1.ใช้วิธีพิจารณาให้รู้ตามความเป็นจริงว่า "เพศหญิง" และ "เพศชาย" เป็นเพียงแค่สิ่งสมมติเท่านั้น
เพราะคนทุกคนล้วนเคยเกิดเป็นทั้งหญิงและชายกันมาแล้วทั้งสิ้น คนทุกคน จึงเคยเกิดเป็นทั้ง "ผัว" และ "เมีย" ของผู้อื่นมาแล้วมากมาย
(เพื่อทำลายและหักล้างความหลงใหลในเพศตรงข้าม ให้รู้ว่าสถานะความเป็นเพศหญิงและเพศชาย ไม่ใช่ของคงที่ ไม่ใช่ของถาวร ไม่ใช่ของวิเศษ)
(ไม่มีเพศชายแท้ถาวร และ ไม่มีเพศหญิงแท้ถาวร)
และพิจารณาให้รู้ตามความเป็นจริงว่า "คน" เป็นเพียงแค่สถานะชั่วคราวของการเวียนว่ายเกิด เราเคยเกิดเป็นทั้งคนและสัตว์เดรัจฉาน กันมาแล้วทั้งสิ้น
(สถานะความเป็นคน จึงไม่ใช่ของคงที่ ไม่ใช่ของถาวร ไม่ใช่ของวิเศษ)
เพื่อหักล้างอารมณ์รักหนุ่มสาวในอุดมคติ
เพื่อให้รู้ตามความเป็นจริงว่าความรักหนุ่มสาวในอุดมคติเป็นเพียงแค่ "ความหลงเพราะความไม่รู้" ชนิดหนึ่งเท่านั้น
(
เพื่อทำลายและหักล้างความหลงว่าเพศตรงข้ามมีตัวมีตน มีสถานะที่ถาวร และมีเพศที่ถาวรลง)
(อันเป็นธรรมะข้อหนึ่งที่นักปฏิบัติธรรมควรจะรู้ไว้ เพื่อการตัดละความมีตัวมีตน)
โดยใช้บทความ "ความรักหนุ่มสาวในอุดมคติ เป็นเพียงเรื่องลวงตา ไม่ได้เป็นสิ่งวิเศษอันใดให้ยึดถือ"
http://pantip.com/topic/33651692
เป็นตัวช่วยในการพิจารณาหักล้าง อารมณ์หลงในเพศของผู้อื่น และ อารมณ์หลงในเพศของตนเอง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2.ใช้วิธีพิจารณาให้รู้ตามความเป็นจริงว่า "ร่างกายของคนทุกคน เป็นของสกปรก" ทั้งสิ้น
เพื่อให้รู้ตามความเป็นจริงว่า ร่างกายของคนทุกคน เป็นของสกปรก เพราะมีสิ่งปฏิกูลสกปรกจำนวนมากอัดแน่นอยู่ภายในร่างกายของคนทุกคน
(โดยใช้บทความสำหรับการพิจารณาตัดละร่างกาย ตามหลัก กายคตานุสสติกรรมฐาน + อสุภกรรมฐาน + มรณานุสสติกรรมฐาน มาช่วยในการตัดละ)
(
เพื่อทำลายและหักล้างความหลงว่ามีตัวมีตน การหลงคิดว่าร่างกายเราและร่างกายของผู้อื่น เป็นของดี เป็นของสะอาด เป็นของสวยงาม จะหายไป)
(อันเป็นธรรมะอีกข้อหนึ่งที่นักปฏิบัติธรรมควรจะรู้ไว้ เพื่อการตัดละความมีตัวมีตน)
โดยใช้บทความ "ร่างกายของคนทุกคน เป็นของสกปรก"
https://pantip.com/topic/36852550
เป็นตัวช่วยในการพิจารณาหักล้าง อารมณ์หลงในกายของผู้อื่น และ อารมณ์หลงในกายของตนเอง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3.ใช้ "อารมณ์ฌาน" มาช่วยกดข่มกิเลสนิวรณ์ให้สงบระงับลงไปชั่วคราว
โดยใช้บทความ "องค์ประกอบของผู้ทรงฌาน"
https://pantip.com/topic/36862543 มาช่วยในการปฏิบัติตนเพื่อให้เข้าฌานได้
เพื่อให้รู้วิธีในการเข้าฌาน และ การทรงอารมณ์ฌาน เพื่อใช้อารมณ์ฌานมาช่วยกดระงับ กามฉันทะ และ ปฏิฆะ เอาไว้ได้ชั่วคราว
ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นนิวรณ์สำคัญ ที่ขัดขวางการเจริญสมณธรรมเพื่อการยกระดับจิตเป็นพระอริยะเจ้า
เพราะว่าจิตของคนธรรมดาๆทั่วไปนั้น ไม่มีคำว่าว่างจากกิเลสนิวรณ์ เราจึงจำเป็นจะต้องใช้อารมณ์ฌานมาช่วยกดข่มกิเลสนิวรณ์เอาไว้เสมอ
จนต่อเมื่อจิตของคุณเข้าถึงความเป็นพระอริยะเจ้า กิเลสต่างๆเหล่านั้นก็จะโดนตัดละไปตามระดับจิตของพระอริยะเจ้าที่คุณเข้าถึงได้
เพราะฉนั้น การเข้าฌานได้ จึงมีความจำเป็นมาก และสำคัญมาก สำหรับคนทั่วไปที่มีจิตเป็นปุถุชน
เพื่อที่จะได้สัมผัสรับรู้ถึงอารมณ์ฌานเป็นครั้งแรก และรับรู้ว่าสภาวะจิตในขณะที่กิเลสนิวรณ์ถูกกดให้สงบระงับลงไปชั่วคราวนั้น มีความรู้สึกเป็นเช่นไร
และเพื่อที่จะใช้กำลังของฌานนั้น มาเป็นฐานกำลังของจิตเพื่อการยกระดับจิตให้สูงขึ้น เพื่อการเข้าสู่ความเป็นพระอริยะเจ้า
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้((((( บทความที่เกี่ยวข้อง )))))
บทความเรื่อง "ความต้องการทางเพศ กับ การบรรลุธรรม" https://pantip.com/topic/36643757
บทความเรื่อง "คุณกำลังปฏิบัติตนเพื่อความเป็นพระอริยะเจ้าในระดับใด?" https://pantip.com/topic/36862265
บทความเรื่อง "ตัดละ(สักกายทิฏฐิ) เพียงตัวเดียวลงได้อย่างเด็ดขาด ก็บรรลุธรรมได้" https://pantip.com/topic/34455786
บทความเรื่อง "3 บทความ 3 ขั้นตอน เพื่อการตัดละความพอใจในกาม"
1.ใช้วิธีพิจารณาให้รู้ตามความเป็นจริงว่า "เพศหญิง" และ "เพศชาย" เป็นเพียงแค่สิ่งสมมติเท่านั้น
เพราะคนทุกคนล้วนเคยเกิดเป็นทั้งหญิงและชายกันมาแล้วทั้งสิ้น คนทุกคน จึงเคยเกิดเป็นทั้ง "ผัว" และ "เมีย" ของผู้อื่นมาแล้วมากมาย
(เพื่อทำลายและหักล้างความหลงใหลในเพศตรงข้าม ให้รู้ว่าสถานะความเป็นเพศหญิงและเพศชาย ไม่ใช่ของคงที่ ไม่ใช่ของถาวร ไม่ใช่ของวิเศษ)
(ไม่มีเพศชายแท้ถาวร และ ไม่มีเพศหญิงแท้ถาวร)
และพิจารณาให้รู้ตามความเป็นจริงว่า "คน" เป็นเพียงแค่สถานะชั่วคราวของการเวียนว่ายเกิด เราเคยเกิดเป็นทั้งคนและสัตว์เดรัจฉาน กันมาแล้วทั้งสิ้น
(สถานะความเป็นคน จึงไม่ใช่ของคงที่ ไม่ใช่ของถาวร ไม่ใช่ของวิเศษ)
เพื่อหักล้างอารมณ์รักหนุ่มสาวในอุดมคติ
เพื่อให้รู้ตามความเป็นจริงว่าความรักหนุ่มสาวในอุดมคติเป็นเพียงแค่ "ความหลงเพราะความไม่รู้" ชนิดหนึ่งเท่านั้น
(เพื่อทำลายและหักล้างความหลงว่าเพศตรงข้ามมีตัวมีตน มีสถานะที่ถาวร และมีเพศที่ถาวรลง)
(อันเป็นธรรมะข้อหนึ่งที่นักปฏิบัติธรรมควรจะรู้ไว้ เพื่อการตัดละความมีตัวมีตน)
โดยใช้บทความ "ความรักหนุ่มสาวในอุดมคติ เป็นเพียงเรื่องลวงตา ไม่ได้เป็นสิ่งวิเศษอันใดให้ยึดถือ" http://pantip.com/topic/33651692
เป็นตัวช่วยในการพิจารณาหักล้าง อารมณ์หลงในเพศของผู้อื่น และ อารมณ์หลงในเพศของตนเอง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2.ใช้วิธีพิจารณาให้รู้ตามความเป็นจริงว่า "ร่างกายของคนทุกคน เป็นของสกปรก" ทั้งสิ้น
เพื่อให้รู้ตามความเป็นจริงว่า ร่างกายของคนทุกคน เป็นของสกปรก เพราะมีสิ่งปฏิกูลสกปรกจำนวนมากอัดแน่นอยู่ภายในร่างกายของคนทุกคน
(โดยใช้บทความสำหรับการพิจารณาตัดละร่างกาย ตามหลัก กายคตานุสสติกรรมฐาน + อสุภกรรมฐาน + มรณานุสสติกรรมฐาน มาช่วยในการตัดละ)
(เพื่อทำลายและหักล้างความหลงว่ามีตัวมีตน การหลงคิดว่าร่างกายเราและร่างกายของผู้อื่น เป็นของดี เป็นของสะอาด เป็นของสวยงาม จะหายไป)
(อันเป็นธรรมะอีกข้อหนึ่งที่นักปฏิบัติธรรมควรจะรู้ไว้ เพื่อการตัดละความมีตัวมีตน)
โดยใช้บทความ "ร่างกายของคนทุกคน เป็นของสกปรก" https://pantip.com/topic/36852550
เป็นตัวช่วยในการพิจารณาหักล้าง อารมณ์หลงในกายของผู้อื่น และ อารมณ์หลงในกายของตนเอง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3.ใช้ "อารมณ์ฌาน" มาช่วยกดข่มกิเลสนิวรณ์ให้สงบระงับลงไปชั่วคราว
โดยใช้บทความ "องค์ประกอบของผู้ทรงฌาน" https://pantip.com/topic/36862543 มาช่วยในการปฏิบัติตนเพื่อให้เข้าฌานได้
เพื่อให้รู้วิธีในการเข้าฌาน และ การทรงอารมณ์ฌาน เพื่อใช้อารมณ์ฌานมาช่วยกดระงับ กามฉันทะ และ ปฏิฆะ เอาไว้ได้ชั่วคราว
ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นนิวรณ์สำคัญ ที่ขัดขวางการเจริญสมณธรรมเพื่อการยกระดับจิตเป็นพระอริยะเจ้า
เพราะว่าจิตของคนธรรมดาๆทั่วไปนั้น ไม่มีคำว่าว่างจากกิเลสนิวรณ์ เราจึงจำเป็นจะต้องใช้อารมณ์ฌานมาช่วยกดข่มกิเลสนิวรณ์เอาไว้เสมอ
จนต่อเมื่อจิตของคุณเข้าถึงความเป็นพระอริยะเจ้า กิเลสต่างๆเหล่านั้นก็จะโดนตัดละไปตามระดับจิตของพระอริยะเจ้าที่คุณเข้าถึงได้
เพราะฉนั้น การเข้าฌานได้ จึงมีความจำเป็นมาก และสำคัญมาก สำหรับคนทั่วไปที่มีจิตเป็นปุถุชน
เพื่อที่จะได้สัมผัสรับรู้ถึงอารมณ์ฌานเป็นครั้งแรก และรับรู้ว่าสภาวะจิตในขณะที่กิเลสนิวรณ์ถูกกดให้สงบระงับลงไปชั่วคราวนั้น มีความรู้สึกเป็นเช่นไร
และเพื่อที่จะใช้กำลังของฌานนั้น มาเป็นฐานกำลังของจิตเพื่อการยกระดับจิตให้สูงขึ้น เพื่อการเข้าสู่ความเป็นพระอริยะเจ้า
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้