[CR] สิงคโปร์ go with เฟรน

สิงคโปร์ go with เฟรน


          สิงหาคมว่างๆไม่รู้จะไปไหนดีเลยจัดทริปกระชับมิตรกับเพื่อนไปสิงคโปร์กันซะเลย เดินทางขาไปด้วยสายการบินแอร์เอเซีย กลับด้วยสายการบิน scoot ค่าตั๋วไปกลับราคา 3480.75 บาท และซื้อประกันเพิ่มอีกคนละ 353.67 บาท โดยรวมแล้วก็ถือว่าไม่ถูกสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้แพงมาก  ออกเดินทางวันที่ 25 สิงหาคม 2560 เครื่องออก 07.00 น. เป็นการเดินทางที่เช้ามาก

ใช้เวลาเดินทางประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ เครื่องก็แลนด์ส่งสู่ดินแดนเมอร์ไลออน เวลาประมาณ 10.35 น. เวลาที่สิงคโปร์เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง รอ ตม. รอกระเป๋า กว่าจะออกสนามบินก็ผ่านเที่ยงวันไปล่ะคร๊า  มีความชิวกันมากจริงๆ เพราะคืนก่อนเดินทางมีปาร์ตี้กันอย่างหนักหน่วง คิดสภาพแต่ล่ะคนไม่ต่างกับซอมบี้  เดินกันเป็นหอยทาก เคลื่อนตัวกันช้าๆ กลายเป็นโอ้เอ้ทริปในทันที

สำหรับการเดินทางเข้าเมืองเราเลือกเดินทางโดยรถไฟกันค่ะ เราจะต้องไปขึ้นรถไฟที่ Terminal 2  โดยวิธีไปไม่ยากเลย พอรับกระเป๋าเสร็จให้สังเกตป้ายที่บอกว่า sky train to T2  เราจะนั่งรถไฟที่นี่เพื่อไปลงที่ Terminal 2 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยค่ะ เพราะเป็นเหมือนรถไฟฟรีที่คอยให้บริการรับส่งอยู่แล้วส


มาถึง terminal 2 เราก็เดินไปตามป้ายที่เขียนว่า train to city ลงไปถึงชานชาลา ต้องไปซื้อตั๋วรถไฟกันก่อน แต่โชคดีด้วยอานิสงค์ของเพื่อนที่เคยมาเที่ยวสิงคโปร์  นางให้ยืมบัตรมาใช้เราเลยประหยัดค่าซื้อบัตรไปได้นิดหนึ่ง เราเติมเงินในบัตรไป 10 เหรียญ ( 1 เหรียญ เท่ากับ 25 บาท ) คำแนะนำสำหรับใครที่ซื้อบัตรใหม่ แนะนำว่าให้เติมเงินแค่ 10 หรือ 15 USD ก่อนจะดีกว่า ถึงแม้บัตรนี้จะมีอายุถึง 10 ปี แต่ถ้าเงินเหลือไม่สามารถนำไปแลกคืนได้


                ที่พักของเราอยู่ที่ china town เราจะเริ่มต้นสถานีที่สนามบินชื่อ Changi Airport(เลข 1) เป็นสายสีเขียว นั่งรถไฟไป 3 ป้าย ไปเปลี่ยนรถไฟเป็นสายสีม่วงที่สถานี Tanah Merah (เลข 2)  แล้วต่อไปลงที่สถานี outram park  (เลข3) เพื่อเปลี่ยนสถานีเป็นสายสีม่วงไป China Town

จริงๆอยากบอกว่ารถไฟที่สิงคโปร์เราว่าเข้าใจง่ายมว๊ากกกกก ไม่มีความซับซ้อนใดใด ถ้า ใครเคยผ่านด่านรถไฟที่ญี่ปุ่น ก็ขึ้นรถไฟที่นี่ได้สบายๆ ค่ารถไฟก็สุดแสนจะถูกจนน่าตกใจ คิดเป็นเงิน 1.75 เหรียญ นี่ขนาดเดินทางมาจากสนามบินนะ คิดถึงวินมอไซต์หน้าบ้านขับเข้าซอยยังแพงกว่าเล๊ย ระยะเวลาเดินทางจากสนามบินมาถึง สถานี china town ใช้เวลา ประมาณครึ่งชั่วโมงได้


                ที่พักของเราอยู่แถวๆ Pagoda Street พอลงสถานี Chinatown ให้มองหาประตูทางออก  ที่เขียนว่า Pagoda Street

พอเดินขึ้นบันไดมาให้เดินย้อนขึ้นมาที่ถนนใหญ่ เจอถนนใหญ่แล้วเลี้ยวขวา จะเจอร้านอาหารจีนมากมาย สุดมุมตึกแถวนี้ให้เลี้ยวขวาเดินไปประมาณ 400 เมตรก็จะเจอโรงแรมของพวกเราแล้วจ้า

                โรงแรมสำหรับทริปนี้ตลอด 2 คืน ชื่อ Hotel Mono ตกแต่งแบบมินิมอลโทนขาวดำ ตกแต่งเรียบง่าย แต่มีเสน่ห์ที่ทำให้พวกเราชอบ

ทริปนี้ไป 6 คน เราจองห้อง 2 คนกับ 4 คน ไม่รวมอาหารเช้า ราคาที่พักเท่ากับ 3500 บาท/คน

ก่อนจะมาเคยอ่านรีวิวเค้าบอกว่าที่พักที่สิงคโปร์มีความเล็กมาก คือเอาไว้แค่ได้ซุกหัวนอนก็พอ เราก็คาดหวังมาเช่นนั้น แต่ก็ผิดหวัง เพราะมันดีเกินคาดคร๊า ขนาดของห้องถือว่ากว้างพอควร เตียงนอนนี่ชนะเลิศ เอาเป็นว่านอนแล้วลุกยาก บวกกับห้องที่มืดแบบไม่รู้เดือนรู้ตะวัน นอนลืมเที่ยวเลยแหละ 5555555


                ห้องน้ำก็น้ำแรงแบบดีงามประทับจิตรประทับใจมากค่ะ มีเครื่องอาบน้ำให้พร้อม แต่เสียใจไม่มีที่ฉีดก้น

                
โรงแรมมินิมอลขนาดนี้ก็ต้องถ่ายรูปกับชุดตีมมินิมอลกันซะหน่อย


                หมดเวลากับการชื่นชมโรงแรมแล้วแหละ ตอนนี้ Universal studio รอเราอยู่ รีบไปซื้อตั๋วกันก่อนเลย เราจะไปซื้อตั๋วกันที่ห้าง People’s park center เปิด 10.00 น. ปิด 21.00 น.วิธีไปคือเดินขึ้นมาจากรถไฟฟ้านั่นแหละ แต่เราไม่ลงไปข้างล่าง เราจะเดินขึ้นข้างบนเพื่อข้ามไปห้างฝั่งตรงข้าม   ที่ห้างนี้จะมีหลายร้านที่ขายบัตรสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในสิงคโปร์ จริงๆไม่ต้องไปซื้อตามร้านที่เพื่อนๆเคยรีวิวในพันทิปก็ได้นะคะ เพราะดูแล้วราคาร้านอื่นก็ถูกพอๆกัน เราก็เดินเข้าไปซื้อแบบสุ่มๆ ได้ราคาตั๋วที่ 60 เหรียญ ราคานี้มีคูปองส่วนลดค่าอาหาร กับของที่ระลึกในสวนสนุก 5 %  ร้านที่เราซื้อชื่อว่า Resort Connection Tours อยู่ติดริมทางเดินเลยค่ะ หาไม่ยาก แถมคุณป้าที่ขายยังพูดดีมากอีกด้วย


                ได้ตั๋วแล้วก็ไปขึ้นรถไฟกันเลย เรานั่งไปลงที่สถานี Habour ค่าตั๋ว 0.87 เหรียญ

เดินออกจากสถานีก็เจอห้าง vivocity แนะนำให้หาข้าวกินก่อนเข้าสวนสนุก เพราะราคาข้างใน แพงมากแบบลดแล้วก็ยังซื้อไม่ลงจริงๆ

ในห้าง vivo จะมี foot court ที่มีอาหารมากมาย ราคาก็เริ่มต้นที่ประมาณ 6 เหรียญขึ้นไป หรือใครจะทานแมคก็ได้ไม่ว่ากัน


                อิ่มท้อง ก็พร้อมลุยกันเลย กว่าจะพร้อมก็จะบ่าย 3 แล้วจ้า ยังๆยังไม่รีบ เวลากระชั้นชิดขนาดนี้ยังไม่ยอมนั่งรถไฟเลยค่ะ เพราะเสียดายค่ารถไฟ 4 เหรียญ เรามาเดินกันเถอะเนอะ เพราะมันไม่ไกลมาก แถมยังได้ชมบรรยากาศดีดีอีกด้วย  ทุกคนเลยกลับลงมาที่ชั้น 1 เดินออกมานอกห้าง แล้วเดินตรงมาเรื่อยๆ เส้นนี้เรียกว่า  Santosa Bordwalk ช่วงนี้ฟรีค่าผ่านทางด้วยนะเธออออ วิวก็ดี เดินอ่ะไม่ช้าเท่าไหร่ แต่ถ่ายรูประหว่างทางนี่ซิ มาต้องพูดถึงกันเลย


                บ่าย 3 โมงเป๊ะ ทุกคนก็มาถึงที่จุดแลนมาร์คของ USS ที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปนั่นก็คือลูกโลก universal นั่นเอง ดูจากภายนอกคิดว่าคนน้อย ก็เลยถ่ายกันแบบชิวๆ แต่หารู้ไม่ว่าข้างในสวนสนุกไม่ได้ชิวเลยซักนิด
                
มาดูกันว่า เข้าสวนสนุกเวลานี้ จนถึง เวลาปิด เราเล่นเครื่องเล่นไปกี่เครื่องเล่น

                4 ชั่วโมง ได้เล่น เครื่องเล่นพีคๆ 3 อย่าง คือ ทรานฟอเมอร์ มัมมี่ และ Cylon แต่ล่ะเครื่องเล่นต่อแถว1 ชั่วโมงอัพ พีคมากๆก็เกือบ 2 ชั่วโมงได้  และเครื่องเล่นเด็กน้อยอีก 3-4 เครื่องเล่น เอาจริงก็ไม่คุ้มค่าตั๋วเท่าไหร่ แต่ก็ทำใจยอมรับสภาพ เพราะความชิวของพวกเราเองนี่แหละ 55555

                บัตรลด 5 % ซื้ออาหาร กับของที่ระลึก ต้องซื้อของกินมากกว่า 10 เหรียญ และของที่ระลึกมากกว่า 35เหรียญ ถึงจะใช้ส่วนลดนี้ได้นะคะ

                อยู่กันจนถึงสวนสนุกปิด คิดว่าจะนั่งรถไฟแล้วแหละ แต่แถวต่อรถไฟยาวมากกกกก เลยต้องจำใจเดินกลับมาที่ vivo เช่นเดิม มองในแง่บวกก็ถือว่าได้ชมวิวยามค่ำคืนกันเนอะ

                ห้าง vivo city มีขนมเค้ก อาหาร และร้านช๊อปปิ้งอีกมากมาย เดินผ่านร้านวาฟเฟิล กลิ่นหอมยั่วยวนใจมาก ทานตอนร้อนๆ อร๊อยอร่อย

                
วันนี้เราใช้พลังกันมากเกินไปล่ะ ไปหาข้าวกินใกล้ๆที่พักแล้วกลับห้องนอนกันดีกว่า ระหว่างเดินกลับโรงแรม เห็นร้านอาหารจีนคนเยอะมาก แถมอยู่หน้าโรงแรมซะด้วย สายกินอย่างเรารอคิวนานแค่ไหนก็ยอม

                อาหารที่สั่งก็ตามนี้เลยจ้า สั่งน้อยก็ไม่ได้ เค้าบอกว่า ไม่พอกินต้องสั่งเพิ่มอีก สงสัย มารู้แทนเราได้ไง? เราก็เชื่อคนง่าย สั่งเพิ่มไปอี๊ก สรุปสุดท้ายกินกันไม่หมดค่า

                น้ำซุป คล่องคอ ทานแล้วสดชื่น

                ไก่ผัดเผ็ดกับมันฝรั่ง มัน เค็ม แต่ก็พอรับได้

                ผัดหมี่จานนี้อร่อยเลยค่ะ

                กระดูกหมูตุ๋น ในรูปเป็นแบบซี่โครง น่ากินเชียว แต่มาเสริฟจริงอึ้งกันทั้งโต๊ะ นี่มันกระดูกต้มน้ำซุปบ้านเรานี่หว่า อารมเสีย!!!!!

                มันฝรั่งหั่นเป็นเส้นๆ รสชาติเปรี้ยวๆ เค็มๆ

                ผัดป๋วยเล้ง ที่ไม่มีรสชาติมีแต่ความมัน 555555

                ค่าเสียหายมื้อนี้หมดไป 74.8 เหรียญ คิดเป็นเงินไทย 1870 บาท คิดเป็น 312 บาท/หัว ที่นี่คิดค่าทิชชู่ที่เป็นห่อๆด้วยนะ ถ้าไม่ใช้ให้คืนร้านก่อนที่จะเช็คบิลด้วยจ้า
ชื่อสินค้า:   สิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน แบบเที่ยวเอง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่