ปีที่แล้ว(2016) เพื่อนชาวญี่ปุ่นพาไปกินมากุโระหรือปลาทูน่าที่มิซากิมาค่ะ ขอเรียกมากุโระนะคะ เพื่อนบอกว่าปลามากุโระดัง กินแล้วติดใจมาก ๆ
เมื่อต้นปีที่ผ่านมาเลยพาเพื่อนและคนสนิทไปบ้าง ติดใจไปตาม ๆ กัน อยากไปกันอีกแล้ว เมนูปลามากุโระที่นี่อร่อยมากค่ะ
ต้องขอบอกก่อนว่า เพิ่งหัดรีวิวที่เที่ยวครั้งแรกเลยค่ะ รีวิวนี้อาจไม่ละเอียดเท่ารีวิวท่องเที่ยวของกูรูท่านอื่นนะคะ ไปเที่ยวจะไม่ได้ถ่ายสถานีหรือป้ายรถบัสไว้เลยค่ะ แนวว่าไปกับเพื่อน เพื่อนพาไป ตาม ๆ เค้าไป เลยจะไม่ได้ถ่ายรูปละเอียด ต้องขออภัยนะคะ แต่ประทับใจที่นี่มาก อยากเล่าสู่กันฟังค่ะ

มิซากิอยู่ในจังหวัดคานากาวะ ไม่ไกลจากโตเกียว ไปเช้า เย็นกลับได้เลยค่ะ
เริ่มเดินทางกันเลยนะคะ ตั้งต้นที่สถานี JR Shinakawa ค่ะ ไปที่เคาน์เตอร์ Keikyu ซึ่งอยู่ในสถานีเลย ขอซื้อพาสที่ชื่อว่า “Maguro Kippu” แบบ 1 วัน ราคา 3,060 เยน รถไฟ รถบัส อาหาร และกิจกรรม 1 ชนิดให้เลือก
**ได้ข่าวว่าจะขึ้นราคาตุลาคม 2560 นี้นะคะ ราคาใหม่ประมาณ 3,500 เยน เพิ่มร้านอาหารมากขึ้น และมีกิจกรรมให้เลือกเยอะขึ้นค่ะ

เคาน์เตอร์ Keikyu credit ภาพ : ShinagawaStation.com

มีหลายพาสให้เลือกค่ะ
จะได้รับแผ่นพับ 1 แผ่น(ขอภาษาอังกฤษได้ค่ะ ไม่แน่ใจมีภาษาไทยมั้ย) ตั๋วรถไฟไป-กลับสถานี Shinagawa <-->Misakiguchi+ตั๋วขึ้นรถบัสจากสถานี Misakuguchi ไปท่าเรือMisakikou บัตรรับประทานอาหารในแผ่นพับ 1 มื้อ และบัตรกิจกรรม 1 ใบ

มีร้านอาหารที่ร่วมรายการน่ากินทุกที่เลย
ออกเดินทางกันค่ะ ใช้สาย Keikyu line ใช้ตั๋วรถไฟที่เพิ่งได้มา เสียบเข้าเครื่องพร้อมกับตั๋ว JR ที่เรานั่งมา
**สถานี JR Shinagawa นั่งรถไฟมาลงที่นี่แล้วไม่ต้องเสียบตั๋วออกจากสถานี สามารถต่อรถไฟสายอื่น ๆ ภายในสถานีนี้ได้เลย
ตั๋ว JR จะถูกดูดกลับคืนไป มีแต่ตั๋วใหม่ไปมิซากิเด้งออกมา หยิบแล้วเดินไปต่อแถวรอรถได้เลยค่ะ
ตรงนี้ดูป้ายไฟแสดงสายรถไฟ ขึ้นชานชาลาที่ไป for Misakiguchi ชานชาลาที่ 1 ค่ะ

ดูรอบรถไฟ credit ภาพ : ShinagawaStation.com

ตั๋วรถไฟ+รถบัส และรถไฟที่จะพาเราไปมิซากิ credit ภาพ : guide.travel.co.jp
ลงสถานี Misakuguchi ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ต่อรถบัสที่ป้ายรถหมายเลข 2 ไปลงป้ายชื่อ Misakiko นั่งรถประมาณ 20 นาที
ไปถึงประมาณ 11:30 นาฬิกา กินก่อนเลยแล้วกัน รอเที่ยงเดี๋ยวคนเยอะค่ะ
ร้านที่ร่วมรายการมีหลายร้านมาก แต่จากรีวิวขอไปร้านดังดูสักหน่อย ชื่อร้าน Kurobatei

เงียบสงัดมาก ๆ แต่ข้างหลังภาพมีเดินตามกันมากลุ่มใหญ่ ไม่ได้แล้ว ต้องรีบอีกหน่อย ไม่งั้นไม่มีที่นั่งแน่

มาถึงหน้าร้านแล้วค่ะ มีคนรีบวิ่งแซงนำเราไปก่อน ตอนกลางทางด้วย 55 (ไม่ใช่นางแบบในรูปนะคะ)
ไปถึงร้านคนก็แน่นค่ะ ลงชื่อรอเรียกที่ด้านนอก ไม่นานก็เรียก แต่ที่ไปรอบ 2 ไปถึงเที่ยงครึ่ง รอเกือบ 2 ชั่วโมง พยาธิในท้องตายเกลี้ยงเลย 55
อาหารที่ร่วมรายการนี้ มี 3 ชนิดให้เลือก มีป้ายบอกหน้าร้านเลย ในร้านจะมีเมนูมาให้ดูอีกครั้งค่ะ มีภาษาไทยด้วยนะเออ
รอบนี้ไป 3 คน เลยเลือกมาทั้ง 3 ชนิด ได้ลองทั้ง 3 แบบ

เ
เมนูที่เข้าร่วมรายการ


ภายในร้านมีส่วนเคาน์เตอร์และโต๊ะนั่งแบบญี่ปุ่น

ข้าวหน้าปลามากุโรหมัก

อาหารชุด มากุโระย่าง

ชุดปลาดิบซาชิมิ
ปกติชอบแซลมอนค่ะ มากุโระนี่ไม่อินเท่าไร แต่ที่นี่ ร้านนี้ อร่อยจนต้องร้องขออีกจานเลยค่ะ
มันอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก อยากจะบรรยายออกมาเป็นรสชาติให้ได้ทราบกันจริง ๆ ถูกปากมากที่สุดคือเมนูแก้มปลา หวาน ๆ ย่าง ๆ
แต่ที่ฮิตคือมากุโระเทมปุระค่ะ อร่อยนุ่ม ฟินสุด ๆ ไม่รู้สึกเลี่ยนหรือคาวเลย
ส่วนเมนูซาชิมิปลาดิบ ก็อร่อยค่ะ แต่แบบยังให้ความรู้สึกว่าหาทานได้ทั่วไปค่ะ
ร้านนี้มีของฝากเป็นเนื้อปลามากุโระย่าง ให้กลับไปราดข้าวทานที่บ้านด้วย

credit ของฝากของร้าน ปลามากุโระย่าง ภาพ : guide.travel.co.jp
อิ่มแล้วชมบ้านเรือนไปเรื่อย ๆ กลับไปที่ท่าเรือ(ที่เดียวกับตอนลงจากบัส) เพื่อเริ่มกิจกรรมถัดไป

กิจกรรมมีให้เลือกหลายชนิด นั่งเรือ ปั่นจักรยาน แช่น้ำพุร้อนออนเซน เราเลือกนั่งเรือไปดูนก ดูปลาค่ะ
ที่ท่าเรือจะมีเคาน์เตอร์สำหรับแลกตั๋วกิจกรรม คือต้องเปลี่ยนเป็นตั๋วจริง และจองเวลานั่งเรือค่ะ
ได้เรือรอบ 14:00 น. นั่งเรือใช้เวลารวมไป-กลับประมาณ 1 ชั่วโมง



บริเวณท่าเรือค่ะ

ก่อนเวลานัด 15 นาที ให้มาต่อแถวรอขึ้นเรือ เรือมาแล้ว ไปกันเลยค่ะ


เรือออกแล้ว ลอดสะพานเอาฤกษ์เอาชัยก่อนเลย โชคดีอากาศดีมาก ๆ ฟ้าใสสุด ๆ




บนเรือมีที่นั่งให้ หรือจะยืนก็ได้


ฝูงนกบินตามตั้งแต่ออกเรือกันเลยทีเดียว

ช่วงนั้นพี่เทพพิทักษ์กำลังดังค่ะ อิอิ



นกบินตามเพราะมีฮานิมิข้าวเกรียบรวยเพื่อนโยนให้นกกินค่ะ

เรือแล่นมาถึงจุดปลาชุม จะจอดนิ่ง ให้ทุกคนลงไปใต้ท้องเรือเพื่อชมปลากันค่ะ ช่วงที่ไปนั้นเป็นฤดูร้อน
ซึ่งเจ้าหน้าที่แนะนำหากว่ามาช่วงฤดูหนาว น้ำจะใสกว่านี้และปลาจะชุมมาก



โหหหห ปลาเพียบ น่ากินทั้งนั้นเลย(ใช้รูปจากรอบ 2 ที่ไปตอนหนาว เลยมีผ้าพันคอแน่นหนา)
นั่งดูจนพอใจก็ขึ้นมาด้านบนค่ะ นั่งนานไม่ไหว มึนหัวเพราะอากาศร้อน มาให้อาหารปลากันต่อ แล้วเรือก็เริ่มเคลื่อนตัว ได้เวลากลับแล้ววววว




แวะซื้อของฝากตรงท่าเรือ แล้วมารอขึ้นรถบัสที่เดิมเพื่อไปสถานีรถไฟ Misakiguchi เพื่อกลับโตเกียวไปสถานี Shinagawa
ขอบคุณค่ะ
[CR] รีวิว นั่งเรือ ดูปลา กินมากุโระ(ปลาทูน่า) สุดอร่อยที่มิซากิ เมืองเล็ก ๆ ติดทะเล ใกล้โตเกียว
เมื่อต้นปีที่ผ่านมาเลยพาเพื่อนและคนสนิทไปบ้าง ติดใจไปตาม ๆ กัน อยากไปกันอีกแล้ว เมนูปลามากุโระที่นี่อร่อยมากค่ะ
ต้องขอบอกก่อนว่า เพิ่งหัดรีวิวที่เที่ยวครั้งแรกเลยค่ะ รีวิวนี้อาจไม่ละเอียดเท่ารีวิวท่องเที่ยวของกูรูท่านอื่นนะคะ ไปเที่ยวจะไม่ได้ถ่ายสถานีหรือป้ายรถบัสไว้เลยค่ะ แนวว่าไปกับเพื่อน เพื่อนพาไป ตาม ๆ เค้าไป เลยจะไม่ได้ถ่ายรูปละเอียด ต้องขออภัยนะคะ แต่ประทับใจที่นี่มาก อยากเล่าสู่กันฟังค่ะ
เริ่มเดินทางกันเลยนะคะ ตั้งต้นที่สถานี JR Shinakawa ค่ะ ไปที่เคาน์เตอร์ Keikyu ซึ่งอยู่ในสถานีเลย ขอซื้อพาสที่ชื่อว่า “Maguro Kippu” แบบ 1 วัน ราคา 3,060 เยน รถไฟ รถบัส อาหาร และกิจกรรม 1 ชนิดให้เลือก
**ได้ข่าวว่าจะขึ้นราคาตุลาคม 2560 นี้นะคะ ราคาใหม่ประมาณ 3,500 เยน เพิ่มร้านอาหารมากขึ้น และมีกิจกรรมให้เลือกเยอะขึ้นค่ะ
จะได้รับแผ่นพับ 1 แผ่น(ขอภาษาอังกฤษได้ค่ะ ไม่แน่ใจมีภาษาไทยมั้ย) ตั๋วรถไฟไป-กลับสถานี Shinagawa <-->Misakiguchi+ตั๋วขึ้นรถบัสจากสถานี Misakuguchi ไปท่าเรือMisakikou บัตรรับประทานอาหารในแผ่นพับ 1 มื้อ และบัตรกิจกรรม 1 ใบ
ออกเดินทางกันค่ะ ใช้สาย Keikyu line ใช้ตั๋วรถไฟที่เพิ่งได้มา เสียบเข้าเครื่องพร้อมกับตั๋ว JR ที่เรานั่งมา
**สถานี JR Shinagawa นั่งรถไฟมาลงที่นี่แล้วไม่ต้องเสียบตั๋วออกจากสถานี สามารถต่อรถไฟสายอื่น ๆ ภายในสถานีนี้ได้เลย
ตั๋ว JR จะถูกดูดกลับคืนไป มีแต่ตั๋วใหม่ไปมิซากิเด้งออกมา หยิบแล้วเดินไปต่อแถวรอรถได้เลยค่ะ
ตรงนี้ดูป้ายไฟแสดงสายรถไฟ ขึ้นชานชาลาที่ไป for Misakiguchi ชานชาลาที่ 1 ค่ะ
ลงสถานี Misakuguchi ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ต่อรถบัสที่ป้ายรถหมายเลข 2 ไปลงป้ายชื่อ Misakiko นั่งรถประมาณ 20 นาที
ไปถึงประมาณ 11:30 นาฬิกา กินก่อนเลยแล้วกัน รอเที่ยงเดี๋ยวคนเยอะค่ะ
ร้านที่ร่วมรายการมีหลายร้านมาก แต่จากรีวิวขอไปร้านดังดูสักหน่อย ชื่อร้าน Kurobatei
ไปถึงร้านคนก็แน่นค่ะ ลงชื่อรอเรียกที่ด้านนอก ไม่นานก็เรียก แต่ที่ไปรอบ 2 ไปถึงเที่ยงครึ่ง รอเกือบ 2 ชั่วโมง พยาธิในท้องตายเกลี้ยงเลย 55
อาหารที่ร่วมรายการนี้ มี 3 ชนิดให้เลือก มีป้ายบอกหน้าร้านเลย ในร้านจะมีเมนูมาให้ดูอีกครั้งค่ะ มีภาษาไทยด้วยนะเออ
รอบนี้ไป 3 คน เลยเลือกมาทั้ง 3 ชนิด ได้ลองทั้ง 3 แบบ
ปกติชอบแซลมอนค่ะ มากุโระนี่ไม่อินเท่าไร แต่ที่นี่ ร้านนี้ อร่อยจนต้องร้องขออีกจานเลยค่ะ
มันอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก อยากจะบรรยายออกมาเป็นรสชาติให้ได้ทราบกันจริง ๆ ถูกปากมากที่สุดคือเมนูแก้มปลา หวาน ๆ ย่าง ๆ
แต่ที่ฮิตคือมากุโระเทมปุระค่ะ อร่อยนุ่ม ฟินสุด ๆ ไม่รู้สึกเลี่ยนหรือคาวเลย
ส่วนเมนูซาชิมิปลาดิบ ก็อร่อยค่ะ แต่แบบยังให้ความรู้สึกว่าหาทานได้ทั่วไปค่ะ
ร้านนี้มีของฝากเป็นเนื้อปลามากุโระย่าง ให้กลับไปราดข้าวทานที่บ้านด้วย
อิ่มแล้วชมบ้านเรือนไปเรื่อย ๆ กลับไปที่ท่าเรือ(ที่เดียวกับตอนลงจากบัส) เพื่อเริ่มกิจกรรมถัดไป
ที่ท่าเรือจะมีเคาน์เตอร์สำหรับแลกตั๋วกิจกรรม คือต้องเปลี่ยนเป็นตั๋วจริง และจองเวลานั่งเรือค่ะ
ได้เรือรอบ 14:00 น. นั่งเรือใช้เวลารวมไป-กลับประมาณ 1 ชั่วโมง
ซึ่งเจ้าหน้าที่แนะนำหากว่ามาช่วงฤดูหนาว น้ำจะใสกว่านี้และปลาจะชุมมาก
นั่งดูจนพอใจก็ขึ้นมาด้านบนค่ะ นั่งนานไม่ไหว มึนหัวเพราะอากาศร้อน มาให้อาหารปลากันต่อ แล้วเรือก็เริ่มเคลื่อนตัว ได้เวลากลับแล้ววววว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น