(Spoil+แปล) ตัวอย่าง Oregairu เล่ม 12 จำนวน 5 หน้า จากทาง Akiba Blog

กระทู้สนทนา
หลังจากวางขายไป ก็มีกระทู้สปอยล์จากหลายๆ ที่มาลงบ้างแล้ว แต่ส่วนใหญ่มีแต่สปอยล์ส่วนสำคัญที่เป็นประด็นสุดของเล่มกันทั้งนั้น
ทีนี้มาลองดูหน้าตัวอย่างคร่าวๆ ที่ไม่ได้เจาะจงแต่ประเด็นหลัก จากทางเวบ Akiba Blog กันบ้างครับ มีทั้งหมด 5 หน้า (รวมภาพก็ 10)
ผมจะแปลตามที่พอแกะ พอแปลออกนะครับ

**พอดีพึ่งว่างมาลองอ่านลองแปล คิดว่าหลายๆ คนคงเคยเห็นแล้ว หรืออาจจะมีแปล Eng ที่เอาจากทางนี้ไปแปลแล้วก็ได้ (แต่ผมไม่ได้ลองหาดูนะ) ถ้าผิดตรงไหนช่วยแก้ด้วยนะครับ อมยิ้ม17**



อันแรก (2 บรรทัดแรกขอข้ามเพราะแกะตัวคันจิบางตัวไม่ออก น่าจะเป็นพรรณนาถึงความร้อน-ความอบอุ่นที่สัมผัสได้โดยฮิกกี้)

ในขณะที่กุมจับความอบอุ่นภายในจิตใจที่ยังหลงเหลืออยู่จากการที่ได้สัมผัสมาในคราวนั้น ผมก็ค่อยๆ มุ่งกลับไปยังทางม้านั่งที่ตัวเองเคยนั่ง
เพราะรู้ว่าความอบอุ่นที่รู้สึกได้นี้จะต้องหมดลงอย่างแน่นอน ผมจึงใช้เวลาเท่าที่มีอยู่อย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่ได้หยุดฝีก้าวแต่อย่างใด
ที่นั่งที่ผมลุกจากมานั้น ไม่มีใครนั่งอยู่ ความอบอุ่นที่เคยได้รับรู้นั้น ตอนนี้ยิ่งมีมากกว่าเดิม
ใกล้เท่าไรถึงจะเป็นระยะที่เหมาะสมนั้น จนถึงเดี๋ยวนี้ผมเองก็ยังไม่รู้
เพราะงั้น จึงได้แต่คิดไปว่า เท่านี้พอแล้วล่ะ ยังได้อีกก้าวน่ะ คิดวนเวียนไปแล้วก็ก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ
เช่นเดียวกับช่วงเวลา 1 ปีมานี้
คิดไปว่าเดินเข้ามาเท่านี้น่าจะพอแล้วรึเปล่า และลองตรวจดูระยะห่างอีกครั้งอย่างกระท่อนกระแท่น
ตอนที่ยังไม่รู้ถึงอะไรซักอย่างก็เดินเข้าหาอย่างไม่เกรงใจ และตั้งแต่ที่รับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่างก็เดินเข้าหาอย่างช้าๆ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น พอได้รับรู้ว่ายังไม่ได้เข้าใจอะไรเลยซักอย่าง ขานั้ันมันก็หยุดก้าวเดินไปซะอย่างนั้น
จากนี้อีกก้าว อย่างน้อยก็ครึ่งก้าว
แล้วผมก็หยุดยืน ที่ระยะตามที่คิดไว้นั้น




อันนี้ คร่าวๆ คือ เจอคาวาซากิกับน้องโดยบังเอิญ

เคย์กะอ้าปากกว้างชี้มาทางผมที่อยู่ตรงกระจก แล้วก็ทำปากพะงาบๆ อะไรซักอย่าง อะไรกันล่ะเนี่ย น่ารักชะมัด....
แต่นี่ไม่ใช่เวลามาอึ้งกับความน่ารักของเคย์กะ ไม่ทันไรคาวาซากิก็สังเกตเห็นผม แล้วก็สบตากัน
แล้วเราทั้งคู่ ต่างก็ผงกหัวให้กันเล็กน้อย
จากนั้น ต่างฝ่ายต่างก็นิ่งทื่อกันไปซะอย่างนั้น
(ขอข้ามตรงนี้นิดหน่อย เป็นการเปรียบเปรยของฮิกกี้ถึงอาการแน่นิ่งของทั้งคู่ กับพระหินจิโซ)
เอาล่ะ จากนี้คือคำถาม ถ้าเจอกับเพื่อนร่วมชั้นในเมือง ควรที่จะทำตัวด้วยแบบไหนถึงจะถูก! รีบกดปุ่มเลยครับ! ถูก 7 ข้อก่อนเป็นฝ่ายชนะ! ผิดได้ 3 ครั้งแบบแข่งกดปุ่มตอบคำถามเลย!
แต่ก็นะ Quiz นี้ไม่จำเป็นที่จะต้องถามกันหลายครั้ง คำตอบนั้นมันง่ายมาก
โดยเฉพาะกับอีกฝ่ายที่ไม่ได้หัวข้ออะไรพอจะพูดด้วย ก็ทำเป็นไม่สนใจไปแบบนั้นเลย แถมถ้าไม่ใช่เพื่อนร่วมห้องที่สนิทกัน การทักทายกันเล็กน้อย แล้วก็ถอยออกมาเลยถือว่าเป็นวิธีที่ฉลาด กลับกันถ้าเป็นเพื่อนที่สนิทกัน ก็แปลว่าสามารถพบเจอกันเมื่อไรก็ได้ เพราะงั้นก็ไม่จำเป็นต้องคอยพยายามชวนคุยด้วย แล้วก็ถอยออกมาจากตรงนั้นซะก็ได้ อะไรล่ะเนี่ย แบบนี้ก็แปลว่าไม่ว่าจะเจอใครข้างนอก การถอยกลับไปคือคำตอบที่ถูก...




อันถัดมา

"อะไรเนี่ย มีอะไรงั้นเหรอ"
โคมาจิยืดหลังตรง แล้วก็มองตรงมาทางนี้ เป็นท่าทางที่ไม่คาดคิด และเพราะแบบนั้นขนาดคามาคุระที่นอนอยู่บนตักก็ลุกขึ้นมาเหมือนรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะออกห่างจากผมไป
โดยที่ไม่สนใจกับท่าทีของหนึ่งคนกับหนึ่งตัว โคมาจิก็ส่งยิ้มมาให้
"พี่จ๋า ขอบคุณนะ ที่คอยช่วยเหลือดูแล"
พูดแบบนั้น แล้วก็จรดนิ้วมือก้มโค้งคำนับอย่างช้าๆ
พอเห็นแบบนั้น ผมก็ถึงกับลืมหายใจ ความคิดก็หยุดนิ่งไป เพราะท่าทางของโคมาจินั้นนอกเหนือจากความคาดหมาย แต่ก็ไม่ใช่เพียงแค่นั้น แต่ยังเพราะท่าทางของโคมาจินั้นงดงามในแบบที่ว่าถ้าเป็นตอนปกติแล้วไม่สามารถจะจินตนาการออกได้เลยด้วย เลยทำให้รู้สึกตะลึงงันไปเลย
พอรู้สึกตัวว่ากำลังอ้าปากค้างอยู่ ผมก็พยายามนึกหาคำพูดอย่างลุกลน
".....บ้ารึเปล่าเธอ อะไรล่ะน่ะ มันเขินนะ หยุดเลย"
"แฮะๆ อยากลองที่จะพูดดูนิดหน่อยน่ะ แต้มของโคมาจิคงสูงขึ้นเลยนะเนี่ย"
ถึงงั้นก็เถอะ โคมาจิที่บอกว่าล้อเล่นแล้วก็นวดเท้าตัวเองไปด้วยนั้น ที่แก้มยังคงมีสีแดงเรื่อๆ อยู่ เลยทำให้เหมือนกับว่ายังแกล้งทำไม่เลิกเลย
ยัยบ้า ถ้ามันน่าอายก็อย่าพูดสิ ทำให้ชั้นรู้สึกอายไปด้วยเลยไม่ใช่เรอะ แล้วก็ ถ้าจะแกล้งทำก็ให้มันดูเหมือนแกล้งทำมากกว่านี้หน่อยสิ
(2 บรรทัดท้ายมีตัวคันจิที่แกะไม่ออก ขอข้ามครับ)




อันนี้ขอข้ามบรรทัดแรกครับ เพราะไม่เต็มประโยค

แล้วอิชิกิก็ขยับเก้าอี้ไปตรงที่ที่มองเห็นสกรีนได้ชัด ยุยกาฮามะก็เอาโต๊ะที่เต็มไปด้วยขนมไปวางไว้ข้างหน้า เตรียมตัวกันเรียบร้อย .......เอ๊ะ? ตกลงจะดูหนังกันจริงอ่ะ?
ทำถึงขนาดนั้น ยูกิโนะชิตะคงคิดว่าคงได้แต่ต้องร่วมตามน้ำไปด้วยล่ะมั้ง ก็เลยเริ่มรินชาฝรั่งแล้ว .......ดูยังไงก็คงกะจะดูหนังกันแน่นอนแล้วสินะ
---------------
ภายในห้องที่ปิดม่านจนมืด มีเพียงแสงจากโปรเจคเตอร์ที่ส่องไปที่สกรีนเท่านั้น นี่ถ้าเป็นสภาพแวดล้อมอย่างในโรงหนังหรือ Theater room ละก็คงจะใจจดจ่อกับเรื่องราวได้เป็นอย่างดี
แต่ว่า ที่ที่พวกเราอยู่กันในตอนนี้ คือห้องของชมรมบริการ พูดก็คือเป็นสถานที่ที่มากันเป็นประจำอยู่แล้ว แค่มีสีสันเพิ่มขึ้นมาต่างไปจากวันทั่วๆ ไปเท่านั้น แต่ความรู้สึกผิดแปลกนี่มันเด่นชัดไปซะจนทำใจเย็นไม่ได้เลยจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น เสียงที่ออกมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นไม่ดังพอ แล้วก็แน่นอนว่าพอแต่ละคนก็ได้ยินไม่ชัด เลยต่างพากันขยับเข้าไปใกล้เครื่องคอมพิวเตอร์ กลายเป็นไปกระจุกกันอยู่ตรงนั้น
และเพราะแบบนั้น ก็เลยกลายเป็นว่านั่งเบียดเสียดกัน แล้วก็ต้องโดนตัวคนที่อยู่ข้างๆ คนนู้นทีคนนี้ที .... (บรรทัดสุดท้ายแกะไม่ออก)




อันนี้สุดท้ายละ ข้ามบรรทัดแรกเหมือนเดิมครับ เดาว่าช่วยกันเตรียมของแล้วอิโรฮะมาบอกยูกิโนะว่าบางอย่างหาไม่ได้มั้งนะ

พูดเสร็จ ยูกิโนะชิตะก็ยิ้มอย่างอ่อนๆ ให้ อิชชิกิก็ยิ้มตอบ รอยยิ้มนั่น ถ้าแค่ภายนอกก็ดูสวยดูน่ารักดีอยู่หรอก แต่ไม่รู้ทำไมกลับรู้สึกว่ามันน่ากลัวเป็นอย่างแรกก็ไม่รู้แฮะ.....
หันหน้าจากรอยยิ้มของทั้งคู่ แล้วก็จ้องลงไปที่งบบัญชีทดลองในมือ พูดตามตรง ถึงจะไม่ยังสามารถกำหนดจำนวนเงินและปริมาณของที่ต้องใช้ได้เพราะยังไม่มีข้อมูลที่ถูกต้อง แต่รายการข้าวของต่างๆ ในตอนนี้ดูเหมือนจะถูกประมาณการณ์ไว้แล้ว และถึงดำเนินการต่อไปแล้วมีสิ่งที่ต้องใช้จ่ายอีก จำนวนเงินสำรองหรือค่าใช้จ่ายส่วนเบ็ดเตล็ดก็เตรียมเผื่อเอาไว้จำนวนนึงอยู่แล้วด้วย
"เอาน่า ไม่มีปัญหาอะไรนี่ ถ้าไม่นับเรื่องที่ว่าค่าแรงงานมันหายไปน่ะนะ"
"งั้นเหรอ ขอบคุณที่ช่วยตรวจสอบนะ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับการเซ็นให้ผ่านอนุมัติ จะช่วยใส่วงกลมให้ตรงประเด็นข้อนั้นตัวโตๆ เลยดีมั้ย"
เล่นทำหน้ายิ้มแย้มซุกซนกลับมาแบบนั้น ทางนี้ก็ได้แต่ต้องยิ้มกลับสิ
ยูกิโนะชิตะหัวเราะคิกคักแล้วก็หยุดหัวเราะ ยื่นมือมาที่งบบัญชีทดลองที่ผมถืออยู่ แล้วก็ไล่นิ้วไปตามตัวเลข
"ยังไงก็เถอะ ตัวเลขมันยังไม่ fix แน่นอนล่ะนะ ในส่วนของการจัดเตรียมอาหาร เดี๋ยวจะเปลี่ยนไปใช้ของพ่อค้าที่เคยใช้ในงานเลี้ยงขอบคุณเมื่อปีก่อน เพราะงั้นในส่วนใบเสนอราคาของตรงนั้นขอให้รอไปก่อน ส่วนพวกดอกไม้ที่จะใช้ตกแต่งนั้น เนื่องจากชมรมต่างๆ มีกิจกรรมมอบช่อดอกไม้ให้นักเรียนที่จบการศึกษา เลยกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อรวมออเดอร์การสั่งดอกไม้ไว้ด้วยกันเพื่อให้ได้ราคาที่ถูกลงมา"
"โอะ....โอ้.....ยังงั้นเหรอ"



จากทั้งหมด 5 อันนี้ อันแรกผมว่าเด็ดสุดละ เพราะเป็นช่วงต่อกับเล่มก่อน และถ้าอ่านดูแค่นี้ มันเหมือนกับว่าช่วงต้นเล่ม มีนั่งกันที่ม้านั่ง 3 คน ฮิกกี้นั่งตรงกลาง ก่อนจะลุกเดินออกห่าง แล้วค่อยเดินกลับเข้ามาหาอีกครั้ง


ก็หมดเท่านี้ครับ แล้วเราก็รออ่านกันต่อปายยยย (เซนชูก็ออกแต่งานหนังสือ กว่าจะไล่ทันก็ 3 ปี.... เม่าเหม่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่