-- คณะผู้บริหารและทีมงานเว็บไซต์ Pantip.com --
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มาเช็กอินกันกับสถานที่ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งของเกาะรัตนโกสินทร์ หากพูดถึงเกาะรัตนโกสินทร์แล้ว หลายคนคงทราบกันดีว่าเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ในเขตพระนครของกรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเป็นที่ตั้งของวัดสำคัญๆ หลายแห่ง เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว, วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร, วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือที่เรียกว่า วัดโพธิ์, วัดราชนัดดารามวรวิหาร, ฯลฯ นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์หลายแห่ง ที่จะบอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตของชาวกรุงเก่าเราได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าหากใครที่ชื่นชอบวิชาประวัติศาสตร์แล้ว ต้องไม่พลาดที่จะแวะเวียนมาเยี่ยมชมกัน
โดยในวันนี้ พวกเราคณะผู้บริหารและทีมงานเว็บไซต์ Pantip.com ได้รับเชิญจากฝ่ายส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พาเยี่ยมชมภารกิจด้านสังคมของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยเริ่มต้นที่จุดหมายแรก นั่นคือ
โลหะปราสาทแห่งเดียวในประเทศไทย ที่อยู่ภายใน ‘วัดราชนัดดารามวรวิหาร’
โลหะปราสาท ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของพระอุโบสถ ในวัดราชนัดดารามวรวิหาร ว่ากันว่าเป็นโลหะปราสาทแห่งแรกและแห่งเดียวของไทย สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้มีการโปรดเกล้าฯ ให้สร้างโลหะปราสาทแทนการสร้างเจดีย์ โดยลักษณะสถาปัตยกรรมสร้างตามแบบศิลปกรรมไทย เป็นปราสาท 3 ชั้น (อาคาร 7 ชั้น) มียอด 37 ยอด ซึ่งหมายถึงพระโพธิปักขิยธรรม 37 ประการตามคติธรรมในพระพุทธศาสนา
ยอดปราสาทชั้น 7 จะเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ กลางปราสาทเป็นช่องกลวง มีบันไดเวียน 67 ขั้น สามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพ 360 องศารอบเกาะรัตนโกสินทร์ได้
โลหะปราสาท ได้รับการปรับปรุงหลายครั้งหลังก่อสร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ภายหลังพระองค์สวรรคตลง โลหะปราสาทก็มิได้ปรับปรุงแล้วเสร็จ จนกระทั่งได้บูรณะครั้งใหญ่จนแล้วเสร็จในสมัยพระราชปัญญาโสภณ (สุข ปุญญรํสี) ปี พ.ศ. 2506 โดยมีจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ร่วมกันปรับปรุงแล้วเสร็จ เป็นแบบก่อโบกปูนสีแดง มณฑปทาสีขาว
ในปี พ.ศ. 2539 พล.อ.ต.อาวุธ เงินชูกลิ่น ศิลปินแห่งชาติสาขาสถาปัตยกรรม (ในเวลาต่อมา) ได้ออกแบบวัสดุมุงและเครื่องประดับหลังคาเป็นโลหะและทองแดงรมดำ ทำให้ออกมาเป็นสีดำ และในปี พ.ศ. 2555 กรมศิลปากรได้ร่วมกับทางวัดบูรณะ มณฑปให้เป็นสีทอง โดยการปิดทองคำเปลวบนยอดทั้ง 37 ยอด ซึ่งเริ่มดำเนินการจากชั้นบนสุดลงมา และเสร็จสิ้นในปี พ.ศ. 2560
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย
[Pantip Check-in] พาชมโลหะปราสาทแห่งเดียวในประเทศไทย แวะเรียนรู้วิถีชีวิตชาวกรุงเก่าที่นิทรรศน์รัตนโกสินทร์
-- คณะผู้บริหารและทีมงานเว็บไซต์ Pantip.com --
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มาเช็กอินกันกับสถานที่ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งของเกาะรัตนโกสินทร์ หากพูดถึงเกาะรัตนโกสินทร์แล้ว หลายคนคงทราบกันดีว่าเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ในเขตพระนครของกรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเป็นที่ตั้งของวัดสำคัญๆ หลายแห่ง เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว, วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร, วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือที่เรียกว่า วัดโพธิ์, วัดราชนัดดารามวรวิหาร, ฯลฯ นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์หลายแห่ง ที่จะบอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตของชาวกรุงเก่าเราได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าหากใครที่ชื่นชอบวิชาประวัติศาสตร์แล้ว ต้องไม่พลาดที่จะแวะเวียนมาเยี่ยมชมกัน
โดยในวันนี้ พวกเราคณะผู้บริหารและทีมงานเว็บไซต์ Pantip.com ได้รับเชิญจากฝ่ายส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พาเยี่ยมชมภารกิจด้านสังคมของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยเริ่มต้นที่จุดหมายแรก นั่นคือ โลหะปราสาทแห่งเดียวในประเทศไทย ที่อยู่ภายใน ‘วัดราชนัดดารามวรวิหาร’
โลหะปราสาท ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของพระอุโบสถ ในวัดราชนัดดารามวรวิหาร ว่ากันว่าเป็นโลหะปราสาทแห่งแรกและแห่งเดียวของไทย สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้มีการโปรดเกล้าฯ ให้สร้างโลหะปราสาทแทนการสร้างเจดีย์ โดยลักษณะสถาปัตยกรรมสร้างตามแบบศิลปกรรมไทย เป็นปราสาท 3 ชั้น (อาคาร 7 ชั้น) มียอด 37 ยอด ซึ่งหมายถึงพระโพธิปักขิยธรรม 37 ประการตามคติธรรมในพระพุทธศาสนา
ยอดปราสาทชั้น 7 จะเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ กลางปราสาทเป็นช่องกลวง มีบันไดเวียน 67 ขั้น สามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพ 360 องศารอบเกาะรัตนโกสินทร์ได้
โลหะปราสาท ได้รับการปรับปรุงหลายครั้งหลังก่อสร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ภายหลังพระองค์สวรรคตลง โลหะปราสาทก็มิได้ปรับปรุงแล้วเสร็จ จนกระทั่งได้บูรณะครั้งใหญ่จนแล้วเสร็จในสมัยพระราชปัญญาโสภณ (สุข ปุญญรํสี) ปี พ.ศ. 2506 โดยมีจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ร่วมกันปรับปรุงแล้วเสร็จ เป็นแบบก่อโบกปูนสีแดง มณฑปทาสีขาว
ในปี พ.ศ. 2539 พล.อ.ต.อาวุธ เงินชูกลิ่น ศิลปินแห่งชาติสาขาสถาปัตยกรรม (ในเวลาต่อมา) ได้ออกแบบวัสดุมุงและเครื่องประดับหลังคาเป็นโลหะและทองแดงรมดำ ทำให้ออกมาเป็นสีดำ และในปี พ.ศ. 2555 กรมศิลปากรได้ร่วมกับทางวัดบูรณะ มณฑปให้เป็นสีทอง โดยการปิดทองคำเปลวบนยอดทั้ง 37 ยอด ซึ่งเริ่มดำเนินการจากชั้นบนสุดลงมา และเสร็จสิ้นในปี พ.ศ. 2560
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้