

สวัสดีคร่า !!!! นี่เป็นกระทู้แรกของเรา
ได้มีโอกาสไปเที่ยวเชียงราย เลยอยากทำรีวิว ( ที่จริงอยากทำนานแล้ว ^^ ) เดินทางวันที่ 23-9-2560 - 24-9-2560
วันแรก
ตื่นแต่เช้ามากๆ ขับรถมาจอดที่ดอนเมืองแอบง่วงนิดหน่อย รอขึ้นเครื่อง เวลา 07.20 น. ถึงเชียงรายประมาณ 08.40 น.
ไปรับรถที่เช่าไว้ที่สนามบิน และก็ออกเดินทาง มุ่งหน้าหาร้านข้าว (มีความหิว) ไปแวะกินข้าวร้านข้างทาง สบายท้องแล้วก็ออกทางกันต่อเลยยยย

สถานที่แรกก็คือ พระตำหนักดอยตุง
ใช้เวลาเดินทางสักพัก ก็ถึงพระตำหนักดอยตุง.
ราคาตั๋วตามลิงค์นี้เลย
http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=252745.0
เราเลือกเข้าชม 2 ที่ พระตำหนักดอยตุง + สวนแม่ฟ้าหลวง ค่าเข้าสถานที่ละ 90 บาท

อากาศด้านนอกร้อนนิดหน่อยย เข้าไปด้านในอากาศกำลังดีเลยที่เดียวละ บรรยากาศทางเข้า

เมื่อเข้าไปถึงจะมี จนท. ค่อยต้อนรับ ต้องถอดรองเท้าใส่ถุง ละก็ต้องถือติดตัวไปตลอดทาง ฮ่าๆๆ จนท. จะแจ้งหูฟังให้เรากดฟังบรรยายตามสถานที่ ที่เราเดินผ่านจะมีจุดบอกเป็นระยะๆ ปล. ด้านในพระตำหนักห้ามถ่ายรูป ก็เลยได้แต่วิวรอบๆ มาฝาก

จุดชมวิวด้านหลังพระตำหนัก จนท.อนุญาติให้ถ่ายรูปได้ สวยมากๆ

สถานที่ที่สอง สวนแม่ฟ้าหลวง
เดินออกจากจุดแรกมา ก็มีหอบกันบ้าง ^^ แต่เดินไม่นานก็ถึงสวนแม่ฟ้าหลวง

ในส่วนนี้ก็เป็น ดอกไม้ ต้นไม้ นานาชนิด จัดเรียงสวยงาม เตรียมถ่ายรูปกันได้เลย
มีสะพานไม้ แต่เสียค่าเข้าเพิ่ม 150 บาท ใช้เวลาชมประมาณ 30-40 นาที แต่เนื่องจากเวลาไม่พอเลยไม่ได้เข้าชม (แอบเสียดาย T_T)

หลังจากเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปแล้ว เราก็ขึ้นรถออกเดินทางไปแม่สาย
ต่อด้วยเข้าไปทำหนังสือ ผ่านแดนชั่วคราวไทย-พม่า ด่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก
ส่วนวิธีทำก็ตามลิงค์นี้เลยคร่าาาา
https://2baht.com/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2/
และแล้วเราก็มาถึง เมืองท่าขี้เหล็ก พม่านั้นเอง

เราเช่ารถสองแถว ( ไม่แน่ใจเรียกว่ารถอะไร ) แต่ก่อนที่จะเช่าก็มี มาแนะนำอยู่หลายเจ้าเลยที่เดียว แล้วเราก็ได้รถในราคา ที่ 250 บาท พาเที่ยว 3 วัด แต่จำชื่อวัดไม่ได้น่าา ** ซึ่งเลือกเจ้านี้เพราะเขาให้ราคาต่ำสุด นอกนั้นก็จะแพงขึ้นมาหน่อยๆๆ เพราะฉะนั้นควรเลือกกันให้ดีๆ ^^

วัดแรก
วัดนี้สามารถขอพรได้ 1 ข้อ ส่วนใหญ่คนที่มาขอจะได้สมปรารถนา แล้วกลับมาใหม่ สาธุ

วัดที่สอง เจดีย์ชเวดากอง (จำลอง)
ระหว่างทางเข้าวัดก็จะมีของขาย ส่วนใหญ่จะเป็นพวกหยกต่างๆ ของฝากทั่วไป เมื่อถึงทางเข้าวัดก็จะมีเด็กๆ หรือชาวพม่า มาค่อยยืนกางร่มให้ รอบๆ เจดีย์ก็จะเป็นพระประจำวันเกิด ส่วนใครเกิดวันใหนก็แจ้งน้องๆ ไป เคาก็จะพาเราเดินไปไหว้ รวมถึงจุดอื่นๆ ด้วย และที่สุดท้ายทุกคนก็จะไปรวมกัน น้องๆ ก็จะนำของมาขายให้ จะเป็นพวกแบงค์ต่างๆ ที่ใช้ปัจจุบันรวมถึงแบงค์สมัยก่อน สบู่ แป้ง ภาพวาด อันนี้ก็แล้วแต่ความสมัครใจเรา ว่าเราจะซื้อหรือป่าว แต่ส่วนใหญ่น้องๆ ก็จะบอกช่วยซื้อหน่อยเถอะพี่..... อดใจอ้อนไม่ได้เลยได้ภาพวาดมาในราคา 150 บาท เฮอออ นี่ราคาต่อแล้วนะ ราคาจริง 200 บาท หลังจากนั้นเคาก็จะมาส่งเราหน้าวัดที่เดิม อ่อออหรือบอกไปวัดนี้ต้องถอดรองเท้า เสียตังค่าวางรองเท้า 3 บาทด้วยนะ

วัดที่สาม
วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระหยกขาว และพระสามมิติ
วัดนี้ลักษณะเด่นคือ ไม่ว่าเราจะเดินไปทางซ้าย หรือทางขวา ก็เหมือนกับว่าสายตาขององค์พระกำลังมองตามเราอยู่ ( แอบเดินอยู่หลายรอบเลยที่เดียว ) องค์พระมองตามเราจริงๆ

**** หลังจากไหว้พระเสร็จ เขาก็จะมาส่งเราที่จุดเดิมที่ขึ้นรถ และแล้วก็ถึงเวลาที่เรารอคอยยย ช้อปปิ้งนั้นเอง เราตรงไปหาร้านกระเป๋า ซึ่งได้มาประมาณ สองสามใบ เสียดายเวลาช้อปน้อยไปหน่อยเพราะที่นี่เขาปิด 17.30 น. ทุกร้านทยอยเก็บกันหมดแล้วว ไม่ได้ถ่ายรูปมานะมั่วแต่ห่วงซื้อของ ^^ ซื้อของเสร็จเรียบร้อยออกมาจากฝั่งพม่า พร้อมกระโดดขึ้นรถด้วยความเพลียสลบมาจนถึงที่พัก (เราวนกลับมาพักที่ตัวเมืองเชียงรายใกล้ๆ หอนาฬิกา ถนนคนเดินเชียงราย)

เราพักที่บ้านนอนเพลิน อย่างที่บอกคือใกล้หอนาฬิกา และตลาดคนเดิน
มาถึงที่พักประมาณสองทุ่ม ก็พักผ่อนตามอัธยาศัย แต่ด้วยความเพลียก็เผลอหลับไป....... ตื่นมาอีกที่ก็เช้าพอดี ตอนแรกตั้งใจจะไปเดินถนนคนเดิน ก็อดสะงั่น T_T
วันที่สอง
ตื่นมาทานข้าวเช้า ที่ทางที่พักจัดเตรียมไว้ให้ (บุฟเฟ่ต์) แนะนำลาบคั่วอร่อยดี ตักสะหลายรอบเลย ก็ตักอาหารกันตามอัธยาศัย สามารถเดินไปทอดไข่เจียวเองได้ ละก็มีกล้วยไข่ที่อร่อยมากๆ พอกินกันอิ่มแล้วก็เตรียมออกเดินทาง
สถานที่แรกของวันที่สอง วัดห้วยปลากั้ง

เข้าไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม ตั้งอยู่ภายในเจดีย์ 9 ชั้น ภายนอกวัดจะมีรถรางค่อยรับส่งขึ้นไป อีกจุดนึงซึ่งอยู่ห่างไม่ไกลนักแต่ถ้าเดินก็คงจะร้อนมาก หลังจากนั่งรถราง รถก็จะมาส่งตรงเจ้าแม่กวนอิ่มองค์ใหญ่สีขาว ถ้าจะขึ้นไปด้านบนต้องเสียค่าเข้า 20 บาท
โดยขึ้นลิฟท์ไปจะมี จนท.ค่อยเปิดปิดลิฟท์ให้ เราขึ้นมาจนถึงชั้น 25 พอเปิดลิฟท์มาเท่านั้น คือทุกอย่างสีขาวระยิบระยับแกะสลักรูปต่างๆ โดยเฉพาะรูปมังกรสวยมากกก คือคุมมากถ้าใครมาที่นี่แล้วต้องขึ้นมาดูให้ได้ แฮ....ยังมีโรงทานซึ่งราดหน้าอร่อยน่ากินมากก ^^
สถานที่ที่สอง วัดร่องขุน
เราออกจากวัดห้วยปลากั้ง ก็เกือบจะเที่ยงแล้ว แต่ด้วยความอิ่ม + อิ่มท้องเราก็ไปต่อกันที่วัดร่องขุน

อากาศที่นี่ค่อนข้างจะร้อน คนก็จะเยอะๆ หน่อย เราเข้าไปไหว้พระ ละก็ถ่ายรูป + เดินดูของขายของฝาก เราอยู่ที่นี่กันสักพักชื่นชมความสวยงาม ละก็ออกเดินทางกันต่อ เราเข้าไปที่ไร่บุญรอด กะว่าจะไปถ่ายรูปกับสิงห์โตตัวใหญ่แต่ด้วยความร้อนของอากาศ จึงตัดสินใจไม่ลงจากรถ เลยขับรถเข้าไปวนรอบสิงห์โตแทน อิอิ แล้วก็ไปต่อกันที่ไร่ชาฉุยฟง
[CR] เชียงราย แม่สาย พม่า 2 วัน 1 คืน
ได้มีโอกาสไปเที่ยวเชียงราย เลยอยากทำรีวิว ( ที่จริงอยากทำนานแล้ว ^^ ) เดินทางวันที่ 23-9-2560 - 24-9-2560
วันแรก
ตื่นแต่เช้ามากๆ ขับรถมาจอดที่ดอนเมืองแอบง่วงนิดหน่อย รอขึ้นเครื่อง เวลา 07.20 น. ถึงเชียงรายประมาณ 08.40 น.
ไปรับรถที่เช่าไว้ที่สนามบิน และก็ออกเดินทาง มุ่งหน้าหาร้านข้าว (มีความหิว) ไปแวะกินข้าวร้านข้างทาง สบายท้องแล้วก็ออกทางกันต่อเลยยยย
สถานที่แรกก็คือ พระตำหนักดอยตุง
ใช้เวลาเดินทางสักพัก ก็ถึงพระตำหนักดอยตุง.
ราคาตั๋วตามลิงค์นี้เลย http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=252745.0
เราเลือกเข้าชม 2 ที่ พระตำหนักดอยตุง + สวนแม่ฟ้าหลวง ค่าเข้าสถานที่ละ 90 บาท
เมื่อเข้าไปถึงจะมี จนท. ค่อยต้อนรับ ต้องถอดรองเท้าใส่ถุง ละก็ต้องถือติดตัวไปตลอดทาง ฮ่าๆๆ จนท. จะแจ้งหูฟังให้เรากดฟังบรรยายตามสถานที่ ที่เราเดินผ่านจะมีจุดบอกเป็นระยะๆ ปล. ด้านในพระตำหนักห้ามถ่ายรูป ก็เลยได้แต่วิวรอบๆ มาฝาก
จุดชมวิวด้านหลังพระตำหนัก จนท.อนุญาติให้ถ่ายรูปได้ สวยมากๆ
สถานที่ที่สอง สวนแม่ฟ้าหลวง
เดินออกจากจุดแรกมา ก็มีหอบกันบ้าง ^^ แต่เดินไม่นานก็ถึงสวนแม่ฟ้าหลวง
ในส่วนนี้ก็เป็น ดอกไม้ ต้นไม้ นานาชนิด จัดเรียงสวยงาม เตรียมถ่ายรูปกันได้เลย
มีสะพานไม้ แต่เสียค่าเข้าเพิ่ม 150 บาท ใช้เวลาชมประมาณ 30-40 นาที แต่เนื่องจากเวลาไม่พอเลยไม่ได้เข้าชม (แอบเสียดาย T_T)
ต่อด้วยเข้าไปทำหนังสือ ผ่านแดนชั่วคราวไทย-พม่า ด่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก
ส่วนวิธีทำก็ตามลิงค์นี้เลยคร่าาาา
https://2baht.com/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2/
และแล้วเราก็มาถึง เมืองท่าขี้เหล็ก พม่านั้นเอง
เราเช่ารถสองแถว ( ไม่แน่ใจเรียกว่ารถอะไร ) แต่ก่อนที่จะเช่าก็มี มาแนะนำอยู่หลายเจ้าเลยที่เดียว แล้วเราก็ได้รถในราคา ที่ 250 บาท พาเที่ยว 3 วัด แต่จำชื่อวัดไม่ได้น่าา ** ซึ่งเลือกเจ้านี้เพราะเขาให้ราคาต่ำสุด นอกนั้นก็จะแพงขึ้นมาหน่อยๆๆ เพราะฉะนั้นควรเลือกกันให้ดีๆ ^^
วัดนี้สามารถขอพรได้ 1 ข้อ ส่วนใหญ่คนที่มาขอจะได้สมปรารถนา แล้วกลับมาใหม่ สาธุ
วัดที่สอง เจดีย์ชเวดากอง (จำลอง)
ระหว่างทางเข้าวัดก็จะมีของขาย ส่วนใหญ่จะเป็นพวกหยกต่างๆ ของฝากทั่วไป เมื่อถึงทางเข้าวัดก็จะมีเด็กๆ หรือชาวพม่า มาค่อยยืนกางร่มให้ รอบๆ เจดีย์ก็จะเป็นพระประจำวันเกิด ส่วนใครเกิดวันใหนก็แจ้งน้องๆ ไป เคาก็จะพาเราเดินไปไหว้ รวมถึงจุดอื่นๆ ด้วย และที่สุดท้ายทุกคนก็จะไปรวมกัน น้องๆ ก็จะนำของมาขายให้ จะเป็นพวกแบงค์ต่างๆ ที่ใช้ปัจจุบันรวมถึงแบงค์สมัยก่อน สบู่ แป้ง ภาพวาด อันนี้ก็แล้วแต่ความสมัครใจเรา ว่าเราจะซื้อหรือป่าว แต่ส่วนใหญ่น้องๆ ก็จะบอกช่วยซื้อหน่อยเถอะพี่..... อดใจอ้อนไม่ได้เลยได้ภาพวาดมาในราคา 150 บาท เฮอออ นี่ราคาต่อแล้วนะ ราคาจริง 200 บาท หลังจากนั้นเคาก็จะมาส่งเราหน้าวัดที่เดิม อ่อออหรือบอกไปวัดนี้ต้องถอดรองเท้า เสียตังค่าวางรองเท้า 3 บาทด้วยนะ
วัดที่สาม
วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระหยกขาว และพระสามมิติ
วัดนี้ลักษณะเด่นคือ ไม่ว่าเราจะเดินไปทางซ้าย หรือทางขวา ก็เหมือนกับว่าสายตาขององค์พระกำลังมองตามเราอยู่ ( แอบเดินอยู่หลายรอบเลยที่เดียว ) องค์พระมองตามเราจริงๆ
**** หลังจากไหว้พระเสร็จ เขาก็จะมาส่งเราที่จุดเดิมที่ขึ้นรถ และแล้วก็ถึงเวลาที่เรารอคอยยย ช้อปปิ้งนั้นเอง เราตรงไปหาร้านกระเป๋า ซึ่งได้มาประมาณ สองสามใบ เสียดายเวลาช้อปน้อยไปหน่อยเพราะที่นี่เขาปิด 17.30 น. ทุกร้านทยอยเก็บกันหมดแล้วว ไม่ได้ถ่ายรูปมานะมั่วแต่ห่วงซื้อของ ^^ ซื้อของเสร็จเรียบร้อยออกมาจากฝั่งพม่า พร้อมกระโดดขึ้นรถด้วยความเพลียสลบมาจนถึงที่พัก (เราวนกลับมาพักที่ตัวเมืองเชียงรายใกล้ๆ หอนาฬิกา ถนนคนเดินเชียงราย)
เราพักที่บ้านนอนเพลิน อย่างที่บอกคือใกล้หอนาฬิกา และตลาดคนเดิน
มาถึงที่พักประมาณสองทุ่ม ก็พักผ่อนตามอัธยาศัย แต่ด้วยความเพลียก็เผลอหลับไป....... ตื่นมาอีกที่ก็เช้าพอดี ตอนแรกตั้งใจจะไปเดินถนนคนเดิน ก็อดสะงั่น T_T
วันที่สอง
ตื่นมาทานข้าวเช้า ที่ทางที่พักจัดเตรียมไว้ให้ (บุฟเฟ่ต์) แนะนำลาบคั่วอร่อยดี ตักสะหลายรอบเลย ก็ตักอาหารกันตามอัธยาศัย สามารถเดินไปทอดไข่เจียวเองได้ ละก็มีกล้วยไข่ที่อร่อยมากๆ พอกินกันอิ่มแล้วก็เตรียมออกเดินทาง
สถานที่แรกของวันที่สอง วัดห้วยปลากั้ง
เข้าไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม ตั้งอยู่ภายในเจดีย์ 9 ชั้น ภายนอกวัดจะมีรถรางค่อยรับส่งขึ้นไป อีกจุดนึงซึ่งอยู่ห่างไม่ไกลนักแต่ถ้าเดินก็คงจะร้อนมาก หลังจากนั่งรถราง รถก็จะมาส่งตรงเจ้าแม่กวนอิ่มองค์ใหญ่สีขาว ถ้าจะขึ้นไปด้านบนต้องเสียค่าเข้า 20 บาท
โดยขึ้นลิฟท์ไปจะมี จนท.ค่อยเปิดปิดลิฟท์ให้ เราขึ้นมาจนถึงชั้น 25 พอเปิดลิฟท์มาเท่านั้น คือทุกอย่างสีขาวระยิบระยับแกะสลักรูปต่างๆ โดยเฉพาะรูปมังกรสวยมากกก คือคุมมากถ้าใครมาที่นี่แล้วต้องขึ้นมาดูให้ได้ แฮ....ยังมีโรงทานซึ่งราดหน้าอร่อยน่ากินมากก ^^
สถานที่ที่สอง วัดร่องขุน
เราออกจากวัดห้วยปลากั้ง ก็เกือบจะเที่ยงแล้ว แต่ด้วยความอิ่ม + อิ่มท้องเราก็ไปต่อกันที่วัดร่องขุน
อากาศที่นี่ค่อนข้างจะร้อน คนก็จะเยอะๆ หน่อย เราเข้าไปไหว้พระ ละก็ถ่ายรูป + เดินดูของขายของฝาก เราอยู่ที่นี่กันสักพักชื่นชมความสวยงาม ละก็ออกเดินทางกันต่อ เราเข้าไปที่ไร่บุญรอด กะว่าจะไปถ่ายรูปกับสิงห์โตตัวใหญ่แต่ด้วยความร้อนของอากาศ จึงตัดสินใจไม่ลงจากรถ เลยขับรถเข้าไปวนรอบสิงห์โตแทน อิอิ แล้วก็ไปต่อกันที่ไร่ชาฉุยฟง