สวัสดีค่ะ
หลังจากได้เคยเข้ามาอ่านเรื่องราวของใครหลายๆคนในที่นี้ วันนี้เราอยากขอรับฟังความคิดเห็นกับเรื่องราวที่เราจะเล่าต่อจากนี้จากเพื่อนๆในพันทิป ค่ะ
เราเคยแต่งงานและอยู่กับสามีมาเกือบๆ5ปี แต่ ณ วันนี้เราหย่าขาดจากกันแล้ว ซึ่งในวันหย่าคงเป็นอะไรที่โง่มากสำหรับเรา เพราะเราไม่เรียกร้องอะไรจากเขาเลย เพราะคิดว่าคงได้มาคืนดีกัน ก่อนที่เรากับแฟนจะได้หย่าขาดจากกัน มันมีสัญญาณเตือนมาเมื่อ2ปีก่อน จากแฟนที่โทรจิกเราตลอดเวลาเลิกงาน อยากกลับบ้านทุก ส-อ กลับกลายเป็นคนที่ไม่สนใจและไม่อยากกลับบ้าน จนเวลาผ่านไป แฟนได้ย้ายที่ทำงานมาใกล้บ้าน ซึ่งทำให้เราดีใจมากเพราะนั่นหมายถึงครอบครัวพ่อแม่ลูกกำลังจะกลับมาแฮปปี้เหมือนเดิม เราดีใจมากที่ยามกลับมาถึงบ้านเหนื่อยๆจะได้นอนกอดลูกกอดแฟนทุกวัน เพราะเราอยู่บ้านแฟนโดยที่แฟนไม่อยู่ อยู่กับพ่อปู่แม่ย่า สามปีกว่าๆจนแฟนได้ย้ายกลับมาบ้าน แต่เหมือนกับว่าสิ่งที่เราฝันไว้มันจะตรงกันข้าม พอแฟนได้มาอยู่บ้านด้วยกันจริงๆเรารู้สึกได้เลยว่าเขาเปลี่ยนไปมาก เหมือนคนละคน จนกระทั่งเขามาพูดกับเราว่า เขาไม่รักเราเหมือนเดิมแล้ว ณ วินาทีนั้น เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางหัวใจ เราร้องไห้ฟูมฟายแทบเสียสติ คิดหาทุกวิธีเพื่อให้เขาคืนมา เรายอมแท้กระทั่งกราบเท้าเขา เพียงเพื่อขอให้เขากลับมาหาเรากับลูก ระยะเวลาเกือบ1ปีที่แฟนย้ายมาอยู่บ้าน เราเหมือนตกนรกทั้งเป็น วันหยุดเขาจะหายไป แสดงท่าทีรังเกียจเราทุกอย่าง แต่เราก็ไม่เคยโทษเขาเลย เรามัวแต่โทษตัวเราว่าเราไม่ดี เขาถึงเป็นแบบนี้ เราอดทนเพื่อให้เขาเห็นใจ แต่ทุกอย่างกลับแย่ลง ในครอบครัวเขาไม่มีใครคุยกับเรา ไม่มีใครเรียกกินข้าว ทุกคนทำเหมือนเราไม่มีตัวตน แต่เราก็ทน เพราะเรารักเขาและรักลูก จนถึง ณ วันนึงที่เราต้องออกจากบ้านเขาเพราะแม่เขาหาเรื่องว่าเรากิ๊กกั๊กกันกับพ่อเขา จนจะเอามีดแทงพ่อเขา ตอนนั้นเรารู้เลยว่า พวกเขาคงอยากจะไล่เรามากจริงๆ วันรุ่งขึ้น เราตัดสินใจพาลูกกลับมาอยู่บ้านเรา เขาก็ไม่เคยโทรหรือถามไถ่อะไรเลยจนเวลาผ่านไปเกือบสองเดือน เราสองคนก็หย่ากัน ซึ่งในวันหย่า เราไม่ได้เรียกอะไรจากเขาเพราะในใจก็คิดว่าเขาต้องมาง้อเราแน่ๆ เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า จนกระทั่งมีคนคนนึงมาเปิดตาเราด้วยการถามเราว่า เคยสงสัยมั้ย ว่าทำไท แฟนคนทีคยรักเรามากมายขนาดนี้ถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ พี่คนนี้เล่าบอกเราว่าแฟนเราเขาค้นพบตัวเองต่างหาก เขาค้นพบว่าคัวเขารักผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง ดังนั้นต่อให้เรารอเขาจนตาย เขาก็ไม่กลับมา แต่เราก็ยังไม่เชื่อ ยังคงคอยตามเรื่องราวของเขาตลอด จน ณ วันนี้ ความจริงที่เราได้รู้คือเขาชอบผู้ชายจริง ตอนนี้พาผู้ชายมาอยู่ที่บ้านด้วยกัน เราเพิ่งรู้จริงๆเมื่อไม่นานมานี้ ความรู้สุกแรกที่รู้คือโคตรเกลียด เพราะตอนก่อนเลิก เขาว่าร้ายเราทุกอย่าง บอกญาติๆเขาว่าอยู่กับเราแล้วมองไม่เห็นอนาคต เพราะเราใช้เงินฟุ่มเฟือยทั้งๆที่เราไม่เคยขอเงินเขาใช้เลย เรากู้เงินมามากมายเพื่อให้เขา จนเราเป็นหนี้แทบล้มละลายในทุกวันนี้ เราเกลียดที่เขาผิดแต่เขาไม่เคยรับ โยนความผิดทุกอน่างมาที่เรา เท่าที่เรารู้ตอนนี้ เขาหาเงินให้ ผช. แต่เงินเลี้ยงลูกให้เดือนละ500 และห้ามเราเปลี่ยนนามสกุลลูกคงเพราะกลัวไม่มีใครสืบสกุล ณ วันนี้สิ่งที่เคยสงสัย กระจ่างขัดแจ้งทุกอย่าง เรารู้สึกจุกและสงสารลูกมากที่ต้องมีพ่อเป็นแบบนี้ เราร้องไห้และเจ็บปวดทุกครั้งที่ลูกบอกว่าอยากให้พ่อแม่ลูกมาอยู่ด้วยกันเหมือนตอนลูกเด็กๆ
เราบอกตัวเราเองให้เข้มแข็ง อดทน ให้ผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ แต่บางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า ทำไมต้องเป็นเราที่มาเจอแบบนี้
เพื่อนๆคนไหนมีข้อคิดเห็นหรือมีประสบการณ์คล้ายๆเรา มาเล่าสู่กันฟังนะคะ ว่าคุณผ่านมันมาได้ยังไง
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเรื่องราวของเราค่ะ
เมื่อต้องเจอในสิ่งที่กลัว
หลังจากได้เคยเข้ามาอ่านเรื่องราวของใครหลายๆคนในที่นี้ วันนี้เราอยากขอรับฟังความคิดเห็นกับเรื่องราวที่เราจะเล่าต่อจากนี้จากเพื่อนๆในพันทิป ค่ะ
เราเคยแต่งงานและอยู่กับสามีมาเกือบๆ5ปี แต่ ณ วันนี้เราหย่าขาดจากกันแล้ว ซึ่งในวันหย่าคงเป็นอะไรที่โง่มากสำหรับเรา เพราะเราไม่เรียกร้องอะไรจากเขาเลย เพราะคิดว่าคงได้มาคืนดีกัน ก่อนที่เรากับแฟนจะได้หย่าขาดจากกัน มันมีสัญญาณเตือนมาเมื่อ2ปีก่อน จากแฟนที่โทรจิกเราตลอดเวลาเลิกงาน อยากกลับบ้านทุก ส-อ กลับกลายเป็นคนที่ไม่สนใจและไม่อยากกลับบ้าน จนเวลาผ่านไป แฟนได้ย้ายที่ทำงานมาใกล้บ้าน ซึ่งทำให้เราดีใจมากเพราะนั่นหมายถึงครอบครัวพ่อแม่ลูกกำลังจะกลับมาแฮปปี้เหมือนเดิม เราดีใจมากที่ยามกลับมาถึงบ้านเหนื่อยๆจะได้นอนกอดลูกกอดแฟนทุกวัน เพราะเราอยู่บ้านแฟนโดยที่แฟนไม่อยู่ อยู่กับพ่อปู่แม่ย่า สามปีกว่าๆจนแฟนได้ย้ายกลับมาบ้าน แต่เหมือนกับว่าสิ่งที่เราฝันไว้มันจะตรงกันข้าม พอแฟนได้มาอยู่บ้านด้วยกันจริงๆเรารู้สึกได้เลยว่าเขาเปลี่ยนไปมาก เหมือนคนละคน จนกระทั่งเขามาพูดกับเราว่า เขาไม่รักเราเหมือนเดิมแล้ว ณ วินาทีนั้น เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางหัวใจ เราร้องไห้ฟูมฟายแทบเสียสติ คิดหาทุกวิธีเพื่อให้เขาคืนมา เรายอมแท้กระทั่งกราบเท้าเขา เพียงเพื่อขอให้เขากลับมาหาเรากับลูก ระยะเวลาเกือบ1ปีที่แฟนย้ายมาอยู่บ้าน เราเหมือนตกนรกทั้งเป็น วันหยุดเขาจะหายไป แสดงท่าทีรังเกียจเราทุกอย่าง แต่เราก็ไม่เคยโทษเขาเลย เรามัวแต่โทษตัวเราว่าเราไม่ดี เขาถึงเป็นแบบนี้ เราอดทนเพื่อให้เขาเห็นใจ แต่ทุกอย่างกลับแย่ลง ในครอบครัวเขาไม่มีใครคุยกับเรา ไม่มีใครเรียกกินข้าว ทุกคนทำเหมือนเราไม่มีตัวตน แต่เราก็ทน เพราะเรารักเขาและรักลูก จนถึง ณ วันนึงที่เราต้องออกจากบ้านเขาเพราะแม่เขาหาเรื่องว่าเรากิ๊กกั๊กกันกับพ่อเขา จนจะเอามีดแทงพ่อเขา ตอนนั้นเรารู้เลยว่า พวกเขาคงอยากจะไล่เรามากจริงๆ วันรุ่งขึ้น เราตัดสินใจพาลูกกลับมาอยู่บ้านเรา เขาก็ไม่เคยโทรหรือถามไถ่อะไรเลยจนเวลาผ่านไปเกือบสองเดือน เราสองคนก็หย่ากัน ซึ่งในวันหย่า เราไม่ได้เรียกอะไรจากเขาเพราะในใจก็คิดว่าเขาต้องมาง้อเราแน่ๆ เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า จนกระทั่งมีคนคนนึงมาเปิดตาเราด้วยการถามเราว่า เคยสงสัยมั้ย ว่าทำไท แฟนคนทีคยรักเรามากมายขนาดนี้ถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ พี่คนนี้เล่าบอกเราว่าแฟนเราเขาค้นพบตัวเองต่างหาก เขาค้นพบว่าคัวเขารักผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง ดังนั้นต่อให้เรารอเขาจนตาย เขาก็ไม่กลับมา แต่เราก็ยังไม่เชื่อ ยังคงคอยตามเรื่องราวของเขาตลอด จน ณ วันนี้ ความจริงที่เราได้รู้คือเขาชอบผู้ชายจริง ตอนนี้พาผู้ชายมาอยู่ที่บ้านด้วยกัน เราเพิ่งรู้จริงๆเมื่อไม่นานมานี้ ความรู้สุกแรกที่รู้คือโคตรเกลียด เพราะตอนก่อนเลิก เขาว่าร้ายเราทุกอย่าง บอกญาติๆเขาว่าอยู่กับเราแล้วมองไม่เห็นอนาคต เพราะเราใช้เงินฟุ่มเฟือยทั้งๆที่เราไม่เคยขอเงินเขาใช้เลย เรากู้เงินมามากมายเพื่อให้เขา จนเราเป็นหนี้แทบล้มละลายในทุกวันนี้ เราเกลียดที่เขาผิดแต่เขาไม่เคยรับ โยนความผิดทุกอน่างมาที่เรา เท่าที่เรารู้ตอนนี้ เขาหาเงินให้ ผช. แต่เงินเลี้ยงลูกให้เดือนละ500 และห้ามเราเปลี่ยนนามสกุลลูกคงเพราะกลัวไม่มีใครสืบสกุล ณ วันนี้สิ่งที่เคยสงสัย กระจ่างขัดแจ้งทุกอย่าง เรารู้สึกจุกและสงสารลูกมากที่ต้องมีพ่อเป็นแบบนี้ เราร้องไห้และเจ็บปวดทุกครั้งที่ลูกบอกว่าอยากให้พ่อแม่ลูกมาอยู่ด้วยกันเหมือนตอนลูกเด็กๆ
เราบอกตัวเราเองให้เข้มแข็ง อดทน ให้ผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ แต่บางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า ทำไมต้องเป็นเราที่มาเจอแบบนี้
เพื่อนๆคนไหนมีข้อคิดเห็นหรือมีประสบการณ์คล้ายๆเรา มาเล่าสู่กันฟังนะคะ ว่าคุณผ่านมันมาได้ยังไง
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเรื่องราวของเราค่ะ