บ้านและที่ดินโดนขายทอดตลาดจากกรมบังคับคดี

เรื่องมีอยู่ว่า ได้รับเอกสารจากกรมบังคับคดีว่าที่บ้านจะถูกประกาศขายเนื่องจากหนึ่งในหุ้นส่วนเจ้าของที่ดินคือน้าชาย ไปเป็นผู้ค้ำการเช่าซื้อรถยนต์ให้ป้าแล้วเกิดเหตุการณ์ขาดส่ง(ไม่จ่ายเงินค่างวด) เหตุการณ์ก่อนหน้าคนเช่าซื้อรถยนต์ได้ขาดส่ง จนโดนฟ้องร้องขึ้นศาล ได้ขึ้นศาลและศาลได้ให้ บริษัทรถยนต์ (โจทก์) ทำการทำสัญญาผ่อนใหม่อีก 24 งวด ผ่านมา 3 เดือนแรกมีจดหมายจากร้านรถยนต์ว่าไม่ได้จ่ายค่างวด ก็ไปหาทางร้านพนักงานเขาว่าเดี๋ยวจะยกเลิกให้ และจำเลยก็ทำการผ่อนมาถึง 10 งวดโดยไม่ขาด  แล้วจนเดือนนี้ จู่ๆ ก็มีใบบังคับคดีมายึดทรัพย์ขายที่ดินจากผู้ค้ำประกัน (ติดจำนองธนาคารแห่งหนึ่งของรัฐ) จึงเกิดความเดือดร้อนขึ้น และไปถามบริษัทรถยนต์ เขาได้ตอบว่าไม่ได้ส่งมาแล้ว 9 งวด จึงดำเนินการให้กรมบังคับคดีทำการยึดทรัพย์ แต่ยังมีความโชคดีที่จำเลยได้เก็บบิลการผ่อนทุกงวดเป็นหลักฐาน (หากไม่ได้เก็บจะเกิดความเสียหายขนาดไหน) เมื่อมีหลักฐานจากใบศาลให้ผ่อนและบิลการจ่ายค่างวดรถยนต์ พนักงานบางคนบอกว่าขอโทษอย่าแจ้งความกลับ (เครียกันนะ) ฝ่ายป้า(จำเลย)จึงขอปิดค่างวดทั้งหมดโดยญาติๆช่วยกันปิด เมื่อปิดแล้วก็นัดวันไปแจ้งถอนยึดทรัพย์ที่กรมบังคับคดี หลังจากกลับมาจากร้านรถยนต์เราต้องทำการไปแจ้งความกับทางตำรวจว่าได้ทำการปิดหนี้สินจากทางร้านแล้วและทางร้านต้องทำการถอดการยึดทรัพย์เสีย แต่ยังไม่นิ่งนอนใจไปขอคำปรึกษาจากธนาคาร วันไปคุยเอกสารใบยึดทรัพย์อยู่บนโต๊ะของหัวหน้าธนาคารพอดี หัวหน้าธนาคารเขาเลยขอสำเนาเอกสารการปิดงวดรถยนต์และใบแจ้งความติดใบดำเนินการยึดทรัพย์และบอกว่าดีเลยไม่ต้องดำเนินการให้กรมบังคับคดีแล้ว และวันที่ 14/08/2017 ก็ได้ถอนการยึดทรัพย์สินแล้ว ช่วงก่อนหน้านี้ได้นัดดำเนินการมาแล้วหลายวัน (เขาปัดมาสองสามครั้ง โดยทางร้านบอกสาเหตุว่า ทั้งทางร้านและกรมบังคับคดีว่างกันวันดังกล่าว)

*ข้อสังเกตุ
1.ที่ดินมรดกที่ไม่ได้แบ่งเมื่อมีคนใดคนหนึ่งไปกู้หรือค้ำประกันก็จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ และที่ดินแปลงนี้เราดันลงหลักปักฐานสร้างบ้านไว้ และต้องเกิดความเสียหายทั้งที่ไม่ได้ก่อให้เป็นอุทาหรณ์ (การช่วยเหลือก็เป็นสิ่งที่ดี หากคนที่ช่วยไม่ใช้ใครที่ไหน เช่นญาติๆ แต่ผู้ค้ำประกันต้องยอมรับจริงๆว่าจะสามารถช่วยหลือได้) และหลังจากนี้เราก็ควรจะดำเนินการแบ่งที่ดินแล้วเปลี่ยนชื่อให้ถูกต้อง เดิมจะดำเนินการนานแล้วครั้งหนึ่งแต่เพราะใบที่ดันจำนองกะธนาคารไว้ จะแบ่งต้องเอาใบออกมาก่อน เลยไม่ได้ดำเนินการใดๆ จนเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
2.การจ่ายค่างวดหรือผ่อนจ่ายหนี้สินใดๆควรเก็บใบการจ่ายเงิน (บิล) ไว้ให้ครบ สำคัญจริงๆ
3.การแจ้งความกับทางตำรวจก็สำคัญมาก สามารถเอาเรื่องกลับได้เมื่อเขาตุกติกหรือล่าช้า
4.ปรึกษาผู้รู้กฏหมายหรือทนาย การเรารู้ขั้นตอนและทันท้วงทีเราก็จะแก้ปัญหาได้อย่ารวดเร็วขึ้น

*ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้ผ่านแล้วผ่านเลย เป็นอุทาหรณ์ให้เพื่อนๆทุกคนได้รับรู้ครับผม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่