การพัฒนาเมืองใหม่ภายใต้
โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ในสามจังหวัดที่ประกอบด้วยจังหวัดฉะเชิงเทรา, ชลบุรี และระยอง เป็น 1 ใน 5 เรื่องสำคัญที่
“พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีให้เร่งดำเนินการให้มีความชัดเจน และเห็นเป็นรูปธรรม เพื่อทำให้เกิดการพัฒนาเมืองใหม่เป็นเมืองที่ทันสมัย และประชาชนมีรายได้ และคุณภาพชีวิตดีขึ้น
โดยมีการวางแผนว่า จะต้องปรับปรุงฟื้นฟูเมืองเดิม พัฒนาพื้นที่เมืองใหม่ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อที่จะเชื่อมโยงพื้นที่เมืองเก่า และเมืองใหม่เข้าด้วยกัน เพื่อรองรับการขยายตัว หรือการเติบโตของกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล กับพื้นที่ชายฝั่งตะวันออก ด้วยรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกกรุงเทพฯ-ระยองเป็นตัวเชื่อมการเดินทาง
• เมืองใหม่ฉะเชิงเทรา - เมืองน่าอยู่รองรับการเติบโตของกรุงเทพฝั่งตะวันออก สมาร์ทซิตี้
• เมืองใหม่พัทยา - เมืองท่องเที่ยวคุณภาพ และเชิงสุขภาพระดับโลก
• เมืองใหม่อู่ตะเภา - เมืองศูนย์กลางธุรกิจการบิน และโลจิสติกส์
• เมืองใหม่ระยอง - เมืองอุตสาหกรรมปิโตรเคมี พลังงานเคมีชีวภาพ วิจัยอาหาร และไบโอเทคโนโลยี ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เนื่องจากจะมีแหล่งงานและคนเข้ามาอยู่อาศัยจำนวนมาก หลังมีการลงทุนใหม่ ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล
"พื้นที่กำหนดเป็นเมืองใหม่ ภายในจะประกอบด้วย มหาวิทยาลัย โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาล ศูนย์การแพทย์ แหล่งท่องเที่ยวคุณภาพ มีความเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจระดับภูมิภาค กองทุนเพื่อพัฒนาชุมชน และสิ่งแวดล้อมที่ดี" (ที่มา :
ประชาชาติธุรกิจ)
เมืองใหม่ในอนาคตจะต้องมาพร้อมกับงาน สิ่งแวดล้อมที่ดี มีความปลอดภัย และบริการต่างๆ พร้อมให้บริการแก่ผู้อยู่อาศัย โดยเมืองที่ดีจะต้องสามารถดูแลคนได้อย่างน้อย 3 รุ่นขึ้นไป คือ
พ่อ-แม่ (เหมาะที่จะดูแล),
ลูก (เหมาะในการทำงาน) และ
หลาน (เหมาะในการเรียน) หากสามารถกำหนดพื้นที่ และมีบริการให้ครอบคลุมคนทั้ง 3 รุ่นนี้ได้ ก็จะสามารถรองรับอนาคตของคนรุ่นต่อๆ ไปได้
เมืองใหม่จะต้องเป็นแกนหลักในการพัฒนาความเจริญ ซึ่งจะช่วยทำให้เมืองบริวารใกล้เคียงเติบโตไปด้วยกัน ตามเส้นทางที่มีอุตสาหกรรมใหม่พาดผ่าน และจะเป็นแกนสร้างความเจริญหลักระหว่างเมืองในอนาคตได้อีกด้วย
แต่ความสำเร็จของเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออกก็ขึ้นอยู่กับ
นโยบาย ของรัฐบาลด้วยว่า จะมีความต่อเนื่อง และรวดเร็วเพียงใด เพราะถ้าไม่ตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุน หรือช้าไม่ทันประเทศเพื่อนบ้าน นักลงทุนเหล่านั้นก็คงจะย้ายฐานการผลิตไปลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้านของเราแทนในที่สุด
4 เมืองใหม่ในพื้นที่ EEC อนาคต หรือแค่ความหวัง
โดยมีการวางแผนว่า จะต้องปรับปรุงฟื้นฟูเมืองเดิม พัฒนาพื้นที่เมืองใหม่ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อที่จะเชื่อมโยงพื้นที่เมืองเก่า และเมืองใหม่เข้าด้วยกัน เพื่อรองรับการขยายตัว หรือการเติบโตของกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล กับพื้นที่ชายฝั่งตะวันออก ด้วยรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกกรุงเทพฯ-ระยองเป็นตัวเชื่อมการเดินทาง
• เมืองใหม่ฉะเชิงเทรา - เมืองน่าอยู่รองรับการเติบโตของกรุงเทพฝั่งตะวันออก สมาร์ทซิตี้
• เมืองใหม่พัทยา - เมืองท่องเที่ยวคุณภาพ และเชิงสุขภาพระดับโลก
• เมืองใหม่อู่ตะเภา - เมืองศูนย์กลางธุรกิจการบิน และโลจิสติกส์
• เมืองใหม่ระยอง - เมืองอุตสาหกรรมปิโตรเคมี พลังงานเคมีชีวภาพ วิจัยอาหาร และไบโอเทคโนโลยี ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เนื่องจากจะมีแหล่งงานและคนเข้ามาอยู่อาศัยจำนวนมาก หลังมีการลงทุนใหม่ ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล
"พื้นที่กำหนดเป็นเมืองใหม่ ภายในจะประกอบด้วย มหาวิทยาลัย โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาล ศูนย์การแพทย์ แหล่งท่องเที่ยวคุณภาพ มีความเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจระดับภูมิภาค กองทุนเพื่อพัฒนาชุมชน และสิ่งแวดล้อมที่ดี" (ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ)
เมืองใหม่ในอนาคตจะต้องมาพร้อมกับงาน สิ่งแวดล้อมที่ดี มีความปลอดภัย และบริการต่างๆ พร้อมให้บริการแก่ผู้อยู่อาศัย โดยเมืองที่ดีจะต้องสามารถดูแลคนได้อย่างน้อย 3 รุ่นขึ้นไป คือ พ่อ-แม่ (เหมาะที่จะดูแล), ลูก (เหมาะในการทำงาน) และหลาน (เหมาะในการเรียน) หากสามารถกำหนดพื้นที่ และมีบริการให้ครอบคลุมคนทั้ง 3 รุ่นนี้ได้ ก็จะสามารถรองรับอนาคตของคนรุ่นต่อๆ ไปได้
เมืองใหม่จะต้องเป็นแกนหลักในการพัฒนาความเจริญ ซึ่งจะช่วยทำให้เมืองบริวารใกล้เคียงเติบโตไปด้วยกัน ตามเส้นทางที่มีอุตสาหกรรมใหม่พาดผ่าน และจะเป็นแกนสร้างความเจริญหลักระหว่างเมืองในอนาคตได้อีกด้วย
แต่ความสำเร็จของเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออกก็ขึ้นอยู่กับ นโยบาย ของรัฐบาลด้วยว่า จะมีความต่อเนื่อง และรวดเร็วเพียงใด เพราะถ้าไม่ตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุน หรือช้าไม่ทันประเทศเพื่อนบ้าน นักลงทุนเหล่านั้นก็คงจะย้ายฐานการผลิตไปลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้านของเราแทนในที่สุด