เขียนครั้งแรกไม่รู้จะเริ่มยังไง ปกติมีแต่อ่านวันนี้ต้องเขียนเพราะเสียความรู้สึกกับ บริษัทประกันภัยนี้มาก ขอใช้ชื่อย่อ ต.
เข้าเรื่องเลย ที่บ้านทำประกันภัยบ้านกับ ต. ทำแบบราย 5 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2014-2019
แม่เราเดินเข้าไปซื้อกับ ต. จังหวัดที่เราอยู่โดยตรงไม่มีการทำผ่านธนาคารหรือนายหน้า ก่อนหน้านี้ไม่ที่บ้านก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร จนวันที่ 14 สิงหาคม 60 มีพายุลมฝนค่อนข้างแรง ต้นไม้ในบ้านเราล้ม และต้นไม้ล้มขว้างถนนหน้าบ้าน โชคดีที่บ้านเราไม่เสียหายอะไรมาก มีเพียงแค่ หลังคาตรงระเบียงที่เปิดออก ทำให้เวลาฝนตกน้ำไหลลงมา ในจุดที่ระเบียงเปิดออก
ในตอนนั้นแม่เราไม่อยู่บ้านและไม่ทราบว่าบ้านมีประกันจนแม่กลับมาจึงได้โทรแจ้งประกันในวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน ซึ่งโทรเข้าสำนักงานใหญ่ ( ที่ต้องโทรเข้าสำนักงานใหญ่ เพราะวันอาทิตย์สาขาจังหวัดที่เราอยู่ปิดแต่เบอร์สำนักงานใหญ่ รับแจ้งเคลมทุกวัน ) โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะให้สาขาที่จังหวัดเราติดต่อกลับ อีกประมาณครึ่งชม. มีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่า ให้เราถ่ายรูปความเสียหายไว้ แล้วจะให้เราส่งให้เขาทางอีเมล์ แล้ววางสายไป เราก็รอการติดต่อกลับ วันอังคารเราจึงโทรเข้าตามเรื่องที่สาขาโทรเข้าหลายสายแต่ไม่มีคนรับ เราจึงต้องโทรเข้าสำนักงานใหญ่เพื่อตามเรื่องโอนสายไปมาถึง 5 ครั้งและเราต้องเล่ารายละเอียดใหม่ถึง 4 ครั้ง จึงได้คุยกกับผู้ที่รับผิดชอบด้านเคลมประกันภัยบ้านโดยเราตามเรื่องถามว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาดูหรือไม่ ทาง ต. ก็ตอบกลับมาว่าเดี๋ยวจะแจ้งทางสาขาให้ จนช่วงบ่ายมีเจ้าหน้าที่โทรมาที่เบอร์เราแจ้งว่าจะให้เราส่งรูปให้ ขออีเมล์เราไป บอกจะส่งรายละเอียดว่าต้องใช้อะไรในการเคลมบ้าง แต่ก็ไม่มีอีเมล์เข้า วันพุธเราและแม่จึงไปที่ ต. สาขา พนักงานก็ไม่ทราบเรื่องใดๆเลย สรุปคือ สำนักงานใหญ่ไม่แจ้งเรื่องมาที่สาขา พนักงานที่สาขาต้องโทรไปตามเรื่องจึงมีการส่งเรื่องมา
มีการพูดคุยกันถึงความเสียหายและเอกสารที่ต้องใช้ โดยเราสอบถามว่าจะมีช่างของ ต. ไปประเมินราคาความเสียหายหรือไม่ ทางต. ก็ตอบว่า บริษัทไม่มีช่าง ให้เราหาช่างได้เองเลย ทางเราและแม่เลยบอกว่า แล้ว บริษัทจะทราบความเสียหายได้อย่างไร หากช่างที่เราหามา ประเมินราคาสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป และถามต่อว่า งั้นมีเจ้าหน้าที่เข้าไปดูความเสียหายหรือไม่ เจ้าหน้าที่ก็ตอบว่า จะไปดู แต่ขอดูรูปที่เราถ่ายไว้ เมื่อเราเอาให้ดูเขาบอกว่า รูปชัดแล้วไม่ต้องไปก็ได้ เรากับแม่ก็ยัง งง ว่า แล้ว เจ้าหน้าที่ไม่ต้องไปดูหน้างานหรือ แต่เขาก็ให้เราส่งรูปที่เราถ่ายไว้ให้ทางไลน์ แล้วเขาจะส่งเข้าสำนักงานใหญ่เอง
วันที่ 7 กันยายน เราให้ช่าง ( ที่เราหามาเอง ) มาดูบ้านและประเมินราคา ช่างคนนี้เป็นคนที่สร้างบ้านหลังนี้ ซึ่งรู้รายละเอียดของบ้านดี ก็เข้ามาประเมินราคาและส่งใบเสนอราคาให้กับ ต. หลังจากนั้น ช่างและต. ก็มีการติดต่อกัน ซึ่งเราก็โทรเข้าไปตามเรื่องที่สาขาบ้าง 2 ครั้งซึ่งได้คำตอบว่าส่งเรื่องแล้วต้องรอสำนักงานใหญ่ตอบกลับ ตั้งแต่วันนั้น จนวันที่ 21 เราได้โทรเข้าไปตามเรื่องอีกครั้งที่สาขา เจ้าหน้าที่แจ้งว่าสำนักงานใหญ่เป็นคนติดต่อกับช่างเอง ไม่ทราบว่าถึงไหนแล้ว เราจึงขอเบอร์ภายในของสำนักงานใหญ่เพื่อสอบถาม สำนักงานใหญ่แจ้งว่ากำลังจะส่งเรื่องเคลมให้ ในวันนั้น เราจึงวางสายไป
เจ้าหน้าที่ส่งเอกสารมาให้เราทางอีเมล์ เมื่อเราเห็นตัวเลขเคลมประกันแล้วเรารู้สึกว่า นอกจากจะบริการแบบงงๆ ส่งต่อเรื่องกันภายในก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ช่างหรือเจ้าหน้าที่มาประเมินหน้างานก็ไม่เคยมี ใช้สายตาดูจากในห้องแอร์ แล้วก็ตัดสิน
สิ่งที่เรารู้สึกแย่มากกับ ต. คือ
1. รับทำประกันบ้านแต่เหมือนไม่รู้เลยว่าลูกค้ามาเคลมต้องทำยังไง ไม่สนใจลูกค้า
2. ไม่เคยมาดูหน้างาน บ้านเราค่อนข้างสูงและต้องใช้นั่งร้าน แต่สามารถตัดงบเคลมได้ อันนี้คือสำคัญมากถ้ามีเจ้าหน้าที่หรือช่างของทาง ต. ออกมาดูหน้างานและประเมินราคาร่วมกันแล้วตัดออกเราจะไม่ว่าเลยเพราะช่างของเขาน่าจะมีราคากลางหรืออะไรว่ากันไปตามหลักเกณฑ์
3. เจ้าหน้าที่สำนักงานใหญ่ใช้น้ำเสียงในการพูดคุยกันทุกครั้งเหมือนเราไปขอยืมเงินเขาใช้
4. เราทำใจไว้แล้วในระดับหนึ่งว่าการเคลมประกันอาจจะไม่ได้เต็มที่เราขอ อาจจะได้ แค่ 50% แต่เมือเห็นตัวเลขเคลมแล้วรู้สึกว่ามันเกินไปทั้งๆที่ไม่เคยมาดูหน้างานเลย
เราพิมพ์ยาวเพราะอยากให้เห็นรายละเอียด เราอาจจะคิดเข้าข้างตัวเองหรือเปล่าไม่รู้แต่เรารู้สึกว่าคนที่เขาทำประกันบ้านยอมจ่ายเบี้ยประกันหลายหมื่น เขาก็หวังให้คุณดูแล เหมือนประกันรถอ่ะ มีคนมาดูหน้างานซ่อมอู่ไหนได้ อะไรแบบนี้
ขอบคุณ บริษัทประกันภัยนี้ที่ทำให้ได้รู้ว่าควรทำด้วยแค่ครั้งเดียวก็เกินพอ
ถ้าแท็กผิดห้องขอโทษด้วยค่ะนี่ครั้งแรก
มีใครเคยมีประสบการณ์กับบริษัทนี้เหมือนกันบ้าง
ประสบการณ์ทำประกันบ้านกับบริษัทประกันภัยที่ขึ้นต้นด้วย เมืองหลวงของญี่ปุ่น
เข้าเรื่องเลย ที่บ้านทำประกันภัยบ้านกับ ต. ทำแบบราย 5 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2014-2019
แม่เราเดินเข้าไปซื้อกับ ต. จังหวัดที่เราอยู่โดยตรงไม่มีการทำผ่านธนาคารหรือนายหน้า ก่อนหน้านี้ไม่ที่บ้านก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร จนวันที่ 14 สิงหาคม 60 มีพายุลมฝนค่อนข้างแรง ต้นไม้ในบ้านเราล้ม และต้นไม้ล้มขว้างถนนหน้าบ้าน โชคดีที่บ้านเราไม่เสียหายอะไรมาก มีเพียงแค่ หลังคาตรงระเบียงที่เปิดออก ทำให้เวลาฝนตกน้ำไหลลงมา ในจุดที่ระเบียงเปิดออก
ในตอนนั้นแม่เราไม่อยู่บ้านและไม่ทราบว่าบ้านมีประกันจนแม่กลับมาจึงได้โทรแจ้งประกันในวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน ซึ่งโทรเข้าสำนักงานใหญ่ ( ที่ต้องโทรเข้าสำนักงานใหญ่ เพราะวันอาทิตย์สาขาจังหวัดที่เราอยู่ปิดแต่เบอร์สำนักงานใหญ่ รับแจ้งเคลมทุกวัน ) โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะให้สาขาที่จังหวัดเราติดต่อกลับ อีกประมาณครึ่งชม. มีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่า ให้เราถ่ายรูปความเสียหายไว้ แล้วจะให้เราส่งให้เขาทางอีเมล์ แล้ววางสายไป เราก็รอการติดต่อกลับ วันอังคารเราจึงโทรเข้าตามเรื่องที่สาขาโทรเข้าหลายสายแต่ไม่มีคนรับ เราจึงต้องโทรเข้าสำนักงานใหญ่เพื่อตามเรื่องโอนสายไปมาถึง 5 ครั้งและเราต้องเล่ารายละเอียดใหม่ถึง 4 ครั้ง จึงได้คุยกกับผู้ที่รับผิดชอบด้านเคลมประกันภัยบ้านโดยเราตามเรื่องถามว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาดูหรือไม่ ทาง ต. ก็ตอบกลับมาว่าเดี๋ยวจะแจ้งทางสาขาให้ จนช่วงบ่ายมีเจ้าหน้าที่โทรมาที่เบอร์เราแจ้งว่าจะให้เราส่งรูปให้ ขออีเมล์เราไป บอกจะส่งรายละเอียดว่าต้องใช้อะไรในการเคลมบ้าง แต่ก็ไม่มีอีเมล์เข้า วันพุธเราและแม่จึงไปที่ ต. สาขา พนักงานก็ไม่ทราบเรื่องใดๆเลย สรุปคือ สำนักงานใหญ่ไม่แจ้งเรื่องมาที่สาขา พนักงานที่สาขาต้องโทรไปตามเรื่องจึงมีการส่งเรื่องมา
มีการพูดคุยกันถึงความเสียหายและเอกสารที่ต้องใช้ โดยเราสอบถามว่าจะมีช่างของ ต. ไปประเมินราคาความเสียหายหรือไม่ ทางต. ก็ตอบว่า บริษัทไม่มีช่าง ให้เราหาช่างได้เองเลย ทางเราและแม่เลยบอกว่า แล้ว บริษัทจะทราบความเสียหายได้อย่างไร หากช่างที่เราหามา ประเมินราคาสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป และถามต่อว่า งั้นมีเจ้าหน้าที่เข้าไปดูความเสียหายหรือไม่ เจ้าหน้าที่ก็ตอบว่า จะไปดู แต่ขอดูรูปที่เราถ่ายไว้ เมื่อเราเอาให้ดูเขาบอกว่า รูปชัดแล้วไม่ต้องไปก็ได้ เรากับแม่ก็ยัง งง ว่า แล้ว เจ้าหน้าที่ไม่ต้องไปดูหน้างานหรือ แต่เขาก็ให้เราส่งรูปที่เราถ่ายไว้ให้ทางไลน์ แล้วเขาจะส่งเข้าสำนักงานใหญ่เอง
วันที่ 7 กันยายน เราให้ช่าง ( ที่เราหามาเอง ) มาดูบ้านและประเมินราคา ช่างคนนี้เป็นคนที่สร้างบ้านหลังนี้ ซึ่งรู้รายละเอียดของบ้านดี ก็เข้ามาประเมินราคาและส่งใบเสนอราคาให้กับ ต. หลังจากนั้น ช่างและต. ก็มีการติดต่อกัน ซึ่งเราก็โทรเข้าไปตามเรื่องที่สาขาบ้าง 2 ครั้งซึ่งได้คำตอบว่าส่งเรื่องแล้วต้องรอสำนักงานใหญ่ตอบกลับ ตั้งแต่วันนั้น จนวันที่ 21 เราได้โทรเข้าไปตามเรื่องอีกครั้งที่สาขา เจ้าหน้าที่แจ้งว่าสำนักงานใหญ่เป็นคนติดต่อกับช่างเอง ไม่ทราบว่าถึงไหนแล้ว เราจึงขอเบอร์ภายในของสำนักงานใหญ่เพื่อสอบถาม สำนักงานใหญ่แจ้งว่ากำลังจะส่งเรื่องเคลมให้ ในวันนั้น เราจึงวางสายไป
เจ้าหน้าที่ส่งเอกสารมาให้เราทางอีเมล์ เมื่อเราเห็นตัวเลขเคลมประกันแล้วเรารู้สึกว่า นอกจากจะบริการแบบงงๆ ส่งต่อเรื่องกันภายในก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ช่างหรือเจ้าหน้าที่มาประเมินหน้างานก็ไม่เคยมี ใช้สายตาดูจากในห้องแอร์ แล้วก็ตัดสิน
สิ่งที่เรารู้สึกแย่มากกับ ต. คือ
1. รับทำประกันบ้านแต่เหมือนไม่รู้เลยว่าลูกค้ามาเคลมต้องทำยังไง ไม่สนใจลูกค้า
2. ไม่เคยมาดูหน้างาน บ้านเราค่อนข้างสูงและต้องใช้นั่งร้าน แต่สามารถตัดงบเคลมได้ อันนี้คือสำคัญมากถ้ามีเจ้าหน้าที่หรือช่างของทาง ต. ออกมาดูหน้างานและประเมินราคาร่วมกันแล้วตัดออกเราจะไม่ว่าเลยเพราะช่างของเขาน่าจะมีราคากลางหรืออะไรว่ากันไปตามหลักเกณฑ์
3. เจ้าหน้าที่สำนักงานใหญ่ใช้น้ำเสียงในการพูดคุยกันทุกครั้งเหมือนเราไปขอยืมเงินเขาใช้
4. เราทำใจไว้แล้วในระดับหนึ่งว่าการเคลมประกันอาจจะไม่ได้เต็มที่เราขอ อาจจะได้ แค่ 50% แต่เมือเห็นตัวเลขเคลมแล้วรู้สึกว่ามันเกินไปทั้งๆที่ไม่เคยมาดูหน้างานเลย
เราพิมพ์ยาวเพราะอยากให้เห็นรายละเอียด เราอาจจะคิดเข้าข้างตัวเองหรือเปล่าไม่รู้แต่เรารู้สึกว่าคนที่เขาทำประกันบ้านยอมจ่ายเบี้ยประกันหลายหมื่น เขาก็หวังให้คุณดูแล เหมือนประกันรถอ่ะ มีคนมาดูหน้างานซ่อมอู่ไหนได้ อะไรแบบนี้
ขอบคุณ บริษัทประกันภัยนี้ที่ทำให้ได้รู้ว่าควรทำด้วยแค่ครั้งเดียวก็เกินพอ
ถ้าแท็กผิดห้องขอโทษด้วยค่ะนี่ครั้งแรก
มีใครเคยมีประสบการณ์กับบริษัทนี้เหมือนกันบ้าง