เมื่อเวลา10.00น. วันที่ 19 กันยายน ที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เป็นประธานการ ประชุมโครงการพัฒนาเครือข่ายองค์กรต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐครั้งที่ 5 โดยมีการเชิญ 8 หน่วยงานเข้าร่วมได้แก่
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.)
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.)
สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)
กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร กองทัพภาคที่1 กองบังคับการปราบปราม(บก.ป)
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) และ
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ. )
เพื่อสรุปผลการดำเนินงานที่ผ่านมาและกำหนดทิศทางการต่อต้านทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ
พล.ต.ต.กมล เปิดเผยก่อนประชุมว่า ล่าสุดที่ได้รับคำสั่งมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คือการตรวจสอบเรื่องระบายข้าว ในส่วน ปปป.ได้เไปตรวจสอบที่ จ.กำแพงเพชร พบว่าบริษัทที่ถูกกล่าวหา เป็นบริษัทที่เข้าประมูลเป็บบริษัทประเภทไหน ไม่สามารถยืนยันชัดเจนว่ามีคุณสมบัติตามทีโออาร์กรมการค้าต่างประเทศกำหนดหรือไม่ เพียงแต่ทราบถึงข้อเท็จจริง ว่าเป็นโรงงานผลิตแป้งมันตามใบอนุญาต ตอนนี้ได้ส่งหนังสือไปยังบริษัทประมูลและโรงงานให้ส่งเอกสารหลักฐานเข้าชี้แจงกับ ปปป. ทั้งหมด หลังจากนี้ ปปป.จะรวบรวมเอกสารหลักฐานที่ได้ส่งเป็นรายงานไปถึงที่คณะกรรมการใหญ่ต่อไป นอกจากนี้ปปป.ยังตรวจสอบเรื่องการเอื้อประโยชน์หรือสมคบกันกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่อาจจะมีการทุจริตให้บริษัทชนะการประมูล เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงทั้งหมด ทาง ปปป. ยังคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะในการตรวจสอบ
พล.ต.ต.กมล กล่าวต่อว่า ความคืบหน้า “ยุทธการปราบฮั้ว” ปปป.ได้ทำสำนวนการสืบสวน และทำหนังสือหาผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับความเดือดร้อน ให้เข้ามาร้องทุกข์ 20 กว่าองค์กรส่วนท้องถิ่น ซึ่ง ปปป.ได้สรุปสำนวนส่งให้ ป.ป.ช.แล้วทั้งหมด 19 สำนวน ให้ดำเนินคดีกับองค์กรส่วนท้องถิ่นที่มีความผิดตาม พ.ร.บ. เสนอราคาต่อรัฐ ในเรื่องรถบรรทุก 10 ล้อดูดสิ่งปฏิกูล ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบสำนวนทั้งหมด ก่อนส่งสำนวนกลับมายังมา ให้ดำเนินคดีได้เลย 7 สำนวน จากนั้นได้สืบสวนและตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ยังมีกลุ่มผู้กระทำความผิดในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศไทยอีก 12 แห่ง พร้อมรวบรวมหลักฐานส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่ง ปปป.จะดำเนินการกวาดล้างและป้องปรามเพื่อไม่ให้เกิดรูปแบบการประมูลทุจริตแบบนี้ขึ้นอีก
พล.ต.ต.กมล เปิดเผยอีกว่า ส่วนความคืบหน้ายุทธการปราบโกงวัด ขณะนี้การปปป.ดำเนินงานอยู่ เบื้องต้นได้ส่ง สำนวนไปยัง ป.ป.ช.2 สำนวน และยังตรวจสอบพบการทุจริตเพิ่มเติมอีก 23 วัด เป็นการทุจริตของหน่วยงานราชการคือสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งจะรวบรวมทั้งหมดส่งเพิ่มอีก 23 คดี ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 26 กันยายน เพื่อสรุปผลการปฏิบัติงานและสรุปสำนวนคดี
JJNY : ประชุม 8 องค์กรต้านโกง พบคดีระบายข้าว”เอื้อจนท.รัฐ”-เช็คบิล 12 ท้องถิ่น ฮั้ว -คดี”เงินทอนวัด”ส่งป.ป.ช.26 ก.ย.
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.)
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.)
สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)
กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร กองทัพภาคที่1 กองบังคับการปราบปราม(บก.ป)
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) และ
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ. )
เพื่อสรุปผลการดำเนินงานที่ผ่านมาและกำหนดทิศทางการต่อต้านทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ
พล.ต.ต.กมล เปิดเผยก่อนประชุมว่า ล่าสุดที่ได้รับคำสั่งมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คือการตรวจสอบเรื่องระบายข้าว ในส่วน ปปป.ได้เไปตรวจสอบที่ จ.กำแพงเพชร พบว่าบริษัทที่ถูกกล่าวหา เป็นบริษัทที่เข้าประมูลเป็บบริษัทประเภทไหน ไม่สามารถยืนยันชัดเจนว่ามีคุณสมบัติตามทีโออาร์กรมการค้าต่างประเทศกำหนดหรือไม่ เพียงแต่ทราบถึงข้อเท็จจริง ว่าเป็นโรงงานผลิตแป้งมันตามใบอนุญาต ตอนนี้ได้ส่งหนังสือไปยังบริษัทประมูลและโรงงานให้ส่งเอกสารหลักฐานเข้าชี้แจงกับ ปปป. ทั้งหมด หลังจากนี้ ปปป.จะรวบรวมเอกสารหลักฐานที่ได้ส่งเป็นรายงานไปถึงที่คณะกรรมการใหญ่ต่อไป นอกจากนี้ปปป.ยังตรวจสอบเรื่องการเอื้อประโยชน์หรือสมคบกันกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่อาจจะมีการทุจริตให้บริษัทชนะการประมูล เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงทั้งหมด ทาง ปปป. ยังคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะในการตรวจสอบ
พล.ต.ต.กมล กล่าวต่อว่า ความคืบหน้า “ยุทธการปราบฮั้ว” ปปป.ได้ทำสำนวนการสืบสวน และทำหนังสือหาผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับความเดือดร้อน ให้เข้ามาร้องทุกข์ 20 กว่าองค์กรส่วนท้องถิ่น ซึ่ง ปปป.ได้สรุปสำนวนส่งให้ ป.ป.ช.แล้วทั้งหมด 19 สำนวน ให้ดำเนินคดีกับองค์กรส่วนท้องถิ่นที่มีความผิดตาม พ.ร.บ. เสนอราคาต่อรัฐ ในเรื่องรถบรรทุก 10 ล้อดูดสิ่งปฏิกูล ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบสำนวนทั้งหมด ก่อนส่งสำนวนกลับมายังมา ให้ดำเนินคดีได้เลย 7 สำนวน จากนั้นได้สืบสวนและตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ยังมีกลุ่มผู้กระทำความผิดในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศไทยอีก 12 แห่ง พร้อมรวบรวมหลักฐานส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่ง ปปป.จะดำเนินการกวาดล้างและป้องปรามเพื่อไม่ให้เกิดรูปแบบการประมูลทุจริตแบบนี้ขึ้นอีก
พล.ต.ต.กมล เปิดเผยอีกว่า ส่วนความคืบหน้ายุทธการปราบโกงวัด ขณะนี้การปปป.ดำเนินงานอยู่ เบื้องต้นได้ส่ง สำนวนไปยัง ป.ป.ช.2 สำนวน และยังตรวจสอบพบการทุจริตเพิ่มเติมอีก 23 วัด เป็นการทุจริตของหน่วยงานราชการคือสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งจะรวบรวมทั้งหมดส่งเพิ่มอีก 23 คดี ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 26 กันยายน เพื่อสรุปผลการปฏิบัติงานและสรุปสำนวนคดี