ตอนที่ 1 =
https://pantip.com/topic/36826773
ตอนที่ 2 =
https://pantip.com/topic/36840648
ตอนที่ 3 =
https://pantip.com/topic/36854431
วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2530 เวลา 10 นาฬิกาตรง ณ ลานดนตรี ข้างโรงแรม สุวรรณนคร
วันนี้ คือวันแห่งการประกวดเล่นกีตาร์โซโล่ โดยค่ายเพลง CGM ซึ่งเป็นค่ายเพลงใหม่และเน้นเพลงร็อกเป็นหลักเสียด้วย เป็นผู้จัดงานนี้
ด้านขวาของโรงแรม คือเวทีที่ยกพื้นสูงไม่มากนัก ไม่สูงมากเหมือนเวทีรำวงที่แอ๊ดดี้เคยเล่น แต่เป็นเวทีกว้างขวางกว่ามากกว่าสิบเท่า เพื่อให้นักร้องนักดนตรีได้ใช้พื้นที่วาดลวดลายกันอย่างเต็มที่
ด้านหน้าเวที เป็นโต๊ะของคณะกรรมการซึ่งมีสามคน และทั้งสามเป็นนักดนตรีที่คร่ำหวอดในวงการทั้งสิ้น
ผู้เข้าแข่งขัน มีมากันประมาณร้อยกว่าคน ทุกคนเตรียมกีตาร์ของตัวเองมากันหมด บางคนก็นำกล่องเปลี่ยนเสียงกีตาร์มาด้วย แต่สำหรับแอ๊ดดี้ แค่เจ้า "ฟลายอิ้ง วี" ตัวเดียว ก็มากเกินพอแล้ว กดปรับเปลี่ยนเสียงที่ตัวของมันได้เลยไม่จำเป็นต้องพ่วงกล่องใดๆอีกก็ได้
เสียงประกาศเรียกนักกีตาร์คนแรกให้ขึ้นเวทีดังขึ้น...นักกีตาร์คนนั้นเดินหิ้วคอกีตาร์ขึ้นเวทีไปเสียบสายแจ๊คเข้ากับตู้แอมป์เสร็จแล้วก็เดินมาข้างหน้าเวที
กรรมการคนที่หนึ่ง เปิดไมค์ บอกกติกาให้ฟัง
"เอาละ...คุณคือคนแรก ฟังกติกาให้ดี นี่คือการแข่งขันรอบแรก เป็นรอบคัดเลือก เราจะคัดเลือกพวกคุณทั้งหมดซึ่งมี 135 คน ให้เหลือ 50 คน สำหรับการแข่งขันรอบสอง...ในรอบแรกนี้ ให้คุณแต่ละคน เลือกเล่นท่อนโซโล่เพลงอะไรก็ได้ ที่คุณคิดว่าเล่นได้ดีที่สุด หมายเลข 1 คุณพร้อมหรือยัง ?"
"พร้อมครับ!" เขาตอบอย่างมั่นใจ แต่ก็ออกอาการสั่นๆอยู่บ้างเพราะเป็นคนแรก
"โอเค.....งั้นเริ่มได้เลย! เล่นโซโล่อย่างเดียว ไม่ต้องร้องไม่ต้องบอกชื่อเพลงอะไรทั้งสิ้น!"
หนุ่มมือโซโล่หมายเลข 1 เป่าปาก หายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆวางนิ้วลงบนสาย และเริ่มโซโล่ท่อนสุดท้ายของเพลง HIGHWAY STAR
ทีแรกเขาเล่นอยู่คนเดียว แต่พอเล่นไปๆ ก็ได้ยินเสียงคนตีกลองเป็นแบ๊คอัพให้มาจากด้านหลัง แถมตามมาด้วยเสียงคนเล่นเบส ทำให้หนุ่มเบอร์หนึ่งทั้งมันส์ทั้งตื่นเต้น แต่ก็โซโล่ท่อนนั้นจบลงด้วยดี
ถัดจากนั้น คนที่สอง...สาม...สี่...ห้า ก็ขึ้นเวทีตามลำดับ จนผ่านไปหกสิบกว่าคน
และ แอ๊ดดี้ ได้เป็นคนที่ หกสิบหก !!!
โดยไม่พูดพล่ามทำเพลง หลังจากเสียบสายแจ๊คเข้าที่แอมป์แล้ว แอ๊ดดี้หันกลับเดินมาหน้าเวที
แล้วเริ่มวางนิ้ว รูดสายจากบนลงล่างอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นลักษณะการเริ่มโซโล่อินโทรเพลง THE SAIL OF CHARON ของวง ไอ้แมงป่องผยองเดช สกอร์เปี้ยน !

มือกลองและมือเบสแบ็คอัพ เล่นตามแอ๊ดดี้ทันทีอย่างสอดประสาน และกรรมการคนหนึ่งถึงกับลุกขึ้นยืนดู !!
กรรมการคนข้างๆ ตะโกนออกไมค์ "ไอ้น้อง
ถ้าร้องได้ ร้องเลย เล่นเต็มเพลง !!!"
แอ๊ดดี้เงยหน้าขึ้นหันไปมองแล้วพยักหน้า ก้าวเข้าไปหาไมค์ จากนั้นก็ทั้งเล่นทั้งร้องตั้งแต่ต้นจนจบ
แล้วบทเพลง "ล่องเรือรับวิญญาณ" นั้นก็จบลง พร้อมกับเสียงปรบมือเกรียวกราวและเสียงกรี๊ดทั่วทั้งลานดนตรี
แอ๊ดดี้โน้มตัวก้มลงเป็นการขอบคุณ ก่อนก้าวลงจากเวที
และการโชว์ของแอ๊ดดี้ สร้างความหนักใจให้แก่นักกีตาร์คนที่เหลือเป็นอันมาก...หนึ่งในจำนวนนั้น คือ มือโซโล่คนใหม่ของวงเก่าของเขานั่นเอง
"มันเก่งขึ้นมาถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ?" เขาร้องออกมาด้วยความทึ่งสุดๆ "เล่นแบบ...จนกรรมการขอฟังเต็มทั้งเพลง มันเข้ารอบสองชัวร์ และน่าเข้าถึงรอบสุดท้ายด้วย กูจะตามมันเข้ารอบด้วยได้ไหมเนี่ย ?? ไอ้สูตร" หันมาถามความเห็นเพื่อนซึ่งเป็นมือกลอง
"เอาน่า....เล่นให้เต็มที่ก็แล้วกัน" เพื่อนชื่อสูตรตบบ่าให้กำลังใจ
การแข่งขันรอบแรกดำเนินต่อไป ตั้งแต่นักกีตาร์คนที่ 67 จนถึงคนสุดท้าย ไม่มีนักกีตาร์คนไหนถูกร้องขอให้เล่นและร้องเต็มๆเพลงเหมือนแอ๊ดดี้สักคนเดียว พวกเขาเหล่านั้น ฝีมือดีมากบ้างน้อยบ้างคละเคล้ากันไป
เมื่อคนสุดท้ายเล่นจบแล้วลงจากเวทีมารวมกลุ่มกับทุกคน กรรมการคนกลางก็ประกาศหมายเลขผู้เข้าแข่งขันซึ่งผ่านการพิจารณาให้เข้ารอบสอง 50 คน
"ผู้เข้าแข่งขันหมายเลขต่อไปนี้ ให้ก้าวออกมายืนเรียงแถวหน้ากระดานนะครับ คือ 50 คนที่ได้เข้ารอบนะครับ...ได้แก่ หมายเลข 1,5,8,11,13,17,21,24,28,33...." กรรมการประกาศไปเรื่อยๆตามลำดับซึ่งจดไว้ในโพย แต่ละคนๆก็ออกมายืนเข้าแถว...จนครบ 50 คน
และแน่นอน แอ๊ดดี้คือหนึ่งในนั้น !!!
กรรมการคนกลาง บอกกติการอบสอง หลังจากทั้ง 50 คนออกมายืนเรียงแถวหน้ากระดานกันแล้ว
"ในรอบสองนี้ จาก 50 คน เราจะคัดให้เหลือ 10 คนเท่านั้น จากซ้ายมือสุดของพวกคุณ อีกสักครู่ กรรมการท่านหนึ่งจะไปติดเข็มกลัดหมายเลขให้ ตั้งแต่ 1 ถึง 50 จากนั้นเราจะจับสลากว่าใครจะได้เล่นก่อนหลัง...การเล่นในรอบสองนี้ เราจะให้พวกคุณเล่นโซโล่แบบ "บายฮาร์ท" กับมือเบสและมือกลองแบ๊คอัพซึ่งจะเล่นอยู่ข้างหลังพวกคุณ พวกคุณต้องคิดทำนองโซโล่ที่เป็นของตนเอง ห้ามเหมือนหรือคล้ายเพลงใด และห้ามเหมือนหรือคล้ายคนที่เล่นก่อนหน้าพวกคุณแต่ละคนด้วย ถ้ากรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าเหมือนหรือคล้ายใครเข้า จะปรับผู้แข่งขันคนนั้นตกรอบทันที...กำหนดเวลาให้โซโล่ คนละ 5 นาที !"
การแข่งขันดำเนินต่อไป...ด้วยเสียงกลองในจังหวะเร็วบ้าง ช้าบ้าง มือเบสแบ็คอัพก็เดินเบสตามไปในคีย์ดนตรีที่แล้วแต่ตัวเขาเองจะกำหนด และนักโซโลทั้ง 50 คน ทะยอยกันขึ้นเวทีโชว์ลีลาการเล่นแบบ "บายฮาร์ท" ในรอบนี้
แอ๊ดดี้ถูกจับสลากขึ้นเวทีเล่นเป็นคนที่ 33 ดังนั้นจึงมีเวลาคิดเตรียมการล่วงหน้านานพอสมควร เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา บ่ายสองโมงครึ่งแล้ว ตอนนี้หมายเลข 1 กำลังเล่น เล่นคนละ 5 นาที เอา 32 ซึ่งเป็นจำนวนคนที่จะเล่นก่อนหน้าตัวเองคูณเข้าไป เท่ากับ 160 นาที ก็คือมีเวลาตั้งชั่วโมงครึ่งที่ต้องรอ ไหนจะเสียเวลาในการเดินขึ้นเดินลงเวทีของแต่ละคนอีกซึ่งไม่ได้นับรวม แอ๊ดดี้จึงค่อยๆ หอบเจ้าฟลายอิ้งวีปลีกตัวออกจากฝูงชนบนลานดนตรี แล้วไปทางด้านหลังโรงแรม เข้าไปภายในโรงแรมแล้วขึ้นลิฟท์กดชั้น 5 เพื่อกลับห้องตัวเองซึ่งมาจองไว้ก่อนหน้า และเช็คอินแล้วก่อนการประกวดกีตาร์โซโล่จะเริ่ม
เข้ามาถึงในห้องแล้วแอ๊ดดี้ก็รีบเปิดแอร์ก่อนเป็นอันดับแรก ตั้งอุณหภูมิที่ 25 องศา แล้ววางเจ้าฟลายอิ้งวีไว้บนแสตนด์ของมัน นั่งลงที่ขอบเตียงแล้วหงายหลังลงไปนอนรับแอร์เย็น ๆ สบาย ๆ ในหัวพยายามนึกท่วงทำนองที่จะเล่นประชันฝีมือต่อไปในเวลาอีกประมาณชั่วโมงกว่าๆ ข้างหน้า...
ต้องไม่เหมือนหรือไม่คล้ายกับเพลงใดๆมาก่อน ต้องคิดเอง แต่งเอง! นี่ถ้าเคยเรียนโน้ตมาก่อนก็คงดี คิดอะไรออกก็เขียนบันทึกได้ แต่นี่เราไม่เคยเรียนโน้ต วิชาดนตรีไม่มีในหัว เล่นด้วยใจล้วนๆ ดังนั้น ก็ต้องใช้ใจนี่แหละจดจำ !!!
สิบนาทีผ่านไป แอ๊ดดี้ลุกขึ้นมาจากเตียง ปรี่เข้าไปหาเจ้าฟลายอิ้งวีแสนสวย หยิบมันขึ้นมาสะพายบ่า เสียบแจ็คเข้ากับตู้แอมป์ตัวเล็กขนาดเท่ากระเป๋าเดินทางแล้วเปิดสวิทช์ เริ่มบรรเลงโซโล่ซึ่งเพิ่งคิดได้สดๆร้อนๆ จากท่วงทำนองช้าก่อนแล้วค่อยเติมรายละเอียดเร็วขึ้นๆในการโซโล่ จนสปีดเร็วสุด เอาปิ๊กใส่ปากคาบไว้และใช้นิ้วสองสามนิ้วข้างขวาจิ้มพราวไปทั่วแทบตลอดทุกเฟร็ตบนคอกีตาร์ ครู่หนึ่ง จิ้มจนหนำใจแล้วกลับมาใช้ปิ๊กสะบัดขยี้สายต่อ จบลงที่การโยกคันโยคถี่ๆ ขณะดันสายคู่ล่างที่เฟร็ตสุดท้ายขึ้นไปเอาเสียงสูงสุดแล้วกระชากกลับมาจบด้วยการสับคอร์ดสุดท้ายสไตล์ฮาร์ดร็อกดิบๆ !!!
แอ๊ดดี้หยุด นิ่งเงียบครู่หนึ่ง ก่อนจะลงมือซ้อมท่วงทำนองนั้นอีกรอบตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วนึกในใจ...
โอเคละน่ะ! แค่นี้ก็เพียงพอ ตอนขึ้นเวที อาจจะไปใส่ไข่เพิ่มเติมอีกก็ได้ ..... วางเจ้าฟลายอิ้งวีตั้งบนสแตนด์ ยกแขนซ้ายขึ้นมาดูนาฬิกาข้อมือ
...เหลือเวลาอีกประมาณ 40 นาที ไปอาบน้ำซักสิบนาทีแล้วค่อยลงไปก็แล้วกัน... คิดแล้วก็ถอดเสื้อผ้า เข้าห้องน้ำ อาบน้ำเสร็จเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ เสื้อแขนยาวลายแดงขาวกางเกงยีนส์ พับแขนเสื้อเสีย พร้อมแล้วจึงหิ้วเจ้าฟลายอิ้งวีออกจากห้อง กลับไปที่เวทีลานประกวด พอไปถึง ก็ถึงคิวหมายเลข 31 กำลังเล่นอยู่ ของเขาเป็นหมายเลข 33 ฉะนั้นก็เหลืออีกแค่คนเดียวถัดจากคนบนเวทีตอนนี้ แล้วก็เป็นคิวของเขาแล้ว
หมายเลข 31 ลงมาจากเวทีแล้วด้วยสีหน้าไม่มั่นใจเลยว่าจะผ่านเข้ารอบต่อไปได้ สวนทางกับหมายเลข 32 ซึ่งมองหน้าเขานิดหนึ่ง แล้วพอหันมามองแอ๊ดดี้...ก็ชะงักนิดหนึ่ง...เป็นมือกีตาร์ในวงของเพื่อนเก่าแอ๊ดดี้นั่นเอง
"โชคดีนะเพื่อน!" แอ๊ดดี้อวยพรให้
เขาพยักหน้า ยิ้มให้แบบเจื่อนๆ ก่อนจะตอบกลับ "ขอบใจว่ะ! นายก็เหมือนกัน แอ๊ดดี้ !!"
แล้วก็เดินขึ้นเวทีไป ครั้นบรรเลงโซโล่ซึ่งมัน "บายฮาร์ท" ของแท้ คือดำน้ำไปเรื่อย ตามแต่มือเบสที่เล่นแบ๊คอัพจะเล่นนำทางไป เขาเค้นฝีมือออกมาอย่างสุดๆ จนจบ 5 นาที มือกลองหยุดพร้อมกับมือเบสแล้ว จึงถอดแจ๊คออกจากตู้แอมป์เดินส่ายหัวลงจากเวที
ถึงคิวของแอ๊ดดี้แล้ว...
แอ๊ดดี้ หอบเจ้าฟลายอิ้งวีที่รักขึ้นเวที มือกลองและมือเบสเริ่มเล่นนำแล้ว ด้วยท่วงทำนองซึ่งฟังดูแล้ว อยู่ในคีย์ดีไมเนอร์ คอร์ดผสมคือ เอฟ จีไมเนอร์ เอเซเว่น...
ครั้นรู้ทิศทางของท่วงทำนองแล้วแอ๊ดดี้ก็ไม่รอช้า เริ่มลงมือโซโล่ตามที่ซ้อมมาทันที โดยปรับคีย์ให้ตรงกับที่มือเบสกำลังเดินเบสอยู่นั้น
กีตาร์โซโล่ของแอ๊ดดี้เริ่มจากช้าไปหาเร็ว...เร็วขึ้น นิ้วมือสี่นิ้วไล่ไต่ไปมา ขึ้นบน ลงล่าง ขยับสลับกันรัวๆในช่วงตัวโน้ตซึ่งถี่มากจนต้องใช้นิ้วมือขวาจิ้มพราวไปทั่วแทบทุกเฟร็ต โน้ตสามสี่พยางค์ดูกระจอกไปเลย ถ้าเขียนลงสมุดโน้ตดนตรีก็ต้องเป็นเขบ็ดสี่ห้าชั้นขึ้นไป เสียงกีตาร์โซโล่ลื่นไหลดุจสายน้ำเชี่ยวในช่วงกลางๆจนถึงช่วงท้าย เรียกเสียงฮือฮาและกรี๊ดกร๊าดจากผู้ชมซึ่งตอนนี้ยืนดูกันแน่นลานดนตรี ท่วงทำนองแปลกใหม่ซึ่งไม่เคยมีในเพลงไหนมาก่อน ทำให้กรรมการทั้งสามคนลุกขึ้นยืนจ้องดูด้วยความรู้สึกทึ่งสุดๆ และชื่นชม ถึงตอนนี้แอ๊ดดี้ เอาชนะใจกรรมการทั้งสามเรียบร้อยแล้ว !!
การโซโล่ดำเนินมาจนถึงจุดพีคท้ายสุด แอ๊ดดี้ดันสองสายล่างขึ้นสูง ณ จุดกดเฟร็ดสุดท้าย เสียงสูงแหลมบาดใจเกินขีดตรงนั้นจะให้ได้ แล้วผ่อนลงมาเป็นเสียงประจำจุดนั้น นิ้วก้อยมือขวายื่นไปคล้องเกี่ยวคันโยก ดึงสั่นมันรัวๆ เสียงกีตาร์แผดสั่นกระชากใจราวกับเสียงปีศาจร้ายที่โกรธเกรี้ยว แล้วจบที่คอร์ดสุดท้าย ดีไมเนอร์ อันเป็นคอร์ดเริ่มต้น พร้อมกับเปิดปุ่มเอ็คโค่ให้ดังสะท้อนกลับและค่อยๆเฟดออกไป
ฟับ ฟับ ฟับ ฟับ ฟับ.....
กลองและเบสซึ่งเป็นแบ็คอัพอยู่เบื้องหลังก็กระหน่ำจบลงพร้อมกัน
ตรรึ่มม !!!
คนดูปรบมือพร้อมกัน ส่งเสียงโห่ร้องและกรี๊ดอื้ออึงทั่วลานดนตรี
แอ๊ดดี้ประคองฟลายอิ้งวี โน้มตัวลงเป็นการขอบคุณคนดู ก่อนจะเดินไปถอดแจ๊คจากตู้แอมป์ยี่ห้อ "มาร์แชล"สูงใหญ่ข้างหลัง แล้วเดินลงจากเวที มานั่งพักร่วมกับเพื่อนๆวงดนตรีรำวง "หนองกระทิง" ซึ่งตามมาเชียร์กันทุกคน
"สุดยอดเลย แอ๊ดดี้ !!!"
"เซียนเรียกพี่แล้วแบบนี้!!"
"อะไรจะขนาดนั้น ขนลุกเลย ตั้งหลายช็อต"
"เข้ารอบสุดท้ายชัวร์ ต่อร้อยเอาหนึ่งยังได้!"
อ๊อดมิอเบส ยักษ์มือกลอง กร นักร้องลูกทุ่งคนหล่อขวัญใจแม่ยก และพี่พันหัวหน้าวงกล่าวกันตามลำดับ
แอ๊ดดี้ได้แต่ยิ้ม แล้วขอเครื่องดื่มแก้เขิน "ขอโค้กซักแก้วเหอะ..."
"เตรียมไว้ให้แล้วเพื่อน" ยักษ์ยื่นโค้กแก้วใหญ่ส่งให้
"แต๊งกิ้วเพื่อน!" แอ๊ดดี้กล่าวขอบคุณขณะยื่นมือไปรับมาดื่ม
จากนั้น ทุกคนก็ดูการประกวดต่อ จนครบ 50 คน แล้วรอการประกาศผลกันสดๆ รวมทั้งผู้ชมก็ยังอยู่กันอย่างหนาแน่น เพื่อรอชม 10 คนสุดท้ายว่าจะมีใครบ้าง และสุดท้าย ใครจะเป็นผู้ชนะเลิศ ซึ่งจะมีโอกาสแจ้งเกิดเป็นศิลปินทำงานเพลงชุดแรกกับค่าย CGM
เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็มีเสียงประกาศจากโต๊ะกรรมการ
"ท่านผู้ชมทุกท่าน และผู้เข้าแข่งขันทั้ง 50 คน โปรดทราบ ขณะนี้ ทางคณะกรรมการจากค่ายเพลง CGM Entertainment ได้สรุปผลการคัดเลือกนักกีตาร์ สิบคนสุดท้าย เรียบร้อยแล้ว! "
(มีต่อครับ)
⚡️⚡️⚡️ <<< คนขายวิญญาณ - ตอนที่ 4 >>> ⚡️⚡️⚡️
ตอนที่ 2 = https://pantip.com/topic/36840648
ตอนที่ 3 = https://pantip.com/topic/36854431
วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2530 เวลา 10 นาฬิกาตรง ณ ลานดนตรี ข้างโรงแรม สุวรรณนคร
วันนี้ คือวันแห่งการประกวดเล่นกีตาร์โซโล่ โดยค่ายเพลง CGM ซึ่งเป็นค่ายเพลงใหม่และเน้นเพลงร็อกเป็นหลักเสียด้วย เป็นผู้จัดงานนี้
ด้านขวาของโรงแรม คือเวทีที่ยกพื้นสูงไม่มากนัก ไม่สูงมากเหมือนเวทีรำวงที่แอ๊ดดี้เคยเล่น แต่เป็นเวทีกว้างขวางกว่ามากกว่าสิบเท่า เพื่อให้นักร้องนักดนตรีได้ใช้พื้นที่วาดลวดลายกันอย่างเต็มที่
ด้านหน้าเวที เป็นโต๊ะของคณะกรรมการซึ่งมีสามคน และทั้งสามเป็นนักดนตรีที่คร่ำหวอดในวงการทั้งสิ้น
ผู้เข้าแข่งขัน มีมากันประมาณร้อยกว่าคน ทุกคนเตรียมกีตาร์ของตัวเองมากันหมด บางคนก็นำกล่องเปลี่ยนเสียงกีตาร์มาด้วย แต่สำหรับแอ๊ดดี้ แค่เจ้า "ฟลายอิ้ง วี" ตัวเดียว ก็มากเกินพอแล้ว กดปรับเปลี่ยนเสียงที่ตัวของมันได้เลยไม่จำเป็นต้องพ่วงกล่องใดๆอีกก็ได้
เสียงประกาศเรียกนักกีตาร์คนแรกให้ขึ้นเวทีดังขึ้น...นักกีตาร์คนนั้นเดินหิ้วคอกีตาร์ขึ้นเวทีไปเสียบสายแจ๊คเข้ากับตู้แอมป์เสร็จแล้วก็เดินมาข้างหน้าเวที
กรรมการคนที่หนึ่ง เปิดไมค์ บอกกติกาให้ฟัง
"เอาละ...คุณคือคนแรก ฟังกติกาให้ดี นี่คือการแข่งขันรอบแรก เป็นรอบคัดเลือก เราจะคัดเลือกพวกคุณทั้งหมดซึ่งมี 135 คน ให้เหลือ 50 คน สำหรับการแข่งขันรอบสอง...ในรอบแรกนี้ ให้คุณแต่ละคน เลือกเล่นท่อนโซโล่เพลงอะไรก็ได้ ที่คุณคิดว่าเล่นได้ดีที่สุด หมายเลข 1 คุณพร้อมหรือยัง ?"
"พร้อมครับ!" เขาตอบอย่างมั่นใจ แต่ก็ออกอาการสั่นๆอยู่บ้างเพราะเป็นคนแรก
"โอเค.....งั้นเริ่มได้เลย! เล่นโซโล่อย่างเดียว ไม่ต้องร้องไม่ต้องบอกชื่อเพลงอะไรทั้งสิ้น!"
หนุ่มมือโซโล่หมายเลข 1 เป่าปาก หายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆวางนิ้วลงบนสาย และเริ่มโซโล่ท่อนสุดท้ายของเพลง HIGHWAY STAR
ทีแรกเขาเล่นอยู่คนเดียว แต่พอเล่นไปๆ ก็ได้ยินเสียงคนตีกลองเป็นแบ๊คอัพให้มาจากด้านหลัง แถมตามมาด้วยเสียงคนเล่นเบส ทำให้หนุ่มเบอร์หนึ่งทั้งมันส์ทั้งตื่นเต้น แต่ก็โซโล่ท่อนนั้นจบลงด้วยดี
ถัดจากนั้น คนที่สอง...สาม...สี่...ห้า ก็ขึ้นเวทีตามลำดับ จนผ่านไปหกสิบกว่าคน
และ แอ๊ดดี้ ได้เป็นคนที่ หกสิบหก !!!
โดยไม่พูดพล่ามทำเพลง หลังจากเสียบสายแจ๊คเข้าที่แอมป์แล้ว แอ๊ดดี้หันกลับเดินมาหน้าเวที แล้วเริ่มวางนิ้ว รูดสายจากบนลงล่างอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นลักษณะการเริ่มโซโล่อินโทรเพลง THE SAIL OF CHARON ของวง ไอ้แมงป่องผยองเดช สกอร์เปี้ยน !
มือกลองและมือเบสแบ็คอัพ เล่นตามแอ๊ดดี้ทันทีอย่างสอดประสาน และกรรมการคนหนึ่งถึงกับลุกขึ้นยืนดู !!
กรรมการคนข้างๆ ตะโกนออกไมค์ "ไอ้น้อง ถ้าร้องได้ ร้องเลย เล่นเต็มเพลง !!!"
แอ๊ดดี้เงยหน้าขึ้นหันไปมองแล้วพยักหน้า ก้าวเข้าไปหาไมค์ จากนั้นก็ทั้งเล่นทั้งร้องตั้งแต่ต้นจนจบ
แล้วบทเพลง "ล่องเรือรับวิญญาณ" นั้นก็จบลง พร้อมกับเสียงปรบมือเกรียวกราวและเสียงกรี๊ดทั่วทั้งลานดนตรี
แอ๊ดดี้โน้มตัวก้มลงเป็นการขอบคุณ ก่อนก้าวลงจากเวที
และการโชว์ของแอ๊ดดี้ สร้างความหนักใจให้แก่นักกีตาร์คนที่เหลือเป็นอันมาก...หนึ่งในจำนวนนั้น คือ มือโซโล่คนใหม่ของวงเก่าของเขานั่นเอง
"มันเก่งขึ้นมาถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ?" เขาร้องออกมาด้วยความทึ่งสุดๆ "เล่นแบบ...จนกรรมการขอฟังเต็มทั้งเพลง มันเข้ารอบสองชัวร์ และน่าเข้าถึงรอบสุดท้ายด้วย กูจะตามมันเข้ารอบด้วยได้ไหมเนี่ย ?? ไอ้สูตร" หันมาถามความเห็นเพื่อนซึ่งเป็นมือกลอง
"เอาน่า....เล่นให้เต็มที่ก็แล้วกัน" เพื่อนชื่อสูตรตบบ่าให้กำลังใจ
การแข่งขันรอบแรกดำเนินต่อไป ตั้งแต่นักกีตาร์คนที่ 67 จนถึงคนสุดท้าย ไม่มีนักกีตาร์คนไหนถูกร้องขอให้เล่นและร้องเต็มๆเพลงเหมือนแอ๊ดดี้สักคนเดียว พวกเขาเหล่านั้น ฝีมือดีมากบ้างน้อยบ้างคละเคล้ากันไป
เมื่อคนสุดท้ายเล่นจบแล้วลงจากเวทีมารวมกลุ่มกับทุกคน กรรมการคนกลางก็ประกาศหมายเลขผู้เข้าแข่งขันซึ่งผ่านการพิจารณาให้เข้ารอบสอง 50 คน
"ผู้เข้าแข่งขันหมายเลขต่อไปนี้ ให้ก้าวออกมายืนเรียงแถวหน้ากระดานนะครับ คือ 50 คนที่ได้เข้ารอบนะครับ...ได้แก่ หมายเลข 1,5,8,11,13,17,21,24,28,33...." กรรมการประกาศไปเรื่อยๆตามลำดับซึ่งจดไว้ในโพย แต่ละคนๆก็ออกมายืนเข้าแถว...จนครบ 50 คน
และแน่นอน แอ๊ดดี้คือหนึ่งในนั้น !!!
กรรมการคนกลาง บอกกติการอบสอง หลังจากทั้ง 50 คนออกมายืนเรียงแถวหน้ากระดานกันแล้ว
"ในรอบสองนี้ จาก 50 คน เราจะคัดให้เหลือ 10 คนเท่านั้น จากซ้ายมือสุดของพวกคุณ อีกสักครู่ กรรมการท่านหนึ่งจะไปติดเข็มกลัดหมายเลขให้ ตั้งแต่ 1 ถึง 50 จากนั้นเราจะจับสลากว่าใครจะได้เล่นก่อนหลัง...การเล่นในรอบสองนี้ เราจะให้พวกคุณเล่นโซโล่แบบ "บายฮาร์ท" กับมือเบสและมือกลองแบ๊คอัพซึ่งจะเล่นอยู่ข้างหลังพวกคุณ พวกคุณต้องคิดทำนองโซโล่ที่เป็นของตนเอง ห้ามเหมือนหรือคล้ายเพลงใด และห้ามเหมือนหรือคล้ายคนที่เล่นก่อนหน้าพวกคุณแต่ละคนด้วย ถ้ากรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าเหมือนหรือคล้ายใครเข้า จะปรับผู้แข่งขันคนนั้นตกรอบทันที...กำหนดเวลาให้โซโล่ คนละ 5 นาที !"
การแข่งขันดำเนินต่อไป...ด้วยเสียงกลองในจังหวะเร็วบ้าง ช้าบ้าง มือเบสแบ็คอัพก็เดินเบสตามไปในคีย์ดนตรีที่แล้วแต่ตัวเขาเองจะกำหนด และนักโซโลทั้ง 50 คน ทะยอยกันขึ้นเวทีโชว์ลีลาการเล่นแบบ "บายฮาร์ท" ในรอบนี้
แอ๊ดดี้ถูกจับสลากขึ้นเวทีเล่นเป็นคนที่ 33 ดังนั้นจึงมีเวลาคิดเตรียมการล่วงหน้านานพอสมควร เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา บ่ายสองโมงครึ่งแล้ว ตอนนี้หมายเลข 1 กำลังเล่น เล่นคนละ 5 นาที เอา 32 ซึ่งเป็นจำนวนคนที่จะเล่นก่อนหน้าตัวเองคูณเข้าไป เท่ากับ 160 นาที ก็คือมีเวลาตั้งชั่วโมงครึ่งที่ต้องรอ ไหนจะเสียเวลาในการเดินขึ้นเดินลงเวทีของแต่ละคนอีกซึ่งไม่ได้นับรวม แอ๊ดดี้จึงค่อยๆ หอบเจ้าฟลายอิ้งวีปลีกตัวออกจากฝูงชนบนลานดนตรี แล้วไปทางด้านหลังโรงแรม เข้าไปภายในโรงแรมแล้วขึ้นลิฟท์กดชั้น 5 เพื่อกลับห้องตัวเองซึ่งมาจองไว้ก่อนหน้า และเช็คอินแล้วก่อนการประกวดกีตาร์โซโล่จะเริ่ม
เข้ามาถึงในห้องแล้วแอ๊ดดี้ก็รีบเปิดแอร์ก่อนเป็นอันดับแรก ตั้งอุณหภูมิที่ 25 องศา แล้ววางเจ้าฟลายอิ้งวีไว้บนแสตนด์ของมัน นั่งลงที่ขอบเตียงแล้วหงายหลังลงไปนอนรับแอร์เย็น ๆ สบาย ๆ ในหัวพยายามนึกท่วงทำนองที่จะเล่นประชันฝีมือต่อไปในเวลาอีกประมาณชั่วโมงกว่าๆ ข้างหน้า...ต้องไม่เหมือนหรือไม่คล้ายกับเพลงใดๆมาก่อน ต้องคิดเอง แต่งเอง! นี่ถ้าเคยเรียนโน้ตมาก่อนก็คงดี คิดอะไรออกก็เขียนบันทึกได้ แต่นี่เราไม่เคยเรียนโน้ต วิชาดนตรีไม่มีในหัว เล่นด้วยใจล้วนๆ ดังนั้น ก็ต้องใช้ใจนี่แหละจดจำ !!!
สิบนาทีผ่านไป แอ๊ดดี้ลุกขึ้นมาจากเตียง ปรี่เข้าไปหาเจ้าฟลายอิ้งวีแสนสวย หยิบมันขึ้นมาสะพายบ่า เสียบแจ็คเข้ากับตู้แอมป์ตัวเล็กขนาดเท่ากระเป๋าเดินทางแล้วเปิดสวิทช์ เริ่มบรรเลงโซโล่ซึ่งเพิ่งคิดได้สดๆร้อนๆ จากท่วงทำนองช้าก่อนแล้วค่อยเติมรายละเอียดเร็วขึ้นๆในการโซโล่ จนสปีดเร็วสุด เอาปิ๊กใส่ปากคาบไว้และใช้นิ้วสองสามนิ้วข้างขวาจิ้มพราวไปทั่วแทบตลอดทุกเฟร็ตบนคอกีตาร์ ครู่หนึ่ง จิ้มจนหนำใจแล้วกลับมาใช้ปิ๊กสะบัดขยี้สายต่อ จบลงที่การโยกคันโยคถี่ๆ ขณะดันสายคู่ล่างที่เฟร็ตสุดท้ายขึ้นไปเอาเสียงสูงสุดแล้วกระชากกลับมาจบด้วยการสับคอร์ดสุดท้ายสไตล์ฮาร์ดร็อกดิบๆ !!!
แอ๊ดดี้หยุด นิ่งเงียบครู่หนึ่ง ก่อนจะลงมือซ้อมท่วงทำนองนั้นอีกรอบตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วนึกในใจ...โอเคละน่ะ! แค่นี้ก็เพียงพอ ตอนขึ้นเวที อาจจะไปใส่ไข่เพิ่มเติมอีกก็ได้ ..... วางเจ้าฟลายอิ้งวีตั้งบนสแตนด์ ยกแขนซ้ายขึ้นมาดูนาฬิกาข้อมือ ...เหลือเวลาอีกประมาณ 40 นาที ไปอาบน้ำซักสิบนาทีแล้วค่อยลงไปก็แล้วกัน... คิดแล้วก็ถอดเสื้อผ้า เข้าห้องน้ำ อาบน้ำเสร็จเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ เสื้อแขนยาวลายแดงขาวกางเกงยีนส์ พับแขนเสื้อเสีย พร้อมแล้วจึงหิ้วเจ้าฟลายอิ้งวีออกจากห้อง กลับไปที่เวทีลานประกวด พอไปถึง ก็ถึงคิวหมายเลข 31 กำลังเล่นอยู่ ของเขาเป็นหมายเลข 33 ฉะนั้นก็เหลืออีกแค่คนเดียวถัดจากคนบนเวทีตอนนี้ แล้วก็เป็นคิวของเขาแล้ว
หมายเลข 31 ลงมาจากเวทีแล้วด้วยสีหน้าไม่มั่นใจเลยว่าจะผ่านเข้ารอบต่อไปได้ สวนทางกับหมายเลข 32 ซึ่งมองหน้าเขานิดหนึ่ง แล้วพอหันมามองแอ๊ดดี้...ก็ชะงักนิดหนึ่ง...เป็นมือกีตาร์ในวงของเพื่อนเก่าแอ๊ดดี้นั่นเอง
"โชคดีนะเพื่อน!" แอ๊ดดี้อวยพรให้
เขาพยักหน้า ยิ้มให้แบบเจื่อนๆ ก่อนจะตอบกลับ "ขอบใจว่ะ! นายก็เหมือนกัน แอ๊ดดี้ !!"
แล้วก็เดินขึ้นเวทีไป ครั้นบรรเลงโซโล่ซึ่งมัน "บายฮาร์ท" ของแท้ คือดำน้ำไปเรื่อย ตามแต่มือเบสที่เล่นแบ๊คอัพจะเล่นนำทางไป เขาเค้นฝีมือออกมาอย่างสุดๆ จนจบ 5 นาที มือกลองหยุดพร้อมกับมือเบสแล้ว จึงถอดแจ๊คออกจากตู้แอมป์เดินส่ายหัวลงจากเวที
ถึงคิวของแอ๊ดดี้แล้ว...
แอ๊ดดี้ หอบเจ้าฟลายอิ้งวีที่รักขึ้นเวที มือกลองและมือเบสเริ่มเล่นนำแล้ว ด้วยท่วงทำนองซึ่งฟังดูแล้ว อยู่ในคีย์ดีไมเนอร์ คอร์ดผสมคือ เอฟ จีไมเนอร์ เอเซเว่น...
ครั้นรู้ทิศทางของท่วงทำนองแล้วแอ๊ดดี้ก็ไม่รอช้า เริ่มลงมือโซโล่ตามที่ซ้อมมาทันที โดยปรับคีย์ให้ตรงกับที่มือเบสกำลังเดินเบสอยู่นั้น
กีตาร์โซโล่ของแอ๊ดดี้เริ่มจากช้าไปหาเร็ว...เร็วขึ้น นิ้วมือสี่นิ้วไล่ไต่ไปมา ขึ้นบน ลงล่าง ขยับสลับกันรัวๆในช่วงตัวโน้ตซึ่งถี่มากจนต้องใช้นิ้วมือขวาจิ้มพราวไปทั่วแทบทุกเฟร็ต โน้ตสามสี่พยางค์ดูกระจอกไปเลย ถ้าเขียนลงสมุดโน้ตดนตรีก็ต้องเป็นเขบ็ดสี่ห้าชั้นขึ้นไป เสียงกีตาร์โซโล่ลื่นไหลดุจสายน้ำเชี่ยวในช่วงกลางๆจนถึงช่วงท้าย เรียกเสียงฮือฮาและกรี๊ดกร๊าดจากผู้ชมซึ่งตอนนี้ยืนดูกันแน่นลานดนตรี ท่วงทำนองแปลกใหม่ซึ่งไม่เคยมีในเพลงไหนมาก่อน ทำให้กรรมการทั้งสามคนลุกขึ้นยืนจ้องดูด้วยความรู้สึกทึ่งสุดๆ และชื่นชม ถึงตอนนี้แอ๊ดดี้ เอาชนะใจกรรมการทั้งสามเรียบร้อยแล้ว !!
การโซโล่ดำเนินมาจนถึงจุดพีคท้ายสุด แอ๊ดดี้ดันสองสายล่างขึ้นสูง ณ จุดกดเฟร็ดสุดท้าย เสียงสูงแหลมบาดใจเกินขีดตรงนั้นจะให้ได้ แล้วผ่อนลงมาเป็นเสียงประจำจุดนั้น นิ้วก้อยมือขวายื่นไปคล้องเกี่ยวคันโยก ดึงสั่นมันรัวๆ เสียงกีตาร์แผดสั่นกระชากใจราวกับเสียงปีศาจร้ายที่โกรธเกรี้ยว แล้วจบที่คอร์ดสุดท้าย ดีไมเนอร์ อันเป็นคอร์ดเริ่มต้น พร้อมกับเปิดปุ่มเอ็คโค่ให้ดังสะท้อนกลับและค่อยๆเฟดออกไป ฟับ ฟับ ฟับ ฟับ ฟับ.....
กลองและเบสซึ่งเป็นแบ็คอัพอยู่เบื้องหลังก็กระหน่ำจบลงพร้อมกัน ตรรึ่มม !!!
คนดูปรบมือพร้อมกัน ส่งเสียงโห่ร้องและกรี๊ดอื้ออึงทั่วลานดนตรี
แอ๊ดดี้ประคองฟลายอิ้งวี โน้มตัวลงเป็นการขอบคุณคนดู ก่อนจะเดินไปถอดแจ๊คจากตู้แอมป์ยี่ห้อ "มาร์แชล"สูงใหญ่ข้างหลัง แล้วเดินลงจากเวที มานั่งพักร่วมกับเพื่อนๆวงดนตรีรำวง "หนองกระทิง" ซึ่งตามมาเชียร์กันทุกคน
"สุดยอดเลย แอ๊ดดี้ !!!"
"เซียนเรียกพี่แล้วแบบนี้!!"
"อะไรจะขนาดนั้น ขนลุกเลย ตั้งหลายช็อต"
"เข้ารอบสุดท้ายชัวร์ ต่อร้อยเอาหนึ่งยังได้!"
อ๊อดมิอเบส ยักษ์มือกลอง กร นักร้องลูกทุ่งคนหล่อขวัญใจแม่ยก และพี่พันหัวหน้าวงกล่าวกันตามลำดับ
แอ๊ดดี้ได้แต่ยิ้ม แล้วขอเครื่องดื่มแก้เขิน "ขอโค้กซักแก้วเหอะ..."
"เตรียมไว้ให้แล้วเพื่อน" ยักษ์ยื่นโค้กแก้วใหญ่ส่งให้
"แต๊งกิ้วเพื่อน!" แอ๊ดดี้กล่าวขอบคุณขณะยื่นมือไปรับมาดื่ม
จากนั้น ทุกคนก็ดูการประกวดต่อ จนครบ 50 คน แล้วรอการประกาศผลกันสดๆ รวมทั้งผู้ชมก็ยังอยู่กันอย่างหนาแน่น เพื่อรอชม 10 คนสุดท้ายว่าจะมีใครบ้าง และสุดท้าย ใครจะเป็นผู้ชนะเลิศ ซึ่งจะมีโอกาสแจ้งเกิดเป็นศิลปินทำงานเพลงชุดแรกกับค่าย CGM
เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็มีเสียงประกาศจากโต๊ะกรรมการ
"ท่านผู้ชมทุกท่าน และผู้เข้าแข่งขันทั้ง 50 คน โปรดทราบ ขณะนี้ ทางคณะกรรมการจากค่ายเพลง CGM Entertainment ได้สรุปผลการคัดเลือกนักกีตาร์ สิบคนสุดท้าย เรียบร้อยแล้ว! "
(มีต่อครับ)