ก่อนที่เนเธอร์แลนด์จะได้รับอิสรภาพเมื่อปี ค.ศ. ๑๕๘๑
ก่อนที่อัมสเตอร์ดัมจะกลายเป็นเมืองหลวงของประเทศ
จุดเริ่มต้นของการสร้างชาติของชาวดัทช์อยู่ที่เมือง Delft
Delft (เดลฟต์) เป็นเมืองที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงเฮกเพียงราว ๑๐ กิโลเมตร มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับกรุงเฮก แต่ความสำคัญของ Delft ช่างยิ่งใหญ่เกินขนาดนัก
ก่อนศตวรรษที่ ๑๗ ดินแดนที่เป็นเนเธอร์แลนด์และเบลเยียมในปัจจุบัน เคยอยู่ภายใต้การปกครองของสเปนมาก่อน จนกระทั่งสงครามปฏิวัติเพื่อเรียกร้องอิสรภาพได้อุบัติขึ้นเมื่อปี ค.ศ. ๑๕๖๘ "สงครามแปดสิบปี" จึงได้เริ่มต้นขึ้น
ผู้นำขบวนการเรียกร้องอิสรภาพ คือ พระเจ้าวิลเลียมแห่งราชวงศ์ออเรนจ์ (William of Orange) ซึ่งได้มาประทับอยู่ที่เมือง Delft ราวปี ๑๕๗๒ เนื่องจากมีกำแพงเมืองและป้อมปราการที่เหมาะสมต่อการต้านข้าศึกศัตรู จนกองทัพสเปนต้องถอยร่นไป
เนเธอร์แลนด์ได้อิสรภาพโดยพฤตินัย (de facto) ต่อมาในปี ๑๕๘๑ ก่อนที่จะได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการในปี ๑๖๔๘ ด้วยสนธิสัญญาสันติภาพแห่งมุนสเตอร์ (Peace of Münster) พร้อมกับการปิดฉากของสงครามที่ยืดเยื้อถึง ๘๐ ปี
William of Orange ขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์ของเนเธอร์แลนด์ (สมัยนั้นเรียกว่า United Provinces และได้รวมพื้นที่ของเบลเยียมไว้ด้วย) และเป็นที่มาของสีประจำชาติของประเทศที่คนไทยคุ้นตาจากเสื้อนักกีฬาฟุตบอลทีมชาตินั่นเอง
ในยุคเดียวกันนี้ นักกฎหมายและนักปรัชญานามว่า Hugo Grotius (ฮิวโก้ กรอเชียส) ได้สร้างผลงานที่เป็นรากฐานของกฎหมายระหว่างประเทศในปัจจุบัน ๒ แขนง ได้แก่ กฎหมายสงคราม และกฎหมายทะเล อันเป็นผลมาจากสงครามแปดสิบปีและสงครามสามสิบปี รวมทั้งข้อขัดแย้งกับโปรตุเกสในการเดินเรือเพื่อทำการค้า
ช่วงหลังต่อจากยุคนี้ เป็นช่วงที่เนเธอร์แลนด์ได้เริ่มแผ่ขยายอิทธิพลทางทะเลและการค้า จนกลายเป็นมหาอำนาจชาติหนึ่งในยุโรปขณะนั้น
แอดมินมีโอกาสได้มาเยือน Delft ระหว่างปิดภาคเรียนช่วงคริสต์มาส ตอนนั้นที่เมืองมีตลาดคริสต์มาสน่ารัก ๆ เข้ากับบรรยากาศของบ้านเรือนที่ดูราวกับบ้านตุ๊กตา เสียงดนตรีและผู้คนที่มาจับจ่ายช่วยแต่งเติมสีสันไม่ให้ฤดูหนาวดูหดหู่ เป็นอีกเมืองหนึ่งที่แอดมินคิดว่า หากใครได้มาเที่ยวกรุงเฮกแล้ว น่าจะหาเวลาแวะมา
ไม่น่าเชื่อเลยว่า เมืองเล็ก ๆ น่ารักที่เห็นอยู่นี้ ช่างมีบทบาทที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์เนเธอร์แลนด์








-----------------------------------------------------------
ใครสนใจการเรียน การทำงาน และการท่องเที่ยวแนว hidden gems ในยุโรป ก็ขอเชิญไปเยี่ยมชมหรือพูดคุยกันได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจครับ
https://www.facebook.com/IRememberEurope/
Delft กับการสร้างชาติเนเธอร์แลนด์และกฎหมายระหว่างประเทศ
ก่อนที่อัมสเตอร์ดัมจะกลายเป็นเมืองหลวงของประเทศ
จุดเริ่มต้นของการสร้างชาติของชาวดัทช์อยู่ที่เมือง Delft
Delft (เดลฟต์) เป็นเมืองที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงเฮกเพียงราว ๑๐ กิโลเมตร มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับกรุงเฮก แต่ความสำคัญของ Delft ช่างยิ่งใหญ่เกินขนาดนัก
ก่อนศตวรรษที่ ๑๗ ดินแดนที่เป็นเนเธอร์แลนด์และเบลเยียมในปัจจุบัน เคยอยู่ภายใต้การปกครองของสเปนมาก่อน จนกระทั่งสงครามปฏิวัติเพื่อเรียกร้องอิสรภาพได้อุบัติขึ้นเมื่อปี ค.ศ. ๑๕๖๘ "สงครามแปดสิบปี" จึงได้เริ่มต้นขึ้น
ผู้นำขบวนการเรียกร้องอิสรภาพ คือ พระเจ้าวิลเลียมแห่งราชวงศ์ออเรนจ์ (William of Orange) ซึ่งได้มาประทับอยู่ที่เมือง Delft ราวปี ๑๕๗๒ เนื่องจากมีกำแพงเมืองและป้อมปราการที่เหมาะสมต่อการต้านข้าศึกศัตรู จนกองทัพสเปนต้องถอยร่นไป
เนเธอร์แลนด์ได้อิสรภาพโดยพฤตินัย (de facto) ต่อมาในปี ๑๕๘๑ ก่อนที่จะได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการในปี ๑๖๔๘ ด้วยสนธิสัญญาสันติภาพแห่งมุนสเตอร์ (Peace of Münster) พร้อมกับการปิดฉากของสงครามที่ยืดเยื้อถึง ๘๐ ปี
William of Orange ขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์ของเนเธอร์แลนด์ (สมัยนั้นเรียกว่า United Provinces และได้รวมพื้นที่ของเบลเยียมไว้ด้วย) และเป็นที่มาของสีประจำชาติของประเทศที่คนไทยคุ้นตาจากเสื้อนักกีฬาฟุตบอลทีมชาตินั่นเอง
ในยุคเดียวกันนี้ นักกฎหมายและนักปรัชญานามว่า Hugo Grotius (ฮิวโก้ กรอเชียส) ได้สร้างผลงานที่เป็นรากฐานของกฎหมายระหว่างประเทศในปัจจุบัน ๒ แขนง ได้แก่ กฎหมายสงคราม และกฎหมายทะเล อันเป็นผลมาจากสงครามแปดสิบปีและสงครามสามสิบปี รวมทั้งข้อขัดแย้งกับโปรตุเกสในการเดินเรือเพื่อทำการค้า
ช่วงหลังต่อจากยุคนี้ เป็นช่วงที่เนเธอร์แลนด์ได้เริ่มแผ่ขยายอิทธิพลทางทะเลและการค้า จนกลายเป็นมหาอำนาจชาติหนึ่งในยุโรปขณะนั้น
แอดมินมีโอกาสได้มาเยือน Delft ระหว่างปิดภาคเรียนช่วงคริสต์มาส ตอนนั้นที่เมืองมีตลาดคริสต์มาสน่ารัก ๆ เข้ากับบรรยากาศของบ้านเรือนที่ดูราวกับบ้านตุ๊กตา เสียงดนตรีและผู้คนที่มาจับจ่ายช่วยแต่งเติมสีสันไม่ให้ฤดูหนาวดูหดหู่ เป็นอีกเมืองหนึ่งที่แอดมินคิดว่า หากใครได้มาเที่ยวกรุงเฮกแล้ว น่าจะหาเวลาแวะมา
ไม่น่าเชื่อเลยว่า เมืองเล็ก ๆ น่ารักที่เห็นอยู่นี้ ช่างมีบทบาทที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์เนเธอร์แลนด์
ใครสนใจการเรียน การทำงาน และการท่องเที่ยวแนว hidden gems ในยุโรป ก็ขอเชิญไปเยี่ยมชมหรือพูดคุยกันได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจครับ https://www.facebook.com/IRememberEurope/