ขอร้องเรียนพนง.และการบริการของโรงหนังชื่อดังย่านรัชโยธินค่ะ

อาจจะยาวนิดนึงนะคะ ถ้าเขียนไม่ถูกอย่างไรก็ขออภัยด้วยค่ะ

เรามีเรื่องขอร้องเรียนโรงภาพยนตร์ชื่อดังค่ะ

เอาเรื่องที่พึ่งเกิดสดๆร้อนๆก่อนแล้วกันค่ะ ซึ่งก็คือเมื่อวานนี้ (1 ต.ค. 2560)นี่แหละ
เมื่อวานนี้ไปดูหนังเรื่อง Kingsman : The Golden Circle รอบ 20.00 น. ที่โรงภาพยนตร์ชื่อดังย่านรัชโยธินมาค่ะ ซึ่งเราใช้สิทธิ์ลดราคาตั๋วของดีแทคและใช้ทรูพอยท์ในการแลกตั๋ว

***เราขอยืนยันนะคะว่า ทั้งหมดนี้คือเหตุการณ์จริง ไม่มีการพูดเสริมเติมแต่งข้อความใดๆทั้งสิ้น***

ระหว่างที่เรายืนกดตั๋วอยู่ที่ตู้อัตโนมัติ เราขอความช่วยเหลือจากพนักงานคนหนึ่ง ซึ่งเราใช้ 2 สิทธิ์ ในการแลกตั๋ว ตั๋วนึงสามารถออกที่ตู้กดได้ แต่อีกใบที่ใช้ทรูพอยท์ต้องไปที่หน้าเคาน์เตอร์แทน เราก็เลยเดินไปรอคิว พอเคาน์เตอร์ว่าง เราก็รีบเดินไปทันที เราเลือกที่นั่ง D10 และ D11 ซึ่งอยู่ติดกันตรงกลาง แต่สิทธิ์ลดราคาจากดีแทคเราจองที่นั่ง D10 ไปแล้ว พนง.ชายเลยตะโกนคุยกับน้องพนง.ผู้หญิงที่หน้าเคาน์เตอร์แทน เรายื่นมือถือให้น้องเพื่อกดรับสิทธิ์ไปด้วย

บทสนทนามีดังนี้...
พนง.ชาย "ที่นั่ง D11 นะ ทางนี้กด D10 ไปแล้ว"
พนง.หญิง "ฮะ? E11?"
พนง.ชาย "D11 นะ D11"
พนง.หญิง "เออๆ E11"
เรา "เอ่อ.. D11 นะคะ"
พนง.หญิง "ห๊ะ?!"
เรา "D11 ค่ะ D Dog ค่ะ"
พนง.หญิง "เออ!!" //กระชากเสียง
จบการสนทนา

พอพวกกดรหัสเสร็จ พวกวางมือถือเราลงบนกระจกดังปั่ก!!

เราเกิดคำถามในใจทันทีเลยว่า สมัยนี้พนง.พูดคำว่า "เออ" แบบกระชากเสียงใส่ลูกค้าได้ด้วยเหรอ?

และที่สำคัญคือ...ยังดีที่เคสเป็นซิลิโคนที่ค่อนข้างหนาพอสมควร ตัวเครื่องเลยไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

คือ.........น้องไปโกรธใครมาเหรอคะ?? ประเด็นคือเราจำชื่อน้องได้ด้วยไง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เราเองก็ทำงานสายบริการเหมือนกันนะคะ เราต้องแคร์เรื่องมารยาทและ "คำพูด" มากๆ
เราไม่ได้อยากทำลายชื่อเสียงองค์กรและอนาคตของน้องพนง.หญิงคนดังกล่าวแต่อย่างใด แต่เรารู้สึกไม่โอเคอย่างมากที่มาเจอพนง.พูดกระแทกเสียงใส่แบบนี้

---------------------
ส่วนเรื่องในอดีตที่เราเคยเจอมาจากโรงหนังแห่งเดียวกัน สาขาเดียวกันนี้คือ เรื่องอาหารที่ขายในโรงหนังค่ะ เรื่องนี้เราเคยโพสต์ลงเฟสบุ๊คส่วนตัวแต่ไม่ได้ไปร้องเรียนที่ไหนค่ะ

ตอนนั้นเราไปดูหนังเรื่อง Spider Man Homecoming เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา รอบเวลา 22.20 น. ด้วยความที่เราพึ่งเลิกงาน (เราทำงานตามเวลาห้าง) ด้วยความหิวเราเลยซื้อป๊อปคอร์นชุดคู่กับไส้กรอกค็อกเทล ราคา 250 บาท ทั้งถ้วยมีไส้กรอก 6 ชิ้น พนง.เอามาเสิร์ฟให้ก็บอกว่า "กำลังร้อนๆเลยค่ะ" เราก็ใส่ปากทั้งชิ้น พอกัดคำแรก...

ไส้กรอกเปรี้ยวมากกกกกกกกกกกกก!!! พอลิ้นเริ่มสัมผัสเนื้อไส้กรอก... เปลือกนอกมันยุ่ยแล้วนี่หว่า!!

เราพะอืดพะอมมาก แต่บริเวณโดยรอบไม่มีทิชชู่ ไม่มีถังขยะ!! เราคายไม่ได้ เราก็ต้องกลืน!!!

เอาล่ะ... คิดในแง่ดี มันคงเป็นชิ้นเดียว ปรากฎว่าชิ้นที่ 2 ก็ยังเปรี้ยว แต่เปรี้ยวน้อยกว่าชิ้นแรก (หรือว่าลิ้นเราชินรสชาติแล้ว??)

เราเลยถามแฟนเราที่ไปดูด้วยกันว่า ลองชิมไส้กรอกหน่อยสิ มันเปรี้ยวๆรึเปล่า? เราเลยให้เขากิน เค้าบอกว่า มันก็เปรี้ยวๆนะ พอสังเกตดีๆก็พบว่า เปลือกผิวนอกของไส้กรอกแต่ละชิ้นเริ่มลอกยุ่ยแล้ว

ไส้กรอกทั้งหมดนั้นเรากับแฟนกินไป 4 ชิ้น เหลือ 2 ชิ้นที่ไม่กล้าเสี่ยงอีก

เราคุยกับแฟนเราเลยว่า นี่โรงหนังใหญ่ขนาดนี้ยังเอาไส้กรอกเน่ามาขายอีกเหรอ? แล้วโชคดี(รึเปล่า?)ที่เราแค่ปวดท้อง รู้สึกพะอืดพะอมทั้งคืน แต่ไม่ท้องเสียหนักหรืออาหารเป็นพิษ ไม่ถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อ แล้วใกล้ๆช่วงนั้นเราต้องเตรียมตัวเดินทางไปต่างประเทศด้วย

------------------

ทั้งหมดที่พูดมานั้นคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นและเราไม่อยากให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นกับใคร อยากให้ทางโรงภาพยนตร์ปรับปรุงคุณภาพพนักงานและการบริการที่ดีกว่านี้ เรายอมรับตรงๆว่าใช้บริการโรงหนังแห่งนี้บ่อย เพราะอยู่ใกล้ที่พักเรามากที่สุด มาใช้บริการอยู่เรื่อยๆ บ่อยกว่าโรงหนังอีกค่ายที่อยู่ใกล้ๆห้าแยกในห้างอีกต่างหาก

เราไม่อยากใช้คำว่า "ลูกค้าคือพระเจ้า" เพราะลูกค้าอย่างเราๆก็ยังต้องพึ่งพาการบริการของพวกคุณค่ะ ถ้าไม่มีพวกคุณ การบริการหลายๆอย่างก็คงเกิดขึ้นไม่ได้เช่นกัน เราจึงเป็นลูกค้าที่ดี พูดจาดีๆกับพนง. เพราะเราก็คาดหวังให้พนง.คุยดีๆกับเราเช่นกันค่ะ

ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่