เอเชียนเกมส์ 2030 อยากให้ไปจัดที่ประเทศอะไร

กระทู้คำถาม

อยากถามความเห็นของหลายๆท่านว่า อยากให้เอเชียนเกมส์ 2030 ไปจัดที่ประเทศไหนดี

อย่างที่หลายท่านทราบกันดีแล้วว่า เอเชียนเกมส์ในอีก 3 ครั้งถัดไป จะไปจัดที่นครจาการ์ตา และนครปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย
นครหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน และนครนาโกยา ประเทศญี่ปุ่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ซึ่งจะเห็นได้ว่าเอเชียนเกมส์ในสามครั้งถัดไปจะจัดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก

เลยทำให้อยากทราบความเห็นว่า เอเชียนเกมส์ในปี 2030/2573 ควรไปจัดที่ประเทศไหนดี
เท่าที่ทราบตอนนี้มีเพียงอินเดียที่สนใจที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเขามีแผนที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกด้วยเช่นกันในปี 2032/2575
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สำหรับ จขกท. (ซึ่งโดยส่วนตัวอยากเห็นไทยเป็นเจ้าภาพอีกสักครั้ง เพราะครั้งล่าสุดที่ไทยเป็นเจ้าภาพ จขกท. ยังเด็กมากๆอยู่เลย)
แล้วมองว่า เป็นการดีเหมือนกันที่เอเชียนเกมส์จะไปจัดในภูมิภาคอื่นของเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียใต้ และโดยเฉพาะอินเดียซึ่งเป็นชาติต้นกำเนิดของกีฬาเอเชียนเกมส์ ที่ห่างหายจากการเป็นเจ้าภาพเอเชียนเกมส์มานานมาก โดยอินเดียเคยเป็นเจ้าภาพในปี 1951/2494 (เอเชียนเกมส์ครั้งแรก ความเป็นจริงจะจัดในปีก่อนหน้าทว่าเนื่องด้วยการเตรียมการทำให้มาจัดปีนี้แทน) และ 1982/2525 ซึ่งหากอินเดียได้เป็นเจ้าภาพในปี 2030 ก็จะเป็นการเป็นเจ้าภาพกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งแรกในรอบ 48 ปี เลยทีเดียว โดยก่อนหน้านี้อินเดียเคยเสนอตัวจัดในปี 2010/2553 มาก่อน ทว่านครกวางโจวของจีนได้รับสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพไป

หากไม่ใช่อินเดีย ประเทศ/ดินแดนที่ จขกท. อยากเห็นเป็นเจ้าภาพคือจีนไทเป (ชื่อของไต้หวันหรือสาธารณรัฐจีนเวลาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ) เขตปกครองพิเศษมาเก๊า เขตปกครองพิเศษฮ่องกง คาซัคสถาน สิงคโปร์และเวียดนาม เนื่องจากที่กล่าวมานี้ยังไม่เคยจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์มาก่อน และหลายประเทศเคยจัดการแข่งขันบางรายการทั้งระดับภูมิภาค, ระดับทวีปและระดับโลกมาแล้วดังต่อไปนี้ (หากตกหล่นไปขออภัยด้วยนะครับ)

1.จีนไทเป - เคยจัดการแข่งขันกีฬา World Games ที่เกาสง ในปี 2009/2552 กีฬามหาวิทยาลัยโลก ที่ไทเป ในปี 2017/2560 และจะจัดการแข่งขันกีฬา East Asian Youth Games ที่ไทชุง (ไถจง) ในปี 2019/2562
2.เขตปกครองพิเศษมาเก๊า - เคยจัดการแข่งขันกีฬา East Asian Games ในปี 2005/2548 และเคยจัดการแข่งขันกีฬา Asian Indoor Games ปี 2007/2550
(หมายเหตุ: กีฬา East Asian Games เปลี่ยนเป็นกีฬา East Asian Youth Games แทน // กีฬา Asian Indoor Games ต่อมาได้รวมกับกีฬา Asian Martial Arts Games เป็นกีฬา Asian Indoor & Martial Arts Games)
3.เขตปกครองพิเศษฮ่องกง - เคยเป็นสถานที่จัดการแข่งขันบางชนิดกีฬาในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2008/2551 ที่สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นเจ้าภาพ และเคยจัดการแข่งขันกีฬา East Asian Games ในปี 2009/2552
4.คาซัคสถาน - เคยจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาวในปี 2011/2554 ที่ Astana และ Almaty เป็นเจ้าภาพร่วมกัน ซึ่ง Almaty เคยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2022/2565 ด้วย ทว่าปักกิ่งของจีนได้รับสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพไป
5.สิงคโปร์ - เคยจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในปี 1973/2516 1983/2526 1993/2536 2015/2558 และเคยจัดการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ในปี 2010
6.เวียดนาม - เคยจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในปี 2003/2546 จะจัดในปี 2021/2564 และเคยจัดกีฬาเอเชียนอินดอร์เกมส์ในปี 2009

สำหรับไทย หากเป็นไปได้ และหากอินเดียได้จัดในปี 2030 อยากให้ไทยเป็นเจ้าภาพในปี 2034/2577 ต่อจากอินเดียเลย จากนั้นในปี 2038/2581 2042/2585 ให้เจ้าภาพเป็นประเทศในเอเชียตะวันตก (ตะวันออกกลาง) และเอเชียกลางบ้าง ก่อนจะหมุนเวียนมาเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากสองภูมิภาคนี้เคยจัดเอเชียนเกมส์น้อยมาก สำหรับตะวันออกกลางเคยจัดในปี 1974/2517 (อิหร่าน) และ 2006/2549 (กาตาร์) สำหรับเอเชียกลางยังไม่เคยเป็นเจ้าภาพเลย (นับเฉพาะกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูร้อน)

สำหรับ จขกท. แล้วมองว่ามหกรรมกีฬาใหญ่ๆหรือการแข่งขันกีฬาระดับโลกควรจะให้มีการหมุนเวียนจัดในภูมิภาคต่างๆให้หลากหลาย ทว่าแนวคิดนี้คงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากในหลายครั้งประเทศที่เป็นเจ้าภาพไม่มีความพร้อม ทำให้การจัดการแข่งขันไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร อย่างฟุตบอลโลกก็เคยให้มีการจัดการแข่งขันหมุนเวียนตามทวีป (สหพันธ์ฟุตบอลของทวีปต่างๆ) ทว่าเมื่อพบว่าไม่มีประสิทธิภาพมากนัก จึงเปลี่ยนมาเป็นว่า "หากประเทศหนึ่งเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในครั้งหนึ่งแล้ว ในอีกสองครั้งถัดมาประเทศจากสหพันธ์ฟุตบอลนั้นๆจะไม่สามารถเสนอตัวเป็นเจ้าภาพได้" แทน เช่น กาตาร์เสนอจัดในปี 2022 แล้ว ชาติจากสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) จะไม่สามารถเสนอตัวเป็นเจ้าภาพได้ในอีกสองครั้งถัดมาคือ 2026/2569 และ 2030

อีกประเด็นหนึ่งคือ เรื่องงบประมาณและความคุ้มค่า ซึ่งเริ่มมาเป็นประเด็นในช่วงหลัง ดังที่เราเห็นว่ามีหลายประเทศขอถอนตัวเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬา ตั้งแต่ระดับซีเกมส์ เช่นการที่บรูไนถอนตัวการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ปี 2019 โดยฟิลิปปินส์รับเป็นเจ้าภาพแทน (ซึ่งก็มีทีท่าจะถอนตัวเช่นกันเนื่องจากเหตุการณ์ภายในประเทศ ทว่าตอนนี้ได้ยืนยันแล้วว่าจะยังเป็นเจ้าภาพต่อไป) ในระดับเอเชียนเกมส์ คือการที่เวียดนามได้ถอนตัวการเป็นเจ้าภาพเอเชียนเกมส์และอินโดนีเซียได้จัดแทน และระดับโอลิมปิกเกมส์ ที่ทาง IOC ได้ทำการ "แจก" การเป็นเจ้าภาพให้กับประเทศที่เสนอตัว ดังเช่นกรณีของโอลิมปิก 2024/2567 ที่ปารีส และ 2028/2571 ที่ลอสแอนเจลิส เนื่องจากฝ่ายทำงานของทั้งสองเมืองมองว่า หากไม่ได้เป็นเจ้าภาพ ก็อาจจะไม่เสนอตัวอีก เนื่องจากงบประมาณสำหรับการเสนอตัวนั้นสูงมาก (ยังไม่นับรวมงบประมาณอื่นๆอีกมากหากได้รับสิทธิ์แล้ว) จึงได้ทำการให้เป็นเจ้าภาพทั้งสองเมือง เพราะทาง IOC มองว่า หากไม่มีใครเสนอตัวในอนาคต ก็อาจจะทำให้การแข่งขันไม่ต่อเนื่องได้ ซึ่ง จขกท. มองว่าประเด็นนี้อาจเป็น Trend ของหลายประเทศที่ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังไม่กระเตื้องขึ้นมากนัก โดยมองว่าควรนำเงินไปใช้ในส่วนอื่นมากกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ประเด็นความพร้อม และประเด็นงบประมาณนี้ อาจเป็นประเด็นสำคัญสำหรับการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาหรืองานใหญ่ต่างๆในอนาคต ซึ่งหาก Trend ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่แน่การเป็นเจ้าภาพแข่งขันในครั้งต่อๆไปอาจจำกัดอยู่ในประเทศใหญ่ๆที่มีความพร้อมที่มีความพร้อมไม่กี่ประเทศ อาจเปลี่ยนแค่เมืองที่จัด โดยเป็นการให้ "เมืองใหม่ๆ" หรือความหมายคือเมืองที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก หรือเมืองที่พัฒนาแล้วและประเทศนั้นต้องการใช้เวทีระดับโลกเป็นการ "เปิดตัว" เมืองนั้น ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันหรืองานในระดับโลกแทน เช่นเอเชียนเกมส์ ที่ประเทศใหญ่เริ่มให้เมืองที่ไม่ได้เป็นเมืองหลวงเป็นเจ้าภาพบ้างแล้ว (ไม่นับที่ครั้งที่อินโดนีเซียซึ่งเป็นเจ้าภาพร่วมระหว่างสองเมือง)

จีน - ปักกิ่ง (1990/2533) กวางโจว (2010/2553) หางโจว (2022/2565)
ญี่ปุ่น - โตเกียว (1958/2501) ฮิโรชิมา (1994/2537) (เป็นเอเชียนเกมส์ครั้งแรกที่จัดนอกเมืองหลวง) นาโกยา (2026/2569)
เกาหลีใต้ - โซล (1986/2529) ปูซาน (2002/2545) อินชอน (2014/2557)

(หากเศรษฐกิจโลกกระเตื้องขึ้น หรือดีกว่าที่เป็นอยู่ อาจทำให้หลายเมืองหลายประเทศกลับมาเสนอตัวเป็นเจ้าภาพมากขึ้นก็ได้ ซึ่งจะเป็นอย่างไรต้องคอยติดตามกันต่อไป)

แก้ไขข้อความเมื่อ