สวัสดีค่ะ กลับมากันอีกครั้ง
หลังจากที่คราวก่อนได้รีวิวเกี่ยวกับ
ขนมของฝากที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบกันไปแล้ว
(ในกระทู้นี้ :
https://m.pantip.com/topic/36816748? )
วันนี้เปลี่ยนจากรีวิวขนม
มารีวิวสถานที่ท่องเที่ยวกันบ้างนะคะ
ศาลเจ้าที่เราจะพาทุกท่านไปกันในวันนี้
ชื่อว่าศาลเจ้า Atsuta Jingu
เมืองNagoya จังหวัดAichiค่ะ
(ขออนุญาตเรียกง่ายๆว่าศาลเจ้านะคะ เพื่อความเข้าใจง่าย)
Nagoyaเป็นเมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองอุตสาหกรรม
เป็นธรรมดาที่จะต้องมีแต่ความวุ่นวาย
แต่ในความวุ่นวายนั้น คนญี่ปุ่นนั้น
ก็ยังต้องการความสงบ และที่พักพิงทางจิตใจ
และคงเป็นที่ไหนไปไม่ได้ หากไม่ใช่ศาลเจ้า
ศาลเจ้าAtsuta Jinguที่นาโกย่า
จึงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนที่นี่
ที่จะมาประกอบพิธีกรรมต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นการแต่งงาน หรือ การเฉลิมฉลองในวันปีใหม่
ภาพถ่ายในกระทู้นี้อาจจะไม่ค่อยสวยเท่าไรนะคะ
แต่อยากแบ่งปันให้ผู้อ่านทุกท่านได้ชมกันค่ะ
เกริ่นมาซะเยอะ มาเริ่มกันดีกว่าค่ะ
ศาลเจ้าที่นี่กว้างพอสมควรเลยค่ะ
มีประตูทางเข้าหลายทาง
แล้วก็มีที่จอดรถให้สำหรับคนที่ขับรถมาเอง
ซึ่งแน่นอนค่ะว่าเสียเงิน
เดินเข้ามาไม่ว่าจะประตูไหน
เราจะเจออ่างล้างมือก่อนเลยตามธรรมเนียม
เราก็ล้างมือให้สะอาดเรียบร้อยแล้วเข้าไปข้างในกันเลยค่ะ
ก่อนจะผ่านซุ้มประตูแบบนี้
คนญี่ปุ่นจะหันหน้าเข้าไปด้านในแล้วโค้ง1ที ก่อนเดินเข้า
ตอนเดินออกก็เช่นกันนะคะ โค้ง1ที แล้วค่อยออกค่ะ
ประตูที่เราเข้ามา ก็จะเจอบรรยากาศแบบนี้ก่อนเลย
เป็นถังเหล้าเรียงรายกันเต็มไปหมด
แล้วก็มีต้นไม้ใหญ่พันเชือกไว้ ซึ่งก็มีคนมาไหว้กันเยอะแยะ
นึกถึงต้นโพธิ์พันผ้า3สีบ้านเราไว้ค่ะ น่าจะแบบเดียวกัน
แต่ที่นี่ไม่มีคนมาขอหวยนะคะ5555
ถัดมาก็จะมีแผ่นป้ายเรียงรายให้ความรู้ต่าง
เป็นทางยาวไปเลยค่ะ แต่อ่านไม่ค่อยออก
เราเลยข้ามไป55555 ไปข้างในเลยดีกว่าค่ะ
ข้างในค่อนข้างกว้างใหญ่ แต่ต้นไม้เยอะมาก
ถึงแม้ว่าจขกท.จะไปตอนเที่ยง แต่แดดก็ไม่ร้อนเลยค่ะ เดินเล่นสบายมากๆ
ศาลเจ้าที่นี่ก็จะมีกิจกรรมคล้ายๆกับที่อื่นคือ
เขียนแผ่นไม้ขอพร และ มีให้เสี่ยงเซียมซี
แต่เซียมซีที่นี่ไม่เหมือนที่ไทยนะคะ
ของเราเขย่าให้กระเด็นออกทางปากกระบอก
แต่ของญี่ปุ่น จะมีรูอยู่ที่ปลายกระบอก
แล้วให้เราเขย่าจนกว่าจะมีแท่งไม้หลุดออกมาค่ะ
หนุ่มสาวคู่รัก ก็มาเสี่ยงดวงขอพรกันเต็มไปหมดเลยค่ะ
เสี่ยงดวงเสร็จแล้ว ก็มาหาข้อมูลความรู้กันต่อค่ะ
ภายในตัวศาลเจ้าจะมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆให้
ได้เข้าชมกัน แต่ภายในห้ามถ่ายภาพนะคะ
ค่าเข้าก็ราคา300เยนเท่านั้นค่ะ
ส่วนใจกลางของศาลเจ้าก็อยู่ที่ตรงนี้ค่ะ
สามารถเดินอ้อมเข้าไปด้านหลังได้
เค้าบอกว่าเป็นจุดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดเลย
แต่ห้ามถ่ายรูปนะคะ เลยไม่ได้มีรูปมาฝากกันค่ะ
เอาด้านหน้าไปแทนละกันนะคะ
หลังจากเดินกันจนเหนื่อย
ก็ขอแวะเติมพลังสักหน่อย ด้วยราเมนภายในศาลเจ้า
เพราะมีอยู่ร้านเดียวค่ะ555555
ไหนๆมาถึงศาลเจ้าแล้ว ก็กินราเมนซักหน่อยค่ะ
เผื่อจะอายุยืน (ทฤษฎีไหนไม่รู้เหมือนกันค่ะ55)
ทางเข้าร้านก็จะมีป้ายแบบนี้
มีที่ให้นั่งแบบโรงอาหารขนาดย่อมค่ะ
คนญี่ปุ่นมาต่อแถวทานกันเต็มเลย
มีอยู่ให้เลือกไม่กี่เมนูค่ะ
จขกท.เลือกชามนี้มา เพราะถูกสุดค่ะ5555
แต่ไม่ผิดหวังนะเออ รสชาติอร่อย น้ำซุปหอมๆ
ชามนี้650เยน อิ่ม อุ่น สบายท้องค่ะ
หลังจากนั้นก็ลุยกันต่อค่ะ
พื้นที่บริเวณด้านข้างของร้านราเมนจะมีบ่อน้ำอยู่
จุดนี้น่ารักมากๆ เพราะจขกท.ไปตอนกลางวัน
เต่าน้อยเต่าใหญ่กำลังขึ้นมาอาบแดดกันพอดีเลยค่ะ
ในส่วนที่เหลือนั้นก็จะเป็นศาลเล็ก ศาลน้อย
อีกมากมาย และก็ยังมีพื้นที่สงบๆ ต้นไม้เขียวๆ
ให้ได้มาพักสายตา มองต้นไม้ มองท้องฟ้า
มองวิถีชีวิตและความเชื่อของคนที่นี่
และการเดินทางเยี่ยมชมศาลเจ้าของจขกท.
ก็ขอจบลงแต่เพียงเท่านี้ หากใครมีเวลาว่าง
มาเที่ยวนาโกย่า แต่ไม่รู้จะไปไหน
ก็ลองมาพักสมอง และ สายตาที่นี่ได้นะคะ
ข้อมูลโดยทั่วไป อ่านได้ในเว็บไซต์ด้านล่างเลยค่ะ
https://www.atsutajingu.or.jp/en/intro/
แนบแผนที่วัดไว้ให้ชมกันตรงนี้นะคะ
กว้างใหญ่ จริ๊งจริงงงงงงงงงง
ค่าเข้าศาลเจ้า : ฟรี
ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ภายในศาลเจ้า : 300 เยน
การเดินทาง :
1.รถไฟใต้ดิน(Subway) สายMeijo line เดิน5นาที จากสถานี Jingu-Nishi ทางออก2
2.รถไฟJR เดิน8นาที จากสถานีAtsuta
3.รถไฟMeitetsu เดิน3นาที จากสถานีJingumae
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านมากๆค่ะ
หากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะคะ
Atsuta Jingu shrine ตามหาความสงบ ร่ม สบาย ในเมืองอุตสาหกรรม - Nagoya,Japan
หลังจากที่คราวก่อนได้รีวิวเกี่ยวกับ
ขนมของฝากที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบกันไปแล้ว
(ในกระทู้นี้ : https://m.pantip.com/topic/36816748? )
วันนี้เปลี่ยนจากรีวิวขนม
มารีวิวสถานที่ท่องเที่ยวกันบ้างนะคะ
ศาลเจ้าที่เราจะพาทุกท่านไปกันในวันนี้
ชื่อว่าศาลเจ้า Atsuta Jingu
เมืองNagoya จังหวัดAichiค่ะ
(ขออนุญาตเรียกง่ายๆว่าศาลเจ้านะคะ เพื่อความเข้าใจง่าย)
Nagoyaเป็นเมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองอุตสาหกรรม
เป็นธรรมดาที่จะต้องมีแต่ความวุ่นวาย
แต่ในความวุ่นวายนั้น คนญี่ปุ่นนั้น
ก็ยังต้องการความสงบ และที่พักพิงทางจิตใจ
และคงเป็นที่ไหนไปไม่ได้ หากไม่ใช่ศาลเจ้า
ศาลเจ้าAtsuta Jinguที่นาโกย่า
จึงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนที่นี่
ที่จะมาประกอบพิธีกรรมต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นการแต่งงาน หรือ การเฉลิมฉลองในวันปีใหม่
ภาพถ่ายในกระทู้นี้อาจจะไม่ค่อยสวยเท่าไรนะคะ
แต่อยากแบ่งปันให้ผู้อ่านทุกท่านได้ชมกันค่ะ
เกริ่นมาซะเยอะ มาเริ่มกันดีกว่าค่ะ
ศาลเจ้าที่นี่กว้างพอสมควรเลยค่ะ
มีประตูทางเข้าหลายทาง
แล้วก็มีที่จอดรถให้สำหรับคนที่ขับรถมาเอง
ซึ่งแน่นอนค่ะว่าเสียเงิน
เดินเข้ามาไม่ว่าจะประตูไหน
เราจะเจออ่างล้างมือก่อนเลยตามธรรมเนียม
เราก็ล้างมือให้สะอาดเรียบร้อยแล้วเข้าไปข้างในกันเลยค่ะ
ก่อนจะผ่านซุ้มประตูแบบนี้
คนญี่ปุ่นจะหันหน้าเข้าไปด้านในแล้วโค้ง1ที ก่อนเดินเข้า
ตอนเดินออกก็เช่นกันนะคะ โค้ง1ที แล้วค่อยออกค่ะ
ประตูที่เราเข้ามา ก็จะเจอบรรยากาศแบบนี้ก่อนเลย
เป็นถังเหล้าเรียงรายกันเต็มไปหมด
แล้วก็มีต้นไม้ใหญ่พันเชือกไว้ ซึ่งก็มีคนมาไหว้กันเยอะแยะ
นึกถึงต้นโพธิ์พันผ้า3สีบ้านเราไว้ค่ะ น่าจะแบบเดียวกัน
แต่ที่นี่ไม่มีคนมาขอหวยนะคะ5555
ถัดมาก็จะมีแผ่นป้ายเรียงรายให้ความรู้ต่าง
เป็นทางยาวไปเลยค่ะ แต่อ่านไม่ค่อยออก
เราเลยข้ามไป55555 ไปข้างในเลยดีกว่าค่ะ
ข้างในค่อนข้างกว้างใหญ่ แต่ต้นไม้เยอะมาก
ถึงแม้ว่าจขกท.จะไปตอนเที่ยง แต่แดดก็ไม่ร้อนเลยค่ะ เดินเล่นสบายมากๆ
ศาลเจ้าที่นี่ก็จะมีกิจกรรมคล้ายๆกับที่อื่นคือ
เขียนแผ่นไม้ขอพร และ มีให้เสี่ยงเซียมซี
แต่เซียมซีที่นี่ไม่เหมือนที่ไทยนะคะ
ของเราเขย่าให้กระเด็นออกทางปากกระบอก
แต่ของญี่ปุ่น จะมีรูอยู่ที่ปลายกระบอก
แล้วให้เราเขย่าจนกว่าจะมีแท่งไม้หลุดออกมาค่ะ
หนุ่มสาวคู่รัก ก็มาเสี่ยงดวงขอพรกันเต็มไปหมดเลยค่ะ
เสี่ยงดวงเสร็จแล้ว ก็มาหาข้อมูลความรู้กันต่อค่ะ
ภายในตัวศาลเจ้าจะมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆให้
ได้เข้าชมกัน แต่ภายในห้ามถ่ายภาพนะคะ
ค่าเข้าก็ราคา300เยนเท่านั้นค่ะ
ส่วนใจกลางของศาลเจ้าก็อยู่ที่ตรงนี้ค่ะ
สามารถเดินอ้อมเข้าไปด้านหลังได้
เค้าบอกว่าเป็นจุดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดเลย
แต่ห้ามถ่ายรูปนะคะ เลยไม่ได้มีรูปมาฝากกันค่ะ
เอาด้านหน้าไปแทนละกันนะคะ
หลังจากเดินกันจนเหนื่อย
ก็ขอแวะเติมพลังสักหน่อย ด้วยราเมนภายในศาลเจ้า
เพราะมีอยู่ร้านเดียวค่ะ555555
ไหนๆมาถึงศาลเจ้าแล้ว ก็กินราเมนซักหน่อยค่ะ
เผื่อจะอายุยืน (ทฤษฎีไหนไม่รู้เหมือนกันค่ะ55)
ทางเข้าร้านก็จะมีป้ายแบบนี้
มีที่ให้นั่งแบบโรงอาหารขนาดย่อมค่ะ
คนญี่ปุ่นมาต่อแถวทานกันเต็มเลย
มีอยู่ให้เลือกไม่กี่เมนูค่ะ
จขกท.เลือกชามนี้มา เพราะถูกสุดค่ะ5555
แต่ไม่ผิดหวังนะเออ รสชาติอร่อย น้ำซุปหอมๆ
ชามนี้650เยน อิ่ม อุ่น สบายท้องค่ะ
หลังจากนั้นก็ลุยกันต่อค่ะ
พื้นที่บริเวณด้านข้างของร้านราเมนจะมีบ่อน้ำอยู่
จุดนี้น่ารักมากๆ เพราะจขกท.ไปตอนกลางวัน
เต่าน้อยเต่าใหญ่กำลังขึ้นมาอาบแดดกันพอดีเลยค่ะ
ในส่วนที่เหลือนั้นก็จะเป็นศาลเล็ก ศาลน้อย
อีกมากมาย และก็ยังมีพื้นที่สงบๆ ต้นไม้เขียวๆ
ให้ได้มาพักสายตา มองต้นไม้ มองท้องฟ้า
มองวิถีชีวิตและความเชื่อของคนที่นี่
และการเดินทางเยี่ยมชมศาลเจ้าของจขกท.
ก็ขอจบลงแต่เพียงเท่านี้ หากใครมีเวลาว่าง
มาเที่ยวนาโกย่า แต่ไม่รู้จะไปไหน
ก็ลองมาพักสมอง และ สายตาที่นี่ได้นะคะ
ข้อมูลโดยทั่วไป อ่านได้ในเว็บไซต์ด้านล่างเลยค่ะ
https://www.atsutajingu.or.jp/en/intro/
แนบแผนที่วัดไว้ให้ชมกันตรงนี้นะคะ
กว้างใหญ่ จริ๊งจริงงงงงงงงงง
ค่าเข้าศาลเจ้า : ฟรี
ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ภายในศาลเจ้า : 300 เยน
การเดินทาง :
1.รถไฟใต้ดิน(Subway) สายMeijo line เดิน5นาที จากสถานี Jingu-Nishi ทางออก2
2.รถไฟJR เดิน8นาที จากสถานีAtsuta
3.รถไฟMeitetsu เดิน3นาที จากสถานีJingumae
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านมากๆค่ะ
หากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะคะ