ลูกที่แม่ไม่รักใช่ว่าจะไม่ได้ดี

ขอโทษที่ต้องเขียนหัวข้อแบบนี้  เกิดอาการน้อยใจในบางสิ่ง เรื่องมีอยู่ว่า ตั้งแต่เล็กจนโต ทุกสิ่งที่ได้รับคือความไม่เท่าเทียม
เราอยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่อายุ9ขวบ จบ ม.3 พี่สาวได้อยู่กับครอบครัว
เราอยากเรียนต่อ แม่ไม่ให้เรียนต่อ แต่พี่สาวแม่ให้เรียน
โชคดีที่เราดันทุรังเรียน เพราะช่วงนั้นไม่ได้เสียค่าเทอมไรมาก
มีงบ เรียนฟรี15ปี และอาจารย์ช่วยให้ด้เรียน ปวส.
เรียนจบ ปวส.อยากต่อ ป.ตรี แม่ไม่ให้เรียนอีก แต่พี่สาวได้จบ ป.ตรี จบครูด้วยนะ
โชคดีของเราอีกแหละที่ได้ทูนเรียนต่อ ป.ตรี ในระหว่าเรียนก็ทำงานช่วยอาจารย์ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง
พอได้มีค่าอุปกรณ์การเรียน ค่ารถ ค่าอาหาร ค่าหอกะเค้า แทบไม่เคยขอทางบ้านใช้
เรียนจบมา ได้ทำงานเป็นครู พี่สาวตั้งท้อง แม่ให้ลาออกจากครูมาช่วยพี่ทำงานที่บ้าน เพราะนางทำคนเดียวไม่ไหว
อยู่ไปอยู่มาทนไม่ไหวเพราะเราไม่สนิทกัน แถมนางหนี้ท่วมหัวเป็นล้าน (ม่รู้ไปทำอะไรมา) เราเลยขอกลับบ้าน ตจว ไปอยู่กับพ่อ
อยู่บ้านได้1ปีชวนพ่อไปทำงานหาประสบการณ์ที่ กทม เราทำงานมหาลัยเป็นผู้ช่วยนักวิจัย 4 ปีจากนั้นลาออกมาทำงานบริษัทเครื่องสำอางเป็นฝ่ายออกแบบ1ปี  อ่านต่อด้านล่าง
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ลืมเล่าไปว่า ก่อนจะไปทำงาน กทม แม่ห้ามไม่ให้ไป เพราะเราเอาพ่อไปด้วย ที่เอาไปคืออยากดูแลพ่อเพราะต่อเองไม่เคยอยุ่กับพ่อเลย แต่เราไม่อยากอยู่บ้าน เลยให้พ่อไปอยู่ด้วย หลังจากที่สั่งสมประสบการณ์ทำงานมา5ปี ก็กลับมาอยู่บ้านเปิดธุรกิจเป็นของตัวเอง มีลูกค้าประจำและบริษัทใหญ่ๆมาจ้างงาน ส่วนพี่สาวนะหรอ ไม่ต้องถามหาเพราะทุกวันนี้เราก็เลี้ยงลูกให้มัน คนที่โดนแม่สปอยสุดท้ายก็พึ่งไม่ได้ ตอนนี้เรามีทุกอย่าง ที่แม่หวังอยากให้พี่สาวมี แม่ก็ดีกับเรา แต่เราไม่ได้ดีใจหรอก "เงินซื้อได้ทุกอย่างแม้กระทั้งความรัก"  มันเป็นทุกที่ ตราบใดที่เกิดมาเป็นคนเจอทุกชนชั้น ไม่มีเงินก็หมาตัวหนึ่งนี่เอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่