ภาษาไทยรกจริงไหม

กระทู้คำถาม
ผมวิดีโอคอลกับเพื่อน ตปท ใกล้ๆบ้านเรานี่แหละ (ไม่ขอเอ่ยนามนะ) มันมาให้ผมช่วยหาเพลงไทยกับแทบกีต้าร์ให้มัน

มันบอกกีต้าร์ดีดแล้วฟังเพราะดีแต่มันไม่รู้ชื่อ ผมก็หาที่หาได้ (พบว่าเป็นเพลง ไม่บอกเธอ - bedroom) แล้วก็อัด zip ไปให้มัน

ในไฟล์ผมมันมีไฟล์งานผมอยู่ มันก็นึกว่าเป็๋นแทบ พอมันเปิดดูมันก็ถามประมาณว่า

ส่งเชรี้ยไรมาให้ตู ผมก็ตอบแบบเนิบๆว่าภาษาบ้านตูเอง

ตอนแรกมันก็อึ้งๆ แบบมันไม่เชื่อนะว่านี้เป็นภาษาไทย มันถามกลับมา นี่ภาษาบ้านยิ้มจริงดิ ทำไมมันรกขนาดนี้วะ ตูนึกว่าภาษาแถบตะวันออกกลาง

ผมได้ฟังผมก็นะ อืมๆ (แอบกัดฟันเล็กน้อย 555) มันคิดว่าเราใช้ตัวอักษรคล้ายจีนมาตลอด มันยังบอกอีกว่า ผมก็บอกว่าเนี่ย ภาษากรูเนี่ย คิดค้นมาแต่

บรรพบุรุษเลยนะเว้ย แล้วมันก็ตอบมา อ่อ ถ้างั้นพวกไม่ลองจะทำให้มันเรียบๆสวยๆหน่อยหรา (ต่อจากนี้คือสายขาด สัญญาณหาย สงสัยไฟแถวบ้านมันดับ)


พอดูไปดูมาก็เกิดความสงสัยนะว่ามันรกจริงไหม
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ว่าด้วยเรื่องรูปร่างตัวอักษร ผมว่าอักษรไทยและกับลาวนี่เขียนง่ายสุดในตระกูลอักษรอินเดียแล้ว อักษรเรียงเป็นตัว ๆ ไปตามบรรทัด แค่มีหัวกลม ๆ มีเล่นหางอักษร มีสระบน (ใส่หมวก) สระล่าง (ใส่รองเท้า เหยียดขา) กับเครื่องวรรณยุกต์ (มีฝนตก มีฟันหนู มีหยาดน้ำค้าง) เพิ่มมาให้ดูมีสีสันบ้างแค่นั้นเอง

ถ้าไปดูอักษรที่อยู่ตระกูลเดียวกัน เช่น ล้านนา เขมร อินเดีย ทิเบต สิงหล ฯลฯ จะปวดหัว ตัวอักษรซ้อนแล้วซ้อนอีก

"อักษรเขมร" ต้องมี "ศก" หรือหนามเตยหยัก ๆ เกือบทุกตัวแทบจะทิ่มตาคนอ่าน ก็ดูสวยมีศิลปะ แต่ส่วนตัวผมว่าดูเยอะไปนิด อักษรขอมโบราณหรืออักษรปัลลวะมีความโค้งมนอ่อนช้อยกว่า


จะเขียน "อักษรเทวนาครี" ของอินเดียหรือ "อักษรเบงกาลี" ต้องลากเส้นเหมือนราวตากผ้ายาว ๆ เหนือตัวอักษรตลอด



"อักษรทิเบต" ก็มีบ่ารูปลิ่มแหลม ๆ เหมือนคิวนิฟอร์ม อ่านแล้วเสียวทิ่มตาเหมือนกัน


จะเขียน "อักษรสิงหล" ของศรีลังกาหรือ "อักษรทมิฬ" ก็ต้องวาดวงกลมวนไปวนมาเวียนหัว เหมือนร้านขายโอ่งมังกร



"อักษรมอญ/พม่า" ดูเขียนง่าย ไม่ซับซ้อน สวยงาม มีความเป็นเรขาคณิตกลม ๆ


"อักษรฮันกึล" ของเกาหลีก็เรขาคณิตแต่ยากตรงที่ต้องยัดทุกสิ่งไว้ในกรอบสี่เหลี่ยม ถึงแม้ว่าจะไม่หนักเท่า "อักษรจีน" ก็เถอะ


ส่วน "อักษรอาหรับ" นี่ออกแนวลองปากกา แต่ถ้าเป็นภาษาอาหรับคลาสิสิคที่มีสระ มีลูกเล่นลวดลายเยอะ ๆ ผมว่าสวยดี

อันนี้ผมบรรยายแบบขำ ๆ ตามความรู้สึกส่วนตัวนะครับ เพื่อจะได้ดูไม่วิชาการเกินไป ไม่มีเจตนาดูหมิ่นภาษา เพราะจริง ๆ ผมในฐานะนักภาษาศาสตร์(สมัครเล่น)ผมรักทุกภาษาที่เรียนนะ อักษรแต่ละชาติมีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง

และต่อไปนี้คือ "ต้นตระกูล" ของอักษรที่ผมกล่าวมาข้างบน (ยกเว้นอักษรอาหรับและฮันกึล) คือ "อักษรพราหมี" ในจารึกพระเจ้าอโศก


สังเกตว่าหน้าตาแตกต่างจากอักษรลูกหลานในอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาก ทรงเรขาคณิต เรียบง่าย ทื่อ ๆ ไม่มีลูกเล่น ดูคล้ายอักษรในอารยธรรมตะวันตก ต่อมาแต่ละชาติเอาอักษรนี้ไปพัฒนาเป็นเอกลักษณ์ของชาติตัวเองอย่างมีศิลปะ นั่นสะท้อนว่าผู้คนแถบนี้หัว creative มาแต่โบราณแล้ว

บ่าอักษรในอีกษรเทวนาครี เบงกาลี ทิเบต หนามเตยในอักษรเขมร และหัวกลมในอักษไทยลาว ล้วนมีต้นกำเนิดมาจากที่เดียวกัน คือมาจากการตกแต่งเล่นปลายหางของอักษรพราหมี กลายเป็นอักษรนาครี (อินเดียฝ่ายเหนือ) และอักษรครันถะ (อินเดียฝ่ายใต้) ซึ่งอักษรฝ่ายใต้ได้แพร่มาในสุวรรณภูมิในนามอักษรปัลลวะ ได้ลูก ๓ คนคือ อักษรมอญโบราณ ขอมโบราณ และอักษรกวิ

อักษรมอญโบราณตัดบ่าออกทั้งหมดไม่เหลือ เหลือแต่ "แก่น" ของตัวอักษรจริง ๆ จึงเขียนง่าย เส้นไม่ซับซ้อน เมื่อมีการจารึกบนใบลานจึงค่อย ๆ กลายเป็นทรงกลม เป็นต้นแบบของอักษรพม่า ล้านนา ไทใหญ่ (ลีกถั่วงอก) ฯลฯ

ส่วนอักษรขอมโบราณยังรักษรบ่าอักษรไว้ แต่เล่นลวดลายม้วน ๆ ขดเป็นก้นหอยจนกลายเป็นศกหรือหนามเตยหยัก ๆ แหลม ๆ ในภายหลัง เช่นในอักษรเขมรปัจจุบัน


ชาวสยามโบราณเอาทั้งขอมและมอญมาดัดแปลง ตัดศกในอักษรบางตัวที่ดูกรกออก เปลี่ยนบางส่วนเป็นหัวกลมกลายเป็นอักษรไทย-ลาว ส่วนล้านนาแม้จะใช้อักษรดัดแปลงจากมอญแต่น่าจะรับอิทธิพลหัวอักษรจากอักษรไทยด้วย

ส่วนอักษรกวิ (ชวาโบราณ) ใช้หมู่เกาะอินโดนีเซีย มลายู และฟิลลิปปินส์โบราณ ต้นแบบของอักษรชวา บาหลี ตากาล็อก ฯลฯ น่าเสียดายที่ปัจจุบันดินแดนแถบนี้ส่วนใหญ่ทิ้งอักษรอินเดียไปใช้อักษรโรมันเกือบหมดแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่