เอาตรงๆไม่รู้จะอธิบายยังไงน่ะ ของยกตัวอย่างเหตุการณ์เเทนแล้วกัน
Example1. เวลาที่สมัครงาน
เรา: งาน..... ยังเปิดรับสมัครอยู่หรือเปล่าค่ะ ?
เขา : ค่ะ
แล้วก็คุยรายละเอียดกันสักพัก
เขา: งั้นส่งเรซูเม่ มาทางอีเมลล์ได้เลยนะคะ
(แล้วก็ขอเอกสารอื่นๆอีกที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน)
ผ่านไปสักพักเราก็ติดต่อไปอีก ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
(คือถ้าไม่ได้จะได้มองหาที่อื่นเพราะไม่อยากหว่านประวัติไปทั่ว
คืองานประเภทนี้วงการมันค่อนข้างแคบ )
เขาก็แจ้งมาว่าขอเอกสารอันอื่นเพิ่ม แล้วก็บอกว่ากำลังส่งเรื่องเพิ่มไปยังบอร์ด
แล้วก็เป็นอย่างนี้มาตลอด เป็นเวลา 4 เดือน จนเราหมดความอดทน เพราะเขาอ้างนั้น
อ้างนี้ ขาดนั้นขาดนี้ อยู่ตลอดเวลา
เราเลยส่งข้อความไปหา (ปกติคุยกันมีการส่งข้อความกันตลอด)
เรา: หลังจากผ่านกระบวนการต่างๆแล้ว มีขั้นตอนอะไรบ้างหลังจากนั้น ต้องสัมภาษณ์
เซ็นสัญญาเลยหรือเปล่าค่ะ พอดีต้องการให้แน่ชัดว่าพอได้งานนี้ไหม ถ้าไม่ได้ยังไงรบกวนบอกด้วยนะคะ
หวังว่าคุณ...จะเข้าใจนะคะ ขอบคุณค่ะ
แล้วหลังจากนั้นเขาก็โทรมาหาเราและบอกว่า ให้ติดกับฝ่ายที่ขึ้นตรงกับงาน ชื่อคุณ A
เขาก็ให้เบอร์ติดต่อกลับมา เราโทรไปแต่ไม่ติด ก็แจ้งให้คนนี้ทราบว่าโทรไม่ติดนะคะ
เขา: ลองโทรเรื่อยๆบางครั้งแกลืม อ่อลืมไปค่ะแกไปต่างประเทศ น่าจะใกล้กลับแล้วนะคะ
เรา : โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะ
ทีนี้เราติดต่อคุณ A ไปตอนที่เขากลับมา เขาก็บอกให้ส่งเรซูเม่ไปให้เขาอีกที
แต่คนที่เราคุยกันครั้งแรก บอกเราว่าเขาแจ้งรายละเอียดให้คุณ A เรียบร้อยแล้ว
เราเลยขี้เกียจตาม แต่ไม่เข้าใจว่า ถ้าไม่รับหรือไม่อย่างไร ก็ควรจะเเจ้งให้ทราบว่า
ยังไม่เปิดรับหรือปิดรับสมัครไปแล้ว แต่นี้ให้เราส่งเอกสารนั้นนู้นนี่ไปให้
อาทิตย์หน้าเข้าประชุมกับทางผู้บริหารนะคะ แต่พอถึงวันเราถามเขาก็แจ้งเราว่า
วันนี้ผู้บริหารไม่เข้า เลื่อนประชุมบ้าง รอพิจารณาบ้าง คือเหตุผลร้อยแปด
เราว่าการทำงานแบบนี้ในสังคมไทย มีอยู่เยอะมากกก
การปฎิเสธคน หรือบอกเหตุผลตรงๆมันทำให้เราไม่ได้ต้องเสียเวลา
แล้วก็เข้าใจกันเคลียร์มากกว่าการมาพูดจาอ้อมค้อม
หรือแกล้งทำเป็นว่า "กำลังทำอยู่"
(และตอนนี้ได้ที่ทำงานแล้วค่ะ แต่งานที่ทำมันค่อนข้างซับซ้อน มีความเสี่ยงสูง
คน manage งานเขาไม่เข้าใจงานด้านการปฎิบัติ เรืองกฎหมาย เรื่องความปลอดภัย
และหลายๆเรื่อง ซึ่งพอไม่รู้แต่มาบอกหรือแกล้งทำเป็นว่ารู้มันทำให้งานมันแย่ยิ่งกว่าเดิม
ความเสี่ยงมันสูงขึ้น มีหลายชีวิตที่ต้องรับความเสี่ยงกับการที่ "แกล้งทำเป็นรู้"
หลายคนในการทำงาน ก็ไม่เคยยอมรับความผิดพลาด หรือไม่ยอมที่จะให้ตัวเองกลายเป็นฝ่ายผิด
เลยหาเหตุผลหรือคำพูด มาบอกว่า กำลังทำนี่อยู่น่ะ อยู่กระบวนการนี้ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าได้เซ็นสัญญา
หรือการพูดว่า จะทำอันนั้นอันนี้ พูดเพื่อให้คนอื่นคิดว่าตัวเองกำลังทำอยู่นะ แต่ความจริงมันก็แค่คำพูด
เพราะถ้าพูดแล้วไม่ทำ พูดมามันก็เปล่าประโยชน์ (อันนี้รวมทั้งเรื่องยังไม่ได้งานและได้งานแล้ว
มันมักจะมันคนประเภทนี้อยู่เสมอ ซึ่งบอกตรงๆว่าหงุดหงิดแต่ก็ทำไรไม่ได้ เขาก็จะหาเหตุผลอื่นมาอ้าง
สุดท้ายเขาก็ไม่เคยทำตามที่เขาแจ้งมา
เป็นต้น ซึ่งมันคือการแกล้งทำ ไม่รู้จะอธิบายไทยว่าไง ขออธิบายเป็นอังกฤษ " Pretend "
Do not pretending like you're doing something.
especially if you think that " you helping me "
you did not !!! Obviously Its get more worse.
just tell the truth or deny when you can't do it.
Pretending that you know everything it doesn't help anyone.
just accept and dare to tell " I don't know "
then we can find out the solution for the case together.
ปล แกรมม่าอาจไม่ค่อยดี แต่ไม่รู้จะเขียนเป็นภาษาไทยยังไงจริงๆ
ทำไมคนไทยส่วนใหญ่ถึงมีนิสัยแบบนี้
Example1. เวลาที่สมัครงาน
เรา: งาน..... ยังเปิดรับสมัครอยู่หรือเปล่าค่ะ ?
เขา : ค่ะ
แล้วก็คุยรายละเอียดกันสักพัก
เขา: งั้นส่งเรซูเม่ มาทางอีเมลล์ได้เลยนะคะ
(แล้วก็ขอเอกสารอื่นๆอีกที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน)
ผ่านไปสักพักเราก็ติดต่อไปอีก ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
(คือถ้าไม่ได้จะได้มองหาที่อื่นเพราะไม่อยากหว่านประวัติไปทั่ว
คืองานประเภทนี้วงการมันค่อนข้างแคบ )
เขาก็แจ้งมาว่าขอเอกสารอันอื่นเพิ่ม แล้วก็บอกว่ากำลังส่งเรื่องเพิ่มไปยังบอร์ด
แล้วก็เป็นอย่างนี้มาตลอด เป็นเวลา 4 เดือน จนเราหมดความอดทน เพราะเขาอ้างนั้น
อ้างนี้ ขาดนั้นขาดนี้ อยู่ตลอดเวลา
เราเลยส่งข้อความไปหา (ปกติคุยกันมีการส่งข้อความกันตลอด)
เรา: หลังจากผ่านกระบวนการต่างๆแล้ว มีขั้นตอนอะไรบ้างหลังจากนั้น ต้องสัมภาษณ์
เซ็นสัญญาเลยหรือเปล่าค่ะ พอดีต้องการให้แน่ชัดว่าพอได้งานนี้ไหม ถ้าไม่ได้ยังไงรบกวนบอกด้วยนะคะ
หวังว่าคุณ...จะเข้าใจนะคะ ขอบคุณค่ะ
แล้วหลังจากนั้นเขาก็โทรมาหาเราและบอกว่า ให้ติดกับฝ่ายที่ขึ้นตรงกับงาน ชื่อคุณ A
เขาก็ให้เบอร์ติดต่อกลับมา เราโทรไปแต่ไม่ติด ก็แจ้งให้คนนี้ทราบว่าโทรไม่ติดนะคะ
เขา: ลองโทรเรื่อยๆบางครั้งแกลืม อ่อลืมไปค่ะแกไปต่างประเทศ น่าจะใกล้กลับแล้วนะคะ
เรา : โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะ
ทีนี้เราติดต่อคุณ A ไปตอนที่เขากลับมา เขาก็บอกให้ส่งเรซูเม่ไปให้เขาอีกที
แต่คนที่เราคุยกันครั้งแรก บอกเราว่าเขาแจ้งรายละเอียดให้คุณ A เรียบร้อยแล้ว
เราเลยขี้เกียจตาม แต่ไม่เข้าใจว่า ถ้าไม่รับหรือไม่อย่างไร ก็ควรจะเเจ้งให้ทราบว่า
ยังไม่เปิดรับหรือปิดรับสมัครไปแล้ว แต่นี้ให้เราส่งเอกสารนั้นนู้นนี่ไปให้
อาทิตย์หน้าเข้าประชุมกับทางผู้บริหารนะคะ แต่พอถึงวันเราถามเขาก็แจ้งเราว่า
วันนี้ผู้บริหารไม่เข้า เลื่อนประชุมบ้าง รอพิจารณาบ้าง คือเหตุผลร้อยแปด
เราว่าการทำงานแบบนี้ในสังคมไทย มีอยู่เยอะมากกก
การปฎิเสธคน หรือบอกเหตุผลตรงๆมันทำให้เราไม่ได้ต้องเสียเวลา
แล้วก็เข้าใจกันเคลียร์มากกว่าการมาพูดจาอ้อมค้อม
หรือแกล้งทำเป็นว่า "กำลังทำอยู่"
(และตอนนี้ได้ที่ทำงานแล้วค่ะ แต่งานที่ทำมันค่อนข้างซับซ้อน มีความเสี่ยงสูง
คน manage งานเขาไม่เข้าใจงานด้านการปฎิบัติ เรืองกฎหมาย เรื่องความปลอดภัย
และหลายๆเรื่อง ซึ่งพอไม่รู้แต่มาบอกหรือแกล้งทำเป็นว่ารู้มันทำให้งานมันแย่ยิ่งกว่าเดิม
ความเสี่ยงมันสูงขึ้น มีหลายชีวิตที่ต้องรับความเสี่ยงกับการที่ "แกล้งทำเป็นรู้"
หลายคนในการทำงาน ก็ไม่เคยยอมรับความผิดพลาด หรือไม่ยอมที่จะให้ตัวเองกลายเป็นฝ่ายผิด
เลยหาเหตุผลหรือคำพูด มาบอกว่า กำลังทำนี่อยู่น่ะ อยู่กระบวนการนี้ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าได้เซ็นสัญญา
หรือการพูดว่า จะทำอันนั้นอันนี้ พูดเพื่อให้คนอื่นคิดว่าตัวเองกำลังทำอยู่นะ แต่ความจริงมันก็แค่คำพูด
เพราะถ้าพูดแล้วไม่ทำ พูดมามันก็เปล่าประโยชน์ (อันนี้รวมทั้งเรื่องยังไม่ได้งานและได้งานแล้ว
มันมักจะมันคนประเภทนี้อยู่เสมอ ซึ่งบอกตรงๆว่าหงุดหงิดแต่ก็ทำไรไม่ได้ เขาก็จะหาเหตุผลอื่นมาอ้าง
สุดท้ายเขาก็ไม่เคยทำตามที่เขาแจ้งมา
เป็นต้น ซึ่งมันคือการแกล้งทำ ไม่รู้จะอธิบายไทยว่าไง ขออธิบายเป็นอังกฤษ " Pretend "
Do not pretending like you're doing something.
especially if you think that " you helping me "
you did not !!! Obviously Its get more worse.
just tell the truth or deny when you can't do it.
Pretending that you know everything it doesn't help anyone.
just accept and dare to tell " I don't know "
then we can find out the solution for the case together.
ปล แกรมม่าอาจไม่ค่อยดี แต่ไม่รู้จะเขียนเป็นภาษาไทยยังไงจริงๆ