เกริ่นยาวนิดนึงนะคะก่อนจะถึงคำถาม กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกค่ะ ปกติจะอ่านหาความรู้ความคิดเห็นเพื่อนๆ แต่วันนี้ขอถามจากเคสตัวเองนะคะ
เราแต่งงานมาได้ปีนึงค่ะ การเงินครอบครัวคือแยกกระเป๋ากันค่ะ เพราะว่าเราย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านเค้ากับครอบครัวเค้า (เค้าเพิ่งซื้อก่อนเจอเราได้ปีเดียวค่ะ) และผ่อนรถ 1 คัน นอกจากนี้แฟนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้านและพ่อแม่เค้า ส่วนเรารับผิดชอบค่าใช้จ่ายตัวเองค่ะ มีเวลาไปทานข้าวส่วนมากเค้าออก ผลัดกันซื้อของให้กันบ้าง
ทีนี้ด้วยพื้นฐานเราก่อนแต่งอยู่บ้านพ่อแม่ และมีรถตัวเองปลอดหนี้คันนึงค่ะ เราเริ่มต้นการลงทุนจากทอง กองทุนรวม ไปจนถึงหุ้น ตั้งแต่เรียน ป.ตรี ก็ทำมาเรื่อยๆ สะสมวิชาความรู้ใหม่ๆ ส่วนแฟน ด้วยภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ทำให้เค้าค่อนข้างเดือนชนเดือนค่ะ พอสิ่นปีมีโบนัส เค้าก็จะโอนให้เรา บอกว่าให้เราเก็บ (ทำมาตั้งแต่ก่อนแต่งค่ะ) เมื่อก่อนแฟนเป็นคนไม่ได้สนใจการการบริหารเงินหรือการลงทุนใดๆ เลยค่ะ จนเราเข้ามาจัดการทุกอย่างให้ ไม่ว่าจะเป็นการตัดค่าน้ำค่าไฟผ่านบัตรเครดิต (จากเมื่อก่อนจ่ายแบบเสียค่าบริการทุกครั้ง) ไปจนการผลักดัน ยันให้ไป retention ดอกเบี้ยบ้านและโปะต้น ทำตารางให้ดูว่า นี่เธอถ้าไม่ลดต้นเธอจะเสียดอกขนาดนี้นะ ประกันสังคม PVD Fund etc. จนเค้าค่อยๆ เค้าใจในเรื่องการบริหารเงินมากขึ้น จนหลังๆ เราค่อยๆ สอนเค้าเรื่องการลงทุนค่ะ แต่ด้วยความที่เค้าทำงานยุ่ง กลับดึกทุกวัน หรือการเงินยังตึงอยู่ และยังอยากที่จะลดหนี้มากกว่า
คราวนี้ หลังๆ มา เค้าเริ่มเหนื่อยและเครียดกับงานค่ะ ประกอบกับอ่านเรื่องการลงทุนมากขึ้น ทำให้เค้าเริ่มกังวลเรื่องการเกษียณว่า อีกหน่อยจะทำยังไง ตอนนี้หนี้บ้านก็ยังอีกเยอะ จะเปลี่ยนสายงานก็กล้าๆ กลัวๆ เราเห็นแล้วก็อยากช่วยค่ะ จึงเป็นที่มาของคำถามนะคะ ส่วนตัวเราเองวางแผนเงินเย็นของตัวเองจาก asset ทั้งหมด 60% เป็นการลงทุนในหุ้นและอื่นๆ etc. เพราะเรายังมีเวลาอีกมากกว่า 30 ปี (จขกท. ยังไม่ 30 นะคะ) เราจึงคิดว่า ถ้าเราทำแบบเดียวกันกับเงินก้อนที่สามีเราฝากไว้ที่เรา (เค้าบอกว่าเค้าให้เลย แต่เราแบ่งสัดส่วนชัดเจนค่ะ) ตอนนี้เงินก้อนนั้นเราเก็บไว้ใน MMF ค่ะ เพื่อเป็นสภาพคล่องให้เค้าค่ะ
อยากถามว่าคุณๆ ที่มีครอบครัวแล้ว หรือคุณผู้ชายจะคิดยังไงคะ ถ้าเราจะนำเงินก้อนนั้นไปกระจายการลงทุน ในหุ้น กองทุนต่างๆ หรืออื่นๆ เพราะว่าเราเสียดายเวลาและโอกาสค่ะ เก็บไว้ใน MMF นี่แพ้เงินเฟ้อกระจาย แต่อีกใจนึงก็กลัวไปทำเงินเค้าหดหาย เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง (แต่บนโจทย์คือระยะเวลา 30 ปี) เราอยากให้ของขวัญก้อนนี้กับแฟนในอีก 30 ปีข้างหน้าค่ะ (ระหว่างทางถ้าเค้าต้องการสภาพคล่อง เราสามารถสลับจากของเราไปให้เค้าได้ค่ะ) คุณภรรยาก็ตอบได้นะคะ เราอยากรู้ว่า แบบนี้มันเป็นการล้ำเส้นเค้าเกินไปรึเปล่า แต่ถ้าไม่ทำ เราก็ห่วงอนาคตเค้าเช่นกัน (แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่จุนเจือกันนะคะ แต่เพราะเราทำในส่วนของเราแล้ว ก็เลยไม่อยากเสียโอกาสในส่วนของเค้าค่ะ)
ปล.แฟนเราเป็นคนสมถะ อยู่ง่ายกินง่ายค่ะ ไม่บ้าวัตถุ เราก็เลยคิดว่าของขวัญแบบนี้มันน่าจะมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่าน่ะค่ะ แต่ก็มีซื้อของให้กันบ้าง แต่ส่วนมากจะเน้นเป็นการไปพักผ่อนตามต่างจังหวัดเพื่อผ่อนคลายมากกว่าสิ่งของค่ะ
เพิ่มเติมนะคะ
ปล.2 เงินจำนวนนี้เป็นจำนวนที่แฟนบอกให้เราเก็บไว้ เพราะว่าตอนแต่ง พ่อแม่เราไม่เรียกสินสอดค่ะ แต่ความตั้งใจเราก็คือ ชั้นเก็บไว้ให้เธอนั่นแหละ งั้นเดี๋ยวบริหารก่อนนะ เดี๋ยวคืนให้ เพราะว่าดีกว่าเก็บไว้เฉยๆ แฟนเราเป็นคนชอบดูปลาค่ะเวลาไปหาพ่อเราทีไร เลยคิดว่าเรามีที่อยู่ที่ตจว. ถ้าแก่ๆ แล้ว ยกให้นางเอาไปลงทุนทำบ่อปลาสักไร่นึง เอาให้เพลิน
ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
อยากแอบลงทุนให้สามีจากเงินที่เค้าให้ เป็นของขวัญในอนาคตค่ะ ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ กระทู้แรก ผิดถูกยังไงขออภัยล่วงหน้าค่ะ
เราแต่งงานมาได้ปีนึงค่ะ การเงินครอบครัวคือแยกกระเป๋ากันค่ะ เพราะว่าเราย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านเค้ากับครอบครัวเค้า (เค้าเพิ่งซื้อก่อนเจอเราได้ปีเดียวค่ะ) และผ่อนรถ 1 คัน นอกจากนี้แฟนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้านและพ่อแม่เค้า ส่วนเรารับผิดชอบค่าใช้จ่ายตัวเองค่ะ มีเวลาไปทานข้าวส่วนมากเค้าออก ผลัดกันซื้อของให้กันบ้าง
ทีนี้ด้วยพื้นฐานเราก่อนแต่งอยู่บ้านพ่อแม่ และมีรถตัวเองปลอดหนี้คันนึงค่ะ เราเริ่มต้นการลงทุนจากทอง กองทุนรวม ไปจนถึงหุ้น ตั้งแต่เรียน ป.ตรี ก็ทำมาเรื่อยๆ สะสมวิชาความรู้ใหม่ๆ ส่วนแฟน ด้วยภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ทำให้เค้าค่อนข้างเดือนชนเดือนค่ะ พอสิ่นปีมีโบนัส เค้าก็จะโอนให้เรา บอกว่าให้เราเก็บ (ทำมาตั้งแต่ก่อนแต่งค่ะ) เมื่อก่อนแฟนเป็นคนไม่ได้สนใจการการบริหารเงินหรือการลงทุนใดๆ เลยค่ะ จนเราเข้ามาจัดการทุกอย่างให้ ไม่ว่าจะเป็นการตัดค่าน้ำค่าไฟผ่านบัตรเครดิต (จากเมื่อก่อนจ่ายแบบเสียค่าบริการทุกครั้ง) ไปจนการผลักดัน ยันให้ไป retention ดอกเบี้ยบ้านและโปะต้น ทำตารางให้ดูว่า นี่เธอถ้าไม่ลดต้นเธอจะเสียดอกขนาดนี้นะ ประกันสังคม PVD Fund etc. จนเค้าค่อยๆ เค้าใจในเรื่องการบริหารเงินมากขึ้น จนหลังๆ เราค่อยๆ สอนเค้าเรื่องการลงทุนค่ะ แต่ด้วยความที่เค้าทำงานยุ่ง กลับดึกทุกวัน หรือการเงินยังตึงอยู่ และยังอยากที่จะลดหนี้มากกว่า
คราวนี้ หลังๆ มา เค้าเริ่มเหนื่อยและเครียดกับงานค่ะ ประกอบกับอ่านเรื่องการลงทุนมากขึ้น ทำให้เค้าเริ่มกังวลเรื่องการเกษียณว่า อีกหน่อยจะทำยังไง ตอนนี้หนี้บ้านก็ยังอีกเยอะ จะเปลี่ยนสายงานก็กล้าๆ กลัวๆ เราเห็นแล้วก็อยากช่วยค่ะ จึงเป็นที่มาของคำถามนะคะ ส่วนตัวเราเองวางแผนเงินเย็นของตัวเองจาก asset ทั้งหมด 60% เป็นการลงทุนในหุ้นและอื่นๆ etc. เพราะเรายังมีเวลาอีกมากกว่า 30 ปี (จขกท. ยังไม่ 30 นะคะ) เราจึงคิดว่า ถ้าเราทำแบบเดียวกันกับเงินก้อนที่สามีเราฝากไว้ที่เรา (เค้าบอกว่าเค้าให้เลย แต่เราแบ่งสัดส่วนชัดเจนค่ะ) ตอนนี้เงินก้อนนั้นเราเก็บไว้ใน MMF ค่ะ เพื่อเป็นสภาพคล่องให้เค้าค่ะ
อยากถามว่าคุณๆ ที่มีครอบครัวแล้ว หรือคุณผู้ชายจะคิดยังไงคะ ถ้าเราจะนำเงินก้อนนั้นไปกระจายการลงทุน ในหุ้น กองทุนต่างๆ หรืออื่นๆ เพราะว่าเราเสียดายเวลาและโอกาสค่ะ เก็บไว้ใน MMF นี่แพ้เงินเฟ้อกระจาย แต่อีกใจนึงก็กลัวไปทำเงินเค้าหดหาย เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง (แต่บนโจทย์คือระยะเวลา 30 ปี) เราอยากให้ของขวัญก้อนนี้กับแฟนในอีก 30 ปีข้างหน้าค่ะ (ระหว่างทางถ้าเค้าต้องการสภาพคล่อง เราสามารถสลับจากของเราไปให้เค้าได้ค่ะ) คุณภรรยาก็ตอบได้นะคะ เราอยากรู้ว่า แบบนี้มันเป็นการล้ำเส้นเค้าเกินไปรึเปล่า แต่ถ้าไม่ทำ เราก็ห่วงอนาคตเค้าเช่นกัน (แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่จุนเจือกันนะคะ แต่เพราะเราทำในส่วนของเราแล้ว ก็เลยไม่อยากเสียโอกาสในส่วนของเค้าค่ะ)
ปล.แฟนเราเป็นคนสมถะ อยู่ง่ายกินง่ายค่ะ ไม่บ้าวัตถุ เราก็เลยคิดว่าของขวัญแบบนี้มันน่าจะมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่าน่ะค่ะ แต่ก็มีซื้อของให้กันบ้าง แต่ส่วนมากจะเน้นเป็นการไปพักผ่อนตามต่างจังหวัดเพื่อผ่อนคลายมากกว่าสิ่งของค่ะ
เพิ่มเติมนะคะ
ปล.2 เงินจำนวนนี้เป็นจำนวนที่แฟนบอกให้เราเก็บไว้ เพราะว่าตอนแต่ง พ่อแม่เราไม่เรียกสินสอดค่ะ แต่ความตั้งใจเราก็คือ ชั้นเก็บไว้ให้เธอนั่นแหละ งั้นเดี๋ยวบริหารก่อนนะ เดี๋ยวคืนให้ เพราะว่าดีกว่าเก็บไว้เฉยๆ แฟนเราเป็นคนชอบดูปลาค่ะเวลาไปหาพ่อเราทีไร เลยคิดว่าเรามีที่อยู่ที่ตจว. ถ้าแก่ๆ แล้ว ยกให้นางเอาไปลงทุนทำบ่อปลาสักไร่นึง เอาให้เพลิน
ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ