สำหรับมนุษย์เงินเดือน ประสบการณ์ต่างๆ ตลอดมานั้นพร้อมกับวางแผนไว้อย่างพอเหมาะย่อมเป็นทุนหลังเกษียณ

ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนเอกชน นี้ก็ใกล้เกษียณ(60 ปี) ในอีก 2 ปีข้างหน้า  ความจริงก็ได้วางแปลนไว้แล้วว่าเมื่อเกษียณก็จะมีเงินสดเก็บส่วนตัวเกือบ 2 ล้าน โดยหมดหนี้สิ้นหลักทั้งบ้านที่ดินและรถ  แต่ไม่ได้ตามแผนที่วางไว้เรื่องเงินสดที่จะเก็บได้ เพราะต้องจ่ายเป็นหลักให้แม่ที่นอนติดเตียง ตั้งแต่เมื่อ 5 ปีมาแล้วจนถึงปัจจุบัน  ยิ่งมาอยู่ศูนย์ดูแลเอกชนใน กทม. ก็ต้องจ่ายหนักขึ้น สละเพื่อแม่ไม่ต้องทุกข์ใจมากเหลือเพียงทุกข์กายเท่านั้น

          ความจริงผมต้องทุกข์ใจมากกว่า เพราะไม่ได้ตามเป้าและจะลำบากเมื่อเกษียณ ด้วยมีเงินสดเก็บเพียงน้อยไม่กี่แสนบาท ที่ต้องอยู่ไปอีกกี่สิบปี แต่เปล่าเลยผมกลับไม่ทุกข์ใจหรือ กังวลเรื่องเงินสดที่ควรจะเก็บได้นั้นเลย  ก็เพราะยังมีประสบการณ์ในงานต่างๆ ที่ผ่านมาในชีวิตนั้นแหละเป็นทุน หรือกล่าวได้ว่า ปัญญาบวกความสามารถที่สสะสมนั้นแหละ ใช้กินไม่หมด หรือปัญญาความสามารถนั้นแหละเป็นทรัพย์ เลือกอยู่แบบใหนหลังเกษียณก็ได้.  

       หมายเหตุ สำหรับผมในชีวิตที่ผ่านมา ใจให้เวลากับการปฏิบัติธรรมกรรมฐานมากกว่า การประกอบอาชีพเลี้ยงตัวและครอบครัวโดยเฉลี่ย  
                              คือหมายความว่า บางช่วงใจให้กับครอบครัวและอาชีพมากกว่าการปฏิบัติธรรม บางช่วงให้เสมอกัน บางช่วงให้กับการปฏิบัติธรรมมากกว่า  แต่เมื่อเฉลี่ยมาแล้วให้กับการปฏิบัติธรรมมากกว่า ด้วยกำหนดภาวนาอยู่ในใจเนื่องๆ ไม่ทอดธุระนั้นเอง ออ. ผมฝึกปฏิบัติสมาธิด้วยตนเองตั้งแต่ อายุ 10 กว่าปีมาแล้ว ก่อนจบประถม ด้วยอยากเรียนมีปัญญาความรู้แต่ก็ไม่ได้เรียนเมื่อจบชั้นประถม.

       มาดูชีวิตผมที่ผ่านมาตั้งแต่วัยเด็ก มีประสบการอาชีพอย่างใดมาบ้าง.

             1. เมื่อยังเล็กมาก ก็เรขาย ไอติมแท่ง ขาย 5 แท่งได้ 1 แท่ง ต่อมาขายฉลากจับของ
             2. มีประสบการณ์ขายของชำ รู้วิธีหาซื้อของเอามาขายจากแม่  ตั้งแต่เด็กจนจบ ม.ปลาย
             3. ซ่อมจักรยาน ซ่อมวิทยุทรานชิเตอร์ ปะยางรถจักรยานและมอเตอร์ไชค์ ลับมีดและบัตตเลี่ยนตัดผม ตั้งแต่เด็กจนจบ ม.ปลาย
             4. ซ่อมจักรยานยนตร์ หรือมอเตอร์ไชค์ ตอนจบ ม.ปลาย
             5. เรียนทางวิทยาศาสตร์สาขาฟิสิก 3 ปี จบ  แล้วมาเป็นตัวเตอร์ คณิตศาสตร์-สถิติ เบื้องต้น อยู่เกือบ 5 ปี
             6. เพาะเห็นนางฟ้า และเห็นฟาง โดยเรียนรู้ในการเขี่ยเชื่อเห็ดเอง อยู่เป็นเวลา 1 ปี.
             7. สอนคอมพิวเตอร์เบื้องต้นเป็นเวลา 3 ปี  เริ่มหัดเขียนโปรแกรมด้วยตัวเองในตระกุล Dbase
             8. เป็นชัพพรอตโปรแกรมวินโดพื้นฐาน จนถึงระด้บโปรแกรม Pos & Backoffice ระดับห้างใหญ่ 3 ปี
             9. เป็นโปรแกรมเมอร์ + ระดับบริหาร อยู่ 20 กว่าปี ในระดับบริษัทที่เริ่มจาก 40 กว่าล้านบาท พัฒานาจนถึงระดับ 100 กว่าล้านต่อปี ด้วยโปรแกรมที่เขียนและวางระบบเพียงคนเดียว โดยมีผู้บริหารฝ่ายบัญชีและทั่วไป ให้ข้อมูลที่ต้องการ  ดังนั้นทั้ง อาร์แวส์ และ ซ็อฟแวส์ จึงรวมอยู่ในคนเดียว จนเสถียร จึงสามารถควบคุมการใช้จ่ายทางเทคโนโลยีให้พอเหมาะกับธุรกิจขนาดนี้ได้ อย่างประหยัดที่พัดผ่านกระแสคลื่นธุรกิจที่เกิดชำเติมหลายครั้งในช่วงเวลา 20 กว่าปีมาได้   แม้เงินเดือนผมจะไม่ขึ้น จนกลายเป็นน้อยกว่าท้องตลาดมากในปัจจุบัน  และโบนัสจะไม่ได้มาหลายปีแล้ว ในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ในปัจจุบัน แต่ก็เป็นการเชพสุขภาพของผมได้อย่างมาก ลดเวลาทำงานลงเพียงวันละประมาณ 6 ชั่วโมงหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่ได้ใช้มันอย่างหนักพอควรเมื่อวัยหนุ่มและกลางคน  

               และผมใช้วิตแบบ น้ำขึ้นให้รีบตัก เมื่อวัยกลางคน 38 - 51 ปี ที่เงินเดือนยังสูงกว่าทั่วๆ ไปในท้องตลาด ที่พอคาดคะเนว่าฐานเรามั่นคงและจะจบภายในอายุ 55 ปี เพราะคิดว่าบริษัทให้เกษียณที่ 55 ปี จึงผ่อนบ้านจนถึง 3 หลัง แล้วขายทิ้งไป 1 หลังเพราะตึงเกินไป ต่อมาก็บวกกับที่ดินอีก 2 แปลง 100 ตรว.ในชาน กทม. และ 1.5 ไร่ในปริมนทล ก็ทยอยจบพอดีในอายุ 55 - 56 ปี และได้ทราบว่าบริษัทเกษียทีอายุ 60 ปี.

             ดั้งนั้นใน 9 ข้อด้านบนผมสามารถ เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งหาเงินได้หลังเกษียณ แม้ผมจะไม่มีเงินเก็บเพราะต้องจ่ายให้กับแม่ ตามที่ญาติบอกว่าผมต้องหมดตัวแน่เพราะแม่นอนติดเตียง ก็จริงตามที่ว่าไว้ แต่ผมก็ไม่ทุกข์ไม่กังวลและไม่จน

              เพราะผมได้เตรียมข้อที่ 9. ไว้ก่อนเมื่อ 15 ปีมาแล้ว ในโปรแกรม Pos & backoffice เพื่อยามเกษียณและลูกที่เรียนวิศวะคอมพิวเตอร์ และด้วยลูกผันไปอยู่ในระบบแมนแฟลมคอมพิวเตอร์บริษัทใหญ่ ผมจึงเพลาลง เพราะลูกจะเอามันมาใช้คงน้อยลง ส่วนผมก็อยากอยู่อย่างสมถะแบบพอเพียง จึงไปสนใจเรืองการเพาะเห็ด และต้นไม้ แบบอยู่พอเพียง แต่จะไม่เหนือยกับมันมาก

         เอามาดูหน้าโปรแกรมที่ผมพัฒนาไว้เมื่อ 15 ปีมาแล้วส่วน Backoffice

    
         ส่วน  POS. จุดขาย

    
         ต่อไปเป็นส่วนของต้นไม้  ความจริงแล้วในส่วนของต้นไม้ผมได้เตรียมไว้ ตั้งแต่เมื่อ 5 - 6 ปี ที่แล้วแต่ล้มเหลว มาทุกปี เพราะผมเกิดไขมันหรือลิ้มเลือดอุดตันในเส้นเลือดสมองเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งตายและอัมพาตอัมพฤษถาวร กับ มีชีวิตปกติ อยู่เพียงเส้นบางๆ เท่านั้นเอง อาจจะด้วยสติที่เจริญไว้ดีแล้วเชฟตนเองได้ทันแบบฉิวเฉียด แล้วต้องอยู่ห้อง ไอชียู และโรงพยาบาลหลายวัน และมีผลข้างเคียงเกือบ 5 ปี.

         แต่ผมก็ยังซื้อเอาพันธ์ต้นไม้ทุกปี ทั้งที่รู้ว่ามันไม่รอดข้ามปี เหมือนเอาเงินแรงเวลาไปทิ้งเปล่า แต่ได้ไอเดียความคิดหาทางทุกครั้ง ไปตามแบบประสาของผม.

          ผมได้เตรียมพันธ์กล้วยหอมทองที่ปลูกไว้ข้างบ้านเผื่อผมเอาหนอไปลงในที่ดิน และเมื่อมีเวลาดูแลได้หล่ังเกษียณ จนผมได้กินมันประจำแม้ภรรยาจะบอกว่ารกบ้าน  จนคนมาจากบ้านนอกอยู่บ้านใกล้กันบอกว่า โอ หน่อเยอะจัง หวีกล้วยก็โต ถ้าเป็นที่บ้านเอาหน่อไปขายได้หลายตังส์  ดังรูป กำลังออกเครือ

      
          และเห็ตหูหนูบนขอนไม้ ที่ได้ทดลองทำไว้ ก็เริ่มแตกออกมาแล้ว  แต่กว่าจะได้ก็ต้องเสียมาก่อนหน้านี้ ด้วยอุปการณ์ไม่พร้อม ดังรูป

  

       ต่อไปก็เห็ดฟางตะกล้า ที่หวังว่าจะหาเงินได้รายวันละ 100-200 บาท ที่บริเวณรอบบ้าน หลังเกษียณ (เอารูปมากจากอินเตอร์เน็ต)

    

      ความจริงแล้วแมื่อยามเกษียณ เมื่อวางแผนไว้พอเหมาะพอดี แม้จะไม่มีเงินสดเก็บ ก็จะไม่จนและมีรายได้ไปได้.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่