เริ่มจากการที่เราได้ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เนเธอร์แลนด์เป็นเวลา 6 เดือน
ช่วงที่ว่างเพื่อนต่างชาติก็เสนอมาว่าอยากไปเที่ยว Norway กัน 
เรากับเพื่อนคนไทยอีก2คนก็ตอบตกลงไปทันที
ทั้งๆที่ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ไปเที่ยวที่นี่ ก่อนไปเพื่อนบอกให้ออกกำลังกายเยอะๆนะ เพื่อเตรียมตัวปีนเขา
เราก็ เห้ย มันเดินยากขนาดนั้นเลยหรอ แล้วเราจะไหวมั้ยเนี่ย
เลยพยายามหารีวิวในเน็ทแต่ก็มีไม่ค่อยเยอะ บางรีวิวก็บอกทั้งยากทั้งเหนื่อย บางรีวิวก็เฉยๆ
โอเคไม่เป็นไร555555 เราต้องทำได้!

เข้าเว็บ จองตั๋วเครื่องบินได้มาในราคาประมาณ 12,000 บาท ไป-กลับ จาก Amsterdam ไป Stavanger
พวกเราพยายามหาไฟล์ทที่ขาไปและขากลับเปลี่ยนเครื่องคนละเมือง จะได้เดินเที่ยวกันเยอะๆ
วันที่ 11-14 July
ไฟล์ทขาไปออกจาก Amsterdam แวะเปลี่ยนเครื่องที่ Oslo 7 ชั่วโมง
ก่อนจะต่อไป Stavanger ถึงประมาณหนึ่งทุ่ม แต่ฟ้ายังสว่างมากอยู่

ไฟล์ทขากลับออกจาก Stavanger ตอนเช้า เปลี่ยนเครื่องที่ Copenhagen 6 ชั่วโมง
กลับถึง Amsterdam ประมาณ 6 โมงเย็น

ทริปนี้เป็นทริป hiking อย่างเดียว มีแวะเดินเล่นที่ Oslo กับ Copenhagen นิดหน่อย
เราจองตั๋วไป hiking ที่ Preikestolen (ไพรเคสโทเลน) หรือ Pulpit Rock กับ Kjerag (เชียรัก)

บัสรวมเฟอร์รี่ไป Preikestolen 320 NOK ประมาณ 1,350 บาท
ส่วนบัสไป Kjerag คนละ 590 NOK ประมาณ 2,400 บาท
เราจองผ่านเว็บของ tide bus

Accommodation
Stavanger Pop Up Hostel
เป็นโฮสเทลง่ายๆสร้างจากตู้คอนเทนเนอร์
จองไปแบบ dormitory แต่โดยรวมแล้วถือว่าโอเค ใกล้ท่าเรือและบัส
(ไม่ได้ถ่ายรูปมา ยืมรูปมาจากเว็บ booking นะ)

แถวๆโฮสเทลมีซุปเปอร์มาร์เก็ตอยู่สองที่ เราถามๆคนในโฮสเทลเอา
เลยตกลงกันว่าจะไปซื้อขนมปังกับขนมมาเก็บไว้กินตอนเช้าและทำขึ้นไปกินบนเขาตอนเที่ยงด้วย เพราะค่าอาหารในนอเวย์แพงมากกกก
ซื้อทำกินเองถูกกว่า ได้ขนมปังมากินเป็นมื้อเช้ากับเที่ยง เราซื้อ energy bar มาไว้เผื่อเวลาเดินแล้วหิวด้วย

เช้าวันที่ 12 ไป Preikestolen เดินออกจากโฮสเทลไปท่าเรือเพื่อขึ้นเฟอร์รี่รอบ 8 โมง
เป็นเรือเฟอร์รี่จาก Stavanger ไป Tau ลงจากเฟอร์รี่ไปต่อบัสรอบ 8:40 เพื่อไปยังจุดเริ่มปีนเขา

ที่นั่งในเรือ กว้างมากกกกก
นั่งไปซักพักจะมีเจ้าหน้าที่มาขอตรวจตั๋ว ซึ่งตั๋วบัสและเฟอร์รี่คือตั๋วเดียวกัน เราปริ้นมาจากบ้านแล้ว


วิวจากเรือ

ตารางเวลาเฟอร์รี่และบัส
(http://fjords.tide.no/upload/pdf/2017/WEBRuter_Preikestolen_2017.pdf)

พอไปถึงก็เริ่มเดินเลย ช่วงแรกจะเป็นแค่ทางชันๆเดินง่าย
เดินไปเรื่อยๆก็เจอบันได จะเดินยากนิดหน่อยเพราะหินบางก้อนก็ไม่เท่ากัน

วิวแรกที่เห็นคือลานจอดรถข้างล่าง

เริ่มเหนื่อยก็นั่งพัก หยิบ energy bar ออกมากินแก้หิว แล้วก็ดูวิวไปด้วย


ส่วนตัวคิดว่าทางเดินไป pulpit rock ไม่ยาก คนที่ไม่เคยออกกำลังกายเลยก็เดินได้
เห็นพ่อแม่บางคนแบกเด็กตัวเล็กๆมาเดินก็มี ที่เยอะอีกอย่างก็หมาเนี่ย คนพามาเดินเยอะมาก

อ่ะใกล้ละ (คิดไปเองตลอดว่าใกล้แล้ว อีกนิดเดียว)
ระหว่างเดินมีฝนตกนิดหน่อยเป็นพักๆ ลมไม่ค่อยแรงมาก แนะนำให้ใส่เสื้อที่กันลมกันฝนได้จะดีมากๆ



เริ่มเห็นวิวฟยอร์ดแล้ว

พยายามชะโงกตัวจะถ่ายข้างล่าง แต่ไม่กล้าพอ55555


ทางเดินช่วงสุดท้ายแทบไม่มีบันไดแล้ว มีแต่ทางชันนิดหน่อย


ถึงแล้ววววว! Pulpit Rock
Pulpit Rock หรือ Preikestolen เป็นหน้าผาที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 604 เมตร อยู่เหนือ Lysefjorden
ใช้เวลาเดินไปกลับประมาณ 4 ชั่วโมง




ถ้าถามว่าเหนื่อยมั้ย บอกเลยว่ามาก! แต่พอหันไปเห็นวิวสวยๆแบบนี้แล้วก็หายเหนื่อยทันที
ถือว่าคุ้มมากๆกับการปีนเขาครั้งนี้

พวกเราใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งมาถึง pulpit rock
เป็นเวลาประมาณเที่ยงๆพอดี ได้เวลากินข้าวกลางวันแล้ว!
จะนั่งกินข้างล่างแบบคนอื่นก็จะธรรมดาเกินไป
เลยปีนขึ้นไปนั่งบนผาข้างๆ เพื่อที่จะได้ดูวิว pulpit rock ไปด้วย


ใจไม่ถึงแบบคุณพี่สองคนนั้นนะ555555




กินแซนวิชเสร็จก็ลงมาถ่ายรูปกัน
เราไม่กล้าไปนั่งถ่ายรูปตรงมุมยอดฮิตปลายผา เพราะกลัวตกมาก555555


มีความใจกล้ายื่นเท้าออกไปถ่ายรูปแล้วรีบเอากลับ ส่งรูปให้พ่อแม่ดู พ่อกับแม่บอก เอาเท้ากลับเข้ามาเดี๋ยวนี้นะ!

ขากลับไม่ค่อยเหนื่อยเท่าขาไป แต่เมื่อยเข่ามากกกก เพราะต้องลงบันไดเยอะมากๆ
ตอนกลับไม่ค่อยได้ถ่ายรูปแล้ว คิดอย่างเดียวว่าเมื่อไหร่จะถึง หิวข้าว!
เดินถึงข้างล่างประมาณบ่ายสอง ต้องรอรถบัสกลับไป Stavanger รอบ 14:30

กลับถึงโฮสเทลก็นอนพักซักแปปแล้วเดินออกไปหาอะไรกินที่ตัวเมือง
รีซอตโต้กุ้งจานนี้ประมาณ 800 บาท แพงมาก! แต่ก็อร่อยใช้ได้

การปีนเขาที่ไพรเคสโทเลนขอจบเพียงเท่านี้ รอบหน้าจะมารีวิวการปีนเขาสามลูกที่ Kjerag
ฝากติดตามด้วยนะค้าาาา ขอบคุณค่ะ