เกือบไม่ได้กลับจากเกาะ มีของแถม

เป็นเรื่องของเกาะสีชัง  ทุกอย่างเรื่องจริงเพราะมีคนยิ้มเรื่องของเราเยอะพอสมควร มีคนรู้เห็นเกือบทุกตอน  เราจะบอกชื่อบุคคลตรงๆ แต่ไม่บอกชื่อทีพักนะคะ มันหาเจอง่ายมากแล้วกลัวที่พักเสียหาย   คือเรื่องมันเกินเมื่อปีกว่าๆ เล่าก่อนว่าที่เราจะไปเที่ยวเราไปทำบุญกันก่อน อยู่ดีๆ ก็ช่วยกันไปทำบุญ เป็นวัดดังประจำจังหวัดเราก็พากันไปถวายสังฆทานก่อน  ปิดทองทำทุกอย่างแล้วก็เสี่ยงเซียมซี  เพื่อนชื่อสวยอ่ะมันได้ประมาณว่า นกกำลังจะพากันบินแล้วจะมีนกหนึ่งตัวที่อาจไม่ได้กลับ  เราก็คิดว่าไม่ใช่เราแน่ๆ  ต้องเป็นที่เพื่อนชื่อเบนแต่เราไม่บอกมันรู้ไม่กี่คนเรื่องเซียมซี    เราก็ไปกันสนุกเฮฮามากไปถึงที่พักเราก็รอขึ้นที่พักเพราะมีคนพักอยู่ เราก็พูดกันขำๆ ว่า  "ถ้ามีผี  ผีต้องกลัวเราจนหนีอ่ะ"  ลบหลู่รอบแแรก  เราก็เดินสำรวจที่พักข้างหลังเป็นวัดเราก็ใจไม่ดีล่ะ  หลังจากนั้นเราก็ขึ้นที่ พักกินเหล้ากันเล็กหน่อยแล้วออกไปเที่ยว พอสองทุ่มก็มานั่งกินสุกี้  เล่นไผ่  บอกเลยเพื่อนเราตีนหนักมากที่พักเป็นบ้าน2 ชั้น 2 ห้องนอน  2 ห้องน้ำ มีห้องรับแขกแต่ประตูห้องน้ำกับห้องนอนมันตรงกันพอดี  เรื่องทางผ่านผี (ตอนนั้นเราไม่รู้) ข้างล่างเป็นห้องเก็บของของที่พัก  แล้วเดินจะดีงตึงๆๆ  ตลอด  เราอาบน้ำคนแรก ห้องที่ประตูตรงกัน  อยู่ๆ ไฟก็ดับเพื่อนแกล้ง เรากรื้ดหนักเพราะเห็นเงายืนข้างหน้าเรา แบบทำไรไม่ถูกร้องไห้  ทุบบอก กูไม่เล่นเปิดๆ   มันก็ขำกัน  ไม่ยอมเปิด  จนมันสงสารเลยเปิดเราก็ออกมาด่าพวกมันแต่เราไม่บอกเรื่องเห็น   พอกินเหล้าเราก็เทเหล้าลงพื้นให้เจ้าที่   มานั่งกินกัน  พอเรารู้ไม่ไหวเราก็ขอนอนก่อนมันเป็นห้องนอนได้ 10 คนได้ คนยังไม่เมาก็หนีไปกินห้องรับแขกเรานอนกับเพื่อน 3 คน  คือเรามีสติ เห็นเหมือนมีเงายืนปลายตีน เราก็คิดว่าเขาแบบมาแกล้งงี้ เราก็คิดในใจนะว่า  หนูไม่เล่นแล้วหนูจะนอน แล้วเหมือนเขาเปลี่ยนมาจับแขนเราเพราะตรงแขนเราเย็นเราห่มผ้าห่มดีมากไม่มีทางแอร์เข้ามาได้  เราก็ด่าไปกูไม่เล่นกับ  เข้าใจคนเมาปะอะไรก็ไม่กลัว  เราก็หลับไป  ตื่นได้ยินเสียงเอะอะ 20 นาที ก่อนตี3 เพราะเพื่อนเรานั่งเล่นโทรศัพท์เลยจำ วันนั้นเป็นพระใหญ่ที่ต้องไปเวียนเทียนกันอ่ะ  เราตื่นเดินไปหาเหล้าแล้วบอกอยากเมา  เพื่อนก็จัดให้แบบเพียว  พอไปสักพักปากเริ่มสั่นเราก็ตบปากตัวเอง  แรงมากแบบหน้าชา เพื่อนก็ขำกัน แล้วอยู่ดีๆ เราก็ร้องไห้บอกเลยเรารู้ตัวทุกอย่าง (ตอนนั้นตี 3 เป๊ะ เพื่อนเราบอก)  ใครทำอะไรจำได้หมดแต่ไม่มีแรง  สั่นไปทั้งตัวเพื่อนก็คิดว่าเราแกล้ง   ก็ขำกันอีก  เราแบบร้องไห้หนักนิ้วเกร็ง ตัวเย็นมาก (อันนี้เพื่อนบอก มันเล่าให้ฟังตอนมีสติ) พวกมันก็เริ่มเครียดกันล่ะแบบฝนเล่นไร พวกกูไม่ตลก เขย่าแรงๆ  จับมือจับขา เราได้แต่ร้องไห้ แบบไม่ไหวแล้ว  มันก็รีบปลุกเพื่อนทุกคน  ตอนแรกมันบอกจะพาไปโรงบาลไหม  มันเถียงกัน  เพื่อน 2-3 คน  นั่งนวดให้เราเพราะตัวเราเกร็งเขียวไปหมด  เราร้องไห้นานมาก   เพื่อนชื่อจูนมันก็เล่าให้ฟังว่าคิดแต่แรกว่าผีเข้า  แต่เพื่อนก็ว่าแบบมันเป็นไปไมได้    พอหนักๆ เราก็ดิ้นจะไปข้างนอกแบบมันอึดอัดไปหมด เพื่อนก็ตะโกนกัน ฝนจะไปไหน  เป็น ยิ้มไร  เราคิดใจว่ากูไม่ไหวกูเหนื่อยเหมือนจะขาดอากาศหายใจ  เราพยายามออกข้างนอกแต่มันเป็นบันไดคือออกไปเราตายแน่ๆ ตรงระเบียงพอให้เราดิ้นตกไปได้ตัวเราเล็กแล้วช่องใต้ที่นั่งกว้างมาก  เราพยายามสื่อสารกับเพื่อนให้มากที่สุด  เราพยายามชี้ไปประตู มันมองหน้ากันมันเลยยกตัวเรา 5-6 คน เพราะตัวหนักมาก เราหนักแต่ 43 เองตอนนั้น   ด้วยความเรามีสติแต่ร่างกายไม่ใช่ของเราแล้วไงสั่นไปหมด เราก็นึกถึงเรื่องที่ห้องน้ำเพราะเราเห็นเขาเป็นที่แรก เราพยายามดิ้นสุดแรงเกิดแบบพวกปล่อยกู คิดในใจ ดิ้นไปร้องไห้ไป  ตัวสั่นนิ้วเกร็งตัวเขียว ชำไปหมด  แต่เพื่อนไม่เข้าใจ  ผลักให้เรานอน เอ้า นั่งทับกูด้วย  พวกมันนวดมือนวดตีนตลอดเพราะตัวเราเขียวช่ำ เกร็งไป ตัวเราเย็นมาก เราแบบทำไรไม่ได้ เพื่อนเราฉลาดมากใช้เทคโนโลยี ได้เกิดประโยชน์สูงสุด เปิดยูทูปบทสวดพาหุง  เราคลั่งแบบดิ้นแรงมันฟังแล้วหงุดหงิดรำคานปัดโทรศัพท์เพื่อนตก   มันเอาสร้อยมาให้ใส่ เราก็เริ่มโอเคขึ้นนิดนึง    เทคโนโลยีเขามาช่วยอีกครั้งเปิดบทสวดมนต์นั่งสวดเองเลยจ้า แต่มันท่องไม่ได้ (มันนั่งท่องไม่จบบท  เหมือนเขาไม่ให้ท่อง)  มันให้เราสวดมนต์ตาม จับมือแต่มือเราง้อแบบไม่มีแรงบังคับตัวเอง ร้องไห้ตลอดเวลา จนเราดิ้นแรงมากแบบเตียงสูงมาก  จนทิ้งตัวเองลงข้างเตียงหัวแตกชั่งมัน กูไม่ไหว   ตอนนั้นเหมือนคนบ้าเพื่อนปล่อยเราอยากทำอะไร  ชั่งมัน ดูห่างๆ   เราคลานไปกราบห้องน้ำ  พูดในใจบอกหนูขอโทษ แล้วเหมือนก็เริ่มดีขึ้นเราหมดแรงไปหมด ตอนนั้นเหมือนตี 5 ได้
ตอนเช้าเราตื่นเราได้ยินคุยกัน เราก็เดินออกมา มานั่งกับพวกมัน มันถามว่ารู้ไหม เป็นไร   เราบอกกูคุมตัวเองไม่ได้พูดไปจะร้องไห้ไป มันก็บอกไปปลุกเพื่อนทุกคนไปทำบุญวัดข้างหลังที่พัก ไปซื้อดอกไม้ กับข้าวเสร็จไปวัดเลยไปชุดนอนอย่างงันเลย เราเข้าไปไม่ร้อนนะ แต่แค่แบบอึดอัด เรามองศาลามีแต่คนห่มขาวทุกคนแบบวันพระใหญ่  ทุกคนหันมามองพวกเราก็เดินไปนั่งฟังบทสวด  ตอนฟังไปร้องไห้ไปแต่ไม่สั่น เพื่อนบอกว่าพระนั่งมองเราตอนสวดมนต์ เราไม่รู้ก้มหน้าร้องได้  สวดเสร็จเราก็หยุดร้องไห้ ตอนสวดรู้สึกมีอะไรเย็นนั่งข้างๆ  แต่ข้าง เราไม่มีใคร แม่ชีก็เดินมาชวนเรากินข้าวเราก็แบบเอาว่ะ อยู่วัดดีกว่า   เราชอบวัดนี้มาก  ใครไปเกาะเราอยากให้ไปวัดนี้มาก  เรากินข้าวแบบค่อยๆ ส่งกันตักจนถึงปลายแถวคือเรา  เป็นข้าวบารตพระที่เราชอบมากกินครั้ง แรกทุกคนประทับใจมาก ฮาวทูกินข้าวบารตพระไปอีก (เราคิดไว้สักวันเราจะกลับไปที่นั้นอีก แต่ไม่ใช่เร็วๆ นี้)
พอเสร็จเราก็ช่วยล้างจาน  จนเสร็จก็พากันเดินไปที่พักเพราะมันติดกันไง  อาบน้ำเสร็จไปเที่ยวกันต่อคิดว่าทุกอย่างจบแล้ว
อันนี้ความผิดเราแน่ๆ อยู่ดีๆ เรานึกถึงตอนที่สิงเรา เรารู้สึกว่าเขาน่าสงสาร เขาทรมารเราเลยคิดในใจก่อนกลับ ว่า "มาอยู่กับหนูไหม แต่ห้ามทำอะไรหนูนะ"
วันจันทร์ไปโรงเรียนปกติไม่มีใครพูดเรื่องนี้ เรานับถือครูคนนึง เหมือนเขามีของอ่ะ เราจะเรียกว่า พ่อ  ปกติพ่อจะเดินตรวจโรงเรียนตรงเรานั่งทุกวัน  
พวกเราคิดว่าจะถามเรื่องที่เราเจอมา  แต่พ่อเห็นเราเขาหันหลังกลับ เราไม่ยอมวิ่งตาม   พอกลุ่มเราไปพ่อบอกให้เงียบ เราก็เริ่มใจไม่ดีล่ะ พ่อพูด "กลับไปซะ ไม่ใช่ที่ของเรา"
   เราร้องไห้  ล้มหงายหลังเพื่อนช่วยรับ  พ่อบอกให้พาไปห้องวงโย  วงโยเป็นห้องประจำชั้นเรา  เพื่อนอุ้มเรา 3-4 คน เพราะตัวหนักร้องไห้แล้วเหมือนเกาะเป๊ะ  พ่อมานั่งแล้วก็ทำไรไม่รู้ เราไม่โอเคเลยมันอึดอัด  เราคิดในใจว่าหนูเหนื่อยหนูไม่อยากอยู่  หนูไม่ไหว ช่วยหนูด้วย ครูประจำชั้นยืนมองเลยไปยิบน้ำมนต์หลวงพ่อโสธรวัดที่เราไปทำบุญ  มาแล้วสาดใส่เรา พูดเลยเราคิดมันว่ามีแค่ในหนัง  แต่ตอนนั้นเรากรื้ดแบบสุดเสียงแบบมันไม่ร้อนนะเว้ยแต่มันแบบอธิบายไม่ถูก  ตอนนั้นเราเหลือบไปเห็นพระองค์ใหญ่พยายามชี้ให้ยกมา ครูยกมาให้เรากราบ เราแบบกลัวไปหมด หลังจากนั้นเราก็เริ่มสงบครูโทรหาพ่อแม่ให้มารับเรา  พอพ่อมาเรากอดพ่อร้องไห้แบบหนูเหนื่อย  พ่อก็พาเราไปวัดหาพระ  พระก็ให้แหวนมาใส่เราก็โอเค  แต่ช่วงนั้นเราสวดมนต์ไม่ได้เลย  มือสั่น เหงื่อออก  เราไม่อยากสวดมนต์ตอนเช้า  
จะบอกว่าเราเจอผีอ่ำบ่อยมากหลังจากนั้น  แบบมานอนด้วยก็มี มานั่งทับเจ็บเอว  นอนแล้วดึงขา  เลยไปหาพ่อให้ใส่สายสินพ่อบอกห้ามถอด  นอกจากขาดเอง  แต่อยู่ดีก็หายแบบงง  เรารู้ตัวตอนโดนผีอ่ำ เลยไปให้พ่อใส่อีกรอบ รอบนี้พ่อเอาแป้งสีขาวๆ มาเขียนหน้าผากเรา เอาแผนทองไว้แปะพระมาแปะเรา    แล้วให้สวดทุกวันบทสวดแบบยาวมาก พาหุงบทยาว สวดมนต์นานมาก  เราไม่ทำ เราสวดไม่ได้ เวลาเจอพ่อเราจะใจไม่ดีแบบอึดอัดแล้วเราต้องเรียนกับพ่อ เราใจหายแบบใจเสียแบบต้องเรียนหรอกลัว ถึงเวลาเรียนเรานั่งร้องไห้มือเย็นมาก พ่อก็มองแต่ไม่ทำไรปล่อยเรานั่งร้องไห้ จนหมดคาบพ่อเดินมาจับหัวแล้วท่องอะไรสักอย่าง
เป็นแบบนี้เกือบทุกคาบของพ่อ  พ่อของเพื่อนเลยแนะนำไปหาพระวัดนี้ เพราะเพื่อนรู้เรื่องของเราหมด  เราก็ไปคืออะไรช่วยเราได้ไปหมด เรากลัวจิตตกเป็นเดือนๆ นอนไม่ได้กลัวไปหมด  ตอนแรกพระมองเรา พระให้กินน้ำมนต์  เราก็กินแล้วก็อ้วก รสชาติแบบของเน่า กลิ่นเหม็นปูน  เรากินไม่ได้อ่ะ พระเลยให้อาบน้ำมนต์แล้วเอามีดมากดตามตัวเรา  ถามว่าหนักตรงไหน  เราบอกตรงไหล่ เขาก็เอามีดมากดอีกรอบ เรากลับมาพร้อมน้ำมนต์ผสมน้ำอาบทุกวัน  น้ำมนต์มากินเราไม่ทำเลย  เราดื้อแบบไม่อยากทำ กินแล้วก็อ้วกจะกินทำไม จนสายสินหายอีกรอบ  พ่อก็ด่าเราแบบมันดื้อ  พูดอะไรไม่เคยฟังเอาจิตไปผูกกับเขาทำไม ไปสงสารทำไมผี เราถามว่าเขาตายยังไง พ่อบอกจ่มน้ำตาย จากนั้นมาเราก็แบบทำไรไม่ถูกโดนด่าทุกครั้งที่เจอ  เราเป็นคนพูดอะไรไม่เคยฟังเราเลยพยายามนั่งสมาธิแทนสวดมนต์ก็ดีเกือบปกติ  คุมสติให้อยู่  บอกจริงๆถ้าตอนนั้นเพื่อนเราไม่มีสติ  เราอาจตายไปแล้ว  
เรื่องจริง พยายามเขียนให้สั้นที่สุด  อาจจะงงเพราะเรื่องมันเกิดนานล่ะมั้ง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่