~มาลาริน~** ความสำเร็จน่าชื่นใจค่ะ...ชิงปลูกข้าวตัดหน้าน้ำหลาก แก้นาล่ม 1.15 ล้านไร่สำเร็จ


ช่วงวันที่ 14 เดือนกันยายนก่อนหน้านี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการเกษตรฯ เดินทางไปตรวจประตูที่มีไว้สำหรับระบายน้ำบางโฉมศรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดจังหวัดสิงห์บุรี เพื่อติดตามการขับเขยื้อนแผนการการจัดการจัดแจงน้ำ การสร้างและก็ปรับปรุงชนิดข้าวในพื้นที่ และก็เตรียมตัวสำหรับเพื่อการเสนอโครงงานของกระทรวงเกษตรฯ ไปสู่ห้องประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ จังหวัดจังหวัดสุพรรณบุรี แล้วก็ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 18 – 19 กันยายน นี้



ภายหลังยอมรับฟังพูดสรุป พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวมาว่า ตั้งอกตั้งใจมาดูโครงงานทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นการจัดการจัดแจงน้ำประตูสำหรับระบายน้ำบางโฉมศรีซึ่งปฏิบัติภารกิจเก็บกักน้ำในช่วงฤดูกาลเพาะปลูกแล้วก็ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตรงรอบๆปลายลำคลองจังหวัดชัยนาท-ป่าสัก 2 ช่วงเวลาเดียวกันจะช่วยปกป้องน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากไม่ให้ไหลย้อนจากแม่น้ำเจ้าพระยา เข้ามาท่วมในเขตชลประทาน


ยิ่งกว่านั้น พล.อ.ฉัตรชัย ยังตรวจสอบการปรับปฏิทินการส่งน้ำของกรมชลประทานไปหล่อเลี้ยงทุ่งแถบที่ลุ่มในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง 1.15 ล้านไร่ โดยชิงส่งน้ำเร็วขึ้น เพื่อเกษตรกรทำไร่ทำนาเร็วและก็เก็บเกี่ยวเร็วกว่าทุกปี ในปี 2560 เริ่มส่งน้ำให้เพาะปลูกเมื่อวันที่ 1 เดือนพฤษภาคมเพื่อจะได้เก็บเกี่ยวเสร็จด้านในเดือน สิงหาคม เลี่ยงน้ำหลากในเดือน เดือนกันยายน

รัฐมนตรีว่าการเกษตรฯ ได้บอกว่า ในพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งเชียงราก เกษตรกรได้เก็บเกี่ยวเสร็จแล้วในเดือน สิงหาคม ผลปรากฏว่าไม่มีพื้นที่สำหรับเพาะปลูกใดได้รับความทรุดโทรมจากน้ำหลาก บอกให้เห็นถึงความสำเร็จของแนวนโยบายการจัดการจัดแจงน้ำคราวนี้ โดยกระทรวงเกษตรได้สัมมนาแจกแจงข้าราชการรวมทั้งเกษตรกรให้รู้ เพื่อตรวจความพร้อมเพรียงล่วงหน้ารวมทั้งจัดการไปตามแผนที่วางไว้ กรมชลประทานมีเครื่องปั๊มน้ำขนาดใหญ่ที่ประตูสำหรับระบายน้ำบางโฉมศรี สามารถระบายน้ำออกมาจากพื้นที่ปลูกข้าวถ้าหากมีฝนตกหนัก ก็เลยทำให้พื้นที่ที่นามิได้รับความเสื่อมโทรมเลย



ในเวลาเดียวกันนี้ พล.อ.ฉัตรชัย ยังได้ติดตามการสร้างแล้วก็ปรับปรุงประเภทข้าวในพื้นที่ จังหวัดจังหวัดสิงห์บุรี มีพื้นที่สำหรับทำการเพาะปลูก 269,428 ไร่รวมทั้งมีเกษตรกรปลูกข้าวนาปี 12,529 ครอบครัว สำหรับกลยุทธ์ปลูกข้าว ปี 2560/61 รอบที่ 1 ตามแนวทางผลิตรวมทั้งการตลาดข้าวครบวงจรมีพื้นที่ทั้งสิ้น 288,630 ไร่ แบ่งเป็น ข้าวหอมจังหวัด 13,000 ไร่ หอมบงกช 77,200 ไร่ ข้าวเจ้า 190,700 ไร่ ข้าวเหนียว 7,200 ไร่ รวมทั้งข้าวสี 530 ไร่ ส่วนทุ่งนาแปลงใหญ่ใน จังหวัดจังหวัดสิงห์บุรีมี 10 แปลง พื้นที่ 17,090 ไร่ มีเกษตรกรร่วมแผนการ 967 ราย


ยิ่งกว่านั้น พล.อ.ฉัตรชัย ยังได้กล่าวเสริมเติมถึงกรอบวิถีทางโครงงานที่กระทรวงเกษตรฯ เสนอคณะรัฐมนตรีซึ่งรัฐบาลได้ระบุที่มีความสำคัญในการรบการพัฒนาภาคกึ่งกลางนั้นมีส่วนที่เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับกระทรวงเกษตรฯ 2 ส่วน เป็น
1. ยกฐานะการสร้างผลิตภัณฑ์จากการเกษตร อุตสาหกรรม โดยใช้ของใหม่ เทคโนโลยี และก็ ความสร้างสรรค์ เพื่อสามารถชิงชัยได้อย่างยั่งยืน และก็

2. บริหารจัดแจงน้ำ ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อแก้ไขอุทกภัย ภัยแล้ง และก็ คงจะความสมดุลของระบบนิเวศอย่างยั่งยืน  ซึ่งนายกฯ และก็ คณะรัฐมนตรี จะได้ไปตรวจตราการขับเขยื้อนงานของกระทรวงเกษตรฯ ที่สำคัญ เป็นต้นว่า การจัดการจัดแจงน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำ การพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ข้าว โครงงาน 9101ฯ ฯลฯ


เยี่ยมเยี่ยมเยี่ยม

ความสำเร็จน่าชื่นใจอย่างนี้เองค่ะ การทำงานจึงมุ่งให้ประสบความสำเร็จ

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่