เราออกจากที่พักตอนสามทุ่ม เดินลัดเลาะตามตรอกเล็กๆระหว่างอาคารสีขาวสว่างตัดกับประตูหน้าต่างสีฟ้าเข้มของมัน ตึกรามบ้านช่องบริเวณ old town ถูกปลูกให้ติดชิดเหมือนพวกมันกำลังเอียงซบกันอยู่ ตลอดทางซ้ายขวาเป็นร้านค้า ร้านอาหาร บ้านคน และเกสเฮาส์ เขาหยุดแวะที่ร้านขายลูกอม ชื่อ Naxia ที่มีคนขายยืนส่งเสียงชักชวนให้เข้าไปชิมลูกอมกลิ่นหอมหวาน สีสันยั่วยวนของร้านเขา ผมไม่ได้ตามเข้าไปในร้านหรอกนะ ผมไม่คิดว่าเราจะต้องมาซื้อลูกอมหลากสีถึงบนเกาะกลางทะเล Aegean อีเจียน ผมก้าวเดินช้าๆ สักพักเขาก็เดินตามมาสมทบ
“เดี๋ยวขากลับผมจะแวะซื้อนะ ซาร่าชอบลูกอมแบบนี้”
ผมยิ้มในใจ พยักหน้ารับ เขาเป็นอย่างนี้เสมอ เรื่องรักน้องก็ส่วนนึง แต่หากเจอใครมอบไมตรีให้ เขาไม่เคยตระหนี่ที่จะมอบมิตรภาพกลับ และถ้าเดาไม่ผิดคนขายลูกอมร้านนั้นก็คงจะปากหวานไม่แพ้ลูกอมในร้าน
เราเดินต่อไป
มันเป็นค่ำคืนแรก และคืนเดียวของเราบน เกาะ นักซอส Naxos เกาะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหมู่เกาะ Cyclades คืนนี้เงียบสงบสวยงาม มีลมพัดเย็นสบาย สายลมแห่งเมดิเตอร์เรเนียน ที่ผมคุ้นเคย มันพัดมาทักทาย
“เราเจอกันอีกแล้วนะ”....
เราเดินเรื่อยลงมาจนถึงถนนเลียบหาดซึ่งอยู่ติดกับท่าเรือFerry ที่มาส่งเราเมื่อตอนกลางวัน ถนนเส้นนี้ไม่ได้ทอดเหยียดยาวหรือกว้างใหญ่อะไร แต่มันสวยมีเสน่ห์พอตัว ตอนกลางวันถ้าคุณมาแถวนี้ คุณจะเห็น Portara พอร์ทาร่า เด่นตระหง่านอยู่บนเนินเขาทางทิศเหนือ ตั้งโดดเด่นเหมือนมันคอยเฝ้ามองผู้คนที่เดินทางมาเยือนเกาะนี้ เราโชคดีตอนเย็นขับรถผ่านมาทันดูพระอาทิตย์ตกที่ตรงนี้ ทันเห็นแสงสีทองกระทบผืนน้ำก่อนที่จะมืดมิดลง
ผมอยู่ที่นี่ได้เป็นเดือนเลยนะ .....ถ้ามีเขาอยู่ด้วย
การเลือกร้านอาหารไม่ใช่สิ่งที่ผมชอบสักเท่าไหร่ แต่ถ้ามากับเขา ผมก็มักจะเป็นฝ่ายเลือก ยกเว้นบางมื้อที่เขาอยากทาน หรือไม่อยากทานอะไรเป็นพิเศษจริงๆ อย่างตอน ที่เราไปนีซ Nice ผมอยากทาน moules frites เหมือนคนอีกหลายล้านคนที่มากินหอยแหลงภู่แกล้มเฟร้นช์ฟรายส์ที่นีซ แต่เขาไม่ทานซีฟู้ด สุดท้ายเย็นนั้นเราก็ต้องเข้าสองร้าน ผมไปนั่งหน้าบึ้ง ดูเขากิน chicken masala ที่ร้านอินเดีย และเขาก็มานั่งดูผมกินหอยต้มจืดๆกลางจัตุรัส Place Rossetti ( เอาเข้าจริงๆผมไม่แนะนำหอยแมลงภู่ที่นีซนะ มันไม่ได้อร่อยเท่าไหร่นัก) แต่ไม่ใช่คราวนี้หรอก เราไม่ต้องมานั่งทานสองร้านอีก
เราเดินหาร้านอาหารไปเรื่อยๆ ผ่านร้านชื่อ Flamingo ได้ยินเสียงดนตรีกรีกดังลอดออกมา ดนตรีที่ไพเราะและมีเสน่ห์จนทำให้เราต้องหยุดฟังและชะโงกหน้าผ่านประตูเข้าไปหาต้นตอของมัน ผมเห็นเขายิ้มดวงตาเป็นประกาย เวลาคนเราเจอสิ่งที่ชอบดวงตามันจะเป็นประกายนะ และเราก็คงไม่อยากดับประกายในดวงตาของใครหรอกจริงมั้ย
โอเคที่นี่แหละ เราเดินเข้าไปในร้าน
Flamingo เป็นร้านอาหารของครอบครัว เปิดมาตั้งแต่ปี 91 สถานที่กว้างขวางใหญ่โต ถ้าคุณขึ้นไปนั่งชั้นสอง ก็จะมองเห็นวิวทะเลและเรือลำน้อยใหญ่ที่จอดเทียบท่า แต่เราเลือกนั่งด้านนอกของร้านบริเวณลานด้านหลัง เพื่อให้ใกล้กับวงดนตรีที่กำลังบรรเลงอยู่ ผมไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ในตอนแรกที่เข้าร้านมา คืนนี้ผมใส่เสื้อกล้ามกางเกงขาสั้น ชุดแบบนี้เหมาะกับไปนั่งกิน แซนด์วิช Gyros ตามร้านคาเฟ่มากกว่า ผมหงุดหงิดตัวเองที่ลืมว่าฝรั่งเขาแต่งตัวสวยงามออกมารับประทานอาหารเย็นในร้านแบบนี้ แต่ผมก็สลัดความงุดหงิดได้ทันที ที่นักดนตรีขึ้นบรรเลงเพลงต่อมา ผมแยกไม่ออกหรอกว่านี่ดนตรีกรีกร่วมสมัย กรีกสตริง หรือ กรีกโบราณ แต่ที่รู้แน่คือมันมีทำนองที่ไพเราะ สวยงามพอที่จะเล่นถวายเทพเจ้าเลยละ ว่ากันว่า อะพอลโล่เกิดบนเกาะนี้ และถ้าผมเป็นเขา ผมคงมานั่งฟังดนตรี ที่ร้านนี้ทุกค่ำคืน
ระหว่างที่เรารออาหารผมก็ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊คไปด้วย ปล่อยให้เขาเพลิดเพลินฟังดนตรีไป มีคนลุกไปเต้นหน้าวงดนตรีบ้างเวลาที่นักดนตรีเล่นเพลงจังหวะสนุกสนาน ผมชอบคู่สามีภรรยาชาวตะวันตกนะ พวกเขากล้าจะแสดงความรัก แสดงความสนุก แสดงอารมณ์ ชาวตะวันออกอย่างพวกเราถูกสอนให้เก็บอารมณ์มากเกินไป
อาหารจานแรกมาแล้ว เป็นจานที่ผมชอบที่สุด ผมสั่งแซตซิกิ Tzatziki โยเกิร์ตกรีกอันเข้มข้น ที่เคล้ามากับแตงกวาและกระเทียม ราดด้วยน้ำมันมะกอกทำเองของเกาะ ทานจิ้มกับขนมปัง พิต้า pita มันอร่อยล้ำจริง จานหลักของผมเป็นอาหาร Cypriot ชื่อ Kleftiko เนื้อแกะอบพร้อมมันฝรั่ง เสิร์ฟมาในกระดาษห่อจับจีบอย่างดี เป็นจานที่ผมสั่งแบบกล้าได้กล้าเสีย จากคำบรรยายบนหน้าเมนู มันเสี่ยงที่จะรสเลี่ยนและกลิ่นฉุน แต่ตรงกันข้ามรสชาติอาหารไซปรัสจานนี้ดีทีเดียว ......
“มันมีกระดูก” เสียงเขาเปรยเบาๆทำให้ผมหันไปเห็นเขากำลังค่อยๆแกะแงะคัดเนื้อไก่ออกจากกระดูกน่องเล็ก ที่ละน่อง ตอนนี้จานไก่ผัดซอสมะเขือเทศของเขาดูเละเทะไม่น่ามองเท่าไหร่ ผมเสนอจะแลกจานกับเขา ถามเซ้าซี้เขาอยู่สักพัก จนบรรยากาศตึงเครียด เขานิ่งเงียบ หันมาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆ
“ผมแค่นึกว่ามันเป็นไก่ฟิลเล่ต์ ผมกินไก่ได้ แค่ไม่ชอบแบบมีกระดูก คุณกินอาหารของคุณไปเถอะ”
น้ำเสียงคำพูดตัดบทของเขาทำผมโมโห ขณะที่ผมพร้อมจะโต้กลับด้วยคำพูดเสียดสี ท้าทาย พร้อมจะขึ้นเสียงคีย์สูงแข่งกับเครื่องสายที่นักดนตรีเล่นคลออยู่ ขณะนั้นเองลมก็โชยพัดมากระทบใบหน้า สายลมเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อนเก่า ที่เคยพัดผ่านมาเจอเราที่นีซเมื่อสี่ปีก่อน มันพัดโชยมาข้างๆเพื่อมาย้อนเล่าให้ผมหวนคิดถึงเรื่องราวที่นีซตอนนั้น และก่อนจะพัดหายไปมันลอยมากระซิบเบาๆบอกผมว่า
Use your secret recipe
ใช่สินะ ผมค่อยๆวางช้อนลงบนจานแล้วยื่นมือขวาไปลูบแขนของเขาที่กำลังขยับเลาะกระดูกไก่ไปมา ผมไม่ได้หันไปมองเขาหรอก ผมส่งผ่านความรู้สึกบางอย่างไปกับสัมผัสของมือผม สักพักเขาก็หยุด ผมหันไปสบตาพร้อมจับส้อมไปจิ้มไก่จากจานเขาป้อนเข้าปากตัวเองและไม่ได้พูดะไร ผมปลายตามองเห็นเขาอมยิ้ม เราทานอาหารต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมไม่รู้แน่ว่าทำไมเขาถึงยิ้ม ทำไมเราถึงหยุดไฟโมโหลง บางทีเจ้าสายลมเพื่อนเก่าอาจจะพัดไปกระซิบที่หูเขาเช่นกัน มันอาจจะกระซิบบอกเขาว่า don’t let stupid little things ruin your happiness. มันอาจจะบอกว่าอย่าให้ค่ากับสิ่งไร้สาระเล็กๆน้อยๆจนมาทำลายความสุข ความฝัน ความเป็นปัจจุบันกาลของเราเลย ไอ้ little stupid things อย่างกระดูกไก่ หรือคำเซ้าซี้ของคนใกล้ตัวนะปล่อยมันไป
มื้อนั้นจบลงด้วยโชว์เล็กๆของคนในร้าน ที่ออกมาเต้นรอบกองไฟ
ห้าทุ่มแล้วเราเดินกลับที่พัก ระหว่างทางเราผ่านร้านลูกอมร้านเดิมที่เขาตั้งใจจะซื้อ เสียดายที่มันปิดแล้ว สีหน้าเขาดูผิดหวังเล็กน้อย ผมแหงนหน้ามองฟ้า และขอพรกับอะพอลโล บุตรของซุส ขอให้ผมมีกำลังตลอดค่ำคืนนี้ เพราะดูท่าแล้ว คืนนี้ผมคงต้องใช้ secret recipe อีกสูตรของผมทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นเป็นแน่
Wind of love - Chapter 1 : secret recipe
“เดี๋ยวขากลับผมจะแวะซื้อนะ ซาร่าชอบลูกอมแบบนี้”
ผมยิ้มในใจ พยักหน้ารับ เขาเป็นอย่างนี้เสมอ เรื่องรักน้องก็ส่วนนึง แต่หากเจอใครมอบไมตรีให้ เขาไม่เคยตระหนี่ที่จะมอบมิตรภาพกลับ และถ้าเดาไม่ผิดคนขายลูกอมร้านนั้นก็คงจะปากหวานไม่แพ้ลูกอมในร้าน
เราเดินต่อไป
มันเป็นค่ำคืนแรก และคืนเดียวของเราบน เกาะ นักซอส Naxos เกาะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหมู่เกาะ Cyclades คืนนี้เงียบสงบสวยงาม มีลมพัดเย็นสบาย สายลมแห่งเมดิเตอร์เรเนียน ที่ผมคุ้นเคย มันพัดมาทักทาย
“เราเจอกันอีกแล้วนะ”....
เราเดินเรื่อยลงมาจนถึงถนนเลียบหาดซึ่งอยู่ติดกับท่าเรือFerry ที่มาส่งเราเมื่อตอนกลางวัน ถนนเส้นนี้ไม่ได้ทอดเหยียดยาวหรือกว้างใหญ่อะไร แต่มันสวยมีเสน่ห์พอตัว ตอนกลางวันถ้าคุณมาแถวนี้ คุณจะเห็น Portara พอร์ทาร่า เด่นตระหง่านอยู่บนเนินเขาทางทิศเหนือ ตั้งโดดเด่นเหมือนมันคอยเฝ้ามองผู้คนที่เดินทางมาเยือนเกาะนี้ เราโชคดีตอนเย็นขับรถผ่านมาทันดูพระอาทิตย์ตกที่ตรงนี้ ทันเห็นแสงสีทองกระทบผืนน้ำก่อนที่จะมืดมิดลง
ผมอยู่ที่นี่ได้เป็นเดือนเลยนะ .....ถ้ามีเขาอยู่ด้วย
การเลือกร้านอาหารไม่ใช่สิ่งที่ผมชอบสักเท่าไหร่ แต่ถ้ามากับเขา ผมก็มักจะเป็นฝ่ายเลือก ยกเว้นบางมื้อที่เขาอยากทาน หรือไม่อยากทานอะไรเป็นพิเศษจริงๆ อย่างตอน ที่เราไปนีซ Nice ผมอยากทาน moules frites เหมือนคนอีกหลายล้านคนที่มากินหอยแหลงภู่แกล้มเฟร้นช์ฟรายส์ที่นีซ แต่เขาไม่ทานซีฟู้ด สุดท้ายเย็นนั้นเราก็ต้องเข้าสองร้าน ผมไปนั่งหน้าบึ้ง ดูเขากิน chicken masala ที่ร้านอินเดีย และเขาก็มานั่งดูผมกินหอยต้มจืดๆกลางจัตุรัส Place Rossetti ( เอาเข้าจริงๆผมไม่แนะนำหอยแมลงภู่ที่นีซนะ มันไม่ได้อร่อยเท่าไหร่นัก) แต่ไม่ใช่คราวนี้หรอก เราไม่ต้องมานั่งทานสองร้านอีก
เราเดินหาร้านอาหารไปเรื่อยๆ ผ่านร้านชื่อ Flamingo ได้ยินเสียงดนตรีกรีกดังลอดออกมา ดนตรีที่ไพเราะและมีเสน่ห์จนทำให้เราต้องหยุดฟังและชะโงกหน้าผ่านประตูเข้าไปหาต้นตอของมัน ผมเห็นเขายิ้มดวงตาเป็นประกาย เวลาคนเราเจอสิ่งที่ชอบดวงตามันจะเป็นประกายนะ และเราก็คงไม่อยากดับประกายในดวงตาของใครหรอกจริงมั้ย
โอเคที่นี่แหละ เราเดินเข้าไปในร้าน
Flamingo เป็นร้านอาหารของครอบครัว เปิดมาตั้งแต่ปี 91 สถานที่กว้างขวางใหญ่โต ถ้าคุณขึ้นไปนั่งชั้นสอง ก็จะมองเห็นวิวทะเลและเรือลำน้อยใหญ่ที่จอดเทียบท่า แต่เราเลือกนั่งด้านนอกของร้านบริเวณลานด้านหลัง เพื่อให้ใกล้กับวงดนตรีที่กำลังบรรเลงอยู่ ผมไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ในตอนแรกที่เข้าร้านมา คืนนี้ผมใส่เสื้อกล้ามกางเกงขาสั้น ชุดแบบนี้เหมาะกับไปนั่งกิน แซนด์วิช Gyros ตามร้านคาเฟ่มากกว่า ผมหงุดหงิดตัวเองที่ลืมว่าฝรั่งเขาแต่งตัวสวยงามออกมารับประทานอาหารเย็นในร้านแบบนี้ แต่ผมก็สลัดความงุดหงิดได้ทันที ที่นักดนตรีขึ้นบรรเลงเพลงต่อมา ผมแยกไม่ออกหรอกว่านี่ดนตรีกรีกร่วมสมัย กรีกสตริง หรือ กรีกโบราณ แต่ที่รู้แน่คือมันมีทำนองที่ไพเราะ สวยงามพอที่จะเล่นถวายเทพเจ้าเลยละ ว่ากันว่า อะพอลโล่เกิดบนเกาะนี้ และถ้าผมเป็นเขา ผมคงมานั่งฟังดนตรี ที่ร้านนี้ทุกค่ำคืน
ระหว่างที่เรารออาหารผมก็ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊คไปด้วย ปล่อยให้เขาเพลิดเพลินฟังดนตรีไป มีคนลุกไปเต้นหน้าวงดนตรีบ้างเวลาที่นักดนตรีเล่นเพลงจังหวะสนุกสนาน ผมชอบคู่สามีภรรยาชาวตะวันตกนะ พวกเขากล้าจะแสดงความรัก แสดงความสนุก แสดงอารมณ์ ชาวตะวันออกอย่างพวกเราถูกสอนให้เก็บอารมณ์มากเกินไป
อาหารจานแรกมาแล้ว เป็นจานที่ผมชอบที่สุด ผมสั่งแซตซิกิ Tzatziki โยเกิร์ตกรีกอันเข้มข้น ที่เคล้ามากับแตงกวาและกระเทียม ราดด้วยน้ำมันมะกอกทำเองของเกาะ ทานจิ้มกับขนมปัง พิต้า pita มันอร่อยล้ำจริง จานหลักของผมเป็นอาหาร Cypriot ชื่อ Kleftiko เนื้อแกะอบพร้อมมันฝรั่ง เสิร์ฟมาในกระดาษห่อจับจีบอย่างดี เป็นจานที่ผมสั่งแบบกล้าได้กล้าเสีย จากคำบรรยายบนหน้าเมนู มันเสี่ยงที่จะรสเลี่ยนและกลิ่นฉุน แต่ตรงกันข้ามรสชาติอาหารไซปรัสจานนี้ดีทีเดียว ......
“มันมีกระดูก” เสียงเขาเปรยเบาๆทำให้ผมหันไปเห็นเขากำลังค่อยๆแกะแงะคัดเนื้อไก่ออกจากกระดูกน่องเล็ก ที่ละน่อง ตอนนี้จานไก่ผัดซอสมะเขือเทศของเขาดูเละเทะไม่น่ามองเท่าไหร่ ผมเสนอจะแลกจานกับเขา ถามเซ้าซี้เขาอยู่สักพัก จนบรรยากาศตึงเครียด เขานิ่งเงียบ หันมาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆ
“ผมแค่นึกว่ามันเป็นไก่ฟิลเล่ต์ ผมกินไก่ได้ แค่ไม่ชอบแบบมีกระดูก คุณกินอาหารของคุณไปเถอะ”
น้ำเสียงคำพูดตัดบทของเขาทำผมโมโห ขณะที่ผมพร้อมจะโต้กลับด้วยคำพูดเสียดสี ท้าทาย พร้อมจะขึ้นเสียงคีย์สูงแข่งกับเครื่องสายที่นักดนตรีเล่นคลออยู่ ขณะนั้นเองลมก็โชยพัดมากระทบใบหน้า สายลมเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อนเก่า ที่เคยพัดผ่านมาเจอเราที่นีซเมื่อสี่ปีก่อน มันพัดโชยมาข้างๆเพื่อมาย้อนเล่าให้ผมหวนคิดถึงเรื่องราวที่นีซตอนนั้น และก่อนจะพัดหายไปมันลอยมากระซิบเบาๆบอกผมว่า
Use your secret recipe
ใช่สินะ ผมค่อยๆวางช้อนลงบนจานแล้วยื่นมือขวาไปลูบแขนของเขาที่กำลังขยับเลาะกระดูกไก่ไปมา ผมไม่ได้หันไปมองเขาหรอก ผมส่งผ่านความรู้สึกบางอย่างไปกับสัมผัสของมือผม สักพักเขาก็หยุด ผมหันไปสบตาพร้อมจับส้อมไปจิ้มไก่จากจานเขาป้อนเข้าปากตัวเองและไม่ได้พูดะไร ผมปลายตามองเห็นเขาอมยิ้ม เราทานอาหารต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมไม่รู้แน่ว่าทำไมเขาถึงยิ้ม ทำไมเราถึงหยุดไฟโมโหลง บางทีเจ้าสายลมเพื่อนเก่าอาจจะพัดไปกระซิบที่หูเขาเช่นกัน มันอาจจะกระซิบบอกเขาว่า don’t let stupid little things ruin your happiness. มันอาจจะบอกว่าอย่าให้ค่ากับสิ่งไร้สาระเล็กๆน้อยๆจนมาทำลายความสุข ความฝัน ความเป็นปัจจุบันกาลของเราเลย ไอ้ little stupid things อย่างกระดูกไก่ หรือคำเซ้าซี้ของคนใกล้ตัวนะปล่อยมันไป
มื้อนั้นจบลงด้วยโชว์เล็กๆของคนในร้าน ที่ออกมาเต้นรอบกองไฟ
ห้าทุ่มแล้วเราเดินกลับที่พัก ระหว่างทางเราผ่านร้านลูกอมร้านเดิมที่เขาตั้งใจจะซื้อ เสียดายที่มันปิดแล้ว สีหน้าเขาดูผิดหวังเล็กน้อย ผมแหงนหน้ามองฟ้า และขอพรกับอะพอลโล บุตรของซุส ขอให้ผมมีกำลังตลอดค่ำคืนนี้ เพราะดูท่าแล้ว คืนนี้ผมคงต้องใช้ secret recipe อีกสูตรของผมทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นเป็นแน่