เรื่องมีอยู่ว่าเราเช่าบ้านตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 เป็นบ้านแฝดแถวพระโขนง บ้านอายุประมาณ 35 ปี เราก็อยู่มาเรื่อย ๆ โดยที่เจ้าของบ้านเก็บประกันสองเดือน และค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน พอครบปีเจ้าของบ้านก็มาขอขึ้นค่าเช่าบ้าน 10% และขอต่อสัญญาโดยอิงจากสัญญาเดิม ที่ครบ 1 ปี เราก็อยู่มาเรื่อย ๆ โดยที่ระหว่างที่อยู่อาศัย เจ้าของบ้านไม่เคยซ่อมอะไรเลย นอกจากซ่อมปั๊มน้ำหลังจากที่เราไปตามให้เค้ามาซ่อมเป็นสิบรอบ และเปลี่ยนแอร์ที่อายุ 10 กว่าปีให้เราเมื่อตอนต้นปี เพราะแอร์เก่าพังแล้วตามอายุขัย นอกจากนี้เวลาฝนตกหลังคาก็รั่วเราแจ้งให้เค้าหาคนมาซ่อม เค้าก็บอกว่าไม่มี ไม่รู้จัก ไฟฟ้าไม่ต่อสายดิน เราก็แจ้งว่ามันอันตรายแล้วหลังคารั่ว ถ้าไฟฟ้าลัดวงจรจะอันตราย เค้าก็บอกว่าเป็นหน้าที่ของคนเช่า เราบอกเราไม่กล้าหาช่างมาซ่อม เพราะสายไฟมันเก่าเป็นสามสิบปี แล้วไม่รู้ว่าวางผังยังไง เรากลัวทำแล้วมีปัญหาแล้วเจ้าของบ้านจะมาว่าเรา เราถามเรื่องฉีดป้องกันปลวก เจ้าของบ้านก็บอกว่าบ้านเค้าไม่มีปลวกแน่นอน ถ้าเรากลัวของเราเสียหายเราต้องหามาจัดการเอง ค่าใช้จ่ายออกเอง คือนางไม่ออกอะไร และนางไม่สนใจ เราก็ทนอยู่มาเรื่อย
ๆ จนถึงเดือนมิถุนายน 2560 เราก็ไปแจ้งเจ้าของบ้านว่าเราจะย้ายออก เพราะทนไม่ไหว (แต่เราก็ไม่ได้บอกเค้าว่าเราทนอยู่ไม่ไหวแล้ว) ซึ่งเจ้าของบ้านก็บอกว่าโอเค แต่เราต้องจ่ายเงินค่าเช่าให้ครบตามสัญญา และสัญญาที่เจ้าของบ้านอ้างคือเดือนตุลาคม 2560 ซึ่งเราไม่โอเคและเราขอย้ายออกเลย โดยที่เราไม่ได้ไปทวงเงินล่วงหน้าใด ๆ กับเจ้าของบ้าน
ผ่านไปเกือบเดือนเจ้าของบ้านก็ไปด่าเราที่ทำงาน (เค้ารู้ว่าเราทำงานที่ไหน) และก็ว่าบอกว่าเราย้ายบ้านก็ไม่ไปลา เราก็เลยบอกว่าเราแจ้งไปแล้ว และเราให้ลูกน้องจัดการเอากุญแจไปคืน ไปจัดการต่าง ๆ แล้ว เพราะยังไงเค้าก็ไม่คืนเงินอยู่ดี แล้วจะให้เราทำอะไรอีก เค้าก็บอกว่าเราต้องมาตกลงกันก่อน เรายังค้างค่าเช่าเค้าอยู่ เราก็แจ้งว่า เราออกตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม 2560 เราจะค้างค่าเช่าอะไร และเงินก็อยู่ที่เจ้าของบ้านแสนกว่าเราไม่ได้ทวงคืนด้วย แล้วเค้าจะมาเอาอะไรกับเรา
ล่าสุดเจ้าของบ้านส่งจดหมายมาจากสำนักงานทนายความ แจ้งว่า เค้าจะซ่อมบ้าน เป็นเงิน 250,000 บาท เราต้องจ่าย เราต้องจ่ายเงินค่าเช่าเดือนกรกฎาคม 2560 และเราต้องจ่ายค่าเช่าไปเรื่อย ๆ จนกว่าเค้าจะซ่อมบ้านได้สวยเหมือนเดิม โดยในหนังสือจากสำนักทนายความไม่ได้พูดถึงเรื่องเงินที่เจ้าของบ้านยึดเราไว้แสนกว่าบาท
เค้าบอกถ้าไม่จ่ายเค้ารู้จักคนใหญ่คนโตเยอะ (เพราะเค้าเคยเป็นนักเรียนเก่าทุนแลกเปลี่ยน เคยเป็นผู้บริหารหนังสือพิมพ์ดังยี่ห้อนึง และตอนนี้เค้าก็เป็นผู้บริหารบริษัทแห่งหนึ่งอยู่
คือเราอยากทราบว่ามันได้ด้วยเหรอ ขอคำปรึกษาค่ะ เราควรทำอย่างไร
มีคนแนะนำเราว่าให้เราเอาเอกสารการเช่าที่เจ้าของบ้านไม่ยอมจ่ายภาษีไปแจ้งทางกรมสรรพากรเลย เพราะเจ้าของบ้านเลี่ยงไม่จ่ายภาษีมาตลอด (แต่เราแจ้งนะคะ เพราะเราเช่าในนามบริษัทค่ะ)
ขอบคุณค่ะ
ขอคำแนะนำค่ะ เรื่องเจ้าของบ้านเช่าเก่าตามมารังควานขอเงินเพิ่ม
ๆ จนถึงเดือนมิถุนายน 2560 เราก็ไปแจ้งเจ้าของบ้านว่าเราจะย้ายออก เพราะทนไม่ไหว (แต่เราก็ไม่ได้บอกเค้าว่าเราทนอยู่ไม่ไหวแล้ว) ซึ่งเจ้าของบ้านก็บอกว่าโอเค แต่เราต้องจ่ายเงินค่าเช่าให้ครบตามสัญญา และสัญญาที่เจ้าของบ้านอ้างคือเดือนตุลาคม 2560 ซึ่งเราไม่โอเคและเราขอย้ายออกเลย โดยที่เราไม่ได้ไปทวงเงินล่วงหน้าใด ๆ กับเจ้าของบ้าน
ผ่านไปเกือบเดือนเจ้าของบ้านก็ไปด่าเราที่ทำงาน (เค้ารู้ว่าเราทำงานที่ไหน) และก็ว่าบอกว่าเราย้ายบ้านก็ไม่ไปลา เราก็เลยบอกว่าเราแจ้งไปแล้ว และเราให้ลูกน้องจัดการเอากุญแจไปคืน ไปจัดการต่าง ๆ แล้ว เพราะยังไงเค้าก็ไม่คืนเงินอยู่ดี แล้วจะให้เราทำอะไรอีก เค้าก็บอกว่าเราต้องมาตกลงกันก่อน เรายังค้างค่าเช่าเค้าอยู่ เราก็แจ้งว่า เราออกตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม 2560 เราจะค้างค่าเช่าอะไร และเงินก็อยู่ที่เจ้าของบ้านแสนกว่าเราไม่ได้ทวงคืนด้วย แล้วเค้าจะมาเอาอะไรกับเรา
ล่าสุดเจ้าของบ้านส่งจดหมายมาจากสำนักงานทนายความ แจ้งว่า เค้าจะซ่อมบ้าน เป็นเงิน 250,000 บาท เราต้องจ่าย เราต้องจ่ายเงินค่าเช่าเดือนกรกฎาคม 2560 และเราต้องจ่ายค่าเช่าไปเรื่อย ๆ จนกว่าเค้าจะซ่อมบ้านได้สวยเหมือนเดิม โดยในหนังสือจากสำนักทนายความไม่ได้พูดถึงเรื่องเงินที่เจ้าของบ้านยึดเราไว้แสนกว่าบาท
เค้าบอกถ้าไม่จ่ายเค้ารู้จักคนใหญ่คนโตเยอะ (เพราะเค้าเคยเป็นนักเรียนเก่าทุนแลกเปลี่ยน เคยเป็นผู้บริหารหนังสือพิมพ์ดังยี่ห้อนึง และตอนนี้เค้าก็เป็นผู้บริหารบริษัทแห่งหนึ่งอยู่
คือเราอยากทราบว่ามันได้ด้วยเหรอ ขอคำปรึกษาค่ะ เราควรทำอย่างไร
มีคนแนะนำเราว่าให้เราเอาเอกสารการเช่าที่เจ้าของบ้านไม่ยอมจ่ายภาษีไปแจ้งทางกรมสรรพากรเลย เพราะเจ้าของบ้านเลี่ยงไม่จ่ายภาษีมาตลอด (แต่เราแจ้งนะคะ เพราะเราเช่าในนามบริษัทค่ะ)
ขอบคุณค่ะ