ทางออกของชีวิตคู่

สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องอยากปรึกษาปัญหาผัวๆ เมียๆ ฟังดูบางทีก็เป็นเรื่องซ้ำซาก ปัญหาทั่วไปของชีวิตคู่ เราคิดจะตั้งกระทู้หลายครั้งแล้ว พิมพ์แล้วลบอยู่ตลอด แต่ก็คิดว่าเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้เล่าไปก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี ..
ตอนนี้เราตัดสินใจที่อยากจะมาขอคำปรึกษาจากเพื่อนๆในนี้ค่ะ ซึ้งในชีวิตจริงของเรา เราไม่รู้จะไปปรึกษาใครดี จากเรื่องที่ปล่อยผ่าน ใช้คำว่า “ ช่างยิ้ม ” ตอนนี้สภาพจิตใจแล้วความเป็นอยู่มันยิ่งแย่ไปไกลแล้วค่ะ

ขอเกริ่นความเป็นมาของคู่เราคร่าวๆนะคะ เราคบกับสามีเรามา 10 ปีค่ะ คบกันตั้งแต่สมัยเรียน จนตอนนี้ทำงานกันแล้วค่ะ ยังไม่ได้วางแผนมีบุตร เนื่องจากสาเหตุของเราที่กำลังเจอปัญหาอยู่ ยังคิดไม่ตกว่าเขาจะสามารถเป็นพ่อของลูกเราดีแค่ไหน ..

เริ่มเรื่องคือ สามีเราเป็นคนไม่ใส่ใจรายละเอียดอะไรเลย ไม่สนใจสิ่งที่ควรจะสนใจใส่ใจเลย เราพูดเยอะ พูดมาก เตือนเขา เขากลับมองเราว่าบ่น รำคาญ รู้แล้ว เดินหนี คำพูดและพฤติกรรมแบบนี้ กลายเป็นสิ่งที่เขามักทำประจำตั้งแต่สมัยเรียนเป็นต้นมา

ยกตัวอย่าง ของการไม่ใส่ใจของสามีเรานะคะ
ช่วงสมัยเขาอยู่ปี 2 สามีได้รับอุบัติเหตุและช่วงนั้นเป็นช่วงใกล้จะสอบ เราไม่ได้เรียนที่เดียวกับเขา อายุน้อยกว่าเขา 2 ปี ณ ตอนนั้นเราได้แต่บอกและคิดว่าเขาจะแก้ปัญหาตรงนั้นของเขาได้ เพราะเรามองในตอนนั้นว่า ปัญหามันไม่ได้ใหญ่มากมายถึงขนาดเขาจะแก้ปัญหานี้ไม่ได้
หลังอุบัติเหตุเขาพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลประมาณ 2 สัปดาห์ ตอนนั้นเราไม่แน่ใจว่าเพื่อนมหาลัยเขารู้เรื่องนี้ไหม หลังจากพักรักษาตัวที่โรงพบาบาล เขากลับมารักษาตัวต่อที่บ้านเกือบ 1 เดือน ระหว่าง 1 เดือนก็คอยไปทำกายภาพสัปดาห์ละ 3 ครั้ง จนสามารถเดินได้แต่ไม่คล่อง เพราะต้องรอผ่าตัด จากเหตุการณ์รถล้ม เอ็นไขว่หลังสามีขาด แต่ระหว่างรอผ่าตัด สามารถเดิน หรือใช้ชีวิตได้ปกติอยู่ ช่วงระหว่าง 1 เดือนเขาอยู่บ้านเวลาว่างก็เล่นเกมส์อยู่ตลอด ตอนนั้นเรามองในแง่ดีว่าเขาอาจจะว่างเลยหาอะไรทำฆ่าเวลา จนระยะเวลาผ่านมาเรื่อยๆเขาไปเรียนอีกครั้ง ก็เรียนตามปกติ เขาขาดเรียนประมาณ 1 เดือน แต่พอจะเข้าสอบ เขากลับไม่มีสิทธิ์สอบ ทางคณะเรียกไปพบ บอกว่าเขาขาดเรียน เกรดที่ได้ไม่ผ่านขึ้นปี 2 พูดง่ายๆคือ รีโดนไทร์

เขากลับมาบ้าน บอกทุกคนว่าโดรรีไทร์แบบงงๆ เรามาสืบรู้ทีหลังคือ เขาไม่ยอมไปพบอาจารย์หรือติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษาเขา ใบรับรองแพทย์อะไรก็ไม่ได้ยื่น อันที่จริงจะทำเรื่องร้องขอ ณ ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าทำได้ไหม แต่เขาไม่ใส่ใจ สุดท้ายก็พัก 1 ปี หาที่เรียนใหม่

เข้ามหาลัยใหม่ เขาก็ไม่ค่อยใส่ใจอะไรกับชีวิตเขามากนัก เล่นเกมส์ ติดเกมส์ ผลพวงคงมาจากช่วงที่พัก 1 ปี ติดมาตั้งแต่ตอนนั้น ติดขึ้นเรื่อยๆจนเรากับเขาทะเลาะกันทุกวัน รุนแรงบ้าง น้อยบ้างปะปนกัน เพราะรักค่ะ มันถึงเลยเถิดมาถึงวันนี้ แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็เรียนไม่จบมหาลัย ในเมื่อเขาไม่เรียน โอเคไม่เรียนก็ทำงาน เพราะเราพูดไปย้ำหลายครั้ง เตือนหลายครั้ง จนเราเจ็บทุกครั้งที่บอกหรือเตือน จึงปล่อยเลยตามเลย

จนปัจจุบันนี้ เขากลายเป็นคนไม่สนใจอะไร มีปัญหาก็ไม่ค่อยบอก แก้ปัญหาหลายครั้งก็ผ่านไปที มีแม่เขาเข้ามาช่วยตลอด ความคิดของเขามีแต่ความฝัน แต่ยังไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

วันนี้เราโตแล้ว เราเริ่มรับไม่ไหวกับสิ่งต่างๆแบบที่ผ่านมาแล้ว แต่เพราะคำว่า รัก มันทำให้เราคิดจะทิ้งเขาไม่ได้ เรากลัวการเริ่มต้นใหม่ เราเองก็เริ่มต้นใหม่ไม่ถูก คบกันมานาน เราคิดไม่ออกว่าวันหนึ่งเราไม่มีเขา เราจะอยู่ได้ไหม มันเป็นความกลัวที่คิดไปเองต่างๆนาๆ ดูตลกเนอะ!

ตอนนี้ชีวิตคู่เรากำลังเจอปัญหาเรื่องเงินๆทองๆ ทางแก้ไขเราถามเขาแล้ว เขาบอกเออหน่า รู้แล้ว เดี๋ยวแก้ สุดท้ายก็เหมือนเดิม คือแก้ไม่ได้ แก้แบบผ่านๆ แก้ไม่ได้ 100% วนเวียนเป็นลูปเดิมเวลามีปัญหาเข้ามา

เราคบกับเขา เราไม่ค่อยปรึกษาอะไรเขาได้มากมาย เพราะเขาไม่ค่อยสนใจอะไรเท่าไหร่ ทุกวันนี้เวลาเขามีปัญหาอะไร เขาก็ยังเหมือนเดิม ไม่พูดกับใครตรงๆ โดนที่ทำงานต่อว่า เข้าใจผิด เขาก็เฉยๆ เราโตขึ้น ปัญหาในชีวิตมันใหญ่ขึ้นกว่าสมัยเด็ก เรากลัวว่าหากวันหนึ่งเขาเป็นคนไม่สนใจชีวิตแบบนี้ เราคงจะแย่มาก เราต้องทำยังไงบ้างคะกับชีวิตคู่นี้ เราเคยลองอ่านประสบการณ์คนอื่นมา ต่างแนะนำให้หันหน้าคุยกันแบบจริงจัง เราลองทำแล้ว เขาไม่ฟัง เขาเปลี่ยนเรื่อง ไม่รับความจริง ไม่รับ ไม่เอาอะไรเลย เราท้อแท้มาก ขอคำปรึกษาชี้แนะแนวทางด้วยนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่