บทความ ประวัติความเป็นมาแบรนด์
เรื่อง Longchamp2hand
Longchamp...ลองฌองป์...ลองชอง..ลองชอม...หรือ...ลองแชมป์ จะเรียกหรือออกเสียงอย่างไรก็ตาม กระแสความนิยมกระเป๋าจ่ายตลาดของแม่บ้านฝรั่งเศสที่ทำจากผ้าไนลอนที่ดูจะแสนธรรมดาแต่ราคาแพงใบนี้ก็ยังแรงดีไม่มีตกเทรนด์ แม้จะวนเวียนอยู่บนถนนแฟชั่นมากว่า 2 – 3 ปีแล้วก็ตาม
เมื่อเอ่ยถึงชื่อกระเป๋า Longchamp แล้ว สาวไทยจำนวนไม่น้อยที่เป็นเจ้าของ ส่วนที่เหลือกำลังมองหาเพื่อจะเป็นเจ้าของกับเขาสักใบ ไล่เรียงตั้งแต่วงสังคมไฮโซ ดารานักแสดง สาวออฟฟิศ นักศึกษาไปจนถึงนักเรียนมัธยมปลาย ด้วยรูปแบบที่แสนจะธรรมดา ที่เห็นด้วยสายตาคือกระเป๋าทำด้วยผ้าไนลอน พับเก็บได้ มีหูหิ้วและฝาเปิดปิดได้ สีสันสดใส แต่ทำไมกระเป๋าใบนี้จึงเป็นเพื่อนคู่แขนสาวๆ ไทยเกลื่อนถนนไปหมด
วันนี้เรามาทำความรู้จักกับประวัติความเป็นมาแบรนด์ Longchamp กันดีกว่าค่ะ ว่าทำไม? ถึงยังครองใจไม่ว่าจะเป็นสาวเล็กไปจนถึงสาวใหญ่ มาได้ยาวนานขนาดนิ้..
: Longchamp เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า ลู่วิ่งในสนามม้า เป็นเครื่องหนังของกรุงปารีส ภายใต้โลโกนักขี่-ม้าแข่ง กำเนิดขึ้นเมื่อปี 1948 โดย ฌอง กาสสย์ แกรง ซึ่งผลิตเครื่องหนังใช้หุ้มกล้องยาสูบ จนถึงปี 1960 จึงเริ่มปรับรูปแบบมาผลิตสินค้าเครื่องใช้เกี่ยวกับการเดินทางที่ผลิตจากหนังแกะ
ปี 1975 Longchamp เริ่มเข้าสู่วงการแฟชั่นด้วยการผลิตกระเป๋าสำหรับสตรีเป็นรุ่นแรกในชื่อรุ่น Veau Foulonne ชื่อเสียงของ Longchamp เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นจนสามารถเปิดตลาดที่เอเชียที่ฮ่องกงเป็นครั้งแรก
เมื่อปี 1979
จากกระเป๋าหนังแฟชั่นระดับแบรนด์เนม ปี 1994 Longchamp ได้เปิดตัวคอลเล็คชั่นใหม่ Le Pliagesหรือ‘เลอ ปิยาด’ซึ่งเป็นกระเป๋าพับที่ตัดเย็บจากไนลอน น้ำหนักเบา พับเก็บได้ มีหูหิ้วและฝาปิดกระเป๋าเป็นหนัง มีสีสันให้เลือกหลากหลาย ซึ่งครั้งแรกว่ากันว่าผลิตขายใน Duty Free เพื่อให้นักเดินทางได้ใช้สำหรับเก็บสัมภาระช็อปปิ้ง และขายในราคาถูก คุณภาพทนทาน กันน้ำ เป็นต้น ต่อมาจึงกลายมาเป็นรุ่นฮอตฮิตไปทั่วโลกกว่า 10 ปีแล้ว
สำหรับสาวฝรั่งเศสรวมไปถึงสาวยุโรปนั้นชอบถือกระเป๋ารุ่น Le Pliages กันมาก เรียกได้ว่าเกร่อถนนกันทีเดียว เพราะน้ำหนักเบา ทนทาน จุของได้มาก จึงเหมาะกับการถือไปจ่ายตลาด ไปช็อปปิ้ง และใช้พับเก็บเป็นกระเป๋าลูกในกระเป๋าเดินทาง เนื่องจากยุโรปไม่นิยมหิ้วถุงพลาสติก
หน้าตาของกระเป๋า Le Pliages ทำด้วยไนลอน มีฝาปิดเปิดและหูหิ้วที่ทำด้วยหนัง จะมี 2 ขนาดให้เลือกใช้และเป็นรหัสที่รู้กันในหมู่สาว ๆ ที่นิยมรุ่นนี้ คือ รุ่นไซส์ S หูสั้น,S หูยาว ไซส์ M หูสั้น,Mหูยาว แม้จะมีเพียงไม่กี่ขนาดและรูปแบบก็ไม่ค่อpเปลี่ยนแปลง แต่เสน่ห์ของรุ่นนี้อยู่ที่น้ำหนักเบามาก ทนทาน และที่พิเศษคือมีสีสันสดใสซึ่งเจ้าของผลิตภัณฑ์จะมีกลยุทธ์ออกออกสีสันและลวดลายใหม่ ๆ ปีละ 2 ครั้งตามฤดูกาลของแฟชั่นคือ Spring/Summer และ Autumn/Winter
และทุกครั้ง เมื่อ Le Pliages รุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด บรรดาสาว ๆ สาวกของ Le Pliages ทั่วโลกก็จะต้องดิ้นรนหามาเป็นเจ้าของให้ได้
โดยคนแรกที่นำ กระเป๋า Longchamp เข้ามาในเมืองไทยอย่างเป็นทางการคือ บริษัท คิงพาวเวอร์ซึ่งนำมาขายใน Duty Free ต่อมาจึงมี บริษัท โก เลย์บูเชล (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่งตรงกับช่วงกระแสของกระเป๋านี้กำลังมาแรง หลังสุดบริษัท...ได้เข้ามา Take over และทำการตลาดอย่างจริงจัง โดยมี Shop ใหญ่อยู่ที่ถนนเกสร และ Shop อื่นๆ กระจายไปทั่วกรุงเทพฯ
Longchamp2hand
เรื่อง Longchamp2hand
Longchamp...ลองฌองป์...ลองชอง..ลองชอม...หรือ...ลองแชมป์ จะเรียกหรือออกเสียงอย่างไรก็ตาม กระแสความนิยมกระเป๋าจ่ายตลาดของแม่บ้านฝรั่งเศสที่ทำจากผ้าไนลอนที่ดูจะแสนธรรมดาแต่ราคาแพงใบนี้ก็ยังแรงดีไม่มีตกเทรนด์ แม้จะวนเวียนอยู่บนถนนแฟชั่นมากว่า 2 – 3 ปีแล้วก็ตาม
เมื่อเอ่ยถึงชื่อกระเป๋า Longchamp แล้ว สาวไทยจำนวนไม่น้อยที่เป็นเจ้าของ ส่วนที่เหลือกำลังมองหาเพื่อจะเป็นเจ้าของกับเขาสักใบ ไล่เรียงตั้งแต่วงสังคมไฮโซ ดารานักแสดง สาวออฟฟิศ นักศึกษาไปจนถึงนักเรียนมัธยมปลาย ด้วยรูปแบบที่แสนจะธรรมดา ที่เห็นด้วยสายตาคือกระเป๋าทำด้วยผ้าไนลอน พับเก็บได้ มีหูหิ้วและฝาเปิดปิดได้ สีสันสดใส แต่ทำไมกระเป๋าใบนี้จึงเป็นเพื่อนคู่แขนสาวๆ ไทยเกลื่อนถนนไปหมด
วันนี้เรามาทำความรู้จักกับประวัติความเป็นมาแบรนด์ Longchamp กันดีกว่าค่ะ ว่าทำไม? ถึงยังครองใจไม่ว่าจะเป็นสาวเล็กไปจนถึงสาวใหญ่ มาได้ยาวนานขนาดนิ้..
: Longchamp เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า ลู่วิ่งในสนามม้า เป็นเครื่องหนังของกรุงปารีส ภายใต้โลโกนักขี่-ม้าแข่ง กำเนิดขึ้นเมื่อปี 1948 โดย ฌอง กาสสย์ แกรง ซึ่งผลิตเครื่องหนังใช้หุ้มกล้องยาสูบ จนถึงปี 1960 จึงเริ่มปรับรูปแบบมาผลิตสินค้าเครื่องใช้เกี่ยวกับการเดินทางที่ผลิตจากหนังแกะ
ปี 1975 Longchamp เริ่มเข้าสู่วงการแฟชั่นด้วยการผลิตกระเป๋าสำหรับสตรีเป็นรุ่นแรกในชื่อรุ่น Veau Foulonne ชื่อเสียงของ Longchamp เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นจนสามารถเปิดตลาดที่เอเชียที่ฮ่องกงเป็นครั้งแรก
เมื่อปี 1979
จากกระเป๋าหนังแฟชั่นระดับแบรนด์เนม ปี 1994 Longchamp ได้เปิดตัวคอลเล็คชั่นใหม่ Le Pliagesหรือ‘เลอ ปิยาด’ซึ่งเป็นกระเป๋าพับที่ตัดเย็บจากไนลอน น้ำหนักเบา พับเก็บได้ มีหูหิ้วและฝาปิดกระเป๋าเป็นหนัง มีสีสันให้เลือกหลากหลาย ซึ่งครั้งแรกว่ากันว่าผลิตขายใน Duty Free เพื่อให้นักเดินทางได้ใช้สำหรับเก็บสัมภาระช็อปปิ้ง และขายในราคาถูก คุณภาพทนทาน กันน้ำ เป็นต้น ต่อมาจึงกลายมาเป็นรุ่นฮอตฮิตไปทั่วโลกกว่า 10 ปีแล้ว
สำหรับสาวฝรั่งเศสรวมไปถึงสาวยุโรปนั้นชอบถือกระเป๋ารุ่น Le Pliages กันมาก เรียกได้ว่าเกร่อถนนกันทีเดียว เพราะน้ำหนักเบา ทนทาน จุของได้มาก จึงเหมาะกับการถือไปจ่ายตลาด ไปช็อปปิ้ง และใช้พับเก็บเป็นกระเป๋าลูกในกระเป๋าเดินทาง เนื่องจากยุโรปไม่นิยมหิ้วถุงพลาสติก
หน้าตาของกระเป๋า Le Pliages ทำด้วยไนลอน มีฝาปิดเปิดและหูหิ้วที่ทำด้วยหนัง จะมี 2 ขนาดให้เลือกใช้และเป็นรหัสที่รู้กันในหมู่สาว ๆ ที่นิยมรุ่นนี้ คือ รุ่นไซส์ S หูสั้น,S หูยาว ไซส์ M หูสั้น,Mหูยาว แม้จะมีเพียงไม่กี่ขนาดและรูปแบบก็ไม่ค่อpเปลี่ยนแปลง แต่เสน่ห์ของรุ่นนี้อยู่ที่น้ำหนักเบามาก ทนทาน และที่พิเศษคือมีสีสันสดใสซึ่งเจ้าของผลิตภัณฑ์จะมีกลยุทธ์ออกออกสีสันและลวดลายใหม่ ๆ ปีละ 2 ครั้งตามฤดูกาลของแฟชั่นคือ Spring/Summer และ Autumn/Winter
และทุกครั้ง เมื่อ Le Pliages รุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด บรรดาสาว ๆ สาวกของ Le Pliages ทั่วโลกก็จะต้องดิ้นรนหามาเป็นเจ้าของให้ได้
โดยคนแรกที่นำ กระเป๋า Longchamp เข้ามาในเมืองไทยอย่างเป็นทางการคือ บริษัท คิงพาวเวอร์ซึ่งนำมาขายใน Duty Free ต่อมาจึงมี บริษัท โก เลย์บูเชล (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่งตรงกับช่วงกระแสของกระเป๋านี้กำลังมาแรง หลังสุดบริษัท...ได้เข้ามา Take over และทำการตลาดอย่างจริงจัง โดยมี Shop ใหญ่อยู่ที่ถนนเกสร และ Shop อื่นๆ กระจายไปทั่วกรุงเทพฯ