เรื่องราวชีวิต เก็บไว้เตือนตัวเอง

กระทู้คำถาม
ผมอายุ30แล้ว ชีวิตที่ผ่านมาล้มไม่เป็นท่า เมื่อหกปีที่แล้ว ตอนทำงานอยู่ที่กรุงเทพ สุดท้ายต้องกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิด กับเงินติดตัว500บาทพร้อมกับแม่
(เมื่อเกือบสิบปีก่อน แม่เราเส้นเลือดในสมองแตกสามจุด ตอนนี้ร่างกายกลับมาแข็งแรง แต่ระบบสมองกลับมาแค่60-70% เราก็ต้องดูแลแม่เรามากนิดนึง เพราะแกไม่เหมือนคนปรกติ ขี้หลงขี้ลืมบ้าง
หงุดหงิดบ้าง ประมาณนี้)
ย้อนเวลากลับไปเมื่อประมาณ6ปี ผมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพราะมีปัญหาเรื่องความรัก เป็นรักที่เป็นไปไม่ได้ จนต้องกลับมาที่จังหวัดบ้านเกิด ไม่รู้จะเริ่มทำงานอะไร มีเงินอยู่แค่นี้ ได้มาอาศัยอยู่กับญาติ ที่เป็นคนขับรถสามล้อรับจ้าง ด้วยชีวิตที่ไม่รู้จะเริ่มทำอะไร ญาติก็เลยสอนให้ลองขับดู เราก็คิดแค่ว่าน่าจะเป็นงานที่พอจะเริ่มทำได้ แต่ต้องหาเงินไปเช่ารถออกมา ก็เลยลองไปยืมเพื่อนคนนึงมา เค้าก็ช่วยมาสองพันห้าร้อย ทำให้เราได้มีอาชีพ จากคนที่ไม่รู้จักทางในจังหวัดของตัวเอง ไม่รู้การสื่อสารเรื่องภาษา ลองผิดลองถูก เจอทั้งลูกค้าที่ดี และไม่ดีมากมาย สอนให้เรียนรู้ บางครั้งถูกด่าถูกว่าทำได้แค่อดทน เราก็ยอมเพื่อแลกกับรายได้ที่จะเอาเลี้ยงตัวเองและแม่
ในระยะนึงที่มาอาศัยอยู่กับญาติ ก็เริ่มมีปัญหาเรื่องความอึดอัด ที่ตัวญาติเราเองแสดงออกมา เราก็พอมีเงินเก็บพอที่จะออกมาเช่าห้องอยู่เองได้ สุดท้ายก็เลือกที่จะออกมาหาเช่าห้องเล็กๆห้องนึงอยู่กับแม่ เป็นห้องโล่งๆ ใช้แค่ผ้าปูพื้นกับผ้าเช็ดตัวเอามาหนุน ขอแค่ได้นอนพัก มีที่ให้แม่อยู่ไม่โดนใครว่าก็พอ ลืมบอกไปญาติคนนั้นเป็นญาติทางแม่เราเอง เค้าอยู่กับเมียเค้าและยาย (ยายก็คือแม่ของแม่เรา) พอเราออกมาอยู่เองกับแม่ ก็ใช้เวลากับการทำงานมากขึ้น เราไม่อยากลำบาก จนมาวันนึงมีเรื่องบางเรื่องเข้ามา ญาติของแม่เรามีปัญหากับยาย ก็คือแม่ของเค้าแหละ บอกว่ายายทะเลาะกับเมียเค้า ขอเอายายมาฝากสักสองสามวัน เราก็โอเคไม่เป็นไร วันสองวันแรกก็พอไปได้ พอวันที่สามที่สี่ แม่เรากับยายก็ทะเลาะกัน ยายก็บอกเข้าใจอาการแม่เรา ยายบอกไม่เป็นไร เดี๋ยวยายกลับไปอยู่กับญาติคนนั้นก็ได้ แต่สิ่งที่ญาติคนนั้นตอบกับมาว่ายังไม่พร้อม เราก็ร้องไห้นะ ไม่รู้จะทำยังไง ตอนนั้นเราเครียดมากทั้งแม่ทั้งยาย จนยายบอกว่าเดี๋ยวแกไปอยู่บ้านพักคนชราก็ได้ แกก็เก็บเสื้อผ้าใส่ถุงกับใส่กระเป๋า แล้วให้เราขับรถไปส่ง เราขับไปร้องไห้ไป เราไม่อยากพาแกไป แต่เราไม่รู้จะทำยังไง เรามีเงินพอที่จะไปหาที่อยู่ที่ใหญ่ เพื่อให้แม่และยายอยู่แล้วไม่ทะเลาะกัน พอถึงบ้านพักคนชราก็พายายเข้าไปติดต่อ เค้าบอกว่าจะให้อยู่เลยจริงๆไม่ได้เพราะยังมีญาติมีลูกอยู่ แค่ใช้สิทธิ์แบบฉุกเฉินได้ไม่เกินสองอาทิตย์ พอกรอกเอกสารเสร็จ เค้าพายายเราไปเตียงนอนที่อยู่สุดริมหน้าต่าง เพื่อเอาของไปเก็บไว้ แล้วยายก็บอกให้เราไปทำงานเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงยาย ยายอยู่ที่นี่ได้ มีเพื่อเยอะแยะเลย กลับไปดูแม่ด้วยนะ ยายออกมาส่งที่รถแล้วเราก็กอดยายแล้วขับรถออกมาพร้อมกับร้องไห้ เจ็บจริงๆ เป็นความรู้สึกที่แย่ที่สุดในชีวิต จากวันนั้นเราก็บอกกับทางญาติคนนั้นให้มารับเมื่อถึงเวลา แต่สุดท้ายก็ไม่มารับ เงียบหายไปปิดเครื่อง เราทำได้แค่ไปแวะหาแก ซื้อขนมไปนั่งคุยกับแกเวลาที่เราออกไปขับรถหาเงิน ทุกครั้งที่เราเจอยาย ยายจะยิ้มดีใจที่เห็นหลานมาหา เราก็ทำได้แค่เก็บน้ำตาให้มันไหลออกมา ยายเรามีลูกห้าคน เสียไปสองคน เหลือแม่เรา กับพี่สาวหนึ่งน้องชายอีกหนึ่ง เราไม่เคยคิดเลยว่าลูกสี่ห้าคนทำไมเลี้ยงแม่คนเดียวไม่ได้ แต่แม่คนเดียวเลี้ยงลูกห้าคนได้ เรื่องนี้มันฝังอยู่ในใจมาตลอด จนมาถึงวันที่ยายเสีย ที่เรารู้จากปากญาติคนที่ให้ยายมาอยู่กับเรา บอกกับเราแค่ว่ายายเสียแล้วนะไว้วัดคืนเดียวแล้วเผาเลย เราไม่มีโอกาสแม้จะไปไหว้ เราเสียใจมาก เรารักยายมากเพราะมีช่วงนึงแกเคยเลี้ยงเรามา ทุกวันนี้เรื่องนี้เหมือนเป็นตราบาปติดอยู่ในหัวใจ ที่ไม่มีวันลบออก เราคงทำได้แค่นึกถึง และทำหน้าที่ลูกที่ต้องดูแลแม่ของเราต่อไป
ถ้าจะพูดว่าผ่านมาหกปีแล้วชีวิตมีอะไรดีขึ้นบ้าง ก็ยังขับรถรับจ้างเหมือนเดิม ตอนนี้มาเช่าบ้านอยู่เป็นหลัง อยากให้แม่มีพื้นที่ ไม่ต้องอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม มีรถเก๋งมาคันนึง เวลาไปไหนแม่ไม่ต้องตากแดดตากฝน เหลืออีกสองปีกว่ารถเก๋งก็จะผ่อนหมด หลังจากนั้นคิดว่าจะหาซื้อบ้าน ตามที่ตั้งใจไว้ว่าไม่เกินอายุ35 พยายามจะทำให้ได้

ถ้าทำสำเร็จจะมาต่อกระทู้ตัวเอง (บันทึกความทรงจำ)

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ 😊
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่