
ภาวะซึมเศร้าคืออะไร?
ภาวะซึมเศร้า เป็นการเจ็บป่วยทางจิตใจชนิดหนึ่ง ซึ่งจะทำให้รู้สึกดังนี้
o ไม่มีความสุข
o ซึมเศร้า
o จิตใจหม่นหมอง
o หมดความกระตือรือร้น
o เบื่อหน่าย
o แยกตัวเอง
o ชอบอยู่เงียบๆ คนเดียว
o ท้อแท้
o บางครั้งมีความรู้สึกสิ้นหวัง
o มองชีวิตไม่มีคุณค่า
o มองตนเองไร้ค่า
o เป็นภาระต่อคนอื่น
o ถ้ามีอาการมากจะมีความรู้สึกเบื่อชีวิต
ข้อแตกต่างระหว่างภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ กับภาวะซึมเศร้าทั่วไป
ในผู้สูงอายุพบว่าจะมีอาการบางอย่างที่อาจแตกต่าง จากภาวะซึมเศร้าทั่วไป ดังต่อไปนี้
** ผู้สูงอายุมักจะบอกว่า ไม่มีอารมณ์เศร้า ไม่มีร้องไห้บ่อยๆ แต่มักจะมีเพียงอาการเบื่อหน่าย ไม่ทำกิจกรรมอะไร ทำให้คนรอบข้าง
หรือแพทย์ไม่รู้ว่าผู้ป่วย ซึมเศร้าอยู่ เพราะเห็นอารมณ์เศร้าไม่ชัด
** ผู้สูงอายุที่เป็นโรคซึมเศร้า มักจะมีอาการทางกายเป็นอาการเด่น และมักไปพบแพทย์บ่อยๆ ด้วยอาการทางกายหลายๆ อย่าง เช่น
ปวดหัว นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ท้องอืด หรือปวดเมื่อย แต่เมื่อตรวจแล้ว ก็ไม่พบความผิดปกติอะไรที่ชัดเจน
แพทย์ก็จะให้ยารักษาตามอาการไป ซึ่งกินแล้วก็อาจดีขึ้นชั่วคราว แต่ผู้ป่วยก็ยังมีอาการเหล่านี้ซ้ำๆ ไม่หาย เนื่องจากตัวโรคซึมเศร้า
ยังไม่ได้รับการรักษา
** ผู้สูงอายุที่เป็นโรคซึมเศร้า อาจมีอาการหลงลืมง่าย สมาธิไม่ดี ทำให้คนรอบข้างหรือแพทย์ อาจเข้าใจผิดว่าเป็นโรคสมองเสื่อม
ทั้งที่ความจริงผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
การรักษาภาวะซึมเศร้า
การรักษาภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุประกอบไปด้วย การรักษาด้วยยาต้านเศร้า (Antidepressant) และ การให้คำปรึกษา/จิตบำบัด
ซึ่งการรักษาได้ผลดีไม่แตกต่าง จากภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยทั่วไป เพียงแต่การให้ยาต้านเศร้า อาจจะต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น
เนื่องจากผู้ป่วยมักมีโรคประจำตัวทำให้ต้องกินยาหลายอย่าง ทำให้มีโอกาสที่ยาอาจจะทำปฏิกิริยาต่อกัน และผู้สูงอายุมีโอกาส
เกิดผลข้างเคียงจากยาได้ง่ายกว่า
ป้องกันภาวะซึมเศร้าอย่างไร?
สิ่งที่สำคัญกว่าการรักษา คือ การป้องกันไม่ให้เกิดโรค สิ่งที่เป็นปัญหาและพบได้บ่อยๆ คือ ผู้สูงอายุหลายคนเกษียณแล้วก็อยู่บ้านเฉยๆ
ส่วนใหญ่ ไม่มีกิจกรรมอะไรทำที่ชัดเจน ไม่ได้ออกนอกบ้านไปไหน บวกกับส่วนใหญ่ลูกๆก็แยกบ้านไปหมดแล้ว ทำให้เกิดอาการซึมเศร้า
ได้ง่าย ดังนั้น สิ่งที่ช่วยป้องกันการเกิดภาวะซึมเศร้าได้ก็ คือ
1. การวางแผนก่อนเกษียณให้ดี โดยต้องคิดไว้ล่วงหน้าเลยว่าถ้าหยุดทำงานแล้ว จะทำอะไร
2. ผู้สูงอายุควรมีกิจกรรมทำเป็นประจำ เช่น ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 3-4 วันต่อสัปดาห์ หรืออาจทำงานเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้มีอะไรทำ
และรู้สึกว่าตัวเองยังสามารถทำอะไรได้
3. ควรมีการเข้าสังคมบ้าง เช่น อาจไปร่วมชมรมผู้สูงอายุ หรือจับกลุ่มพบประสังสรรค์กับเพื่อนที่อายุใกล้ๆ กัน
4. ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อที่ว่าหากเจ็บป่วยอะไร จะได้รับการรักษาตั้งแต่เริ่มแรก
การเผชิญหน้ากับ ภาวะซึมเศร้า สำหรับวัยสูงอายุ เป็นเรื่องที่หนักใจของใครหลายคน ทั้งญาติ ผู้ใกล้ชิด และตัวผู้สูงอายุเอง ดังนั้น
การเรียนรู้ และทำความเข้าใจ กับภาวะซึมเศร้า ก็จะช่วยให้สามารถเตรียมรับมือ กับปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ค่ะ
เช็คสักนิด..คุณเข้าใกล้ภาวะซึมเศร้าแล้วหรือยัง?
ภาวะซึมเศร้าคืออะไร?
ภาวะซึมเศร้า เป็นการเจ็บป่วยทางจิตใจชนิดหนึ่ง ซึ่งจะทำให้รู้สึกดังนี้
o ไม่มีความสุข
o ซึมเศร้า
o จิตใจหม่นหมอง
o หมดความกระตือรือร้น
o เบื่อหน่าย
o แยกตัวเอง
o ชอบอยู่เงียบๆ คนเดียว
o ท้อแท้
o บางครั้งมีความรู้สึกสิ้นหวัง
o มองชีวิตไม่มีคุณค่า
o มองตนเองไร้ค่า
o เป็นภาระต่อคนอื่น
o ถ้ามีอาการมากจะมีความรู้สึกเบื่อชีวิต
ข้อแตกต่างระหว่างภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ กับภาวะซึมเศร้าทั่วไป
ในผู้สูงอายุพบว่าจะมีอาการบางอย่างที่อาจแตกต่าง จากภาวะซึมเศร้าทั่วไป ดังต่อไปนี้
** ผู้สูงอายุมักจะบอกว่า ไม่มีอารมณ์เศร้า ไม่มีร้องไห้บ่อยๆ แต่มักจะมีเพียงอาการเบื่อหน่าย ไม่ทำกิจกรรมอะไร ทำให้คนรอบข้าง
หรือแพทย์ไม่รู้ว่าผู้ป่วย ซึมเศร้าอยู่ เพราะเห็นอารมณ์เศร้าไม่ชัด
** ผู้สูงอายุที่เป็นโรคซึมเศร้า มักจะมีอาการทางกายเป็นอาการเด่น และมักไปพบแพทย์บ่อยๆ ด้วยอาการทางกายหลายๆ อย่าง เช่น
ปวดหัว นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ท้องอืด หรือปวดเมื่อย แต่เมื่อตรวจแล้ว ก็ไม่พบความผิดปกติอะไรที่ชัดเจน
แพทย์ก็จะให้ยารักษาตามอาการไป ซึ่งกินแล้วก็อาจดีขึ้นชั่วคราว แต่ผู้ป่วยก็ยังมีอาการเหล่านี้ซ้ำๆ ไม่หาย เนื่องจากตัวโรคซึมเศร้า
ยังไม่ได้รับการรักษา
** ผู้สูงอายุที่เป็นโรคซึมเศร้า อาจมีอาการหลงลืมง่าย สมาธิไม่ดี ทำให้คนรอบข้างหรือแพทย์ อาจเข้าใจผิดว่าเป็นโรคสมองเสื่อม
ทั้งที่ความจริงผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
การรักษาภาวะซึมเศร้า
การรักษาภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุประกอบไปด้วย การรักษาด้วยยาต้านเศร้า (Antidepressant) และ การให้คำปรึกษา/จิตบำบัด
ซึ่งการรักษาได้ผลดีไม่แตกต่าง จากภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยทั่วไป เพียงแต่การให้ยาต้านเศร้า อาจจะต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น
เนื่องจากผู้ป่วยมักมีโรคประจำตัวทำให้ต้องกินยาหลายอย่าง ทำให้มีโอกาสที่ยาอาจจะทำปฏิกิริยาต่อกัน และผู้สูงอายุมีโอกาส
เกิดผลข้างเคียงจากยาได้ง่ายกว่า
ป้องกันภาวะซึมเศร้าอย่างไร?
สิ่งที่สำคัญกว่าการรักษา คือ การป้องกันไม่ให้เกิดโรค สิ่งที่เป็นปัญหาและพบได้บ่อยๆ คือ ผู้สูงอายุหลายคนเกษียณแล้วก็อยู่บ้านเฉยๆ
ส่วนใหญ่ ไม่มีกิจกรรมอะไรทำที่ชัดเจน ไม่ได้ออกนอกบ้านไปไหน บวกกับส่วนใหญ่ลูกๆก็แยกบ้านไปหมดแล้ว ทำให้เกิดอาการซึมเศร้า
ได้ง่าย ดังนั้น สิ่งที่ช่วยป้องกันการเกิดภาวะซึมเศร้าได้ก็ คือ
1. การวางแผนก่อนเกษียณให้ดี โดยต้องคิดไว้ล่วงหน้าเลยว่าถ้าหยุดทำงานแล้ว จะทำอะไร
2. ผู้สูงอายุควรมีกิจกรรมทำเป็นประจำ เช่น ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 3-4 วันต่อสัปดาห์ หรืออาจทำงานเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้มีอะไรทำ
และรู้สึกว่าตัวเองยังสามารถทำอะไรได้
3. ควรมีการเข้าสังคมบ้าง เช่น อาจไปร่วมชมรมผู้สูงอายุ หรือจับกลุ่มพบประสังสรรค์กับเพื่อนที่อายุใกล้ๆ กัน
4. ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อที่ว่าหากเจ็บป่วยอะไร จะได้รับการรักษาตั้งแต่เริ่มแรก
การเผชิญหน้ากับ ภาวะซึมเศร้า สำหรับวัยสูงอายุ เป็นเรื่องที่หนักใจของใครหลายคน ทั้งญาติ ผู้ใกล้ชิด และตัวผู้สูงอายุเอง ดังนั้น
การเรียนรู้ และทำความเข้าใจ กับภาวะซึมเศร้า ก็จะช่วยให้สามารถเตรียมรับมือ กับปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ค่ะ