สวัสดีค่ะ
จากที่แม่ทากลองเข้าไปหาข้อมูลเกี่ยวกับการพาลูกนอนโฮสเทลแล้วยังไม่ค่อยมีข้อมูล หรือมีรีวิวพาลูกนอนโฮสเทล
เลยอยากแชร์ประสบการณ์ การพาลูกน้อยวัย 2 ขวบ 9 เดือน นอนโฮเทลกัน
พอดีบ้านสเนลมีโอกาสไปเที่ยวที่ไต้หวัน ช่วงเดือนสิงหา ปี 2016
อันเนื่องมาจากขุ่นแม่ทากและขุ่นน้อง อยากไปช้อปปิ้ง ตามประสาคนหาเช้ากินค่ำ
และจากการหาข้อมูลทำวีซ่าก็ได้รับข่าวดีอันยิ่งใหญ่ ว่าาาาาาาาช่วงที่ไป "ยกเลิกวีซ่า"

น้ำตาไหลด้วยความดีใจ
ประหยัดค่าทำวีซ่า 7 คน รวมแล้วก็เกือบ 10,000 แต่.... ยังงงง ยังงงง ไม่พอออออ วะฮะฮ่า ...
มนุษย์เกลือ เอ้ย มนุษย์แม่ ต้องไปให้สุด แล้วหมดที่เรื่องกิน 555

-------------------------------------------------------------------------------
ว่ากันต่อด้วยเรื่องของการหาที่พัก
ทริปนี้ไปกัน ผู้ใหญ่ 6 เด็ก 1 เลยตกลงกันว่าจะหาที่พักในราคาไม่เกิน 2,000/คืน
แม่ทากเลยต้องสิงสถิตอยู่ในห้องบลูเพื่อหาข้อมูล ดูรีวิว ประกอบการตัดสินใจเลือกที่พัก ต้องบอกเลยว่าแม่ทากเป็นคนเยอะเรื่องการเลือกที่นอน
ไม่ใช่ว่าต้องเลือกที่หรูหรา แต่เน้นที่ราคาเหมาะสม เดินทางสะดวก และที่สำคัญคือลูกต้องอยู่ได้ ปลอดภัย ต้องเข้ากับลุกด้วย และประหยัดเงินแม่
หาข้อมูลไปมาก็เจอกับที่นี่เลย Star Hostel โฮสเทลเล็กๆชิคๆ การตกแต่งดูแล้วเหมือนอยู่ที่โคเรียบ้านเกิดแม่ทากมากกกกก (มโน)

นี่แหระใช่เลย ชั้นจะนอนที่นี่ ตอบโจทย์ที่ราคาไม่แรง มีห้อง+ห้องน้ำ ส่วนตัว/ มีพื้นที่ส่วนกลาง /ห้องครัว ซื้อตอนนี้แถมเฟอร์ บ้าไม่ใช่แล้ว อิอิ
ก่อนตัดสินใจจองสิ่งสำคัญที่คุณแม่ๆต้องคำนึงสำหรับการนอนโฮเทล
- ห้องไม่ได้กว้างขวางเหมือนนอนในโรงแรม
- บริการตัวเองสะส่วนใหญ่ คือเน้นดูแลตัวเอง ยกกระเป๋าเอง ถ้าทำอาหารกินก็ล้างเองด้วยนะฮะ
- ลูกจะไม่สร้างความไม่สงบแก่แขกท่านอื่น ** อันนี้ดาวไว้เลยสำคัญมาก เพราะ ถ้าลูกร้องงอแง จะสร้างความรำคานแก่แขกที่มาพักมากๆเลย
หลังจากคิดกันอย่างถี่ถ้วนแล้วบ้านทากคิดว่าลูกทาก โตในระดับนึงแล้ว ปกติอยู่บ้านก็ไม่ได้โวยวายเสียงดัง อย่างไร้เหตุผลเท่าไหร่นัก
เลยตัดสินใจจอง ห้อง Private room ไปทั้งหมด 3 ห้อง กับทางโรงแรมตรง ผ่านทาง www.starhostel.com.tw พร้อมฟรีอาหารเช้า
การเดินทาง ---------- สถานี Taipei Main station เดินประมาณ 5 นาทีถึงที่พัก และละแวกที่พักมีร้านอาหารร้านสะดวกซื้อ ห้าง สะดวกมากๆ

มาถึงแล้วให้ขึ้นลิฟท์ไปที่ ชั้น 4 แอบลุ้นนิดนึงว่า นี่ชั้นเลือกถูกมั้ยยยยยยยย ไม่สิชั้นหาข้อมูลมาแล้วดูทั้งรีวิว ทั้งในเว็บจริง ประกอบกัน
พอลิฟท์เปิดออกมา หูยยยยย มันกว้างกว่าที่คิดนะ ดีงามมมมมมมม ในส่วนของลูกทากนั้น วิ่งปรี่เข้าไปเล่นทันที

ภาพจะเป็นพื้นที่ส่วนต้อนรับของโฮสเทล ซึ่งต้องทำการ Check in ก่อนถึงจะเข้าไปพื้นที่ด้านในได้
พนักงานที่นี่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีเลยค่ะ แต่ในส่วนของเรานั้น ...... เพราะบ้านเรามาถึงก่อนเวลา Check in ตอนบ่าย 2
ก็เลยฝากกระเป๋าไว้และปล่อยให้ลูกทากเล่นไป
ที่นี่จะมีของที่ระลึกพวกโปสการ์ด / มาม่า / น้ำ ของทานเล่น ขายด้วย แล้วก็จะมีแผนที่การท่องเที่ยวในไต้หวัน สถานที่รอบๆ โฮสเทล
ระว่างรอพ่อทากก็เก็บภาพไปเรื่อยๆ

และเมื่อถึงเวลา Check in เราก็ได้เข้าโซนที่พัก ก่อนอื่นต้องถอดรองเท้าเก็บในตู้ก่อนนะแจ๊ะ
ใส่รองเท้าของที่พักแทน ใส่เสร็จแล้วตอนออกไปก็ใส่ลงในตระกร้าเลยจร้า


บ้านทากได้นอนชั้นแรกเลย ติดกัน 3 ห้อง ทางเข้าจะเป็นแบบนี้

พอเปิดประตูห้องเข้าไปจะเจออ่างล้างมือ กับ ห้องน้ำก่อนเลย (มันก็จะรกๆ หน่อย เพราะเสบียงเยอะ)

พอดีถ่ายภาพในห้องไว้ไม่หมดก็เอาเท่าที่เห็นรกๆไปก่อน ในห้องจะมีโต๊ะทำงานให้ แต่ไม่มีตู้เย็นกับตู้เสื้อผ้า เค้าจะมีแค่ที่แขวนให้นิดหน่อย

ในส่วนของห้องน้ำนั้นนนนนน แคบนิดนึงแต่คนตัวเล็ก(หรา) แบบบ้านทากเราก็เข้าได้อยู่ ห้องน้ำสะอาด

ห้องน้ำมีม่านกั้นระหว่างโซนเปียก

ส่วนที่นอนก็นอนกันอบอุ่นสบายมากฮ่ะ บ้านเราชอบนอนเบียดกันอยู่แล้ว

มาดูพื้นที่ส่วนกลางกันบ้าง ชอบมุมนี้ที่สุด บ้านไม้มี บันไดลิงปีนขึ้นไปชั้น 2

ช่วงเช้าและกลางคืน แขกที่พักก็จะมานั่งสังสรรค์คุยกัน ส่วนมากแขกที่มาพักที่นี่จะเป็นชาวเกาหลี/ญี่ปุ่น
บ้านเราก็นั่งฟังเค้าคุยกัน แบบไม่รู้สินะว่าเค้าคุยอะไรกัน แต่จะฟัง

ปิดท้ายด้วยภาพอาหารเช้า ก็พอไหวอยู่นะรสชาติ

ท้ายสุด
สำหรับครอบครัวทากที่ได้ลองนอนโฮสเทลเป็นครั้งแรกรู้สึกประทับใจแและชอบที่พักแนวนี้ ถือเป็นอีกตัวเลือกนึงเวลาไป ตปท.
เพราะได้เจอคนมากมายในโฮสเทล นอกจากนั้น SAVE เงินค่าที่พักได้เยอะ เอาไปช้อป กิน ให้จุใจแทน
แต่ที่สำคัญควรเลือกโฮสเทลที่มีห้องส่วนตัว สำหรับบ้านที่ยังมีลูกเล็ก และ
ถ้าบ้านไหนไม่มั่นใจว่าลูกจะกวนแขกท่านอื่นรึเปล่าก็อาจจะต้องเปลี่ยนไปนอนโรงแรมแทน ต้องคำนึงเสมอว่าลูกเราจะไม่สร้างความเดือดร้อน
ส่วนลูกทากนั้นทริปนี้ มีความน่ารักไม่ก่อกวนใดๆเลย กลับถึงที่พักก็ออกมาเดินเล่นที่ส่วนกลาง แล้วก็เข้าห้องหลับยาวววววววว

จบแต่เพียงเท่านี้ ถ้าบ้านสเนลมีประการณ์ท่องเที่ยวแบบประหยัดใหม่จะมาแชร์เรื่อยๆ นะคะ
[CR] พาลูกนอนโฮสเทล_Hostel ไต้หวัน_ลูกเล็กก็นอนโฮส สะ เทลได้ (-.-)
จากที่แม่ทากลองเข้าไปหาข้อมูลเกี่ยวกับการพาลูกนอนโฮสเทลแล้วยังไม่ค่อยมีข้อมูล หรือมีรีวิวพาลูกนอนโฮสเทล
เลยอยากแชร์ประสบการณ์ การพาลูกน้อยวัย 2 ขวบ 9 เดือน นอนโฮเทลกัน
พอดีบ้านสเนลมีโอกาสไปเที่ยวที่ไต้หวัน ช่วงเดือนสิงหา ปี 2016
อันเนื่องมาจากขุ่นแม่ทากและขุ่นน้อง อยากไปช้อปปิ้ง ตามประสาคนหาเช้ากินค่ำ
และจากการหาข้อมูลทำวีซ่าก็ได้รับข่าวดีอันยิ่งใหญ่ ว่าาาาาาาาช่วงที่ไป "ยกเลิกวีซ่า"
ประหยัดค่าทำวีซ่า 7 คน รวมแล้วก็เกือบ 10,000 แต่.... ยังงงง ยังงงง ไม่พอออออ วะฮะฮ่า ...
มนุษย์เกลือ เอ้ย มนุษย์แม่ ต้องไปให้สุด แล้วหมดที่เรื่องกิน 555
ว่ากันต่อด้วยเรื่องของการหาที่พัก
ทริปนี้ไปกัน ผู้ใหญ่ 6 เด็ก 1 เลยตกลงกันว่าจะหาที่พักในราคาไม่เกิน 2,000/คืน
แม่ทากเลยต้องสิงสถิตอยู่ในห้องบลูเพื่อหาข้อมูล ดูรีวิว ประกอบการตัดสินใจเลือกที่พัก ต้องบอกเลยว่าแม่ทากเป็นคนเยอะเรื่องการเลือกที่นอน
ไม่ใช่ว่าต้องเลือกที่หรูหรา แต่เน้นที่ราคาเหมาะสม เดินทางสะดวก และที่สำคัญคือลูกต้องอยู่ได้ ปลอดภัย ต้องเข้ากับลุกด้วย และประหยัดเงินแม่
หาข้อมูลไปมาก็เจอกับที่นี่เลย Star Hostel โฮสเทลเล็กๆชิคๆ การตกแต่งดูแล้วเหมือนอยู่ที่โคเรียบ้านเกิดแม่ทากมากกกกก (มโน)
ก่อนตัดสินใจจองสิ่งสำคัญที่คุณแม่ๆต้องคำนึงสำหรับการนอนโฮเทล
- ห้องไม่ได้กว้างขวางเหมือนนอนในโรงแรม
- บริการตัวเองสะส่วนใหญ่ คือเน้นดูแลตัวเอง ยกกระเป๋าเอง ถ้าทำอาหารกินก็ล้างเองด้วยนะฮะ
- ลูกจะไม่สร้างความไม่สงบแก่แขกท่านอื่น ** อันนี้ดาวไว้เลยสำคัญมาก เพราะ ถ้าลูกร้องงอแง จะสร้างความรำคานแก่แขกที่มาพักมากๆเลย
หลังจากคิดกันอย่างถี่ถ้วนแล้วบ้านทากคิดว่าลูกทาก โตในระดับนึงแล้ว ปกติอยู่บ้านก็ไม่ได้โวยวายเสียงดัง อย่างไร้เหตุผลเท่าไหร่นัก
เลยตัดสินใจจอง ห้อง Private room ไปทั้งหมด 3 ห้อง กับทางโรงแรมตรง ผ่านทาง www.starhostel.com.tw พร้อมฟรีอาหารเช้า
การเดินทาง ---------- สถานี Taipei Main station เดินประมาณ 5 นาทีถึงที่พัก และละแวกที่พักมีร้านอาหารร้านสะดวกซื้อ ห้าง สะดวกมากๆ
มาถึงแล้วให้ขึ้นลิฟท์ไปที่ ชั้น 4 แอบลุ้นนิดนึงว่า นี่ชั้นเลือกถูกมั้ยยยยยยยย ไม่สิชั้นหาข้อมูลมาแล้วดูทั้งรีวิว ทั้งในเว็บจริง ประกอบกัน
พอลิฟท์เปิดออกมา หูยยยยย มันกว้างกว่าที่คิดนะ ดีงามมมมมมมม ในส่วนของลูกทากนั้น วิ่งปรี่เข้าไปเล่นทันที
ภาพจะเป็นพื้นที่ส่วนต้อนรับของโฮสเทล ซึ่งต้องทำการ Check in ก่อนถึงจะเข้าไปพื้นที่ด้านในได้
พนักงานที่นี่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีเลยค่ะ แต่ในส่วนของเรานั้น ...... เพราะบ้านเรามาถึงก่อนเวลา Check in ตอนบ่าย 2
ก็เลยฝากกระเป๋าไว้และปล่อยให้ลูกทากเล่นไป
ที่นี่จะมีของที่ระลึกพวกโปสการ์ด / มาม่า / น้ำ ของทานเล่น ขายด้วย แล้วก็จะมีแผนที่การท่องเที่ยวในไต้หวัน สถานที่รอบๆ โฮสเทล
ระว่างรอพ่อทากก็เก็บภาพไปเรื่อยๆ
และเมื่อถึงเวลา Check in เราก็ได้เข้าโซนที่พัก ก่อนอื่นต้องถอดรองเท้าเก็บในตู้ก่อนนะแจ๊ะ
ใส่รองเท้าของที่พักแทน ใส่เสร็จแล้วตอนออกไปก็ใส่ลงในตระกร้าเลยจร้า
บ้านทากได้นอนชั้นแรกเลย ติดกัน 3 ห้อง ทางเข้าจะเป็นแบบนี้
พอเปิดประตูห้องเข้าไปจะเจออ่างล้างมือ กับ ห้องน้ำก่อนเลย (มันก็จะรกๆ หน่อย เพราะเสบียงเยอะ)
พอดีถ่ายภาพในห้องไว้ไม่หมดก็เอาเท่าที่เห็นรกๆไปก่อน ในห้องจะมีโต๊ะทำงานให้ แต่ไม่มีตู้เย็นกับตู้เสื้อผ้า เค้าจะมีแค่ที่แขวนให้นิดหน่อย
ในส่วนของห้องน้ำนั้นนนนนน แคบนิดนึงแต่คนตัวเล็ก(หรา) แบบบ้านทากเราก็เข้าได้อยู่ ห้องน้ำสะอาด
ห้องน้ำมีม่านกั้นระหว่างโซนเปียก
ส่วนที่นอนก็นอนกันอบอุ่นสบายมากฮ่ะ บ้านเราชอบนอนเบียดกันอยู่แล้ว
มาดูพื้นที่ส่วนกลางกันบ้าง ชอบมุมนี้ที่สุด บ้านไม้มี บันไดลิงปีนขึ้นไปชั้น 2
ช่วงเช้าและกลางคืน แขกที่พักก็จะมานั่งสังสรรค์คุยกัน ส่วนมากแขกที่มาพักที่นี่จะเป็นชาวเกาหลี/ญี่ปุ่น
บ้านเราก็นั่งฟังเค้าคุยกัน แบบไม่รู้สินะว่าเค้าคุยอะไรกัน แต่จะฟัง
ปิดท้ายด้วยภาพอาหารเช้า ก็พอไหวอยู่นะรสชาติ
ท้ายสุด
สำหรับครอบครัวทากที่ได้ลองนอนโฮสเทลเป็นครั้งแรกรู้สึกประทับใจแและชอบที่พักแนวนี้ ถือเป็นอีกตัวเลือกนึงเวลาไป ตปท.
เพราะได้เจอคนมากมายในโฮสเทล นอกจากนั้น SAVE เงินค่าที่พักได้เยอะ เอาไปช้อป กิน ให้จุใจแทน
แต่ที่สำคัญควรเลือกโฮสเทลที่มีห้องส่วนตัว สำหรับบ้านที่ยังมีลูกเล็ก และ
ถ้าบ้านไหนไม่มั่นใจว่าลูกจะกวนแขกท่านอื่นรึเปล่าก็อาจจะต้องเปลี่ยนไปนอนโรงแรมแทน ต้องคำนึงเสมอว่าลูกเราจะไม่สร้างความเดือดร้อน
ส่วนลูกทากนั้นทริปนี้ มีความน่ารักไม่ก่อกวนใดๆเลย กลับถึงที่พักก็ออกมาเดินเล่นที่ส่วนกลาง แล้วก็เข้าห้องหลับยาวววววววว
จบแต่เพียงเท่านี้ ถ้าบ้านสเนลมีประการณ์ท่องเที่ยวแบบประหยัดใหม่จะมาแชร์เรื่อยๆ นะคะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น