
Xiaomi Mi MIX 2 สมาร์ทโฟนหน้าจอไร้ขอบ Xiaomi ได้ทำการเปิดเผยโฉมหน้าของ Mi MIX 2 เป็นที่เรียบร้อย ครั้งนี้ขอบข้างหน้าจอนั้นมีความบางกว่าเดิม รวมไปถึงขอบล่างที่มีขนาดที่เล็กลงกว่าเดิม และมาพร้อมกับสเปคจัดเต็มด้วยชิป Snapdragon 835 และ RAM สูงสุด 8GB

สเปคของ Xiaomi Mi MIX 2:
หน้าจอ: 5.99 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ (2160 x 1080 พิกเซล)
CPU: Qualcomm Snapdragon 835 octa-core 64-bit
GPU: Adreno 540
RAM + หน่วยความจำภายใน:
6GB + 64GB / 128GB / 256GB
8GB + 128GB
กล้องหลัง: 12 ล้านพิกเซล Sony’s IMX386
กล้องหน้า: 5 ล้านพิกเซล
รองรับ 4G LTE (43 bands)
แบตเตอรี่: 3,400 mAh รองรับ Quick Charge 3.0
สัดส่วน:
6GB: 151.8 x 75.5 x 7.7 มิลลิเมตร 185 กรัม
8GB: 150.5 x 74.6 x 7.7 มิลลิมเตร 187 กรัม

Mi MIX 2 มีขนาดขอบจอที่บางลงกว่าเดิม ส่วนขอบด้านล่างมีขนาดที่เล็กลง 12% เมื่อเทียบกับ Mi MIX รุ่นแรก โดยหน้าจอของ Mi MIX 2 มีขนาดที่เล็กลงเหลือ 5.99 นิ้ว มีความละเอียด FullHD+ 2160 x 1080 พิกเซล และมีอัตราส่วนหน้าจออยู่ที่ 18:9 กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล นั้นยังคงอยู่บริเวณขอบด้านล่างเช่นเคย ส่วนลำโพงยังคงเป็นอัลตร้าโซนิคแบบเดิม ขณะที่ลำโพงถูกติดตั้งเอาไว้ข้างในตัวเครื่อง ก่อนจะเดินทางผ่าน ท่อขึ้นมาด้านบนเครื่อง

กล้องหลังนั้นเลือกใช้เป็น เซนเซอร์ Sony IMX386 เพียงเลนส์เดียว มีความละเอียดที่ 12 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นเซนเซอร์ตัวเดียวกับที่ใช้ตอน Mi 6 มาพร้อมกับระบบกันสั่น OIS 4 แกน โดยบริเวณขอบของเลนส์ก็ได้มีการเสริมความพรีเมี่ยมด้วยการแต้มด้วนทอง 18 กะรัต

วัสดุฝาหลังของ Mi MIX 2 นั้นใช้เป็นเซรามิคที่มึความทนทานมากกว่ากระจก ส่วนขอบเครื่องนั้นใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียม แต่สิ่งที่ถูกตัดออกไปก็คือช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

Mi MIX 2 มาพร้อมกับสเปคที่จัดหนักจัดเต็มตามประสาเรือธงจากประเทศจีน ขับเคลื่อนโดยขุมพลัง Snapdragon 835 แถมรองรับ Global LTE ถึง 43 bands ทำให้สามารถนำไปใช้งานได้เกือบทุกประเทศทั่วโลกโดย Mi MIX 2 นั้นมีให้เลิอกด้วยกัน 4 รุ่น และมีราคาดังนี้

6GB / 64GB – 3,299 หยวน (16,800 บาท)
6GB / 128GB – 3,599 หยวน (18,200 บาท)
6GB / 256GB – 3,999 หยวน (20,300 บาท)
8GB / 128GB (Special Edition) – 4,699 หยวน (24,000 บาท)

Mi MIX 2 จะเริ่มให้สั่งจองในวันที่ 15 กันยายน เวลา 10 โมงเช้า ส่วนรุ่น Special Edition จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนนี้

ที่มา:
Droidsans
Xiaomi เปิดตัว Mi MIX 2 หน้าจอไร้ขอบ พร้อมชิป Snapdragon 835 และ RAM สูงสุด 8GB
Xiaomi Mi MIX 2 สมาร์ทโฟนหน้าจอไร้ขอบ Xiaomi ได้ทำการเปิดเผยโฉมหน้าของ Mi MIX 2 เป็นที่เรียบร้อย ครั้งนี้ขอบข้างหน้าจอนั้นมีความบางกว่าเดิม รวมไปถึงขอบล่างที่มีขนาดที่เล็กลงกว่าเดิม และมาพร้อมกับสเปคจัดเต็มด้วยชิป Snapdragon 835 และ RAM สูงสุด 8GB
สเปคของ Xiaomi Mi MIX 2:
หน้าจอ: 5.99 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ (2160 x 1080 พิกเซล)
CPU: Qualcomm Snapdragon 835 octa-core 64-bit
GPU: Adreno 540
RAM + หน่วยความจำภายใน:
6GB + 64GB / 128GB / 256GB
8GB + 128GB
กล้องหลัง: 12 ล้านพิกเซล Sony’s IMX386
กล้องหน้า: 5 ล้านพิกเซล
รองรับ 4G LTE (43 bands)
แบตเตอรี่: 3,400 mAh รองรับ Quick Charge 3.0
สัดส่วน:
6GB: 151.8 x 75.5 x 7.7 มิลลิเมตร 185 กรัม
8GB: 150.5 x 74.6 x 7.7 มิลลิมเตร 187 กรัม
Mi MIX 2 มีขนาดขอบจอที่บางลงกว่าเดิม ส่วนขอบด้านล่างมีขนาดที่เล็กลง 12% เมื่อเทียบกับ Mi MIX รุ่นแรก โดยหน้าจอของ Mi MIX 2 มีขนาดที่เล็กลงเหลือ 5.99 นิ้ว มีความละเอียด FullHD+ 2160 x 1080 พิกเซล และมีอัตราส่วนหน้าจออยู่ที่ 18:9 กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล นั้นยังคงอยู่บริเวณขอบด้านล่างเช่นเคย ส่วนลำโพงยังคงเป็นอัลตร้าโซนิคแบบเดิม ขณะที่ลำโพงถูกติดตั้งเอาไว้ข้างในตัวเครื่อง ก่อนจะเดินทางผ่าน ท่อขึ้นมาด้านบนเครื่อง
กล้องหลังนั้นเลือกใช้เป็น เซนเซอร์ Sony IMX386 เพียงเลนส์เดียว มีความละเอียดที่ 12 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นเซนเซอร์ตัวเดียวกับที่ใช้ตอน Mi 6 มาพร้อมกับระบบกันสั่น OIS 4 แกน โดยบริเวณขอบของเลนส์ก็ได้มีการเสริมความพรีเมี่ยมด้วยการแต้มด้วนทอง 18 กะรัต
วัสดุฝาหลังของ Mi MIX 2 นั้นใช้เป็นเซรามิคที่มึความทนทานมากกว่ากระจก ส่วนขอบเครื่องนั้นใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียม แต่สิ่งที่ถูกตัดออกไปก็คือช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
Mi MIX 2 มาพร้อมกับสเปคที่จัดหนักจัดเต็มตามประสาเรือธงจากประเทศจีน ขับเคลื่อนโดยขุมพลัง Snapdragon 835 แถมรองรับ Global LTE ถึง 43 bands ทำให้สามารถนำไปใช้งานได้เกือบทุกประเทศทั่วโลกโดย Mi MIX 2 นั้นมีให้เลิอกด้วยกัน 4 รุ่น และมีราคาดังนี้
6GB / 64GB – 3,299 หยวน (16,800 บาท)
6GB / 128GB – 3,599 หยวน (18,200 บาท)
6GB / 256GB – 3,999 หยวน (20,300 บาท)
8GB / 128GB (Special Edition) – 4,699 หยวน (24,000 บาท)
Mi MIX 2 จะเริ่มให้สั่งจองในวันที่ 15 กันยายน เวลา 10 โมงเช้า ส่วนรุ่น Special Edition จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนนี้
ที่มา: Droidsans