บักทึกลึกลับ ฉนับนุช ของ ผลิตโชต อายนบุตร

ไฮอีย์... ต้องกล่าวสวัสดีกับทุกคนที่ผ่านเข้าก่อนทั้งตั้งใจแล้วก็ไม่ตั้งใจ สวัสดีค่ะ  ก่อนอื่นบอกเลยว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้แรกกระทู้เดียวในชีวิตที่จะเขียนแบบนี้ เพราะปกติย้อนไปดูได้มีแต่รีวิวเที่ยว แต่วันนี้มันมีเรื่องพิเศษที่มันคับอกคับใจมานานละ ต้องเขียนให้ได้ ถ้าไม่ได้จะอกแตกตาย 555+ ก็เว่อร์ไป


    เข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน คืออยากจะบอกว่าเราเป็นนุชแหละทุกคน ซึ่งปกติก่อนหน้าเอาตรงๆ ป่ะ ไม่เคยสนใจ ศิลปินคนไหนแบบนี้เลยจริงๆ คลังมากสุดก็เมื่อ 16 ปีที่แล้ว ที่นั่งพับส่งไปให้กำลังใจพี่บิ๊กที่โรงพยาบาล ซื้อนิตยสารที่มีประวัติ D2B แค่นั้นแหละ ตอนนี้จะมีก็แค่ติดตามแบบทั่วๆไป มีข่าวก็อ่าน มีเพลงใหม่ก็ฟัง ไม่โพส ไม่แชร์ ไม่เครซี่ แต่ตอนนี้กับคนนี้มันไม่ใช่แล้วเราเครซี่มาก แบบว่าเกือบตลอดเวลาเลยหลงอยู่ในด้อมหาทางออกไม่ได้


    เรื่องทั้งหมดมันเริ่มมาจาก... คือจริงเรารู้จักชื่อ เป๊ก ผลิตโชค มานานแล้วนะ ติดตามผลงานมาตลอดทุกครั้งที่มีข่าวออกมา จำความได้ก็ตั้งอายุ 14 อ่ะ มันคือจุดเริ่มต้นของเด็กน้อยต่างจังหวัดคนนึ่งที่อยากให้พี่เป๊ก พี่ส้ม อ่านจดหมายหนูออกทีวี จะได้ไปเล่าให้เพื่อนฟังว่า ฉันน่ะออกทีวี (เคยเป็นกันป่ะ) เราก็เลย วาดรูปหมูหมีพูท์กับพิเล็ท การ์ตูนสุดรักส่งไปหาพี่เป๊ก พี่ส้ม โอ้ยอยากจะบอกว่าวันที่พี่เค้าอ่านจดหมายนี่ดีใจ ไม่กินข้าวไม่กินปลาเลยแหละ ปลื่มตามประสาเด็กน้อย จริงๆสมัยนั้นนี่เด็กน้อยจริงๆนะ สังคมโชเชี่ยวอะไรก็ไม่มี มีแต่รายการทีวีนี่แหละที่รู้จัก หลังจากนั้น ก็พี่เป๊กก็ออกอัลบั้ม เพลงไม่มีใครรู้ ถามว่าได้ซื้อ Cd หรือไรมั้ย ก็ไม่ 555 แต่รู้จักเพลงนะ ร้องได้ ชอบ พี่เป๊กร้องเพลงเพราะจัง ออกมาเพลงไหนก็ฟังๆ ก็ดูรายการเพลง ดูMV คือตอนนั้นรายการเพลงมันก็เยอะอ่ะเนอะ ก็ได้เจอพี่เค้าบ่อยๆ เราติดตามผลงานมาเรื่อยๆ มันก็คือการชื่นชอบในระดับปกติที่เหมือนคนๆ อื่น รึป่าว อันนี้ไม่รู้จริง ก็ถ้ามีผลงาน ถ้ามีข่าวเราก็ติดตามไปเรื่อยๆ จนนานวันชื่อพี่เป๊กก็ค่อยๆหายไป อันนี้เราไม่รู้จริงๆ ว่ามันเกิดอะไร เราก็ไม่รู้จะติดตามข่าวจากไหน ถ้าทีวีไม่มีข่าว ชื่อพี่เป๊กก็ค่อยๆ ย้ายเข้าไปอยู่ในความทรงจำ เริ่มแทนด้วยความทรงจำใหม่ๆ ซึ่งตลอดเวลา 12 ปีที่มีข่าวเราก็ยังตามแต่ก็ไม่ได้ลงรายละเอียดทุกครั้ง  ช่วงที่ออกเพลงเราก็ทราบจากที่เพื่อนๆพี่เป๊กโพสว่ามีเพลงใหม่ เราก็กลับเข้าไปแอบส่องพี่เป๊กทีดูไปก็ยิ้มไป เค้าดูมีไลฟ์สไตล์ ดูแล้วเพลินดีเวลาไปเที่ยวที่ต่างๆ โดยเฉพาะทะเล เพราะเราก็ชอบทะเลมาก  ฟังเพลงจากในวิทยุร้องตามได้ โหลดมาฟัง ก็เป็นปกติแบบทั่วไป หรือเวลาที่ไปออกอิเว้นท์เราก็ไม่เคยตามนะ ปกติก็ไม่เคยตามใครเลยจริงๆ กลัวด้วยซ้ำเวลาเดินห้างแล้วรู้ว่าจะมีดารา นักร้องมา เราก็เลือกจะไม่ไปในวันนั้น เราไม่ชอบคนเยอะ  แล้วเหมือนปีที่แล้วมั้งก่อน TMS ก็เริ่มมีข่าวพี่เป๊กอีกครั้ง แต่กลับเป็นข่าวไม่ดีเสียมากกว่า เราก็ได้อ่านนะจากเพจดังเพจนึง ก็เลยได้ตามเข้าไปดูความเคลื่อนไหวใน โลกของพี่เป๊ก  วันนั้นถามว่าเชื่อกับข่าวที่ได้เห็นได้ฟัง ตอบเลยว่าไม่จากใจจริงๆ ไร้สาระล้วนๆ ก็เข้าไปส่องๆ อีก ส่องเรื่อยๆ ไม่ฟอลโล่ซักที จนในที่สุดพี่เป๊กก็ได้ออก TMS วันแรกที่เป็นหน้ากากจิงโจ้นั้น ไม่รู้หรอกว่าคือพี่เป๊ก ก็คือดูไง ไม่มีทักษะใดๆ ทั้งสิ้นในการจับผิดเสียง แต่ฟังขนลุกกก คือเพราะ คือใช่เลย อยากให้เข้ารอบลึกๆ แล้วยิ่งตอนตอบคำถาม หูยน่ารักอ่ะ ดูดี ก็แอบเชียร์ว่าเป็นชิน ชินวุฒิ แต่ก็ไม่ฟันธง ก็ดูไปเรื่อยๆ  แล้วพอรอบถัดไป คนรอบข้างก็บอกเป๊ก ผลิตโชค เราก็จริงอ่ะ ทีนี้ก็เข้าไปส่อง ส่องอีกแล้ว ใช่จริงๆร่อ เห็นแต่ลงรูปทะเล 555+ โคตรคูล หลงรักผู้ชาบรักทะเล (แต่ก็ยังไม่ฟอลโล่นะ) คือปกติไม่ค่อยกดฟอลโล่ใครเลยจริงๆ ขนาดคนที่กดฟอลโล่ยังไม่ค่อยไลค์เลย ไม่รู้เป็นไร นิสัยไม่ดี แล้วก็ยังรอดูรอบต่อไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่ถอดหน้ากาก เราก็เชียร์ว่าอยากให้เป็นพี่เป๊กเหมือนกันนะ ตอนนั้นก็เริ่มเอนเอียงแล้ว พี่เป๊กๆ ต้องใช่สิ่ คิดในใจฉันนี่เคยปลิ่มในสมัย 14 ขวบนะ อยากเห็นพี่เค้าร้องเพลงอีก แล้วในที่สุดเย้ พี่เป๊กจริงๆด้วย ในวันที่เปิดหน้ากากมาความรู้สึกตอนที่พี่เป๊กพูด เรารู้สึกดีสุดในบรรดาหน้ากากอื่นๆ ที่เปิดออกมาเลยนะ เพราะว่าอะไรรู้มั้ย ในวันนั้นพี่เป๊กไม่มีน้ำตา มีแต่แววตาที่โล่งใจ ที่มีความสุข เราชอบความรู้สึกนี้มากกว่าที่จะต้องเปิดมาแล้วร้องไห้ (อันนี้คิดแบบนี้จริงๆ) พี่เป๊กพูดสั้นๆ ง่ายๆ สบายๆ ในแบบของพี่เค้า เหมือนที่ผ่านๆ มาเวลาทีมข่าวไม่ดี หรือมีเรื่องราวอะไรพี่เค้าเลือกที่จะตอบสั้นๆ หรือปล่อยให้มันผ่านไป เรายินดีกับพี่เค้า คืนนั้นจำได้เลยว่าไปเฝ้าหน้า IG พี่เค้าว่าเค้าจะมาขอบคุณยังไง เราขอบการอ่านมากกว่าคำพูด เรารู้สึกได้เลยว่าทุกตัวอักษรที่พี่เค้าเขียนออกมามันจริงใจมากใจ มันคือความรู้สึกจริงๆที่พี่เค้ารู้สึกอยู่ในใจ แต่ไม่สามารถพูดออกมาได้ คืนนั้นเรานอนเกือบตี 3 แน่ะ เพราะมัวแต่ไล่กลับไปดูรูปเรื่อยๆ เปิดทุกรูปอ่านทุกแคปชั่น ค่อยๆซึมซับเรื่องราวต่างๆ ของพี่เค้าเรื่อยๆ เพื่อทดแทนสิ่งที่เราพลาดไปเมื่อ 12 ปีก่อน (ถามว่ากดฟอลโล่ยัง ก็ยังนะ 555)


    แต่พอเช้ามาวันรุ่งขึ้นกลับมีกระแสข่าวดราม่ากับพี่เค้า ตอนแรกก็งงนะว่าเรื่องอะไร ก็เลบเข้าไปอ่าน ตอนแรกก็ไปอ่านตาม ตามเพจต่างๆ ก่อน ตกใจมาก บ้าไปใหญ่แล้วเรื่องแค่นี้เอามาทำกระแส คือแบบทำไมอ่ะ คนเราจะพูดแบบไหนมันสำคัญเหรอ ทำไมต้องไปว่าเค้าเมื่อก่อนที่จำความได้พี่เค้าก็พูดแบบนี้นะ ไม่ได้มีอะไรแปลกเลย สำเนียงออกจะดีมากด้วยซ้ำ คนเรานี่ก็ตลกดี  คือสงสารพี่เค้าจับใจ แต่สุดท้ายเรื่องร้ายๆ ก็กลายเป็นดี มีคนเข้าใจในความเป็นพี่เค้ามากขึ้น ว่าเค้าเป็นแบบนี้ ไม่ได้แสดงหรือพูดให้ตัวเองดูดีเลย หลังจากนั้นเราก็ได้ยินกระแสพี่เค้ามากขึ้นเรื่อยๆ ว่ามีคนรักพี่เค้าเยอะขึ้น ไปร้องเพลงที่ไหนก็มีคนติดตามมากขึ้น จนเกิดปรากฏการณ์ห้างแตก เราดีใจกับพี่เค้าจริงๆ ที่พี่เค้ากลับมาอีกครั้ง


    และช่วงหลังจากนี้แหละเป็นช่วงจุดเปลี่ยนเรา หลังจบ 9ent คือพี่เค้าได้รางวัล เราโหวตไป 2 ครั้งถ้วนจริงๆ นี่คือครั้งแรกในการโหวตเลยนะ ปกติไม่เคยเชื่อถือระบบการโหวตอยู่แล้ว แต่ก็เอาน่าไม่เป็นไร M5  แล้วพี่เค้าก็ได้รางวัล นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ดูคลิป มันคือจุดเปลี่ยนจริงๆ เราค่อยๆเห็นความเป็นพี่เค้าที่เราไม่เคยเห็น มีแฟนๆ รักพี่เค้ามากมาย เราไม่รู้ว่าเพราะอะไร เราเห็นคนบอกรักเขามากมายต่างจากเมื่อก่อน หลังจากวันนั้นเล่าก็เลยลองเปิด youtube ว่ามีอะไรเกี่ยวกับพี่เค้าบ้าง โอ้โหมีเยอะเลย ก็ค่อยๆไล่ดู ดูจนถึงตี 5 อ่ะ ดูจนเก็บเอาไปฝัน ความรู้สึกตอนนั้นรู้สึกผิดมากเลย รู้สึกว่าทำไมเราปล่อยพี่เค้าถึง 12 ปี ทำไมเราเลือกที่จะเป็นแค่คนติดตามผลงานคนๆนึงจากข่าวๆ ตามหน้าโทรทัศน์ ทำไมเราต้องให้ข่าวเข้ามาหา ทำไมเราไม่วิ่งไปหาบ้าง เราได้เห็นคลิปการเล่าเรื่องโน้น เรื่องนี้บนเวที การเอนเตอร์เทนแฟน การพูดคุยที่แบบไม่มีการเสแสร้ง ทุกคำ ทุกการกระทำของพี่เค้ามันดูจริงใจ นับตั้งแต่วันนั้นเราเฝ้ารอดูพี่เค้ามาตลอด เราคิดแล้วว่าจากวันนี้ไปเราจะขอเลือกเป็นคนที่สนับสนุนพี่เค้าแบบแสดงออก ไม่อยู่ในจุดเงียบๆแล้ว มันอาจทดแทนกับในช่วงเวลาที่ผ่านไม่ได้ แต่ตอนนี้เราจะทำมันให้ดีที่สุด เพื่อที่เราจะได้เห็นรอยยิ้มพี่เค้าในทุกๆวัน


    เชื่อมั้ยว่าตั้งแต่วันนั้นเราเสพติดการเปิดยูทูป เปิดดูมันทุกคลิป เปิดซ้ำๆ เปิดฟังเสียง เปิดดูหน้า เกือบลืม กดฟอลโล่ IG แล้วนะ ทีนี้ก็ลามมาเฟชบุคบ้างมีอะไรบ้าง ก็กดไลค์เลยเพราะอยากดูคลิป  อยากรับรู้เรื่องราวต่างๆ เราค่อยๆหลงรักความเป็นตัวเอง ความเป็นธรรมชาติ ความน่ารักต่างๆ ความดีที่เค้าปิดทองหลังพระไว้มากมาย พอค่อยๆ หลงทีนี้ก็ยิ่งตามตามต่อไปที่ ทวิตเตอร์ต่อ คือจริงๆเล่นนานแล้วแต่ก็มีไว้อ่านข่าวกับโพสไรไปเรื่อย ระบายในสิ่งที่ โลกของ 2 แอปทำไม่ได้ แล้วก็หลงเข้าไปใน# คราวนี้ยิ่งไปกันใหญ่เรายิ่งคลั่งไปใหญ่เลยทีนี้ เราแชร์ เราเม้น เราโพสทุกอย่างเกี่ยวกับพี่เค้าอย่างบ้าคลั่ง คือมันอินอ่ะ แล้วยิ่งได้ดูรายการ ตีสิบ ที่นี่หมอชิต Good life เรายิ่งรักเข้าไปใหญ่


    ...ตอนนี้ถึงแม้จะมาช้า จะมาทีหลัง แต่อยากจะบอกว่าไม่ได้รักน้อยไปกว่าคนอื่นเลย อะไรที่ไม่เคยทำในชีวิตกับศิลปินคนไหน แต่กับเฮียนุชทำหมดเลย ลางานมารอดูคอนเสิร์ต โดดงานไปหาที่งานอิเว้น ซื้อของไปให้ รอดูไลฟ์เวลาที่ไปงานต่างๆ ตอนกลางคืน รอดูไลฟ์ว่าเฮียจะไลฟ์เมื่อไหร่ จะโพสตอนไหน กดแจ้งเตือนไว้ตลอด ไม่พลาดซักไลฟ์  เรื่องแบบนี้มันอาจเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับแฟนคลับในยุคปัจจุบัน แต่กับนุชบอกเลยว่าที่ทำไปทำให้เฮียคนแรกและคนเดียวจริงๆ อยากเห็นรอยยิ้มของเฮีย อยากเห็นแววตามีความสุขคู่นั้น อยากเห็นเวลาเฮียทำอะไรเด๋อๆ ด๋าๆ เวลาร้องเพลง เวลาเต้นที่เฮียรัก นุชขอโทษนะคะที่ 12 ปีที่ผ่านนุชเลือกที่จะเป็นคนคนที่เฝ้าดูอยู่อย่างๆ แต่นับจากตอนนี้ไปนุชจะเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ แรงใจสำคัญที่ทำให้แววตาของเฮียมีความสุขตลอดไป จะเป็นลมใต้ปีกที่จะคอยส่งเฮียไปให้ได้ไกลที่สุด
.. อาจมีไม่มากเหมือนคนอื่น แต่บอกเลยว่าไม่เคยทำแบบนี้ให้กับใครจริงๆ..


รักนะ ผลิตโชค อายนบุตร
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่