ถือหุ้นนิ่งๆเป็นวีไอ มันไม่กำไรเสมอไปหรอกครับ หุ้นบางตัวลงมาตั้งแต่ ๒๙บาท ๓๐ บาท ตอนนี้ราคา ๒๗ บาท ก็ทำกำไรเป็นล้านได้

ที่ผมตั้งกระทู้นี้มาเพราะเห็นว่ามีแต่คนจะรอซื้อหุ้นถูกๆ  จะรอไก่สี่ไม้ร้อยมั่ง  ห้าไม้ร้อยมั่ง
จะรอเซ็ตลงไป ๑๒๐๐มั๊ง  รอ ๑๓๕๐ มั่ง  ผมว่ามันเป็นความคิดโบราณจนเกินไป เป็นการ
มองอะไรด้านเดียวจนเกินไป  หวังว่าจะเป็นอีกมุมมองนึงนะครับ

หุ้นดีๆราคาถูกๆ ปัจจุบันมันหายากเพราะใครๆก็อยากได้หุ้นราคาถูกๆ  ในเมื่อหุ้นราคาถูกๆ
มันไม่มีหรือ ท่าจะยากที่จะมีเหลือเพราะใครๆก็แย่งกันซื้อหมด ดังนั้นเราก็สามารถเลือกซื้อหุ้น
พื้นฐานดีๆราคาปานกลาง แต่ทำกำไรได้ก็ไม่เสียหายอะไรนี่ครับ

ผมจะยกตัวอย่างเลยนะครับ  ผมไล่ซื้อ (CPF) ตั้งแต่ต้นปี เพราะเห็นว่าราคามันย่อมาแล้ว
และคิดว่ามันน่าจะไปต่อ  แต่มันไม่ไปต่อมันดันลง ผมก็เก็บทีละไม้สองไม้ (ไม้ละหมื่นหุ้นสอง
หมื่นหรือห้าหมื่น หรือแสนก็แล้วแต่จังหวะ แหะๆ)  เหตุที่ผมเลือกหุ้นตัวนี้ก็เพราะมองเห็นแล้ว
ว่าธุรกิจของซีพีเอฟมันเป็นธุรกิจที่โตมาตลอดและไม่มีทางจะตายไม่ว่าเศรษฐกิจจะอยู่ใน
สภาพใดเพราะคนต้องกินอาหาร ดังนั้นหุ้นตัวนี้จึงเป็นตัวนึงที่ผมเลือกเทรดอย่างสบายใจ
ต่อให้ตลาดล่มเพราะอาตี๋คิมยิงจรวดยังไงๆบริษัทนี้ก็ยังไม่น่าจะเจ๊งและยังคงดำเนินธุรกิจ
ต่อไปได้

ดูภาพปลากรอบนะครับ เทรดไปเทรดมา ยังไม่รวมช่วงสองสามวันนี้นะครับ หุ้นลงไปจาก
เกือบสามสิบบาท วันนี้ปิด ๒๗.๕๐ บาท  ถ้าถือนิ่งๆนี่ขาดทุนเห็นๆ และถ้าคิดว่าหุ้นมัน
ไม่ดีนี่คิดผิดเลยนะครับ หุ้นพื้นฐานดียังไงๆ ราคามันก็จะต้องกลับไปอยู่ในที่ที่มันควรจะ
เป็น (ไม่ช้าก็เร็ว) มันเป็นโอกาสที่จะทำกำไรจากการสวิงของราคาหุ้น


จากภาพจะเห็นว่าผมกำไรมาร่วมล้าน แต่รวมปันผลสองรอบไปด้วยแล้ว ผมกำไรมาล้านกว่า
บาทจากการเทรดดิ้ง ในช่วงที่หุ้นขึ้นๆลงๆ  ถ้าถือเป็นวีไอ ใครซื้อ ๓๐ บาทก็บ่นหนาวอยู่บนดอย
แต่อย่างไรก็ดีผมเชื่อว่าตัวนี้ในอนาคตอีกสิบยี่สิบปีข้างหน้าราคามันต้องไป ๕๐ บาท ใครจะมา
รอซื้อไก่CPF ห้าไม้หกไม้ร้อยแบบแต่ก่อนท่าจะยากยกเว้นเกิดวิกฤตเศรษฐกิจหรือสงครามเท่านั้น
เพราะพื้นฐานมันเปลี่ยนไป มันโตขึ้นมาแล้วมูลค่าทางบัญชีก็สูงขึ้น จะให้กลับไปราคาเดิมท่าจะยาก

วิธีการเทรดผมจะกำหนดเป็นช่วงๆนะครับ สมมุติผมตีกรอบลงว่ายังไงมันลงไม่ต่ำกว่ายี่สิบบาท
อยู่แล้ว เพราะถ้าลงไปยี่สิบบาท พีอีมันจะอยู่ประมาณสิบหรือสิบเอ็ด ซึ่งมันถูกเกินไปสำหรับหุ้น
เติบโตและเป็นอันดับต้นๆในอุตสาหกรรมอาหารของเอเซีย  ถ้าแต่ละบาทที่มันลงไปผมถัวทุกๆ
ช่อง ดังนั้นถ้ามันลงไปยี่สิบบาทจากสามสิบบาทผมจะต้องมี สี่สิบไม้  แต่ผมไม่ได้มีงบเยอะที่จะ
เล่นตัวนี้ตัวเดียว จึงเล่นทีละประมาณห้าสิบสตางค์ เวลามันย่อลงมาเยอะๆ รอจังหวะถือข้ามวัน
ขึ้นเครื่องหมายให้มันลงมาแรงๆแล้วเก็บทีละไม้สองไม้   อย่างในภาพที่เห็นข้างบนจะเห็นว่าผม
ขายที่ ๒๘.๒๕ แล้วซื้อที่ ๒๘.๒๕ ก็มี อันนี้ไม่ได้เท่าทุนแล้วขาดทุนนะครับ เป็นการขายไม้ที่ซื้อ
มา ๒๗.๒๕  แล้ว ตัวที่ซื้อ ๒๘.๒๕ ทีหลัง ก็ไปขาย ๒๘.๕๐  ดังนั้นมองเผินๆ เฮ้ยทำอะไร แต่
เป็นการขายโดยคิดต้นทุนจากไม้ที่ทำกำไรได้นะครับ เวลาเทรดออกมาบางทีมันจะเป็นตัวแดง
แต่ตัวเลขเงินในพอร์ทโดยรวมจะเพิ่มขึ้น  ทำวิธีนี้ไปเรื่อยๆ มาจนวันนี้รวมปันผลแล้วผมกำไรมา
ประมาณหนึ่งล้านหนึ่งแสนบาท

วันนี้ก็เล่นมาอีกหมื่นกว่าบาทจากการที่มันสวิง


แล้วก็รับกลับเข้ามาใหม่ที่ราคาเดิม ๒๗.๒๕ ปิดตลาดที่จริงจะขายอีกรอบก็ได้ แต่ผมไม่ได้ขาย
เพราะตั้งขายไว้ที่ราคา๒๗.๗๕ เพราะคิดว่ามันน่าจะสวิงขึ้นไปสูงได้อีกก็เลยเก็บไว้และตั้งขาย
พรุ่งนี้ไว้แล้ว (กลัวมาร์รวยเกินเหตุ)
ภาพตอนปิดตลาดวันนี้ กำไรมายามาอีก



ก็เป็นอีกแง่มุมนึงของการทำกำไรเป็นกอบเป็นกำในตลาดลักทรัพย์แห่งนี้นะครับ  ถ้าใครคิดว่าหุ้น
จะต้องซื้อถูกๆเสมอไปนี่ผมว่ามันเป็นการเสียโอกาสซะมากกว่า  ลองศึกษาวิธีที่ผมทำดูนะครับ
(ไม่คิดค่าคอสครับ แชร์กันครับ)

นับต้นทุนแต่ละไม้  จดไว้ว่าแต่ละไม้ต้นทุนเท่าใด พอได้กำไรไม้นั้นก็ขายไม้นั้นออกมา แล้วก็จดไว้
ว่าต้นทุนไม้ทีเหลือๆ ไม้ละเท่าใดบ้าง  ถึงเวลาเทรดออกมา มันจะแดงๆเหมือนขาดทุนแต่จริงๆแล้ว
มันกำไรนะครับ เพียงแต่ตัวที่เหลือเราต้องรู้ว่าต้นทุนเท่าใด  ทำดังนี้ก็จะเทรดหุ้นไซด์เวย์อัพหรือ
ไซด์เวย์ดาวน์และทำกำไรไปเรื่อยๆได้นะครับ

ขอให้โชดดีในการเทรดและไม่ต้องรอที่จะเลือกซื้อหุ้นดีๆเพราะผลตอบแทนในตลาดมันมากกว่าเงิน
ฝากนะครับ รอราคารอปู่ย่อเยอะมาถูกๆมันเป็นการเสียโอกาสนะครับ

หมายเหตุ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องศึกษาให้ดีก่อนจะลงทุน  ผู้ลงทุนควร
จะพิจารณาความรู้ความสามารถความชำนาญและความเสี่ยงให้เหมาะสมกับตัวเอง ก่อนที่จะทำการ
ลงทุนในตลาดหลกทรัพย์ฯ  จขกทเพียงแต่แชร์ประสบการณ์และวิธีการที่ทำเท่านั้น ไม่ได้เป็นการการันตี
ว่าเทรดแบบนั้นแบบนี้แล้วจะต้องได้กำไรเสมอไป  ดังนั้นผู้ลงทุนจึงควรเข้าใจว่าการลงทุนมีความเสี่ยง
เสมอ