
"กระทรวงพาณิชย์" ยืนยันการระบายข้าวทุกขั้นตอนโปร่งใส ชี้หากผู้ชนะประมูลไปใช้ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์มีความผิดทางแพ่งและอาญา
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยกรณีที่มีการ ตั้งข้อสังเกตมีข้อพิรุธในการระบายข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมว่า กรมการค้าต่างประเทศในฐานะอนุกรรมการและเลขานุการคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ขอเรียนว่ากรณีบริษัท วีออร์แกนนิกที่เข้าประมูลซื้อข้าวไปทำปุ๋ยนั้น ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่บริษัทใช้ยื่นประมูล โดยคณะทำงานเปิดซองร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมและกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปรากฏว่ามีคุณสมบัติถูกต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของประกาศประมูลข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม ที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 1/2560 และเมื่อบริษัทได้รับมอบข้าวที่ซื้อไปแล้วจะต้องนำข้าวที่ซื้อไปทำปุ๋ยตามที่แจ้งไว้ในการประมูล ซึ่งตามเงื่อนไขประกาศประมูลกำหนดไว้ หากปรากฏว่า บริษัทนำข้าวที่ได้จากการประมูลไปใช้ไม่ตรงตามวัตถุประประสงค์ที่แจ้งไว้ในการประมูล ก็เป็นความรับผิดชอบของบริษัท ที่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา โดยองค์การคลังสินค้า (อคส.) ในฐานะคู่สัญญาจะเป็นผู้รับผิดชอบบังคับให้เป็นไปตามที่บริษัทต้องรับผิดต่อไป
"กรณีหลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นที่ให้ระงับการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 2/2560 และการระงับการทำสัญญาซื้อขายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 2/2560 ทำให้สามารถดำเนินการระบายข้าวได้ตามปกติต่อไป ซึ่งในประเด็นนี้มีสื่อบางสำนักกล่าวหาในทำนองว่าผู้ปฏิบัติงานชะลอการปฏิบัติงานไม่ดำเนินการระบายข้าวในสต๊อกนั้น ยืนยันว่า การระบายข้าวในสต๊อกของรัฐ เป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่างเป็นระบบ คือ ต้องผ่านการพิจารณาของคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐ และคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ตามกรอบที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ให้ความเห็นชอบ ซึ่งมิได้เป็นการตัดสินใจของกรมการค้าต่างประเทศเพียงหน่วยงานเดียวตามลำพัง"
ส่วนที่ยังไม่มีการระบายข้าวโดยทันทีทันใดหลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดกลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น เนื่องจากมีข้อร้องเรียนจากเจ้าของคลังบางรายที่มีข้อข้องใจเรื่องการตรวจสอบคุณภาพข้าว รัฐบาลจึงให้มีการตรวจสอบในเรื่องนี้ จนได้ทราบชัดเจนแล้วว่า การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความถูกต้อง ประกอบกับการที่รัฐบาลจำเป็นต้องระบายข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมที่มิใช่การบริโภคของคน ต้องมีการกำหนดมาตรการ และการกำกับควบคุมดูแลมิให้ผู้ซื้อข้าวลักลอบนำข้าวดังกล่าวไปขายในตลาดการค้าข้าวปกติเพื่อผู้บริโภค ดังนั้น การระบายข้าวที่เตรียมการไว้แล้วในครั้งต่อไปซึ่งมีปริมาณมาก จำเป็นต้องรอความพร้อมในด้านบุคลากรของหน่วยงานปฏิบัติที่มีหน้าที่ควบคุมกำกับดูแลมิให้มีการลักลอบนำข้าวไปขายในตลาดข้าวบริโภค ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการระบายข้าวในครั้งต่อไปได้ในไม่ช้า มิได้มีหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเกียร์ว่าง ตามที่กล่าวหาแต่อย่างใด
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/774132

"วิษณุ" ลั่นผลตรวจสอบโกดังข้าวรัฐชัด ไม่พบขายข้าวดีเป็นข้าวเน่า ชี้ "พล.ต.อ.เดชณรงค์" ขยันลงพื้นที่ทุกวัน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กรณีการตรวจสอบการระบายข้าวในโกดังรัฐบาลว่า มีการรายงานเข้ามาเป็นระยะ และมีการประชุมกันแล้ว 2-3 ครั้ง และมีการรายงานผลการตรวจสอบเข้ามาเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งได้รายงานนายกฯ ด้วย และเท่าที่มีการายงานมานั้นยังไม่พบการนำข้าวดีไปขายเป็นข้าวเน่า ที่พบเป็นเรื่องอื่นเช่นการใช้สารเคมีกับข้าว ซึ่งกำลังให้ตรวจสอบเพิ่มเติม
เมื่อถามว่า มีการเปิดเผยว่าการระบายข้าวมีการนำข้าวดีไปขายเป็นข้าวเน่าในราคาถูก นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่มีการรายงานมาแบบนั้น เมื่อถามว่าการตรวจสอบครั้งนี้กังวลว่าจะถูกเอกชนวางยารัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่มีการายงานว่ามีอะไรที่ผิดปกติเช่นนั้น 8 โกดังที่ได้ตรวจสอบก็ยังไม่มีอะไรผิดปกติ และเชื่อว่าจะเป็นไปตามกรอบที่นายกฯให้ไว้ 30 วัน เพราะเขาขยันตรวจสอบลงพื้นที่ทุกวัน พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานตรวจสอบการระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาลก็รายงานมาทุกวันว่าตรวจสอบอะไรไปบ้าง แต่เมื่อการตรวจสอบเสร็จแล้วคงต้องมีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวิเคราะห์อีกครั้ง
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/773999
รับรองกันอย่างนี้แล้ว ใครข้องใจก็เสาะหาข้อมูลมาโต้ตอบกันค่ะ
แต่มาลารินเชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาลนี้ที่ไม่ปล่อยให้เกิดความเสียหายซ้ำรอยรัฐบาลที่ผ่านมา
~มาลาริน~**เรื่องที่ต้องนำมาบอกต่อกันค่ะ..👉พาณิชย์ยันระบายข้าวทุกขั้นตอนโปร่งใส รองฯวิษณุลั่นไม่พบขายข้าวดีเป็นข้าวเน่า
"กระทรวงพาณิชย์" ยืนยันการระบายข้าวทุกขั้นตอนโปร่งใส ชี้หากผู้ชนะประมูลไปใช้ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์มีความผิดทางแพ่งและอาญา
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยกรณีที่มีการ ตั้งข้อสังเกตมีข้อพิรุธในการระบายข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมว่า กรมการค้าต่างประเทศในฐานะอนุกรรมการและเลขานุการคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ขอเรียนว่ากรณีบริษัท วีออร์แกนนิกที่เข้าประมูลซื้อข้าวไปทำปุ๋ยนั้น ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่บริษัทใช้ยื่นประมูล โดยคณะทำงานเปิดซองร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมและกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปรากฏว่ามีคุณสมบัติถูกต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของประกาศประมูลข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม ที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 1/2560 และเมื่อบริษัทได้รับมอบข้าวที่ซื้อไปแล้วจะต้องนำข้าวที่ซื้อไปทำปุ๋ยตามที่แจ้งไว้ในการประมูล ซึ่งตามเงื่อนไขประกาศประมูลกำหนดไว้ หากปรากฏว่า บริษัทนำข้าวที่ได้จากการประมูลไปใช้ไม่ตรงตามวัตถุประประสงค์ที่แจ้งไว้ในการประมูล ก็เป็นความรับผิดชอบของบริษัท ที่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา โดยองค์การคลังสินค้า (อคส.) ในฐานะคู่สัญญาจะเป็นผู้รับผิดชอบบังคับให้เป็นไปตามที่บริษัทต้องรับผิดต่อไป
"กรณีหลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นที่ให้ระงับการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 2/2560 และการระงับการทำสัญญาซื้อขายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 2/2560 ทำให้สามารถดำเนินการระบายข้าวได้ตามปกติต่อไป ซึ่งในประเด็นนี้มีสื่อบางสำนักกล่าวหาในทำนองว่าผู้ปฏิบัติงานชะลอการปฏิบัติงานไม่ดำเนินการระบายข้าวในสต๊อกนั้น ยืนยันว่า การระบายข้าวในสต๊อกของรัฐ เป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่างเป็นระบบ คือ ต้องผ่านการพิจารณาของคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐ และคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ตามกรอบที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ให้ความเห็นชอบ ซึ่งมิได้เป็นการตัดสินใจของกรมการค้าต่างประเทศเพียงหน่วยงานเดียวตามลำพัง"
ส่วนที่ยังไม่มีการระบายข้าวโดยทันทีทันใดหลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดกลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น เนื่องจากมีข้อร้องเรียนจากเจ้าของคลังบางรายที่มีข้อข้องใจเรื่องการตรวจสอบคุณภาพข้าว รัฐบาลจึงให้มีการตรวจสอบในเรื่องนี้ จนได้ทราบชัดเจนแล้วว่า การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความถูกต้อง ประกอบกับการที่รัฐบาลจำเป็นต้องระบายข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมที่มิใช่การบริโภคของคน ต้องมีการกำหนดมาตรการ และการกำกับควบคุมดูแลมิให้ผู้ซื้อข้าวลักลอบนำข้าวดังกล่าวไปขายในตลาดการค้าข้าวปกติเพื่อผู้บริโภค ดังนั้น การระบายข้าวที่เตรียมการไว้แล้วในครั้งต่อไปซึ่งมีปริมาณมาก จำเป็นต้องรอความพร้อมในด้านบุคลากรของหน่วยงานปฏิบัติที่มีหน้าที่ควบคุมกำกับดูแลมิให้มีการลักลอบนำข้าวไปขายในตลาดข้าวบริโภค ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการระบายข้าวในครั้งต่อไปได้ในไม่ช้า มิได้มีหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเกียร์ว่าง ตามที่กล่าวหาแต่อย่างใด
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/774132
"วิษณุ" ลั่นผลตรวจสอบโกดังข้าวรัฐชัด ไม่พบขายข้าวดีเป็นข้าวเน่า ชี้ "พล.ต.อ.เดชณรงค์" ขยันลงพื้นที่ทุกวัน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กรณีการตรวจสอบการระบายข้าวในโกดังรัฐบาลว่า มีการรายงานเข้ามาเป็นระยะ และมีการประชุมกันแล้ว 2-3 ครั้ง และมีการรายงานผลการตรวจสอบเข้ามาเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งได้รายงานนายกฯ ด้วย และเท่าที่มีการายงานมานั้นยังไม่พบการนำข้าวดีไปขายเป็นข้าวเน่า ที่พบเป็นเรื่องอื่นเช่นการใช้สารเคมีกับข้าว ซึ่งกำลังให้ตรวจสอบเพิ่มเติม
เมื่อถามว่า มีการเปิดเผยว่าการระบายข้าวมีการนำข้าวดีไปขายเป็นข้าวเน่าในราคาถูก นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่มีการรายงานมาแบบนั้น เมื่อถามว่าการตรวจสอบครั้งนี้กังวลว่าจะถูกเอกชนวางยารัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่มีการายงานว่ามีอะไรที่ผิดปกติเช่นนั้น 8 โกดังที่ได้ตรวจสอบก็ยังไม่มีอะไรผิดปกติ และเชื่อว่าจะเป็นไปตามกรอบที่นายกฯให้ไว้ 30 วัน เพราะเขาขยันตรวจสอบลงพื้นที่ทุกวัน พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานตรวจสอบการระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาลก็รายงานมาทุกวันว่าตรวจสอบอะไรไปบ้าง แต่เมื่อการตรวจสอบเสร็จแล้วคงต้องมีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวิเคราะห์อีกครั้ง
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/773999
รับรองกันอย่างนี้แล้ว ใครข้องใจก็เสาะหาข้อมูลมาโต้ตอบกันค่ะ
แต่มาลารินเชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาลนี้ที่ไม่ปล่อยให้เกิดความเสียหายซ้ำรอยรัฐบาลที่ผ่านมา