ไทยแลกดินแดน

ข้อตกลงเบื้องต้น

สำหรับการเขียนเรื่องนี้ขอเขียนแบบกึ่งเรื่องสั้น
เพราะเอกสารบางส่วนหายไปกับสายน้ำหลายปีก่อน
รวมทั้งเหตุการณ์ก็ผ่านมาเนิ่นนานมากแล้วเช่นกัน




ที่ตรงชายแดนปาดังเบซาร์ มี ศาลเจ้าแป๊ะกง
ที่เป็นศาลเจ้าจีนอเนกประสงค์ของคนที่นั่น
งานศพ งานแต่งงาน มักจะจัดกันที่นั่น
แบบ First Come First Serve มาก่อนได้ก่อน
เพราะจริง ๆ แล้ว ตามประเพณีคนจีน
ฤกษ์แต่งงานกับฤกษ์ออกศพ
จะถือว่าเป็นเรื่องมงคลเหมือนกัน
ให้ลองสังเกตได้จากวันมงคลสมรส
กับวันออกศพของคนจีนมักจะเป็นวันเดียวกัน

ที่ดินผืนใหญ่ที่ถัดจากศาลเจ้าแป๊ะกง
เป็นที่ดินแปลงใหญ่พอสมควร เป็นที่ No Man's Land
คือ ที่ดินที่ยังไม่ชัดเจนว่า เป็นดินแดนของไทยหรือของมาเลย์
อยู่ถัดจากรางรถไฟสายหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์
ค่อนมาทางฝั่งปาดังเบซาร์ฝั่งไทยในยุคนั้น
มีนายทุนใจกล้าเข้าไปลงทุนปลูกห้องแถวชั้นเดียว
แล้วปล่อยให้คนเช่าร้อยกว่าหลังคาเรือน
รวมกับพวกบุกรุกล่วงหน้าไปแล้วส่วนหนึ่ง
คาดว่ามีไม่น้อยกว่า 5,000 คนในบริเวณ No Man's Land ยุคนั้น
สถานที่นี้จึงเป็นแหล่งซ่องสุมสินค้าหนีภาษี บ่อนการพนัน ฯลฯ
เพราะการจับกุมคนร้าย/ผู้ต้องหาภายใน No Man's Land
ตัองใช้ตำรวจสองชาติสนธิกำลังเข้าจับกุมพร้อมกัน
และต้องตกลงกันก่อนล่วงหน้าว่าจะฟ้องที่ชาติไหน
เลยมักจะเกี่ยงกัน ไม่มีใครอยากเป็นเจ้าภาพเรื่องแบบนี้
คนทำผิดกฎหมายเลยอยู่กันอย่างสบาย ๆ ในพื้นที่นั้น




เดิมหมู่บ้านปาดังเบซาร์ ขึ้นกับตำบลทุ่งหมอ
มีคนในทะเบียนราษฏร์ไม่เกินกว่า 10,000 คน
แต่ที่ไม่แจ้งย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาไม่ต่ำกว่า 20,000 คนขึ้นไป
(ข้อมูลจากทางตำรวจ/อำเภอ)
ตอนที่ ตำบลปาดังเบซาร์ จัดตั้งขึ้นมาใหม่นั้น
มีการแยกหมู่บ้านจำนวนหนึ่ง/พื้นที่ส่วนหนึ่งออกมาจาก
ตำบลทุ่งหมอ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา

ที่ดินเกือบทั้งหมดในตำบลปาดังเบซาร์
เป็นที่ดินราชพัสดุกว่า 20,000 ไร่
ที่มีเอกสารสิทธิ์มีน้อยมากไม่ถึง 10% ในตอนแรก
คนส่วนใหญ่จึงเช่าที่หลวงกับบุกรุกที่หลวง
แบบมือใครยาวสาวได้สาวเอาในยุคแรก ๆ กับยุคต่อมา

เรื่องที่ Amazing มากที่สุดคือ Padang Besar
เรียกชื่อไทยกับสะกดชื่ออังกฤษแบบเดียวกับมาเลย์
(เริ่มมีคนสะกดเพี้ยนแล้ว)
ใน Padang Besar อยู่ในเขต กะงะ Kanga รัฐปะลิศ
คนไทยมักจะอ่านผิดว่า คันกา หรือ คังก้า
หนังสือราชการจึงต้องระบุให้ชัดเจนว่า ฝั่งไทย หรือ ฝั่งมาเลย์
Padang คือ ที่ราบ Besar คือ กว้างใหญ่




วันเสียดินแดน

วันนั้นคนไทยมุสลิมจากปัตตานี
ที่นี่มีคนปัตตานีมาทำมาหากินที่ปาดังเบซาร์จำนวนมาก
จนกระทั่งมีแท็กซี่สายปัตตานี-ปาดังเบซาร์
วิ่งไปกลับทุกวัน ๆ ละเที่ยว

คนปัตตานีคนนั้น ขุดหลุมในที่ No Man's Land จะทำส้วม
ขุดไปเจอไม้หลักมีสีเขียวเป็นไม้เนื้อแข็งจมฝังอยู่ในดิน
มีผู้รู้บอกว่าเป็นหลักเขตสมัยรัชกาลที่ 5 ตอนปักปันดินแดน
ระหว่างสยามรัฐกับอังกฤษยุคล่าอาณานิคมปกครองมาเลย์
พอทราบเรื่องนี้ ทั้งทางการมาเลย์กับไทย
ต่างเข้าไปดูเสาต้นนี้กันมากในช่วงนั้น
จำได้ผมเคยถ่ายภาพเสาต้นนี้ไว้
แต่น้ำท่วมพัดพาภาพไปพร้อมกับฟิล์มด้วย

ต่อมา เพียงระยะเวลาปีเศษ
มาเลย์เริ่มรังวัดปักปันดินแดนใหม่
ศาลเจ้าแป๊ะกง จึงตกอยู่ในเขตมาเลย์
คนไทยเชื้อสายจีน/คนจีนมาเลย์ในพื้นที่จึงโวยวาย
เพราะเวลาจะทำพิธีจะยุ่งยากมาก

ศาลเจ้าแป๊ะกงอยู่ภายในรั้วลวดหนาม
ผมยังจำภาพศาลเจ้าแป๊ะกงมีรั้วลวดหนามกั้นไว้ว่าเป็นของมาเลย์
จนต้องมีมือดีแอบตัดรั้วลวดหนามออกราว 1 เมตร
พอเป็นช่องให้คนเดินเข้าออกไปไหว้แป๊ะกงได้
ศาลเจ้าแป๊ะกง ในด้านฝั่งไทยติดกับถนนใหญ่
ถ้ามาจากฝั่งมาเลย์ต้องเดินมาตามรางรถไฟ
เรียกว่า การจะเข้าออกศาลเจ้าแป๊ะกงทุลักทุเลมากในช่วงนั้น

ผมยังจำได้ว่า เคยถามคนปาดังเบซาร์ว่า
ทำไมเอางิ้วจีนมาเล่นที่ศาลเจ้าแป๊ะกงทุกปี
ในวันเฉลิมฉลองวันเกิดของแป๊ะกง
ผมฟังก็ไม่ออก ฟังก็ไม่รู้เรื่องเพราะเล่นเป็นภาษาจีน
มีคนท้องถิ่นเฉลยให้ผมฟังว่า
เขาเล่นให้แป๊ะกงดู ไม่ใช่เล่นให้เธอดู
ทำเอาผมไปไม่ถูก เงิบไปเลย พูดไม่ออกอีกเลย




ในเขตปาดังเบซาร์ ฝั่งมาเลย์
อยู่ในเขตรัฐของพรรคบาธ พรรคฝ่ายค้านมาเลย์
ทึ่นิยมการใช้หลักศาสนาอิสลามอย่างเคร่งครัด
ในการบังคับกับคนมุสลิม (คนศาสนาอื่นไม่เกี่ยว)
เช่น หยุดงานวันศุกร์ ห้ามคนมุสลิมกินเหล้า
คนมุสลิมต้องแต่งตัวรัดกุมตามหลักศาสนา
ต้องไปมัสยิด/สุเหร่าทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกวันศุกร์ ถ้าไม่ทำจะมีโทษปรับ
แต่ถ้าทำผิดโทษหนักผิดหลักศาสนาอิสลามจะถูกเฆี่ยนก่อนติดคุก

มีเพียง 4 รัฐในมาเลย์ที่หยุดงานวันศุกร์จาก 13 รัฐกับอีก 3 ดินแดน
นักการเมืองไทยบางคนชอบพูดคลุมเครือ
จนฟังแล้วดูเหมือนว่า มาเลย์หยุดวันศุกร์ทั้งประเทศ

ในมาเลย์มีหลายรัฐมากในตอนนี้
ที่ใช้วิธีการที่แยบยลมากในการปิดกิจการเกี่ยวกับร้านค้าเหล้า
หมู Babi(บาบี้) แต่ถ้าสนิทกันมักจะล้อกันเล่นว่า เบฟ
ด้วยวิธีการค่อย ๆ Terminate/บอนไซธุรกิจเกี่ยวกับร้านเหล้า ร้านหมู
โดยวิธีการยกเลิกใบอนุญาตทันที กรณีที่ทำผิดกฎหมายมาเลย์
หรือใช้วิธีค่อย ๆ ปิดกิจการใบอนุญาต เช่น
ผู้ค้าขายเนื้อหมู ทำหมูสามชั้น หมูย่าง หมูแดง หรือผู้เลี้ยงหมูรายย่อย
ถ้าเจ้าของใบอนุญาตตาย ก็จะไม่ต่อใบอนุญาตฉบับใหม่
ให้กับครอบครัวคนตาย/ทายาทธุรกิจอีก
เรียกว่าต้องเปลี่ยนไปขายอาหารอย่างอื่นที่ไม่มีหมูเป็นตัวชูโรง

ธุรกิจร้านอาหารประเภทหมูสามชั้น หมูย่าง หมูแดง
หรือฟาร์มเลี้ยงหมูขนาดย่อม จึงเริ่มหายากในมาเลย์
รวมทั้งจะไม่มีการอนุมัติใบอนุญาตฉบับใหม่ที่เกี่ยวกับหมู
โดยเริ่มขยายแนวคิดนี้ในหลายรัฐของมาเลย์แล้ว
เรียกว่าอีกหน่อยการจะหาหมูกินในมาเลย์
จัดว่าเป็นอาหารหายากและเป็นลาภปากยิ่งนัก

แต่มาเลย์ก็ยังมีลักษณะย้อนแย้ง
เพราะมีบ่อนการพนันที่เก็นติ้ง
รวมทั้งมีร้านขายเหล้า DutyFree
ในร้านปลอดภาษีที่ปาดังเบซาร์ ด่านนอก ลังกาวี
เพราะชาวบ้านบางส่วนไม่ได้เป็นมุสลิมกว่า 35%
เลยมักจะใช้บังคับในรัฐที่ศาสนาอิสลามมีอิทธิพลสูงมาก




ส่วนที่ No Man's Land พอมาเลย์ปักปันเขตเรียบร้อยแล้ว
มาเลย์ได้นำรถแบคโฮวเข้าไปรื้อถอนบ้านที่ปลูกอยู่ข้างในทั้งหมด
โดยใช้ Combat ถือปืนกลมายืนคุมการทำงานของรถแบคโฮว
Combat มาเลย์คล้ายตำรวจตระเวนชายแดนไทย
แต่ของมาเลย์จะเป็นแบบ 2 In 1 คือ เป็นทั้งทหารและตำรวจ
ขอบเขตอำนาจหน้าที่มากกว่าตำรวจทั่วไป

ผมจำได้ว่า ผมยังไปยืนดูการรื้อถอนตรงฝั่งไทย
และภายในที่ No Man's Land ก็ไม่มีใครกล้าดื้อแพ่ง
เพราะที่นั่นกฎหมายแรง ทำจริง ยิงจริง แบบทำตามกฎหมายชัดเจนมาก
ทำให้คนมาเลย์มาเที่ยวไทยเหมือนคนปล่อยออกมาจากเรือนจำ
เพราะที่นั่นกฎหมายแรง เช่น ค่าปรับขับรถเร็วเกินไป โดยใช้กล้องจับส่งค่าปรับ
หรือ ขับรถย้อนศร ไม่ข้ามทางม้าลาย ถ้าเกิดถูกรถชนตาย จะตายฟรี
กับต้องจ่ายค่าซ่อมรถยนต์ให้คนขับรถยนต์ที่ถูกกฎหมายด้วย




ปัญหาศาลเจ้าแป๊ะกง

มึการเจรจากันในระดับทวิภาคีไทย-มาเลย์
ได้ข้อตกลงร่วมกันคือ แลกดินแดน ขนาดพื้นที่เท่ากัน
มาเลย์ยอมให้ศาลเจ้าแป๊ะกงกับพื้นที่บางส่วนเป็นของฝั่งไทย
แล้วมาเลย์จัดการรื้อลวดหนามเดิมออกทั้งหมด
ล้อมรั้วลวดหนามปิดกั้นเฉพาะฝั่งมาเลย์ไว้

ส่วนไทยยอมแลกดินแดนขนาดพื้นที่เท่ากัน ที่ด่านวังประจัน
ที่อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ที่ตั้งด่านมาเลย์ในทุกวันนี้
เลยเรื่องนี้ต่างจบกันแบบ Win Win ทั้งสองฝ่าย
แต่มีคนไม่รู้เบื้องหลังเรื่องนี้ บอกไทยเสียดินแดนที่สตูลสมัย Big จิ๋ว
เพราะตลาดนัดที่ชาวบ้านทั้งสองฝั่งมาค้าขายกันในทุกวันเสาร์อาทิตย์
แต่เดิมเคยค้าขายกันตรงจุดเดิมแถวด่านมาเลย์ปัจจุบัน
คนไทยถูกไล่ที่ให้ถอยร่นเข้ามาฝั่งไทยไกลจากจุดเดิมมาก




อนึ่งตรงด่านวังปะจัน ถ้าขับรถยนต์ผ่านมาเลย์
จะเข้ามาฝั่งไทยที่ปาดังเบซาร์ราว 30 กิโลเมตร
จากปาดังเบซาร์มาหาดใหญ่อีก 60 กิโลเมตรรวม 90 กิโลเมตร
เพราะถ้าจากสตูลมาที่หาดใหญ่ราว 100 กิโลเมตร
และจากหาดใหญ่ไปปาดังเบซาร์อีก 60 กิโลเมตรรวม 160 กิโลเมตร
วิ่งผ่านมาเลย์จะย่นไป 70 กิโลเมตร

ตรงวังปะจัน อำเภอควนโดน
มีเทือกเขาสูง มีทะเลบัน เป็นหลุมขนาดใหญ่มาก
เพราะดินยุบตัวลงไปจนเป็นผืนน้ำขนาดใหญ่
แต่ถ้าปีนข้ามเขาสูง จะลงมาที่น้ำตกโตนงาช้าง อำเภอหาดใหญ่
พวกอำเภอกับป่าไม้เคยชวนผมไปปีนข้ามอำเภอกัน
แต่ผมปอดแหกเพราะรู้ว่าเทือกเขาสูงชัน
ทั้งยังมีสัตว์ดุร้าย พืช/สัตว์มีพิษจำนวนมาก
เลยสบายกว่ากันเยอะเลย อยู่เฉย ๆ ดีกว่า




ในระดับท้องถิ่นไทยกับมาเลย์
มีปัญหาข้อพิพาทชายแดนกระทบกระทั่งกันน้อยที่สุด
เมื่อเทียบกับชายแดนอื่น ๆ ที่ติดต่อกับประเทศไทย
เพราะเคยมีหลายครั้งแล้ว ที่คนไทยหลงลืม
พกอาวุธปืนเข้ามาเลย์แล้วถูกจับได้
ตามกฎหมายมาเลย์มีโทษประหารชีวิต
แขวนคอสถานเดียวไม่มีการอภัยโทษ
แต่ข้าราชการไทยกับมาเลย์ในระดับสูง มักจะคุยกันได้
แล้วไทยมักจะขอส่งตัวผู้ต้องหาคนไทยกลับมาไทยแบบเป็นอันรู้กัน
แต่บางทีมาเลย์ก็ยึดอาวุธไว้ บางทีก็ไม่ยึดแล้วแต่มาเลย์

บางครั้ง คนไทยบางคนลักไก่
แอบขับรถลึกเข้าไปในฝั่งมาเลย์
ตามเส้นทางลัดที่ชาวบ้านใช้งานกัน
เป็นเส้นทางที่ไม่ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาเลย์
เพราะไม่อยากตีตราประทับในหนังสือเดินทางเข้าออกมาเลย์
ถูกทางมาเลย์จับได้ เวลาสอบถาม
ก็มักจะบอกว่าเป็น Officer หรือ Public Servant
ทางมาเลย์ก็บอกว่า มาไม่ได้เส้นทางนี้
แล้วให้กลับรถยนต์เพื่อไล่กลับฝั่งไทย
แบบไม่อยากจับกุมเพราะเป็นความผิดเล็กน้อย
กับรู้ว่าจับไปเดี๋ยวก็ต้องปล่อยอีกเสียเวลาจับกุม
เพราะคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเหมือนกัน

ส่วนชาวบ้านก็ไปมาหาสู่กันตามปกติ
เพราะเวลามีงานต่าง ๆ ในปาดังเบซาร์
สมัยก่อนด่านไทยปิด 6 โมงเย็น ด่านมาเลย์ปิด 5 โมงเย็น
รถยนต์จึงวิ่งเข้าออกระหว่างสองประเทศไม่ได้แล้ว
เพราะเวลามาเลย์เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง

แต่เวลามีงานเลี้ยงแต่งงาน งานศพ งานมหกรรมต่าง ๆ
ชาวบ้านจะเดินมางานที่ฝั่งไทยหรือฝั่งมาเลย์
โดยจะเดินไปกลับจนกว่างานจะเลิกโดยปริยาย
แต่ทุกคนต้องเดินมาตามเส้นทางรถไฟหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์
ทางตำรวจทั้งสองฝั่งก็ไม่ว่าอะไรจะอนุโลมให้
ถ้าบอกมางาน แต่ถ้าวันธรรมดาจะไม่อนุญาต
เพราะเกี่ยวกับกฎระเบียบความมั่นคงส่วนหนึ่ง




ปัญหาเลึ้ยงโจร คือ นักการเมืองทั้งสองฝั่ง
เพราะเลี้ยงโจรไว้คุมฐานเสียงกับข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม
แบบนักการเมืองทั่วไปมักชอบมีอดีตโจร/มือปืน เดินตามหลัง
ได้ผลดีกว่าเอาทหารตำรวจเดินตามหลัง
มีการประมาณการว่า มีคนไทยสองสัญชาติไม่น้อยกว่า 400,000 คน
เรียกว่ามีทั้งคนไทยพุทธ แต่คนไทยมุสลิมมีมากกว่า
การมีสองสัญชาติ คือ ถือสัญชาติไทยกับสัญชาติมาเลย์
ทำให้เดินทางเข้าออกระหว่างทั้งสองประเทศสะดวกสบายมาก
แบบปลาสองน้ำที่ว่ายไปมาระหว่างน้ำสองประเภทได้

คนสองสัญชาติ ทำให้มีผลได้เสียกันมากเวลาเลือกตั้ง
เพราะนักการเมืองต่างต้องการคะแนนเสียงเลือกตั้งมากที่สุด
การชนะรับเลือกตั้งมักจะชี้ขาดตรงเสียงจัดตั้งว่าใครมีมากกว่าใคร
รวมทั้งการส่งคนสองสัญชาติกระจายไปลงคะแนนเสียงในแต่ละรัฐ/จังหวัด
ทั้งนี้เพราะการมีผลประโยชน์ร่วมกันของนักการเมืองทั้งสองชาติ
เลยต่างฝ่ายต่างไม่ยอมสรุปเรื่องนี้หรือเปิดการเจรจาทวิภาคี
ว่าจะเอาอย่างไรกันแน่ในเรื่องให้คนไทยถือเพียงสัญชาติเดียว




ส่วนการแลกดินแดนอีกแห่งคือ การซ่อมบำรุงทางรถไฟ
สถานีรถไฟปาดังเบซาร์ คือชื่อฝั่งมาเลย์ แต่ชื่อสถานีสอง ที่ฝั่งไทย
ในการซ่อมบำรุงทางรถไฟ ช่างมาเลย์จะข้ามเข้ามาในเขตแดนไทยร่วม 10 กิโลเมตร

ส่วนที่สถานีสุไหงโก-ลค ช่างไทยจะข้ามเข้าไปในเขตแดนมาเลย์ร่วม 10 กิโลเมตรเช่นกัน
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างต้องทำงานภายในบริเวณเขตรางรถไฟ
ไม่ใช่เพ่นพล่านไปบริเวณอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานซ่อมบำรุงทางรถไฟ
การเข้าไปทำงานภายในเส้นทางรถไฟ เป็นข้อตกลงร่วมกันทั้งสองฝั่งนานมากแล้ว

ในที่ฝั่งไทยบริเวณที่ดินรถไฟจะวัดออกจากรางซ้ายขวาข้างละ 40 เมตร
ตามกฎหมายที่ตราไว้ตั้งแต่สมัยพระปิยะมหาราช
ช่วงตั้งกิจการรถไฟที่วิศวกรอังกฤษเป็นแกนนำ/ที่ปรึกษา
ที่ดินรถไฟจึงมีพื้นที่สองข้างทางรถไฟว่างมาก
ทำให้ชาวบ้านบุกรุกทำประโยชน์สองข้างทางรถไฟจนทุกวันนี้

เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ
ก่อนที่จะเลือนหายไปเหมือนหัวรถจักรไอน้ำของรถไฟ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่