ซานมาริโน่จีพีปีนี้ เจอฝนกระหน่ำเล่นงานแบบเต็มสตรีม เป็นการแข่งในฝนแบบเปียกโชกทั้ง 3 รุ่น (เท่าที่จำได้ ไม่ได้เห็นการแข่งลุยฝนเปียกๆแบบนี้มาพักใหญ่ละ) ผิวแทรคที่ลื่นจากน้ำฝน ทำให้นักแข่งทั้ง 3 รุ่นนั้นล้มกันระเนระนาด รุ่นโมโต 3 นี่คือแข่งจบ วิ่งครบรอบก็เก็บคะแนนไปใส่กระเป๋าได้เลย โมโตทูก็คล้ายๆกัน มีรถวิ่งผ่านรับธงหมากรุกแค่ 16 คันเท่านั้น ส่วนรุ่น MotoGP นั้นมีนักแข่งจบการแข่งขัน 17 คัน โดย Loris Baz และ Karel Abraham ที่จบอันดับ 16 และ 17 ต่างก็ล้มด้วยกันทั้งคู่ เพียงแค่ยังเข็นรถกลับเข้ามาแข่งต่อได้ (เพราะการล้มในฝนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นการลื่นสไลด์ ทำให้รถไม่ค่อยเสียหาย)

มาเล่นน้ำฝนกันเถอะ
ซานมาริโน่นั้นเป็นรัฐอิสระที่ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี การแข่งที่นี่เลยเปรียบเสมือนเป็นการแข่งในบ้านของบรรดานักบิดจากแดนพาสต้าอีกสนามหนึ่ง แต่จากอุบัตเหตุที่เกิดขึ้น ทำให้ Valentino Rossi ดาวบิดขวัญใจเจ้าถิ่นต้องพลาดการแข่งที่นี่ไปอย่างน่าเสียดาย แต่เนื่องจากเป็นการให้เกียรติ VR46 ทำให้ทาง Yamaha ไม่เรียกนักแข่งทดสอบมาแข่งแทน แต่ถึงกระนั้น แฟนๆของ Rossi ก็ยังพาเหรดเข้ามาชมการแข่งขันกันอย่างล้นหลามตามปกติ

รอดตัวไปนะ พ่อครัวหัวป่า
ในขณะเดียวกัน คาล คลัชโลว์ก็เป็นอีกคนที่ต้องลุ้นว่าจะลงแข่งได้รึเปล่า เพราะสวมบทมาสเตอร์เชพเข้าครัวทำกับข้าวแต่พลาดโดนมีดบาดมือในขณะที่กำลังหั่นเนยแข็งจนเส้นเอ็นนิ้วชี้ข้างซ้ายขาด ต้องบอกว่าแผลลึกมากกกกก แต่เฮียแกก็บ้าจริงๆ ที่หลับมันไปทั้งที่แผลใหญ่ขนาดนั้นไป 1 คืนก่อนที่ตื่นเช้าแล้วพบว่ามาเลือดมันยังไหลไม่หยุดถึงค่อยไปหาหมอ

เอิ่มมม หลังจากนั้นก็เลยต้องรีบไปเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน แต่ยังโชคดีที่สามารถลงแข่งขันได้ คือเดาว่าแผลน่าจะไม่หายหรอก แต่คงสมานจนเลือดหยุดไหล และโชคดีที่รถสมัยนี้ใช้คลัชน์แค่ตอนออกตัว ทำให้นิ้วข้างซ้ายไม่ต้องรับภาระหนัก

I'm a robot
ที่มิซาโน่ Aprilia นำเสนอแฟร์ริ่งใหม่ (ตามแบบดูคาติ) และยังมาพร้อมกับหมวกนิรภัยสำหรับทีมช่างแมคคานิคแบบใหม่ (DAQRI Smart Helmet) ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Augmented Reality ที่ผสานเอาโลกแห่งความเป็นจริงเข้ากับโลกเสมือน (Virtual) ซึ่งพัฒนาร่วมกับทีมงานจาก Realmore ซึ่งจะถูกใช้งานหลักๆในรอบของการทดสอบรถ

รถยังไม่แรง ก็ขอหล่อด้านอื่นไปก่อนละกันนะ ^^
กระจกของหมวกทำหน้าที่เป็นจอมอนิเตอร์ ที่สามารถแสดงภาพจำลองและข้อมูลด้านเทคนิคของรถ RS-GP ได้แบบเรียลไทม์ ช่างสามารถตรวจเช็คการเชื่อมต่อของพวกสายเคเบิลได้ผ่านทางแอพ ซึ่งจะช่วยลดเวลารวมไปถึงความผิดพลาดในการเชื่อมต่อสายสัญญาณต่างๆ ตัวแอพพลิเคชั่นยังสามารถบอกข้อมูลต่างๆของตัวรถแบบโฮโลแกรม 3 มิติ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิของหม้อน้ำ น้ำมันเครื่อง ยาง ณ ตอนนั้นได้เลยผ่านกล้องตรวจจับความร้อน รวมถึงยังสามารถทำเช็คลิสก์การสึกหรอของชิ้นส่วนต่างๆได้ว่าสถานะของชิ้นส่วนภายในรถว่ายังโอเคมั้ย ใช้งานมาแล้วเท่าไหร่ ถึงเวลาต้องเปลี่ยนรึยัง

AR Technology
นอกจากนี้หัวหน้าช่างยังสามารถส่งข้อมูลแผนการทดสอบไปยังช่างผ่านทางหน้าจอตรงกระจก เช่นประเภทของยางที่จะใช้, ปริมาณน้ำมันหรือจำนวนรอบที่จะออกไปวิ่งครั้งหน้า ซึ่งจะช่วยลดเวลาในการการเตรียมรถ ทำให้นักแข่งสามารถออกไปวิ่งต่อได้อย่างต่อเนื่อง เก็บข้อมูลในได้เพิ่มขึ้น (ถ้าไม่ล้ม!) ส่วน Yamaha นั้นมีเฟรมใหม่ให้กับรถ YZR-M1 ซึ่งว่ากันว่านี่จะเป็นเฟรมของรถปี 2018 ด้วย วินยาเลสบอกว่าเฟรมตัวนี้ช่วยให้การเข้าโค้ง(ที่เฟรมเวอร์ชั่นก่อนคงทำได้แย่ลงจริงๆ) รวมถึงสามารถเบรคได้หนักขึ้นด้วย ซึ่งฟังจากเสียงแล้ว ดูเหมือนว่าทาง Yamaha ก็คงค่อยๆลดความเป็น Lorenzo แบบจ๋าๆในตัวรถ YZR-M1 ลงทีละน้อย
[MotoGP] รีวิว สนาม 13: ฝน + น้ำ = งานเข้า กับความแข็งแกร่งของมาร์ค สปาตัน ที่พร้อมลุยทุกสถานการณ์
ซานมาริโน่นั้นเป็นรัฐอิสระที่ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี การแข่งที่นี่เลยเปรียบเสมือนเป็นการแข่งในบ้านของบรรดานักบิดจากแดนพาสต้าอีกสนามหนึ่ง แต่จากอุบัตเหตุที่เกิดขึ้น ทำให้ Valentino Rossi ดาวบิดขวัญใจเจ้าถิ่นต้องพลาดการแข่งที่นี่ไปอย่างน่าเสียดาย แต่เนื่องจากเป็นการให้เกียรติ VR46 ทำให้ทาง Yamaha ไม่เรียกนักแข่งทดสอบมาแข่งแทน แต่ถึงกระนั้น แฟนๆของ Rossi ก็ยังพาเหรดเข้ามาชมการแข่งขันกันอย่างล้นหลามตามปกติ
ในขณะเดียวกัน คาล คลัชโลว์ก็เป็นอีกคนที่ต้องลุ้นว่าจะลงแข่งได้รึเปล่า เพราะสวมบทมาสเตอร์เชพเข้าครัวทำกับข้าวแต่พลาดโดนมีดบาดมือในขณะที่กำลังหั่นเนยแข็งจนเส้นเอ็นนิ้วชี้ข้างซ้ายขาด ต้องบอกว่าแผลลึกมากกกกก แต่เฮียแกก็บ้าจริงๆ ที่หลับมันไปทั้งที่แผลใหญ่ขนาดนั้นไป 1 คืนก่อนที่ตื่นเช้าแล้วพบว่ามาเลือดมันยังไหลไม่หยุดถึงค่อยไปหาหมอ
ที่มิซาโน่ Aprilia นำเสนอแฟร์ริ่งใหม่ (ตามแบบดูคาติ) และยังมาพร้อมกับหมวกนิรภัยสำหรับทีมช่างแมคคานิคแบบใหม่ (DAQRI Smart Helmet) ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Augmented Reality ที่ผสานเอาโลกแห่งความเป็นจริงเข้ากับโลกเสมือน (Virtual) ซึ่งพัฒนาร่วมกับทีมงานจาก Realmore ซึ่งจะถูกใช้งานหลักๆในรอบของการทดสอบรถ
กระจกของหมวกทำหน้าที่เป็นจอมอนิเตอร์ ที่สามารถแสดงภาพจำลองและข้อมูลด้านเทคนิคของรถ RS-GP ได้แบบเรียลไทม์ ช่างสามารถตรวจเช็คการเชื่อมต่อของพวกสายเคเบิลได้ผ่านทางแอพ ซึ่งจะช่วยลดเวลารวมไปถึงความผิดพลาดในการเชื่อมต่อสายสัญญาณต่างๆ ตัวแอพพลิเคชั่นยังสามารถบอกข้อมูลต่างๆของตัวรถแบบโฮโลแกรม 3 มิติ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิของหม้อน้ำ น้ำมันเครื่อง ยาง ณ ตอนนั้นได้เลยผ่านกล้องตรวจจับความร้อน รวมถึงยังสามารถทำเช็คลิสก์การสึกหรอของชิ้นส่วนต่างๆได้ว่าสถานะของชิ้นส่วนภายในรถว่ายังโอเคมั้ย ใช้งานมาแล้วเท่าไหร่ ถึงเวลาต้องเปลี่ยนรึยัง
นอกจากนี้หัวหน้าช่างยังสามารถส่งข้อมูลแผนการทดสอบไปยังช่างผ่านทางหน้าจอตรงกระจก เช่นประเภทของยางที่จะใช้, ปริมาณน้ำมันหรือจำนวนรอบที่จะออกไปวิ่งครั้งหน้า ซึ่งจะช่วยลดเวลาในการการเตรียมรถ ทำให้นักแข่งสามารถออกไปวิ่งต่อได้อย่างต่อเนื่อง เก็บข้อมูลในได้เพิ่มขึ้น (ถ้าไม่ล้ม!) ส่วน Yamaha นั้นมีเฟรมใหม่ให้กับรถ YZR-M1 ซึ่งว่ากันว่านี่จะเป็นเฟรมของรถปี 2018 ด้วย วินยาเลสบอกว่าเฟรมตัวนี้ช่วยให้การเข้าโค้ง(ที่เฟรมเวอร์ชั่นก่อนคงทำได้แย่ลงจริงๆ) รวมถึงสามารถเบรคได้หนักขึ้นด้วย ซึ่งฟังจากเสียงแล้ว ดูเหมือนว่าทาง Yamaha ก็คงค่อยๆลดความเป็น Lorenzo แบบจ๋าๆในตัวรถ YZR-M1 ลงทีละน้อย