จะว่าฉันเลวก็ได้นะ

เรื่องมันผ่านมา4-5ปีแล้วคะ ฉันคุยกับคนที่ฉันไม่ได้ชอบแค่คุยเล่นๆ (ประมาณว่าเขามาจีบเราก่อน)  เลยคุยไปเฉยๆเหมือนมันสนุกปากที่จะพูดแต่ไม่ได้คิดอะไร คุยกันได้1เดือน เขาก็หาเรื่องย้ายมาอยู่กับฉันคะ หลังจากนี้ฉันก็คิดว่าเขาเริ่มเอาจริงแล้ว ทุกอย่างมันรวบรัดรวดเร็วไปหมด พอมาอยู่ด้วยกัน ฉันเองก็พยามจะชอบเขา พยามจะรักเขา แต่... ฉันทำไมได้ค่ะ คุยกัน1เดือน มาอยู่ด้วยกันจริงอีก1 เดือน รวมเป็น2เดือน เหตุผลรักเขาไม่ได้เป็นเพราะพออยู่ด้วยกันจริงๆแล้ว มันทำให้ฉันรู้เลยว่า เขาเป็นคนโกหก หลอกลวงยิ้ม นิสัยแย่มากด้วยคะ มันเลยทำให้ความพยายามที่ฉันจะรักเขา มันรักไม่ได้ ( เอาเรื่องโกหกก่อน ) ตอนคุยกัน เขาจะชอบบอกฉันว่า เนี้ยมีแต่คนมาชอบเขานะ คนนั่นก็ชอบคนนี้ก็ชอบ บลาๆๆๆ ฉันเองก็ค่อนข้างจะสงสัย เอาจริงๆหน้าตาเขาขี้เหร่มากคะ การวางตัวการแต่งการก็เข้ากับสังคมได้ยาก (เรื่องหลอกลวงยิ้มต่อ) ตอนคุยกันก็บอกว่าทำงาน ชอบทำงานพูดเรื่อง คนนู้นบ้าง ว่าคนนี้บ้าง ว่าเขาไม่ทำงานเที่ยวเล่นไปวันๆ ที่บอกคนนู้นคนนี้คือยกตัวอย่างเพื่อนเขานะคะ แต่พอมาอยู่กับฉัน ไม่ไปทำงานคะ ตามแต่ฉันอย่างเดียว อารมณ์ร้ายไม่พอใจอะไรฉัน ก็ทุบตีทำลายข้าวของ เวลาทุบตีฉัน ก็จะเน้นที่ใบหน้านะคะ ซึ้งฉันเจ็บ และทรมารมากคะ ฉันบอกให้เขาไปจากชีวิตฉันเขาก็ไม่ไป นี้แค่อาทิตย์แรก ยังทำฉันขนาดนี้ เขาไม่ยอมไปคะเขาบอกว่าที่ทำไปเพราะรักมากร้องให้ต่อกราบเท้าเลย!?! ฉันไม่รุ้จะทำยังไง ตอนที่เขาทุบตีฉันในห้องที่บ้านฉันนะคะ พ่อแม่ฉันก็ได้ยิน หากเขาไม่ไปฉันคงต้องไปเอง ใจหนึ่งก็สงสารๆตรงที่มันกราบเท้านี่แหละ คิดว่ามันคงสำนึก แต่อีกใจก็เกียจ ฉันเลยตัดสินใจไปทำงานที่ ก.ท.ม โดยที่มีเขาไปด้วย แต่ก่อนไปเขาร้องฉันว่า ถ้าไป ก.ท.ม แล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็อย่าทิ้งเขานะ ฉันก็เออ ออ ไปคะ เพราะอยู่บ้านไม่ได้แล้ว ฉันอายพ่อแม่ พอไปถึง ก.ท.ม เหมือนเดิมคะ ยังไงยังงั้น ไม่ไปหาสมัคงาน จะทำก็ต่อเมื่อได้ทำที่เดียวกับฉัน  หางานไป1อาทิตย์ได้งานที่เดียวกันคะ เขาได้ทำงานในส่วนการผลิต ส่วนฉันทำในห้องธุระการ เขาเรียนมาน้อยกว่าโม้ งานเลยได้แยกกันแต่โรงงานเดียวกัน ระหว่างที่ทำงานเขาก็ไม่ค่อยอยากทำคะ ไม่เข้าเพื่อน ไม่มีสังคมเห็นแก่ตัว คือเขาเป็นคนที่เอาแต่ตัวเอง โดยนิสัยที่ออกมาให้เห็น ณตอนนั้นนะคะ เขาจะคอยบอกเพื่อนในโรงงานว่า(แฟน)ซึ้งหมายถึงฉัน ทำงานในออฟฟิสนะ ใครจะกล้าหือกับเขาไหม อะไรทำนองนี้คะ วันๆไม่ค่อยทำงานแอบไปเล่นแต่โทรศัพท์จะรอแค่ตอนเบคร แล้วมาหาฉัน จนหัวหน้างานของเขาไปบอกผู้จัดการ ผู้จัดการเลยเรียกแฟนฉันไปตักเตือน หากทำตัวแบบนี้ เขาจะเชิญออกทั้ง ฉันและแฟน
ทนไม่ไหวสิคะ เลิกงานกลับมาฉันยกมือไหว้เขาเลย แล้วบอกให้เขาไปจากชีวิตฉันเถอะ ทำยังไงเขาก็ไม่ยอม พอพูดจบ ตบปากฉันอีก  คือทำนิสัยแบบนี้อีกล่ะ ทั้งที่สัญญาไปเมื่อก่อนมา ก.ท.ม ไม่ถึงอาทิตย์  ได้OKอันนี้พูดในใจ วันรุ่งขึ้นฉันและเขาไปทำงานตามปกติคะ ฉันทุกข์ใจมาก ฉันเล่าให้เพื่อนที่ทำงานฟัง ตั้งแต่ต้นจนบัดนั้น เรื่องแฟนเฮงซวยห่วยแตก เพื่อนเลยหาทางช่วย เลิกงานฉันไม่กลับห้องคะไปค้างบ้านเพื่อนที่ทำงานเพื่อนก็คงเวทนาฉันอะเนอะ แฟนฉันโทรตามฉันเป็นร้อยๆสายฉันก็ไม่รับ พอวันต่อมาเขาไปโวยวายที่ทำงาน เพื่อนฉันไลน์มาบอก ให้เคลียร์เสียเดี๋ยวมันจะถึงหู้ผู้จัดการ ฉันตัดสินใจโทรบอกเเฟนให้เขากลับต่างจังหวัด ฉันพยายามล้อหลอกให้เขากลับบ้านไปก่อน ฉันก็บอกเขาว่าจะตามกลับไปอยู่ด้วย แต่ต้องรอเงินเดือนก่อน ทำงานไม่ถึงเดือนเขาไม่ให้เงิน ฉันบอกเหตุผลเขาแบบนี้ เขาก็เลยตัดสินใจกลับบ้านเขาคะ จากวันนี้ ฉันไม่ติดต่อเขาอีกเลย ฉันย้ายที่อยู่ โดยไม่กลับบ้าน  เวลาผ่านไป 5-6วัน เพื่อนของเเฟน โทรมาบอกฉันคะ มีเบอร์ฉันได้ยังไงก็ไม่รู้
เขาบอกว่าแฟนฉันนะ รักฉันมาก แค้นฉันมาด้วยเหมือนกัน เขาเห็นแฟนฉันก่อไฟที่เตาถ่านหน้าบ้าน เผาพริก เผาเกลือ เผาเสื้อผ้าสาปแช่งฉันทุกวัน เอารูปถ่ายฉันไปย่างไฟ แล้วก็แช่ง ๆๆๆ

*** คำถามคือ  ฉันอยากรู้ว่าที่แฟนฉันทำแบบนี้ คำสาปแช่ง ของเขาจะมาถึงฉันจริงไหม แล้วมันจะมีผลต่อการใช้ชีวิตฉันไหมคะ

" ทุกวันนี้พอฉันนึกถึงเรื่องนี้ทีไร ฉันกลับรู้สึกเกียจเขาจนตัวสั่น ทั้งที่เรื่องมันก็ผ่านมานานมากแล้ว "

เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะปากฉันเอง ถ้าไม่คุยกับเขาตั้งแต่แรก มันก็คงไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น
เพราะที่เล่ามาจะเห็นได้ว่ามันไม่มีเนื้อหาของความรักแม้แต่นิดเดียว ( สำหรับฉัน )
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่