กุนซือ “สิงห์เจ้าท่า” เผยจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทีมของเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อ “มังกรไฟ”
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนการท่าเรือ เอฟซี ยอมรับความพ่ายแพ้หลังบุกไปปราชัยต่อ โปลิศ เทโร 2-1 ในศึกโตโยต้า ไทยลีก พร้อมเผยลูกสกัดเข้าประตูตัวเองของ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ทำให้สภาพจิตใจเจ้าตัวดูแผ่วลง
สิงห์เจ้าท่า ถูก มังกรไฟ ขึ้นนำไปก่อน ตั้งแต่ น.33 จากจังหวะสกัดผิดเหลี่ยมของ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ แต่ก็มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากลูกโหม่งของ ดาบิด โรเชลา น.51 ทว่ากลับถูก วิชาญ นันทะศรี ตัวสำรองยิงประตูในช่วงเวลาบาดเจ็บ 2-1 ทำให้ทีมของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ไร้ชัยเป็นเกมที 6 ติดต่อกัน
“วันนี้ก็เป็นเกมที่สนุกแน่นอนเรามาเล่นนอกบ้านเราต้องการมีแต้มอย่างน้อย 1 แต้ม แต่จุดเปลี่ยนของเกมเรามาเสียประตูจากลูกทำเข้าประตูตัวเองมันก็เลยทำให้จิตใจของ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ที่เป็นแกนหลักของทีมแผ่วลงไป”
“ช่วงพักครึ่งหลังเราก็กระตุ้นนักเตะให้กลับมาสู่เกมให้ได้ก่อนเกมก็กลับมาได้เพียงแต่ว่าดูโหดร้ายสำหรับทีมของเราเพราะว่าไม่มีเวลาเพียงพอในท้ายเกมมันอยู่ในช่วงต่อเวลาแล้ว ก็ต้องชื่นชมและขอแสดงความยินดีกับ เทโรแล้วกันเรายังมีอีกเกมข้างหน้าเจอชลบุรี ก็หวังว่าจะกลับมาได้อย่างเร็ววัน”
“กระแสจากแฟนบอลก็มีบ้างนะครับ แฟนท่าเรือคงเข้าใจ พี่โก้เข้ามารับงานก็เหมือนมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในบางเรื่องทั้ง สภาพร่างกาย เปลี่ยนแท็คติกใหม่ๆ แต่ตัวผู้เล่นในเลกสองทุกคนก็รู้อยู่แล้วไม่ได้เปลี่ยนแปลงใครเลย ซึ่งปีนี้ถ้าพี่โก้ลงมาทำก็กับทุกคนรู้อยู่แล้วว่าต้องรอดูฤดูกาลหน้าว่าจะมีการซื้อตัวนักเตะเปลี่ยนตัวยังไง ซึ่งตรงนี้คุณแป้งก็บอกให้ทำเต็มที่”
“ฟุตบอลวันนี้แข็งแกร่งทุกทีมย่อมไม่ยอมกัน เราให้ไอเดียเด็กๆที่ลงเล่นต้องโชว์นะให้แฟนบอลเห็น ว่าเรามันเป็นอาชีพของพวกคุณ ซึ่งวันนี้ก็ไม่มีอะไรผิดพลาดมากมายนัก มีเพียงเล็กน้อยๆเท่านั้นเกมฟุตบอลก็เป็นอย่างนี้นะครับถามว่าวันนี้เกมสนุกไหมผมคิดว่าแฟนบอลทั้งสองทีมก็บอกว่าสนุก”
“สำหรับโค้ชไข่ตอนนี้ก็ยังนะครับ เพราะมันเป็นสิ่งที่เขาตัดสินใจ เขาไปรับงานและรับผิดชอบในตรงนั้น”
“คือเกมรุกเราพึ่ง ปกรณ์ เปรมภักดิ์ มากไหม ก็พึ่งนะครับเขาเป็นตัวเปิดเกมได้ดีฉะนั้น ปกรณ์ มีจังหวะครอสบอลต่ำๆกว่า 20 ครั้งแต่มันไม่ได้สกอร์อย่างที่เราคิด เพราะทุกคนรู้ดีเรามีข้อจำกัดของตัวผู้เล่น”
https://www.fourfourtwo.com/th/features/chiok-cchudepliiynkhngekmeraamaacchaakluukthamekhaapratuutaweng
ซิโก้ : จุดเปลี่ยนของเกมเรามาจากลูกทำเข้าประตูตัวเอง
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนการท่าเรือ เอฟซี ยอมรับความพ่ายแพ้หลังบุกไปปราชัยต่อ โปลิศ เทโร 2-1 ในศึกโตโยต้า ไทยลีก พร้อมเผยลูกสกัดเข้าประตูตัวเองของ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ทำให้สภาพจิตใจเจ้าตัวดูแผ่วลง
สิงห์เจ้าท่า ถูก มังกรไฟ ขึ้นนำไปก่อน ตั้งแต่ น.33 จากจังหวะสกัดผิดเหลี่ยมของ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ แต่ก็มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากลูกโหม่งของ ดาบิด โรเชลา น.51 ทว่ากลับถูก วิชาญ นันทะศรี ตัวสำรองยิงประตูในช่วงเวลาบาดเจ็บ 2-1 ทำให้ทีมของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ไร้ชัยเป็นเกมที 6 ติดต่อกัน
“วันนี้ก็เป็นเกมที่สนุกแน่นอนเรามาเล่นนอกบ้านเราต้องการมีแต้มอย่างน้อย 1 แต้ม แต่จุดเปลี่ยนของเกมเรามาเสียประตูจากลูกทำเข้าประตูตัวเองมันก็เลยทำให้จิตใจของ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ที่เป็นแกนหลักของทีมแผ่วลงไป”
“ช่วงพักครึ่งหลังเราก็กระตุ้นนักเตะให้กลับมาสู่เกมให้ได้ก่อนเกมก็กลับมาได้เพียงแต่ว่าดูโหดร้ายสำหรับทีมของเราเพราะว่าไม่มีเวลาเพียงพอในท้ายเกมมันอยู่ในช่วงต่อเวลาแล้ว ก็ต้องชื่นชมและขอแสดงความยินดีกับ เทโรแล้วกันเรายังมีอีกเกมข้างหน้าเจอชลบุรี ก็หวังว่าจะกลับมาได้อย่างเร็ววัน”
“กระแสจากแฟนบอลก็มีบ้างนะครับ แฟนท่าเรือคงเข้าใจ พี่โก้เข้ามารับงานก็เหมือนมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในบางเรื่องทั้ง สภาพร่างกาย เปลี่ยนแท็คติกใหม่ๆ แต่ตัวผู้เล่นในเลกสองทุกคนก็รู้อยู่แล้วไม่ได้เปลี่ยนแปลงใครเลย ซึ่งปีนี้ถ้าพี่โก้ลงมาทำก็กับทุกคนรู้อยู่แล้วว่าต้องรอดูฤดูกาลหน้าว่าจะมีการซื้อตัวนักเตะเปลี่ยนตัวยังไง ซึ่งตรงนี้คุณแป้งก็บอกให้ทำเต็มที่”
“ฟุตบอลวันนี้แข็งแกร่งทุกทีมย่อมไม่ยอมกัน เราให้ไอเดียเด็กๆที่ลงเล่นต้องโชว์นะให้แฟนบอลเห็น ว่าเรามันเป็นอาชีพของพวกคุณ ซึ่งวันนี้ก็ไม่มีอะไรผิดพลาดมากมายนัก มีเพียงเล็กน้อยๆเท่านั้นเกมฟุตบอลก็เป็นอย่างนี้นะครับถามว่าวันนี้เกมสนุกไหมผมคิดว่าแฟนบอลทั้งสองทีมก็บอกว่าสนุก”
“สำหรับโค้ชไข่ตอนนี้ก็ยังนะครับ เพราะมันเป็นสิ่งที่เขาตัดสินใจ เขาไปรับงานและรับผิดชอบในตรงนั้น”
“คือเกมรุกเราพึ่ง ปกรณ์ เปรมภักดิ์ มากไหม ก็พึ่งนะครับเขาเป็นตัวเปิดเกมได้ดีฉะนั้น ปกรณ์ มีจังหวะครอสบอลต่ำๆกว่า 20 ครั้งแต่มันไม่ได้สกอร์อย่างที่เราคิด เพราะทุกคนรู้ดีเรามีข้อจำกัดของตัวผู้เล่น”
https://www.fourfourtwo.com/th/features/chiok-cchudepliiynkhngekmeraamaacchaakluukthamekhaapratuutaweng