[CR] Birth of the Dragon บรูซลี มังกรผงาดโลก - เป็นหนังกังฟูเกรดบีที่ทำร้ายความรู้สึกของคนที่คลั่งไคล้ บรูซลี ได้ยับเยิน

ออกตัวก่อนเลยว่า ผมเป็นคนที่คลั่งไคล้ในตัว บรูซลี เอามากๆ เรียกว่าหนังทุกเรื่อง ชีวประวัติหลายๆ เรื่องราว ของสะสม ที่เรียกว่าเป็นความประทับใจกับชายผู้เป็นฮีโร่คนนี้ผมมีเยอะแยะมากมาย กับหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนมีข่าวเริ่มสร้าง ผมตั้งใจว่าจะต้องดูให้ได้ไม่ว่าจะเข้าฉายในไทยหรือไม่เข้าฉาย แล้วก็มีค่ายหนังนำเข้ามาฉายจนได้ แต่พอดูจบแล้ว เรียกว่าหนังไปดฟกัสอะไรก็ไม่รู้เละเทะจนกลายเป็นหนังเกรดบีที่หาดูได้ตามแผ่นดีวีดีทั่วไปมากกว่าที่จะเป็นหนังที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสุดยอดตำนานนักกังฟูที่เก่งที่สุดในโลก

หนังพูดถึงเหตุการณ์เกิดขึ้นในปี 1965 ช่วงที่บรูซ ลี เปิดสำนักสอนมวยจีนให้แก่คนขาวในย่านไชนาทาวน์ของซานฟรานซิสโก ไม่กี่ปีก่อนที่เขาจะได้เล่นซีรี่ส์ทางทีวี และกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ เขาต้องเผชิญหน้ากับ หว่อง แจ็คแมน หลวงจีนเส้าหลินที่ถูกส่งมาจากจีนให้ยุติการสอนกังฟู การประลองดังกล่าวมีขึ้นอย่างเป็นส่วนตัว มีผู้ร่วมเหตุการณ์ 3-4 คนเท่านั้น และนี่คือจุดเปลี่ยนไปสู่ความยิ่งใหญ่ของ บรูซลี กับแนวทางกังฟูที่เขาคิดขึ้นมาเองที่เรียกว่า Jeet Kun Do

หนังเปิดเรื่องด้วยตัวเอกอย่าง หว่อง แจ็คแมน ที่กำลังประลองยุทธเพื่ออะไรสักอย่าง แล้วก็ตัดมาเปิดตัว บรูซลี ที่ทำได้ได้ค่อนข้างเท่ เป็นส่วนดีของหนังไม่กี่อย่างที่หนังแสดงให้เห็นถึงทิฐิในตัว บรูซลี ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง หนังทำให้คนดูเห็นว่า ในเรื่องเล่าที่ว่าไว้ คนใกล้ตัว บรูซลี หลายๆ คนไม่ชอบในความเย่อหยิ่งทะเยอะทะยานของเขาสักเท่าไหร่ ซึ่งตรงนี้หนังเล่าได้เข้าถึงดีทีเดียว ทำให้คนที่ไม่ได้รู้จักมักคุ้นกับ บรูซลี อาจจะมองเขาเป็นตัวร้ายไปเลยก็ได้

แต่แทนที่หนังปูมาได้ดีพอสมควร หนังกลับไม่ได้หยิบเอาประเด็นนี้ขึ้นมาขยี้ หนังไปโฟกัสที่เจ้าลูกศิษย์ฝรั่งที่ในเรื่องชื่อว่า สตีฟ แม็คคีร์ กับแก๊งมาเฟียในย่านไชน่าทาวน์ซะอย่างนั้น แล้วดันเป็นจุดหลักที่หนังเลือกจะโฟกัสด้วยซ้ำ ทำให้ความสำคัญของตัว บรูซลี และเนื้อเรื่องที่ควรจะเกี่ยวกับ บรูซลี หายไปซะค่อนเรื่อง กลายเป็น บรูซลี คือองค์ประกอบเล็กๆ ของหนังไปเสียฉิบ ซึ่งหนังก็ไม่ได้ทำดีในส่วนที่ต้องการจะเล่า แถมยังทำให้ดูแล้วเกือบจะหลับอีกต่างหาก คนดูคิดว่า คือ กรูจะมาดู บรูซลี ไม่ได้มาดูเจ้าแม็คคีร์ช่วยคนรัก ถุ้ยยยย

อีกอย่างที่คาดหวังไว้เยอะคือ เรื่องฉากต่อสู้ในเรื่อง มีอยู่สองฉากใหญ่ๆ คือ ฉากดวลกันระหว่าง บรูซลี และหว่อง แจ็คแมน ซึ่งเป็นฉากที่ควรจะเป็นไฮไลท์ที่เด็ดที่สุดของหนัง แต่หนังกลับทำได้ห่วยแตกสุดๆ เอกลักษณ์ของความเป็น บรูซลี ไม่ได้ถูกดึงออกมาเลยแม้แต่น้อย เหมือนดูใครก็ไม่รู้ตัดผมทรง บรูซลี มาต่อยกับหลวงจีน แถมบางทีก็ดูจะเป็นมวยวัดมากกว่ามวย หย่งชุน เสียอีก ซึ่งแตกต่างจากเรื่อง ยิปมันลิบลับ

ส่วนอีกฉากคือ ฉากที่ บรูซลี และ หว่อง แจ็คแมน จับมือกันบุกเข้าไปในร้านอาหารของแก๊งมาเฟียเพื่อตามหา ช้างกูอยู่ไหน ถุ้ยยย ไม่ใช่!! เพื่อเข้าไปช่วยคนรักของเจ้า แม็คคีร์ ซึ่งฉากนี้จะว่ามันส์ก็ไม่ใช่ จะว่าสนุกก็ยังพูดได้ไม่เต็มปาก เหมือนก๊อปเอาฉากที่ จาพนม เข้าไปตามหาช้างใน ต้มยำกุ้ง เกือบจะเป๊ะ เพียงแต่เป็นร้านอาหารจีนที่ไม่มีช้าง แค่นั้น

พูดถึงนักแสดง ผมไม่ได้ผิดหวังกับหน้าตาและรูปร่างลักษณะของ ฟิลลิป อึ้งนะ ที่ไม่เหมือน บรูซลี ซึ่งหลายๆ เวอร์ชั่นก็ไม่เหมือน ยกตัวอย่าง เจสัน สก็อตต์ ลี จาก The Dragon: Bruce Lee Story ก็หน้าตาและรูปร่างไม่ได้เลย แต่สิ่งที่หลายๆ เวอร์ชั่นมีคือ การทำการบ้านของนักแสดงและผู้กำกับที่เวลาเราเห็นตัวแสดงออกมาแล้วทำให้เรารู้ว่า นี่คือ บรูซลีนะ แต่กับ ฟิลลิป อึ้ง ในเรื่องนี้ ไม่ผ่านอย่างแรง ท่าทางเย่อหยิ่งอวดดี ก็ทำได้แข็งโป้ก มีอยู่ท่าเดียวผายมืออยู่ทุกฉาก มีดีคือโอเค สกิลในการต่อสู้ได้ แต่กลับไม่ทำการบ้านเกี่ยวกับบท่าทางการต่อสู้ของ บรูซลี สักเท่าไหร่ แต่คนที่ทำได้ดีกว่าคือ นักแสดงที่เล่นเป็นหลวงจีน หว่อง แจ็คแมน  ที่กลับทำได้ดีกว่า แต่ก็ว่าไม่ได้ เพราะ หว่อง แจ็คแมน ไม่ได้มีต้นแบบให้เปรียบเทียบ เราเลยไม่รู้ว่าตัวจริงเป็นยังไง ส่วนนักแสดงคนอื่น ต้องบอกว่า สอบตกอย่างแรง ไม่มีใครเล่นดีเลยสักคนเอาจริงๆ

สรุปว่า หนังเรื่องนี้เป็นหนั บรูซลี ที่ทำให้ผมเฟลมาก และอย่างที่บอก มันทำลายความรู้สึกของคนที่คลั่งไคล้ในตัว บรูซลี ที่มีอยู่ทั่วโลกลงอย่างยับเยิน เรียกว่า ดูหนังแผ่นยังหงุดหงิดเลย อย่าว่าแต่จะเข้าไปดูในโรง แต่ก็นะ นานๆ จะมีคนทำหนังเกี่ยวกับฮีโร่คนนี้ออกมาทีนึง ก็ดูเอาไว้ให้หายคิดถึงละกัน แต่งานนี้ WWE Entertainment สอบตกด้วยประการทั้งปวง

ปล. ถ้าเป็นไปได้ อยากให้ทำออกมาดีๆ ไปเลย แล้วเอา Danny Kwok-Kwan Chan มาเล่นหนังใหญ่ รับบท บรูซลี อีกครั้งเหมือนที่ทำไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมใน #TVseries เรื่อง The Legend of Bruce Lee ที่เหมือนทั้งหน้าตาและท่าทางแทบจะถอดแบบออกมา

ฝากเพจด้วยนะครับ >> https://www.facebook.com/DooNangGunMai/