่นเต้นบ้าง อาจเก็บรายละเอียดไม่ครบ ภาพอาจไม่สมบูรณ์บ้าง ก็ขอภัยด้วยนะครับ
จั่วด้วยรูปหน้าตาของคุณพัฒนานิคม ที่จขกท.ถ่ายก่อนบินวันนึง....
Boeing 787-9 HS-TWA คุณพัฒนานิคม ตัวจริงเสียงจริง รูปร่างสวยงาม ตัวยาวสมส่วน ไม่สั้นป้อมแบบ 787-8 และที่สำคัญ บินได้ไกลกว่า
Thai Airways International การบินไทย
เที่ยวบิน : TG110
เส้นทาง : กรุงเทพ - เชียงใหม่ (ฺBKK-CNX)
เครื่องบิน : ฺBoeing 787-9 Dreamliner ทะเบียน HS-TWA ชื่อพระราชทาน พัฒนานิคม
ชั้นโดยสาร : ประหยัด
ที่นั่ง : 61A (แถวสุดท้าย ริมหน้าต่างฝั่งซ้าย)
เนื่องจากความสะเพร่าของ จขกท. ที่ทำเว็บเช็คอินเลือกที่นั่งแล้ว แต่ดันลืมกอดคอนเฟิร์ม สุดท้ายเช็คหน้าเคาท์เตอร์ แทบจะคนท้ายๆ เลยโดนจับมา 61B
ซึ่งในบอร์ดดิ้งพาสเป็น 61B แต่คนที่นั่ง 61A ขอแลกไปนั่งริมทางเดิน เลยได้อานิสงค์นั่งริมหน้าต่างทันที
โดน Gate A6 ที่เดิมๆ ไกลสุดเหมือนเดิม .... ใครว่า Pier5 ที่ดอนเมืองว่าไกลแล้ว ก็ยังไกลไม่เท่ากับ A6 ที่สุวรรณภูมิจริงๆ
สามแยก A B
Gate A6
หน้าตาดั่งโลมา จมูกตก หน้าต่างห้องนักบินแบบนี้ มีชื่อพัฒนานิคมชัดเจน สำเนาถูกต้อง
ได้เวลาเรียกบอร์ดดิ้ง ผู้โดยสารหนาตาพอสมควร
หัวเครื่องกันอีกชัดๆ แต่ดันลืมถ่ายมุมบังคับ
โซนที่นั่งชั้นธุรกิจ Royal Silk จัดวางแบบ 1-2-1 จำนวน 30 ที่นั่ง คนหนาตาพอสมควร
มาดูในส่วนของ Gelley (หรือเรียกบ้านๆก็ครัวนี่แหละ555) ในโซนประตูที่ 2 เขตแดนระหว่างชั้นธรุกิจ และชั้นประหยัด
ขอบคุณพี่ๆลูกเรือที่อนุญาตให้ถ่ายได้นะครับ
ในส่วนของ Jump Seat ที่นั่งลูกเรือในฝั่งประตู 2L
หน้าต่างประตูที่ใหญ่ขึ้น ช่วยให้ลูกเรือสังเกตการณ์ภายนอกได้มากขึ้นกว่ารุ่นเก่าๆมาก
มาต่อด้วยโซนที่นั่งชั้นประหยัด จัดวางแบบ 3-3-3 แถวละ 9 ที่นั่ง จำนวน 268 ที่
แม้จะเป็นวันธรรมดา แต่ก็เต็มทุกที่
ที่นั่งแถวที่ 61 A B แถวสุดท้ายของลำ
*ที่นั่งริมหน้าต่างแถว 61 นี้ จะวางฝั่งละ 2 ที่ ได้แค่ 61 A B และ 61 J K ซึ่งค่อนข้างสบายมากโดยเฉพาะแถว A และ K มีพื้นที่ระหว่างริมหน้าต่างกับเบาะกว้างพอสมควร เอาของยัดได้เบาะได้ 2 ช่อง และมีพื้นที่ด้านหลังให้เอนได้ ไม่ต้องกลัวติดผนัง แต่ข้อเสียคงอยู่ที่ถ้าหากจะชมวิวติดหน้าต่างกว่านี้ ต้องยืนตัวเข้าไปพอสมควร เพราะช่วงว่างห่างพอสมควร ชนิดที่เอาตัวเข้าไปยืนได้เลย
ระบบ IFE ของ Panasonic eX3 จอขนาด 11 นิ้วทุกที่นั่ง แบบเดียวกับที่ใช้ใน A350-900
หน้าต่างใสกิ๊ก...
Boarding Complete ... มุมมองห้องโดยสารจากที่นั่ง 61A
วีดิโอสาธิตความปลอดภัยรูปแบบใหม่ ออกแนวธีมธรรมชาติ
ได้เวลา Pushback แล้ว...
เหล่า ตระกูล A320s ของป้ากับข้ามต้มมัด พร้อม A319 มาแซมอยู่เกท A3
เป็นภาพที่เราเห็นได้ทุกครั้งในขณะที่เครื่องเริ่ม Taxi ออกตัว และประทับใจทุกครั้งที่เห็น
เหล่าไซส์มินิ A320 อีกที ... แอบเห็น ATR จอดอยู่ไกลๆ
เอกลักษณ์นึงของเครื่อง Boeing 787 คือ หน้าต่างห้องโดยสารที่ใหญ่มาก และเป็นม่านหน้าต่างไฟฟ้า ต่างกับม่านพลาสติกที่เลื่อนขึ้นลงแบบเครื่องบินทั่วไป
คุณสมบัติของระบบม่านไฟฟ้านั้น สามารถตัดแสงได้หลายระดับ ตั้งแต่สว่างสุด(ใสเหมือนกระจกไม่ตัด) จนถึงมืดสุด(ทึบจนแสงแทบไม่เข้า) แต่ยังสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้
ตั้งลำเตรียม Takeoff ฝั่งรันเวย์ 19R หันหน้าไปทางอ่าวไทย
ไต่ขึ้นอย่างรวดเร็ว
เลี้ยวขวาวนกลับขึ้นไปทางเหนือ ฝ่ากลางกรุงเทพเลยทีเดียว
พอไต่จนได้ระดับ ไฟสัญญารัดเข็มขัดดับลง
นักบินทำการลดม่านหน้าต่างไฟฟ้าให้เป็นมืดสุด ปรับแสงในห้องโดยสารเป็นสีเหลืองอุ่อนๆ บรรยากาศอบอุ่น
ลูกเรือเริ่มทำการแจกของว่าง
สิ่งที่ชอบสำหรับ IFE รุ่นใหม่ๆคือ มีการติดตั้งปลั๊กไฟแบบ USB ไว้ ซึ่งช่วยได้มากเวลาชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ หรืออยากจะชาร์จไฟ Powerbank ก็ได้สบายๆ
ระบบ IFE รุ่นนี้ ยอมรับว่าชอบมาก ยิ่งถ้าเสียบหูฟังเทพๆแล้วเปิดหนังมันส์ๆดู ได้อารมณ์มากๆ
ในส่วนข้อมูลการบิน พยายามหาเมนูกล้องภายนอกก็ไม่พบ สรุปคือไม่มีเมนูเปิดกล้องดูภายนอกได้แบบ A350-900 (หรือถ้าหากว่ามีจริงๆขออภัยด้วยนะครับ)
หลังจากนั้นมาสำรวจภายในห้องน้ำและถังขยะภายใน ยังเป็นแบบฝาเปิดปิดเอง ไม่ได้อัตโนมัติแบบ A350-900
หลังจากนั้นได้เวลากลับที่นั่ง ไฟแจ้งเตือดรัดเข็มขัดแสดงขึ้น เป็นสัญญาณว่าเครื่องกำลังลดระดับลงที่เชียงใหม่แล้ว
สำหรับใครที่บินเครื่องบินลำตัวกว้าง บางทีอยากจะปรับแอร์ ซึ่งส่วนมากช่องปรับแอร์ก็ไม่มี แต่สำหรับ 787 นั้น ได้เพิ่มมาให้แล้ว
ทำการลดระดับสู่ จ.เชียงใหม่
ปีกโค้งงอนได้ใจมากๆ
แตะถึงพื้นท่าอากาศยานเชียงใหม่ Taxi เลี้ยวกลับเข้าสู่ลานจอด
ผ่านฝูงบินฝนหลวง CASA C212
ผ่านหน้าอาคารท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41
ผ่านหน้าอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานเชียงใหม่
เข้าเทียบงวงช้าง Gate 6 ส่วนข้าวต้มมัด A320 ก็กำลังกลับกรุงเทพฯ
ทิ้งท้ายด้วยภาพห้องโดยสารชั้นประหยัดทั้งโซนหน้าและหลังแบบโล่งๆชัดๆกันนะครับ
[CR] รีวิว พาไปนั่ง Boeing 787-9 Dreamliner ใหม่ล่าสุดจากการบินไทย
สำหรับช่วงระยะ 2-3 ปีหลังนี้ การบินไทยค่อนข้างจะได้เครื่องบินใหม่เข้าประจำการมาเรื่อยๆ เช่นปีที่แล้วได้รับมอบ Airbus A350-900 XWB จนปัจจุบันได้รับมอบจนถึงลำที่ 8 แล้ว....
จนกระทั่งปีนี้ ถึงคิวที่เจ้าจำปีจะได้ Boeing เข้าประจำการเพิ่มด้วยเช่นกัน และเป็นรุ่นที่หลายคนเฝ้ารอกันมานาน นับเป็นไตรภาคต่อจาก Boeing 787-8 เมื่อ 3 ปีที่แล้ว นั่นก็คือ Boeing 787-9 Dreamliner ได้นำเข้าประจำการในเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2560 ที่ผ่านมา และเริ่มทดลองบินในเส้นทาง กรุงเทพ-เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. จนถึงวันที่ 8 ต.ค.นี้
เนื่องด้วย จขกท. เอง ก็ยังไม่เคยบินเครื่องรุ่นนี้มาก่อน ก็มีอาการตื่นเต้นบ้าง อาจเก็บรายละเอียดไม่ครบ ภาพอาจไม่สมบูรณ์บ้าง ก็ขอภัยด้วยนะครับ
จั่วด้วยรูปหน้าตาของคุณพัฒนานิคม ที่จขกท.ถ่ายก่อนบินวันนึง....
Boeing 787-9 HS-TWA คุณพัฒนานิคม ตัวจริงเสียงจริง รูปร่างสวยงาม ตัวยาวสมส่วน ไม่สั้นป้อมแบบ 787-8 และที่สำคัญ บินได้ไกลกว่า
Thai Airways International การบินไทย
เที่ยวบิน : TG110
เส้นทาง : กรุงเทพ - เชียงใหม่ (ฺBKK-CNX)
เครื่องบิน : ฺBoeing 787-9 Dreamliner ทะเบียน HS-TWA ชื่อพระราชทาน พัฒนานิคม
ชั้นโดยสาร : ประหยัด
ที่นั่ง : 61A (แถวสุดท้าย ริมหน้าต่างฝั่งซ้าย)
เนื่องจากความสะเพร่าของ จขกท. ที่ทำเว็บเช็คอินเลือกที่นั่งแล้ว แต่ดันลืมกอดคอนเฟิร์ม สุดท้ายเช็คหน้าเคาท์เตอร์ แทบจะคนท้ายๆ เลยโดนจับมา 61B
ซึ่งในบอร์ดดิ้งพาสเป็น 61B แต่คนที่นั่ง 61A ขอแลกไปนั่งริมทางเดิน เลยได้อานิสงค์นั่งริมหน้าต่างทันที
โดน Gate A6 ที่เดิมๆ ไกลสุดเหมือนเดิม .... ใครว่า Pier5 ที่ดอนเมืองว่าไกลแล้ว ก็ยังไกลไม่เท่ากับ A6 ที่สุวรรณภูมิจริงๆ
สามแยก A B
Gate A6
หน้าตาดั่งโลมา จมูกตก หน้าต่างห้องนักบินแบบนี้ มีชื่อพัฒนานิคมชัดเจน สำเนาถูกต้อง
ได้เวลาเรียกบอร์ดดิ้ง ผู้โดยสารหนาตาพอสมควร
หัวเครื่องกันอีกชัดๆ แต่ดันลืมถ่ายมุมบังคับ
โซนที่นั่งชั้นธุรกิจ Royal Silk จัดวางแบบ 1-2-1 จำนวน 30 ที่นั่ง คนหนาตาพอสมควร
มาดูในส่วนของ Gelley (หรือเรียกบ้านๆก็ครัวนี่แหละ555) ในโซนประตูที่ 2 เขตแดนระหว่างชั้นธรุกิจ และชั้นประหยัด
ขอบคุณพี่ๆลูกเรือที่อนุญาตให้ถ่ายได้นะครับ
ในส่วนของ Jump Seat ที่นั่งลูกเรือในฝั่งประตู 2L
หน้าต่างประตูที่ใหญ่ขึ้น ช่วยให้ลูกเรือสังเกตการณ์ภายนอกได้มากขึ้นกว่ารุ่นเก่าๆมาก
มาต่อด้วยโซนที่นั่งชั้นประหยัด จัดวางแบบ 3-3-3 แถวละ 9 ที่นั่ง จำนวน 268 ที่
แม้จะเป็นวันธรรมดา แต่ก็เต็มทุกที่
ที่นั่งแถวที่ 61 A B แถวสุดท้ายของลำ
*ที่นั่งริมหน้าต่างแถว 61 นี้ จะวางฝั่งละ 2 ที่ ได้แค่ 61 A B และ 61 J K ซึ่งค่อนข้างสบายมากโดยเฉพาะแถว A และ K มีพื้นที่ระหว่างริมหน้าต่างกับเบาะกว้างพอสมควร เอาของยัดได้เบาะได้ 2 ช่อง และมีพื้นที่ด้านหลังให้เอนได้ ไม่ต้องกลัวติดผนัง แต่ข้อเสียคงอยู่ที่ถ้าหากจะชมวิวติดหน้าต่างกว่านี้ ต้องยืนตัวเข้าไปพอสมควร เพราะช่วงว่างห่างพอสมควร ชนิดที่เอาตัวเข้าไปยืนได้เลย
ระบบ IFE ของ Panasonic eX3 จอขนาด 11 นิ้วทุกที่นั่ง แบบเดียวกับที่ใช้ใน A350-900
หน้าต่างใสกิ๊ก...
Boarding Complete ... มุมมองห้องโดยสารจากที่นั่ง 61A
วีดิโอสาธิตความปลอดภัยรูปแบบใหม่ ออกแนวธีมธรรมชาติ
ได้เวลา Pushback แล้ว...
เหล่า ตระกูล A320s ของป้ากับข้ามต้มมัด พร้อม A319 มาแซมอยู่เกท A3
เป็นภาพที่เราเห็นได้ทุกครั้งในขณะที่เครื่องเริ่ม Taxi ออกตัว และประทับใจทุกครั้งที่เห็น
เหล่าไซส์มินิ A320 อีกที ... แอบเห็น ATR จอดอยู่ไกลๆ
เอกลักษณ์นึงของเครื่อง Boeing 787 คือ หน้าต่างห้องโดยสารที่ใหญ่มาก และเป็นม่านหน้าต่างไฟฟ้า ต่างกับม่านพลาสติกที่เลื่อนขึ้นลงแบบเครื่องบินทั่วไป
คุณสมบัติของระบบม่านไฟฟ้านั้น สามารถตัดแสงได้หลายระดับ ตั้งแต่สว่างสุด(ใสเหมือนกระจกไม่ตัด) จนถึงมืดสุด(ทึบจนแสงแทบไม่เข้า) แต่ยังสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้
ตั้งลำเตรียม Takeoff ฝั่งรันเวย์ 19R หันหน้าไปทางอ่าวไทย
ไต่ขึ้นอย่างรวดเร็ว
เลี้ยวขวาวนกลับขึ้นไปทางเหนือ ฝ่ากลางกรุงเทพเลยทีเดียว
พอไต่จนได้ระดับ ไฟสัญญารัดเข็มขัดดับลง
นักบินทำการลดม่านหน้าต่างไฟฟ้าให้เป็นมืดสุด ปรับแสงในห้องโดยสารเป็นสีเหลืองอุ่อนๆ บรรยากาศอบอุ่น
ลูกเรือเริ่มทำการแจกของว่าง
สิ่งที่ชอบสำหรับ IFE รุ่นใหม่ๆคือ มีการติดตั้งปลั๊กไฟแบบ USB ไว้ ซึ่งช่วยได้มากเวลาชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ หรืออยากจะชาร์จไฟ Powerbank ก็ได้สบายๆ
ระบบ IFE รุ่นนี้ ยอมรับว่าชอบมาก ยิ่งถ้าเสียบหูฟังเทพๆแล้วเปิดหนังมันส์ๆดู ได้อารมณ์มากๆ
ในส่วนข้อมูลการบิน พยายามหาเมนูกล้องภายนอกก็ไม่พบ สรุปคือไม่มีเมนูเปิดกล้องดูภายนอกได้แบบ A350-900 (หรือถ้าหากว่ามีจริงๆขออภัยด้วยนะครับ)
หลังจากนั้นมาสำรวจภายในห้องน้ำและถังขยะภายใน ยังเป็นแบบฝาเปิดปิดเอง ไม่ได้อัตโนมัติแบบ A350-900
หลังจากนั้นได้เวลากลับที่นั่ง ไฟแจ้งเตือดรัดเข็มขัดแสดงขึ้น เป็นสัญญาณว่าเครื่องกำลังลดระดับลงที่เชียงใหม่แล้ว
สำหรับใครที่บินเครื่องบินลำตัวกว้าง บางทีอยากจะปรับแอร์ ซึ่งส่วนมากช่องปรับแอร์ก็ไม่มี แต่สำหรับ 787 นั้น ได้เพิ่มมาให้แล้ว
ทำการลดระดับสู่ จ.เชียงใหม่
ปีกโค้งงอนได้ใจมากๆ
แตะถึงพื้นท่าอากาศยานเชียงใหม่ Taxi เลี้ยวกลับเข้าสู่ลานจอด
ผ่านฝูงบินฝนหลวง CASA C212
ผ่านหน้าอาคารท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41
ผ่านหน้าอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานเชียงใหม่
เข้าเทียบงวงช้าง Gate 6 ส่วนข้าวต้มมัด A320 ก็กำลังกลับกรุงเทพฯ
ทิ้งท้ายด้วยภาพห้องโดยสารชั้นประหยัดทั้งโซนหน้าและหลังแบบโล่งๆชัดๆกันนะครับ